BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Thursday, October 31, 2013

เล่งเฮง ลาดพร้าว 101 รีวิว

เล่งเฮง - ร้านอาหารไทย-จีน อาหารตามสั่ง ผัดซีอิ๊ว ราดหน้า ข้าวผัดปู ลาดพร้าว 101



Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  3/5
Service  4/5
Value   5/5

เล่งเฮง - ร้านอาหารจีน ตามสั่ง on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ถ้าเรานึกถึงพวกอาหารจีนจานเดียว เช่นพวก ราดหน้า, ข้าวผัดปู, ผัดสุกี้ ผมเชื่อว่าทุก ๆ คนก็คงนึกถึงเยาวราชกัน แต่เดี๋ยวนี้ก็เห็นมีหลาย ๆ ร้านมี concept หรือ slogan ประมาณว่าเรายกเยาวราชมาไว้ที่นี่อะไรประมาณนี้ ซึ่งรีวิวนี้เราก็จะยังร้านที่มี concept ร้านประมาณนี้กันกับร้าน เล่งเฮง ในซอยลาดพร้าว 101 นั่นเอง ร้านเล่งเฮงแห่งนี้แต่เดิมเป็นร้านที่ตั้งอยู่ที่เยาวราชบริหารร้านโดยเจ้าของร้านรุ่นแรก แต่เหมือนหลายปีก่อนร้านก็ได้ย้ายมาอยู่ในซอยลาดพร้าว 101 แห่งนี้และเมื่อปีที่แล้วเจ้าของร้านรุ่นแรกก็ได้ยกร้านให้สองพี่น้องผู้ซึ่งเป็นหลานของเขามารับช่วงต่อเป็นรุ่นที่สอง ประวัติคร่าว ๆ ก็เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่ดูขลัง ดูเก่าแก่มากเลยใช่มั้ยครับ อืม

ส่วนการเดินทางมาร้านนี้ก็ถ้าใครที่คุ้นเคยถนนลาดพร้าวก็คงมาไม่ยากขับมาเรื่อย ๆ เจอซอยลาดพร้าว 101 ก็เลี้ยวเข้าไป แล้วก็ขับตรงเข้าไปอีกสัก 2 กม. ร้านเล่งเฮงจะเป็นร้านห้องแถว 1 คูหาตั้งอยู่เยื้อง ๆ กับโรงเรียนบึงทองหลางเลย จอดรถก็จอดเอาตามมีตามเกิดริมถนนได้เลยครับ

ร้านเล่งเฮงนี้ผมรู้สึกว่าน่าจะเป็นร้านดังในย่านนี้ หรือไม่ก็น่าจะเป็นร้านดังจริง ๆ เพราะเห็นมีคนดังมากินที่ร้านนี้หลายคนอยู่ และก็แบบถ้าไม่เด็ดจริงก็คงไม่อยู่ยั้งยืนยงส่งไม้ต่อจากรุ่นแรกสู่รุ่นที่สองแบบนี้หรอกเนอะ? อาหารของร้านนี้ก็จะเน้นไปที่อาหารจานเดียวสไตล์จีน ๆ ปนไทยเล็กน้อย เช่นพวกข้าวผัด, ก๋วยเตี๋ยวคั่ว, ผัดซีอิ๊ว, ไข่เจียว, แกง อะไรประมาณนี้ อาหารแต่ละจานจะทำกันสด ๆ ไม่มีแบบทำทิ้งไว้แล้วมาตักราดเหมือนพวกร้านห้องแถวหลาย ๆ ร้านที่ช่วงหลังผมเจอ ซึ่งแค่การทำสด ๆ นี้ผมว่าก็มีชัยไปกว่าครึ่งเหนือร้านตามสั่งร้านอื่น ๆ แล้วล่ะครับ แต่แบบตอนที่ผมไปดันไปช่วงเจพอดี ทางร้านบอกว่าต้องใช้พวกเครื่องปรุงหลาย ๆ อย่างที่เป็นเจก็เลยทำให้รสชาติของบางจานเพี้ยนไปนิดนึง อืม คือไม่ใช่อะไร เพราะว่าขนาดเพี้ยนแล้วผมยังว่าอร่อยอยู่เลยนะทำเป็นเล่นไป ก็มาไล่เรียงอาหารกันไปเลยดีกว่า

ข้าวผัดปูจานใหญ่ (140 บาท) : ข้าวผัดนี่เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่ใช้วัดได้เลยว่าร้านจีนร้านไหนจีนแท้ไม่ใช่ เจ๋งไม่เจ๋ง เพราะร้านของปลอมส่วนใหญ่มักจะทำไม่อร่อยอยู่เป็นนิจ ข้าวผัดปูของร้านเล่งเฮงมาแบบหน้าตาสวยงาม ไข่เคลือบข้าวแทบจะทุกเม็ด, ใส่เนื้อปูมาพอประมาณสันฐาน ส่วนรสชาติก็เป็นอะไรที่ใช่เลย ข้าวผัดปูแบบจีนจริง ๆ ข้าวแห้ง ๆ รสชาติกลมกล่อม ๆ เป็นอะไรที่จะเกิดขึ้นได้จากคนที่ผัดข้าวเป็นเท่านั้นจริง ๆ น่าเสียดายที่ทางร้านมีขีดจำกัดทางด้านราคา ก็เลยทำให้ใส่เนื้อปูได้น้อยไปนิดนึง (แต่คือปริมาณเท่านี้ ราคาเท่านี้ นี่ถ้าเป็นร้านเหลาจานละ 300 - 400 บาทสบาย ๆ ครับ)







สุกี้แห้งพิเศษซีฟู้ดส์ (90 บาท) : หน้าตาตอนแรกที่เห็นนี่แอบงงว่า เอ่อ นี่สุกี้จริงเหรอ เพราะแทบไม่เห็นเส้นเลย เจอหอย, ปลา, ปลาหมึก, กุ้งทับมาจนหมด อืม และพอแหวกพวกสัตว์น้ำออกไปก็จะเจอเส้นที่ผัดมาแบบกำลังดี เกาะ ๆ กันเป็นก้อนกำลังดี ไม่ได้เกาะเป็นก้อนแห้ง ๆ แบบเป็นขยุ้มใหญ่และก็ไม่ได้แบบเละ ๆ ไม่เป็นกลุ่มก้อน ผัดมาดีครับ กินเข้าไปคำแรกก็อืม อร่อยใช้ได้ล่ะ แต่พอมาเจอกับน้ำจิ้มสุกี้สูตรเด็ดของทางร้านที่ทางร้านทำเองเข้าไปด้วยแล้วก็แบบ โอว อร่อยเทพขึ้นมาแบบทันตาเห็นเลย คือแบบน้ำจิ้มอร่อยจริง ๆ ไม่ติงนัง น่าจะเป็นน้ำจิ้มสุกี้ที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาเลย จิ้มเส้นก็อร่อย จิ้มพวก seafood ก็เยี่ยม หรือ in fact ถ้าราด(แม่ง) ลงไปทั้งจานก็คงจะกลายเป็นสุกี้เทพขึ้นมาในทันทีได้ง่าย ๆ เลยนะเนี่ย (แต่ทางร้านให้น้ำจิ้มมาน้อยครับผมเลยใช้จิ้ม ๆ เอา)

ไข่เจียวหอยนางรม (100 บาท) : จานนี้ไข่เจียวอมน้ำมันไปหน่อย ไม่ค่อยฟูเท่าไร หอยนางรมก็ให้มาไม่ค่อยเยอะและก็ตัวเล็กไปนิด ไม่ได้อร่อยโดดเด่นเหมือนกับ 2 จานแรกนัก แต่ก็กินได้เรื่อย ๆ จนหมดจานล่ะครับ






เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วแหนม (45 บาท) จานนี้หน้าตาดูดีมาก ทุกอย่างบ่งชี้ว่าจะเป็นผัดซีอิ๊วที่อร่อยมาก ตั้งแต่ก่อนกิน ซึ่งพอกินแล้วก็เกือบ ๆ เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ รสชาติแบบ เค็ม หวาน มัน ค่อนข้างลงตัวดีเลย แต่เหมือนกับมันขาดอะไรไปอย่าง ไม่แน่ใจว่าเค็มไปนิดนึงรึเปล่า ซึ่งน่าจะมาจากตัวซีอิ๊วเจที่มันจะเค็มกว่าซีอิ๊วปกติก็เป็นได้

สรุป ร้าน เล่งเฮง ที่ทางร้านโพกสโลแกนเอาไว้ว่า "ตำรับความอร่อยจากเยาวราช" อืม ก็เหมือนจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ นะครับ อาหารของทางร้านนี่เป็นอะไรที่แบบจีนจริง ๆ แม้ว่าจะเป็นจีนแบบจานเดียวก็เถอะ ราคาอาหารก็ไม่ค่อยแพง จานไหนแพงก็คือให้พวก seafood มาเยอะคุ้มค่าจริง ๆ ใครที่บ้านอยู่ลาดพร้าวและอยากกินอาหารจีนอร่อย ๆ แบบไม่ต้องถ่อไปถึงเยาวราชก็มาลองร้านนี้กันได้เลยครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Wednesday, October 30, 2013

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ อาปา

ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออาปา - ก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ข้าวขาหมู พัฒนาการ 30




Overall Score  7/10
Taste   3.5/5
Ambiance  3.5/5
Service  3/5
Value   3.5/5

ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออาปา - ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออาปา ในรีวิวนี้ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในซอยพัฒนาการ 30 ซอยที่เชื่อมระหว่างถนนพัฒนาการกับถนนอ่อนนุชอีกทีนึง คำว่าอาปานี่น่าจะมาหมายถึงพ่อของเจ้าของร้านที่ตอนนี้เป็นอาซิ่มใจดี ๆ คนนึง และก๋วยเตี่ยวเนื้อของร้านนี้น่าจะเป็นสูตรจากพ่อของนาง (รึเปล่า มั่วสุด ๆ) ร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ดูดีกว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อหลาย ๆ ร้านที่ผมเคยกินมาเลย อย่างแรกเลยคือสะอาดดีมาก , อย่างที่สองคือเมนู สวยงาม สั่งง่าย เข้าใจง่าย, อย่างที่สามคือเป็นห้องแอร์ โอยแค่ 3 ข้อนี้ก็ทำให้ร้านนี้ดูดี น่ากินกว่าร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านอื่นเป็นไหน ๆ ล่ะครับ (ไม่เข้าใจ มันก็ไม่ได้ทำยากอะไร แต่ทำไมร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อส่วนใหญ่จะชอบซกมก ๆ กันก็ไม่รู้)

อาหารของร้านนี้แน่นอนว่าจานหลักก็คือก๋วยเตี๋ยวเนื้อ แต่ว่าร้านไม่ได้มีแค่นั้นครับมี อาหารจานเดียวอย่างอื่นขายปน ๆ ไปด้วย เช่น ข้าวขาหมู, เคาหยก หรือข้าวซอย ซึ่งจะว่าไปก็เป็นอะไรที่แปลกดีเหมือนกัน ไม่เคยเห็นร้านไหนที่มีเมนูมาเข้าคู่กันอยู่ในร้านเดียวเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้ออาปาแห่งนี้เลย อาหารก็ราคามาตรฐานสำหรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อสมัยนี้ - เริ่มต้นที่ชามละ 50 บาท ส่วนมื้อนี้ผมไปกับแฟน 2 คนเช่นเคย สั่งกันไป 4 อย่างครับ

เส้นใหญ่เนื้อสดเนื้อเปื่อย (50 บาท) : ก๋วยเตี๋ยวของร้านนี้จะเป็นอารมณ์แบบก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำใสปิ๊ง ๆ แบบที่มักจะพบเจอตามร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อแถวพระราม 4 , เยาวราช หรือร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อเก่า ๆ ที่น้ำมักจะใสปิ๊งแบบนี้ รสชาติผมว่าอ่อนไปหน่อย ไม่ค่อยมีกลิ่นหอมยาจีน น้ำซุปไม่ค่อยเข้มข้น และก็น้ำร้อนน้อยไปหน่อย แต่อย่างอื่นในจานนี่อร่อยหมดนะ เส้นใหญ่ลวกมากำลังดี, เนื้อสด สดเด้งดี, เนื้อเปื่อยก็นุ่มละมุนดีแท้ อืม พอกินไปแปบ ๆ ผมต้องปรุงรสให้จัดขึ้นหน่อยก็อร่อยฟินขึ้นมา






อังตุ๋น (60 บาท) : จานนี้ตามคำบรรยายในเมนูคือ "เอ็นแก้ว, คันนา, ไส้ และกระเพาะที่ผ่านการตุ๋นจนเปื่อยปรุงในน้ำซุปสูตรเข้มข้นเป็นเมนูพิเศษสำหรับคนชอบกินเครื่องในทุกท่าน" ก็เป็นอารมณ์ประมาณเกาเหลาเครื่องในนั่นเอง เครื่องในของร้านนี้ อาซิ่ม แกโฆษณาเอาไว้ว่าล้างมาอย่างดี รับประกันว่าไม่เหม็น และต้มมาอย่างดี เปื่อย นุ่ม อร่อย (ที่สั่งเพราะคำโฆษณาของแกด้วยส่วนนึง) ซึ่งพอกินแล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เครื่องในอร่อยดีมากครับ แต่น้ำซุปก็รสอ่อนไปหน่อยก็ปรุงรสเพิ่มเข้าไป ส่วนผักที่ใส่มาด้วยกันก็จะมีผักกาดขาวกับถั่วงอกซึ่งผมว่าไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไร น่าจะเป็นผักอย่างอื่นมากกว่าเช่นผักบุ้ง ไรงี้

เคาหยก (65 บาท) : ทางร้านเขียนบรรยายเอาไว้ว่า "อาหารจีนแคะสูตรเก่าแก่ในจานประกอบด้วยหมูสามชั้นนึ่งกับผักกาดแห้งรสชาติกลมกล่อมถ่ายทอดจากบรรพบุรุษชาวจีนแคะแท้ ๆ" จานนี้หลาย ๆ คนน่าจะเคยกินกันเพราะไม่ได้เป็นเมนูหายากอะไรขนาดนั้น อืม หมูสามชั้นของทางร้าน ก๋วยเตี๋ยวเนื้ออาปา ก็ทำมาได้นุ่มดี แต่ว่าเนื้อส่วนที่ไม่ใช่มันแข็งไปหน่อยและน้ำซอสก็ไม่ค่อยซึมเข้าเนื้อสักเท่าไร แต่ส่วนติดมันนี่อร่อย นุ่ม ดีอยู่แล้วล่ะ ส่วนผักกาดแห้งตุ๋นที่ให้มาด้วยกันผมว่าหวานไปหน่อย และก็เละไปนิด อืม พอดีผมเคยกินของร้านที่ทำได้ดีกว่านี้มาหลายร้านทั้งที่เยาวราชเอง หรือว่าที่ไก่ทอง เอง ร้านนี้ก็เลยสู้ไม่ได้ไปโดยปริยาย (แต่ราคานี่สู้ได้สบายเลยครับ ถูกกว่าหลายร้านมาก)







ริบอายขลุกขลิก (65 บาท) : จานนี้ของแฟนผม ก็เป็นเนื้อสันแหลมที่เอาไปลวกมาและก็เสิร์ฟมากับน้ำซุปแบบขลุกขลิก ๆ และก็ให้กินกับข้าวเปล่า ก็อารมณ์ประมาณเนื้อลวกจิ้มนั่นเอง อร่อยดีครับ แต่ไม่ได้มากมายอะไร เนื้อสุกเกินไปนิด น้ำจิ้มยังไม่แซ่บเท่าไร

สรุป ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้ออาปา ในรีวิวนี้ ก็ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าที่ถ่อมาเหมือนกันนะครับ บรรยากาศร้านสะอาด น่านั่ง อาหารก็รสชาติดี แต่ไม่ถึงกับอร่อยมากมาย และก็มีเมนูแปลก ๆ ให้เลือกสั่งเยอะดี คือถ้าให้มากินอีกรอบผมก็มาได้นะ แต่ขอมาวันอาทิตย์แบบนี้ละกัน ถ้าให้ถ่อมาวันธรรมดาคงต้องคิดดูก่อนล่ะ เหอ เหอ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Sendai Kama-Jin Reveiw

Sendai Kama - Jin Ramen - Ramen Shop at Sukhumvit 23, Bangkok

เซนได คามาจิน ร้านราเมน สุขุมวิท 23 รีวิว




Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   3/5

Sendai Kama Jin Ramen - Ramen Shop on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



อาทิตย์นี้กลายเป็นว่าได้กินร้านราเมน 2 ร้านใหม่ติด ๆ กันเลยร้านแรก Misawa ณ รัชดาซอย 8 ไม่ประทับใจไปแล้ว ร้านที่ 2 นี้จะเป็นอย่างไรกรุณาอ่านให้จบกันก่อนดีกว่า (กรุณา อ๊าน อ่าน อ่าน ให้จบ ๆ ๆ) ร้านนี้มีนามว่า  Sendai Kama - Jin ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแปลว่าอะไรรู้แค่ว่า Sendai น่าจะเป็นชื่อเมือง ซึ่งราเมนเมืองเซนไดเป็นเช่นไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกันเพราะว่ารู้จักแต่ลิ้นวัวเซนได ส่วน Kama นั้นแปลว่าเทพ Jin แปลว่าหม้อ รวม ๆ แล้วก็แปลว่า เทพเจ้าหม้อแห่งเซนได (ล่ะมั้ง? ฮ่า ๆ)

ร้าน Sendai Kama - Jin แห่งนี้เป็นร้านราเมนเล็ก ๆ ขนาดห้องแถว 1 คูหา ซึ่งน่าจะเปิดได้ไม่นาน เพราะตอนผมไปนี่เห็นโฆษณาจากใน Wise Weekly แล้วมีโปรโมชั่นแถมเกี๊ยวซ่าฟรี 1 จานต่อ 1 โต๊ะและก็เบียร์สด Asahi เหลือแค่แก้วละ 50 บาทเท่านั้น (เหตุผลนี้เป็นเหตุผลหลักที่ไปเลยก็ว่าได้ครับ ฮ่า ๆ) ร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 หรือซอยประสานมิตร จากปากซอยขับเข้าไปสัก 200 - 300 เมตรมั้งก็จะเห็นร้านอยู่ขวามือ (ร้านอยู่ตรงข้ามโรงแรม Grand Millenium Sukhumvit เลย) ซึ่งถ้าใครขับรถไปก็จอดรถได้ที่โรงแรม Taipan ฝั่งตรงข้ามร้านได้เลย จอดฟรี (แต่ตอนผมไปผมไม่รู้เลยจอดริมถนนเอา โชคดีเป็นตอนดึกวันเสาร์ก็เลยมีที่จอด)



ร้านนี้พอก้าวเข้าไปในร้านก็สามารถรับรู้ถึงความเป็นญี่ปุ่นของทางร้านได้แบบค่อนข้างชัดเจน เสียงต้อนรับดัง ๆ ว่าอิราชัยมาเสะ, เพลง pop ญี่ปุ่นที่บรรเลงคลอไปตลอดเวลา, พนักงานญี่ปุ่นปน ๆ กับพนักงานไทย คือแบบ อืม ให้ความรู้สึกว่าเป็นญี่ปุ่นจริง ๆ ไม่อิงนิยาย ไม่เหมือนบางร้านที่แบบเข้าไปปุ๊บก็สัมผัสได้ถึงความ fake ตัวร้านชั้นล่างนั้นจะแบ่งเป็นโต๊ะแบบธรรมดา ๆ ขนาดเล็ก เคียงคู่ไปกับ counter bar ส่วนโต๊ะด้านบนจะเป็นโต๊ะแบบญี่ปุ่นคือนั่งบนพื้น อันนี้ก็สุดแล้วแต่ว่าเราจะเลือกนั่งกันตรงไหน แต่พอดีผมมันคนไทยก็ขอเลือกนั่งแบบห้อยขาแบบปกตินี่แหละ

ร้านนี้ที่มีที่นั่งแบบญี่ปุ่นด้วยผมว่าน่าจะเป็นจากการที่อาหารของร้านนี้มีอะไรมากกว่าราเมนด้วย เป็นพวกอาหารกินเล่นแนว Izakaya กับพวกเสียบไม้ปิ้งย่างหรือ Yakitori อีกพอสมควร เคียงคู่ไปกับราเมนที่ทางร้านมีให้เลือกน้ำซูป 3 อย่าง Miso, Shio และ Shoyu และก็มี ราเมนแบบที่ทางร้านจัดมาให้แล้วแค่ 2 แบบคือจะเอาเป็นไข่นกกระทา หรือว่าจะเอาเป็นไข่ยางมะตูม แค่นั้น จบ .. ราคาอาหารผมว่าอยู่ในระดับราคาปกติสำหรับตัวราเมนคือชามละประมาณ 200 บาท (แต่เป็น 200 บาทแบบให้ไข่มา 3 ซีก ชาชูมา แผ่นใหญ่ ๆ แผ่นนึงนะเออ ไม่เหมือนบางร้าน 200 บาทแต่ไม่ให้ไข่ต้องสั่ง topping เพิ่มเอง!) ส่วนพวกอาหารกินเล่นกับ Yakitori นี่ผมว่าค่อนข้างถูก คือจานละ 50 - 140 โดยประมาณ ส่วน Yakitori ก็ไม้ละแค่ 30 บาทเท่านั้น คือที่ถูกส่วนนึงก็เพราะว่าร้านนี้ไม่มี vat + service charge ด้วยนี่แหละครับ

มื้อนี้ผมไปกับแฟน 2 คนก็เลยสั่งได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไร ราเมนคนละชาม ของกินเล่นอีก 3 อย่าง Yakitori อีก 4 ไม้ และก็เบียร์อีก 3 แก้ว อืม หรือเยอะหว่า เอาเป็นว่ากินเสร็จกระเพาะก็แอบตึง ๆ เหมือนกันครับ

อาจิดามะ โนโกะ โชยุ ราเมน (Thick soy sauce ramen seasoning egg topped - 200 บาท) : ราเมนของผมเอง อร่อย น้ำซุปมาแบบหอมน้ำ stock ไก่มากมาย เป็นน้ำซุปแบบกึ่งใสกึ่งข้น ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามีวัตถุดิบอะไรอยู่ในน้ำซุปบ้าง , ตัวหมูชาชู มันดี ชิ้นใหญ่ เนื้อหนา อร่อย ๆ ชอบ ๆ , ผักที่ให้มามีผักโขม (spinach) กับกะหล่ำปลีซอย ก็เรียกได้ว่าเป็นผักที่แปลกดี ไม่ค่อยพบเจอในราเมนในบ้านเราสักเท่าไร (รู้สึกว่าจะเป็นราเมนสไตล์แบบร้าน Hide-Ya ที่มีใส่ผักโขม ซึ่งผมก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าเรียกว่าสไตล์อะไร) ส่วนเส้นก็อร่อยดี เป็นเส้นราเมนแบบเส้นใหญ่ หนึบ ๆ ดี เหมือนลวกมาไม่มากเท่าไร รวม ๆ แล้วเป็นราเมนที่อร่อย กินเพลินครับ ชามไม่ใหญ่มาก แต่ถ้ากะกินพอประทังชีวิตก็ชามนี้ + side dish อีกชามก็น่าจะอิ่มกำลังดีล่ะ







อาจิดามะ โนโกะ มิโซะ ราเมน (Rich miso ramen seasoning egg topped - 200 บาท) : ชามนี้ของแฟนผม ทุกอย่างเหมือนกันหมดยกเว้นน้ำซุปที่เป็น Miso ผมกับแฟนเห็นตรงกันว่าของผมอร่อยกว่าเพราะ Miso ของร้านนี้เปรี้ยวไปหน่อย รสชาติยังไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าไรนัก

ปลาหมึกและวาซาบิ (Tako & Wasabi - 90 บาท) : กับแกล้มคู่บุญของผม สั่งทีไรไม่ค่อยผิดหวัง ซึ่งกับที่ร้าน Sendai Kama-Jin แห่งนี้ก็เช่นเดียวกัน อร่อย กินเพลิน เข้าคู่กับเบียร์ได้เป็นอย่างดี




เกี๊ยวซ่า (Gyoza - 80 บาท) : จานนี้แถมฟรีครับ เพราะบอกว่ามาจาก Wise Weekly อืม อร่อยใช้ได้ ไม่มากมายนัก แต่ดีกว่าร้านหลัง ๆ ที่ผมเพิ่งกินมานะ

Tagoyaki 6 ก้อน - 90 บาท : จานนี้ทีเด็ดเลย อร่อยประทับใจราคาไม่แพง ทาโกะยากิลูกใหญ่มาก ยัดไส้มากำลังดี กินแล้วมีหนวดปลาหมึก, เนื้อปลาหมึกมาให้กรุบ ๆ กำลังดี และแบบไม่รู้ว่าทอดมายังไงผิวนอกถึงกรอบ ๆ อยู่ได้ ส่วนไส้ในก็เหลว ๆ เละ ๆ อืม อร่อยครับ ให้ katsuo หรือปลาโอตากแห้งมาเยอะมากด้วย แนะนำเลย ๆ จานนี้










ต้นขาไก่ (Tori-momo - 30 บาท) : อร่อย เนื้อเด้ง สู้ฟันมากครับ

หนังไก่ (Tori-Kawa - 30 บาท) : หลายคนอาจจะอี๋กับไม้นี้ แต่ผมชอบมากเลย อร่อย มันเยอะ ๆ ชอบ ๆ

เนื้อตูดไก่ (Bonjiri - 30 บาท) : เป็นอีกไม้ที่หลายคนน่าจะอี๋ แต่ผมก็ชอบอีกเช่นกัน เนื้อกรุบ ๆ มีกระดูกอ่อนปน ๆ มา และก็มัน ๆ กว่าเนื้อส่วนอื่น ๆ ทางร้านปรุงรสกับเกลือมาเล็กน้อย ผสมผสานออกมาเป็นอะไรที่ลงตัวมาก

หมูม้วน + ต้นหอม (Pork roll + leek - 35 บาท) : จานนี้เจ๋งครับ ต้นหอมสุกง่ายกว่าเนื้อหมู พอเอาไปย่างแล้วมันก็เลยไหม้ก่อน แต่เนื้อหมูแบบกำลังเพิ่งเริ่มสุกพอดี พอกินแล้วก็ได้ texture ผสมผสานสองแบบ แข็ง ๆ + นุ่ม ๆ ผสมกัน ปรุงรสมาด้วยเกลือเล็ก ๆ อร่อยอีกเช่นกัน

Asahi Draft Beer - 90 บาท : มื้อนี้ไม่พูดถึงเบียร์สดของร้านนี้ไม่ได้ครับ ไม่รู้เป็นไรนะ ช่วงหลัง ๆ นี่กินเบียร์สดตามร้านอาหารไทยหลาย ๆ ร้านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยสดเท่าไร ฟองไม่นุ่ม เบียร์ไม่ละมุน ไม่รู้เพราะว่าเป็นเบียร์ผสม หรือเบียร์เก่ารึเปล่า แต่ของร้าน Sendai Kama-Jin แห่งนี้นี่คนละเรื่องครับ กดกันสด ๆ ต่อหน้า และแบบเป็นเบียร์ Asahi สดที่ละม้ายคล้ายคลึงกับที่ญี่ปุ่นมาก ฟองนุ่ม ตัวเบียร์อร่อยละมุน และที่สำคัญลดราคาเหลือแค่แก้วละ 50 บาทด้วยอีกต่างหาก

สรุป ร้านราเมนน้องใหม่ในย่านอโศก ในซอยสุขุมวิท 23 นามว่า Sendai Kama-Jin แห่งนี้ ผมกับแฟนค่อนข้างชอบเลยล่ะ ราเมนรสชาติดี แม้ว่าจะไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ทั้งเรื่องรสชาติ, ปริมาณ, หรือ topping แต่รวม ๆ แล้วก็เป็นราเมนชั้นดีชามนึงเลย และทางร้านยังมีการเสริมทัพด้วยอาหารกินเล่นอร่อย ๆ มากมายในราคาไม่แพงอีก อืม ร้านนี้คงเป็นอีกร้านที่ถ้าผมอยากจะมานั่งกินเบียร์ เคล้าอาหารกับเพื่อน ก็คงจะเลือกมาร้านนี้ล่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Tuesday, October 29, 2013

ส้มตำ ศรีนครินทร์ Review

ส้มตำ ศรีนครินทร์ ร้านอาาหรอีสาน ส้มตำ ศรีนครินทร์ Paradise Park




Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  3/5
Value   4/5

ส้มตำศรีนครินทร์ - ร้านอาหารอีสาน on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ร้านอีสานส่วนใหญ่ก็มักจะมีชื่อเรียบง่ายถึงง่ายที่สุดอยู่แล้วไม่ค่อยจะมีการนำศํพท์เก๋ ๆ หรือตั้งชื่อร้านให้มันยากแต่อย่างใด แต่กับร้านในรีวิวนี้ผมก็เพิ่งจะเคยเจอร้านอีสานที่ตั้งชื่อร้านได้ เรียง่าย (เกินไป) แต่ก็บ่งบอกถึงอาหารและทำเลของร้านได้เป็นอย่างดีกับร้าน "ส้มตำ ศรีนครินทร์" ร้านอาหาร ส่วนอาหารที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับห้าง Paradise Park บนนถนนศรีนครินทร์เลย ตอนแรกที่ผมหาข้อมูลร้านมาก็นึกว่าเป็นร้านห้องแถวเล็ก ๆ แต่ที่ไหนได้ เป็นสวนอาหารอีสานขนาดใหญ่เบ้อเริ่มเลยซะอย่างนั้น ก็เลยทำให้ตอนแรกขับรถเลยไปเหมือนกัน แต่โชคดีที่เห็นป้ายคำว่า "ส้มตำ" ขนาดใหญ่บิ๊กเบิ้มอยู่ด้านหน้าทางเข้าร้านก็เลยรีบถอยรถกลางถนนเข้าซอยมาได้โดยไม่ต้องไป U-turn กันอีกรอบ

ร้านนี้ตอนแรกก็แอบคิดว่ามันมีอะไรที่ละม้ายคล้ายคลึงกับ "สวนอาหารบัว" ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามมากเหลือเกิน ไม่ว่าจะความใหญ่ของร้าน, บรรยากาศร้าน, สีม่วงที่เป็นสีสัญลักษณ์ร้านและมาชัวร์เอาตอนหลังที่เห็นจานของร้านที่มีคำว่า "บัว" แปะอยู่ด้วยนั่นเอง (ไม่ใช่อะไรครับ ผมกินร้านบัวมาตั้งแต่เด็ด ชอบร้านเค้า อร่อยดี)

ร้านนี้ก็เป็นสวนอาหารอีสานที่เรียกได้ว่ามีอาหารอีสานให้เลือกเยอะมาก ๆ อาหารอีสานมาตรฐาน เช่น ไก่ย่าง, ส้มตำ มาครบ เคียงคู่กันไปกับอาหารอีสานแปลก ๆ ทั้งอาหารโคตรอีสาน เช่นพวก ไข่มดแดง, แกงอ่อม หรือกับอาหารอีสานที่ใช้วัตถุดิบแพง ๆ มาเป็นองค์ประกอบ ส่วนราคาก็เรียกได้ว่าไม่ค่อยแพงสักเท่าไร อารมณ์ประมาณกึ่งกลางระหว่างร้านอีสานห้องแถว, เพิง กับพวกร้านอีสานที่ตั้งราคาแพง ๆ ในบ้านเราประมาณนั้น มากินกันเต็มที่ก็น่าจะคนละ 300 - 400 บาทได้ (ถ้าจัดหนักจริง ๆ นะครับ) มื้อนี้ก็มีเครื่องดื่ม 2 อย่าง กับอาหารคาว 5 อย่างและของหวาน 1 อย่างมาไล่เรียงกันไปเล้ย




น้ำอัญชันมะนาวสด (35 บาท) : มาแบบเปรี้ยว ๆ เพราะใส่มะนาวมาด้วย คือตอนแรกสั่งไปสั่งไปแต่น้ำอัญชันไม่รู้ว่ามีมะนาวใส่มาด้วย พอดื่มเข้าไปอึกแรกก็แอบตกใจเล็กน้อยครับ พอใส่มะนาวแล้วมันดูไม่ค่อยเหลือร่องรอยความเป็นน้ำอัญชันสักเท่าไรเลย อืม เหมือนกินน้ำมะนาวเจือจางมากกว่า

น้ำมะพร้าวสด (40 บาท) : ของแฟนผม ผมไม่ได้กินเลย ไม่รู้เหมือนกันว่ายังไงก็คงเป็นน้ำมะพร้าวมาตรฐานล่ะครับ อ้อ ลูกใหญ่ดีครับจะว่าไป

ตำซั่วปูปลาร้า (45 บาท) : อร่อยใช้ได้ ให้มะละกอกับขนมจีบมาแบบผสมกันครึ่ง ๆ เลย ปลาร้า หอมอร่อย ผักก็ให้มาแบบสมดุลและหลากหลายดี รวม ๆ แต่ที่สำคัญที่สุดคือปริมาณเยอะมากครับ เยอะกว่าหลาย ๆ ร้านช่วงหลังที่กินมาในช่วงราคา 45 บาทเลย อืม






ยำเนื้อโคขุน (120 บาท) : จานนี้แพงที่สุดในมื้อนี้แต่ดันไม่อร่อยที่สุดในมื้อนี้ไปด้วย รสชาติยำประหลาด ๆ ไม่เผ็ด ไม่เปรี้ยว ไม่มีอะไรเด่นสมกับเป็นยำเลย ส่วนตัวเนื้อก็ให้มาน้อยและเป็นเนื้อที่สุกทั่วถึงกันทั้งแผ่นอีกด้วย ไม่ได้เป็น medium rare แต่อย่างใด ทำให้เนื้อมันแบบแข็ง ไม่นุ่มเลย รวม ๆ ออกมาก็เลยกลายเป็น ยำเนื้อ ที่แสนจะ lame เหลือเกินนั่นเอง

แกงหน่อไม้ใบย่านาง (80 บาท) : จานนี้ชอบครับ เห็นหน้าตา ชิมน้ำซุปเข้าไปคำแรกแล้วนึกถึงแกงหน่อไม้ที่แม่ผมชอบทำให้กินสมัยก่อนตอนเด็ก ๆ คือแบบทั้งความลาว ความปลาร้า ความเป็นแกงหน่อไม้แบบอีสานแท้ ๆ นี่เป็นอะไรที่ใช่เลยจริง ๆ สำหรับจานนี้ อร่อยครับ หน่อไม้ให้มาเยอะ กรอบ ๆ ดี ตัวน้ำซุปก็มาแบบร้อน ๆ ซดเพลินดี ใครที่ชอบแกงแปลก ๆ หรือเป็นแฟนแกงหน่อไม้อยู่แล้วก็ลองกันได้ครับ






ลาบเป็ด (80 บาท) : อร่อยอีกเช่นเดียวกันจานนี้ เนื้อเป็ดไม่เหม็น ปรุงรสมาดีมาก นัวสุด ๆ ไม่มีอะไรให้ต้องติเลย เอาเป็นจานลาบตัวอย่างให้กับหลาย ๆ ร้านที่ทำลาบไม่อร่อยได้เลยล่ะ

ไก่ย่างครึ่งตัว (80 บาท) : ไก่ตัวเล็กไปนิด แต่เมื่อคิดว่านี่มัน 80 บาทเองนะก็ถือว่าให้อภัยครับ (เดี๋ยวนี้ไก่ย่างข้างถนน อย่างหน้าบ้านผมนี่ชิ้นละ 60 บาทแล้วนะครับทำเป็นเล่นไปเนื้อสะโพกอ่ะ โฮ้ย แพงไปมั้ย?) ส่วนรสชาติก็ไม่มีอะไรโดดเด่นมาก พอกินได้ เนื้อไม่ได้นุ่มมาก, ไม่ได้มีรสชาติอะไรจากการหมักเป็นพิเศษ หนังไก่ก็ไม่ได้กรอบอะไรนัก ก็เป็นไก่ย่างที่แบบกินได้เรื่อย ๆ แต่ไม่ได้จะต้องสั่งถ้ามาที่ร้านอะไรงี้






เฉาก๊วยชากังราว (25 บาท) : ของหวานปิดท้ายของแฟนผม ผมไม่ได้กิน แต่ก็คงเป็นเฉาก๊วยชากังราวแบบซื้อมา ไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง

สรุป ร้าน ส้มตำศรีนครินทร์ - ร้านอาหารอีสาน สวนอาหารอีสานขนาดใหญ่บนถนนศรีนครินทร์แห่งนี้ผมกับแฟนก็ค่อนข้างชอบกันนะ อาหารรสชาติดีราคาไม่แพง ร้านสะอาดสะอ้าน มีที่จอดรถสะดวกสบาย มีข้อให้ติอย่างก็คงเป็นเรื่อง "ความล่าช้า" ของการทำอาหาร อาหารนานมากแต่ละจาน ขนาดผมไปตอนบ่าย 3 ที่ไม่ค่อยมีลูกค้าสักเท่าไรแล้วด้วยนะ อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าตอนเย็น ๆ ที่ลูกค้าเยอะ ๆ นี่จะเป็นยังไง (หรือว่าคนครัวเค้าพักตอนบ่ายหว่า?)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...