For more yummy review of Bangkok restaurants please Click Here!
หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่า "ร้านอาหารดาวมิชลิน" และรู้ว่าร้านที่ได้ดาวมิชลินนั้นคือร้านที่เทพ ระดับถ้าได้กินก็จะไม่เสียชาติเกิด อะไรประมาณนั้น วันนี้ผมจะมาเขียนวิเคราะห์เจาะลึกอย่างละเอียดถึงร้านดาวมิชลินให้ได้รู้แจ้งเห็นจริงกันครับ
มิชลินก็อย่างที่ทุก ๆ ท่านรู้กันว่าเป็นบริษัทที่ทำยางรถยนต์ของฝรั่งเศส ซึ่งเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว หรือปี 1900 ทางมิชลินมีไอเดียว่าถ้าตัวเองออกไกด์บุ๊คแนะนำสถานที่กิน สถานที่พัก หรือ สถานที่ท่องเที่ยวออกมาซักหน่อย ให้คนต้องขับรถไปกินกัน ยางก็จะสึกมากขึ้นตัวเองก็จะขายยางได้มากขึ้น จึงเป็นที่มาของไกด์เล่มแดงหรือมิชลินไกด์นั่นเอง (Michelin Guide) ซึ่งในหนังสือเล่มแดงนี้ก็จะเป็นการรวบรวมร้านอาหารเจ๋ง ๆ กับสถานที่พักที่แหล่ม ๆ มาอย่างค่อนข้างจะครบถ้วนสำหรับเมือง ๆ นึง และร้านอาหารแต่ละร้านก็จะมีการแบ่งระดับหรือแบ่งเกรดต่อนั่นเอง
เกรดของร้านอาหารมิชลินนั้นจะมี 4 ระดับคือ Rising Star หรือร้านดาวรุ่ง จะเป็นร้านที่กำลังจะมีดาวงอกออกมา ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าคงคุณภาพการมีดาวงอกไว้ได้ 2 ปี ก็มักจะได้ดาวมาประดับในท้ายที่สุด ซึ่งร้านระดับนี้จะมีอยู่ค่อนข้างเยอะในหนังสือไกด์บุ๊คของเค้าครับ ส่วนระดับที่ 2 คือ ร้าน 1 ดาว หรือ 1 star michelin restaurants ร้านนี้เค้านิยามไว้ว่าเป็นร้านที่เจ๋งมาก ๆ ในหมวดหมู่ของตัวร้านเอง (Very good cuisine in its category) ซึ่งในไกด์บุ๊คร้านพวกนี้ก็จะมีอยู่ค่อนข้างเยอะเช่นกัน แต่ก็ไม่เยอะมากเท่าแบบแรก ส่วนระดับที่ 3 ก็คือร้าน 2 ดาวหรือ 2 star Michelin restaurants โดยเค้าให้คำนิยามไว้ว่าเป็นร้านที่ยอดเยี่ยม คุ้มค่าที่จะหลุดออกนอกเส้นทางเพื่อจะไปกิน (Excellent cuisine worth a detour) ซึ่งในไกด์บุ๊คนึง ๆ ก็จะมีค่อนข้างน้อย ประมาณสัก 10% ในแต่ละปี ส่วนระดับสุดท้ายหรือระดับสูงสุด ก็คือร้าน 3 ดาว หรือ 3 star Michelin restaurants ครับ ร้านระดับนี้ก็คือเป็นร้านเทพ จะอยู่แห่งหนตำบลใด ก็ควรจะต้องดั้นด้นไปกินมันให้ได้ (Exceptional cuisine worth a special journey) ซึ่งในไกด์บุ๊คแต่ละเล่มก็มีร้านพวกนี้น้อยมาก ประมาณสัก 1-2% เท่านั้นเองในแต่ละปี
ร้านระดับ 3 ดาวนั้นในโลกนี้มีอยู่ประมาณสักร่วม ๆ 100 ร้านครับ และลองเดาดูสิครับว่าประเทศไหนที่มีร้าน 3 ดาวเยอะที่สุด? ติ๊กต่อก ๆ ๆ ๆ คำตอบก็คือประเทศญี่ปุ่นครับ โดยญี่ปุ่นนั้นมีร้านระดับ 3 ดาวร่วม ๆ 30 ร้านเลยทีเดียว ในขณะที่เมืองที่มีรองลงมาก็แน่นอนครับ Paris เมืองต้นตำรับนั่นเอง คิดดูครับจากร้านเป็นแสน ๆ ร้านในเมืองที่มีไกด์บุ๊ค มีร้านที่ได้ 3 ดาวอยู่ไม่ถึง 100 ร้าน ร้านพวกนี้ก็แสดงว่าต้องเทพน่าดูใช่มั้ยครับ? และหลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่าเชฟมิชลินสตาร์ คือคำ ๆ เนี่ยจะใช้เรียกกับเชฟที่เป็นเจ้าของร้านหรือเป็น Head Chef ในร้านที่ได้ดาวมิชลินครับ แต่ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ว่าพอเค้าไปเปิดร้านใหม่ ร้านใหม่ก็จะกลายเป็นมิชลินสตาร์เหมือนกันนะครับ ร้านใหม่ก็ต้องผ่านการตรวจสอบจาก Michelin ใหม่อีกครั้งเช่นกัน โดยเชฟที่มีดาวสะสมเยอะที่สุดในโลกตอนนี้คือ Mr. Joel Robuchon ซึ่งตาคนนี้มีดาวรวมกันถึง 26 ดวงเลยทีเดียว (มีทั้งร้านไม่มีดาว, 1 ดาว 2 ดาวและ 3 ดาวคละเคล้ากันไป)
หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเอ๊ะ แล้วทำไมเมืองไทยไม่เห็นมีร้านที่ได้ดาวมิชลิน? ก็เพราะว่าเมืองไทยมิชลินไม่ได้ทำไกด์เล่มแดงขายนั่นเอง แล้วมันจะไปมีร้านได้ดาวมิชลินได้ยังไงล่ะใช่มั้ยครับ? แต่ร้านในไทยที่ตัวเชฟมีดาวอยู่ที่ประเทศอื่นแล้วมาเปิดร้านใหม่ในไทยก็มีอยู่ 2 ร้านครับที่ผมรู้จัก ร้านแรกคือ Nahm ที่โรงแรม Metropolitan ตรงสาทร (รู้สึกจะเจ๊งไปแล้ว) ส่วนร้านที่ 2 คือ Sra Bua ตรงโรงแรม Siam Kempinsky ครับ ซึ่งเจ้าไกด์บุ๊คเนี่ยในปัจจุบันจะมีอยู่ 9 เล่ม ประกอบด้วย Paris, San Francisco, New York, Chicago, London , Kanto Area (Tokyo, Yokohama & Kamakura) , Kansai Area (Kyoto, Osaka & Kobe) , Hong Kong & Macau และ เมืองใหญ่ ๆ ในยุโรป (Main Cities of Europe)
ซึ่งจากที่ผมซื้อไกด์ของมิชลินมา 2 เมือง แม้ว่าทางมิชลินจะเคลมว่า ให้คะแนนร้านจากรสชาติอาหารล้วน ๆ ! แต่ร้านที่ผมเห็นได้ 2 หรือ 3 ดาวนั้นมีแต่ร้านหรู ๆ ระดับราคาแพง ๆ ทั้งนั้น ผมก็เลยไม่ค่อยจะเชื่อว่าเค้าให้คะแนนจากรสชาติอาหารอย่างเดียวจริง ๆ และร้านที่ได้ดาวเยอะ ๆ ส่วนใหญ่ จะเป็นร้านสัญชาติยุโรป ครับ ที่เห็นเยอะสุดก็คงเป็นสไตล์ Contemporary หรือร่วมสมัย ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอาหารร่วมสมัยคืออาหารแบบไหน! ทางมิชลินจะส่งกรรมการไปกินที่ร้านแบบนิรนามแล้วก็จะมีเกณฑ์การให้คะแนนที่เป็นมาตรฐานทั่วโลก ก็เลยเชื่อขนมกินได้ว่าร้านในแต่ละเมืองที่ได้ดาวนั้น มาตรฐานเดียวกันหมด แต่ก็นะ เท่าที่ผมดู ๆ อาหารจากฝรั่งเศส และ ยุโรปนี่จะได้ดาวเยอะกว่าใครเพื่อน ให้เดาก็คงเป็นเพราะตัวมิชลินเองเป็นบริษัทฝรั่งเศสด้วยก็เป็นได้
ส่วนเมืองไทย แม้ว่าเราจะไม่มีหนังสือไกด์มิชลิน แต่เราก็มีกูรูที่เป็น Food Critics นามกระเดื่องกันอยู่หลายคน เช่น เชลล์ชวนชิมโดย ม.ร.ว. ถนัดศรี ซึ่งเหมือนตอนนี้จะส่งต่อให้หมึกแดงลูกชายไปแล้ว , แม่ช้อยนางรำ โดยคุณอะไรสักอย่างจำชื่อไม่ได้ หรือแม้แต่ กูรูร้านอาหารของ Citibank ที่ผมจำชื่อไม่ได้อีกเช่นกัน แต่ก็นะ ร้านที่ได้รับรางวัลการันตีพวกนี้ในเมืองไทย กลับไม่มีการทำหนังสือ หรือรายการร้านว่ามีร้านไหน อยู่ตรงไหนบ้าง เราก็ได้แต่เดิน ๆ หากันเอาเอง ว่าวันไหนจะโชคดีเจอร้านที่มีตราพวกนี้รึเปล่า (เอ๊ะหรือเค้ามีหนังสือขายครับ?) แต่ไม่ต้องห่วงแล้วครับเพราะตอนนี้เรามีเว็บ www.BumRes.com ซึ่งผมหวังว่าจะเป็นเว็บสื่อกลางที่ทุก ๆ ท่านจะมาร่วมกันให้คะแนนร้านและจัดอันดับร้านมหาชนกัน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment