BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Monday, March 31, 2014

Casa Pasta Bangkok Review

Casa Pasta ร้านอาหารอิตาเลียน สุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) รีวิว



Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  3/5
Service  3.5/5
Value   3.5/5

Casa Pasta - Italian Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ร้าน Casa Pasta (บ้านพาสต้า) ในรีวิวนี้เป็นร้านที่ผมว่าจะมากิน ๆ นานมากล่ะ อย่างต่ำ ๆ ก็ครึ่งปีได้ เพราะอ่านเจอรีวิวจากหลาย ๆ ที่มีแต่ชมร้านนี้กันทั้งนั้นว่า "อร่อย ถูก คุ้มค่า ฯลฯ" แต่เนื่องด้วยทำเลของร้านที่ตั้งอยู่ที่ปากซอยวชิรธรรมสาธิต 9 (สุขุมวิท 101/1) ย่านที่ค่อนข้างจะไกลบ้านผมเหลือเกิน เวลาจะมา ๆ ก่อนหน้านี้ทีไรก็จะแบบขี้เกียจมาทุกทีเพราะว่ามันไกล แต่วันนี้ที่มาได้ก็เนื่องจากว่าอยากกินพาสต้ามาก ๆ เลย ไม่ได้กินพาสต้ามานานล่ะก็เลยชวนคุณแฟนไปจัดกันสักหน่อย ในบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้

ร้านนี้หาไม่ยากเลยครับอยู๋ปากซอยวชิรธรรมสาธิต 9 พอดี เป็นร้านห้องแถวเล็ก ๆ ขนาด 1 คูหา แต่ว่าตั้งอยู่ตรงมุมพอดีผมก็เลยรู้สึกว่าขนาดของร้าน Casa Pasta แห่งนี้แอบใหญ่กว่าห้องแถวขนาด 1 คูหาอยู่พอสมควรเหมือนกันนะเนี่ย ตอนที่ไปถึงที่ร้าน ร้านชั้นล่างเหมือนจะมีครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงเค้ามาปิดร้านฉลองอะไรกันสักอย่าง พวกผมเลยต้องระเห็จไปนั่งชั้นบนแทน ซึ่งจะว่าดีก็ว่าดีมั้งเพราะชั้นบนมีแค่โต๊ะผมอยู่โต๊ะเดียว เงียบ เป็นส่วนตัวดี และก็ทำให้รู้ว่าร้านมี 2 ชั้นด้วย (ไม่งั้นคงไม่รู้)





พนักงานของร้านนี้ดูบริการงง ๆ เหมือนกันครับ พูดจาดี แต่แนะนำอาหารไม่ค่อยได้ และก็เหมือนจะคอยยืนดูแลเรา แต่เหมือนก็ไม่ได้ดู คือมีเศษพิซซ่าหก ๆ เต็มโต๊ะแต่ก็ปล่อยอยู่ตั้งนานไม่มาเช็ด, แก้วน้ำก็แบบน้ำมันซึมออกก้นแก้วเปื้อนโต๊ะก็ไม่เช็ด จานก็มีปล่อยไว้นาน ๆ แต่แบบก็ยืนดูอยู่ตลอดเวลา ก็แอบบงง ๆ เหมือนกันว่ายืนดูอะไร

ส่วนอาหารของร้าน Casa Pasta แห่งนี้ตอนแรกผมก็นึกว่าจะเน้นไปที่ Pasta อย่างเดียว แต่เปล่าเลยครับเป็นอาหารอิตาเลียนแบบเต็มรูปแบบ มีให้เลือกบครันครันทั้ง pizza, salad, soup, main course และของหวาน ซึ่งผมก็เพิ่งมารู้เมื่อตอนที่มาร้านที่นี่แหละว่าร้านนี้เค้ามีเชฟอยู่ 3 คน (ไม่รู้จะเรียกว่าเชฟหรือพ่อครัวดี เพราะเชฟมันควรมีแค่คนเดียวในร้าน ๆ นึงเนอะ) และ 3 คนนี้เคยทำงานอยู่ที่ร้านอิตาเลียนชื่อดังย่านสีลมนามว่า Zanotti มาก่อน และเมื่อประมาณสักเกือบ ๆ ปีที่ผ่านมา สามสหายครัวอิตาเลียนแห่งนี้ก็มาเปิดร้านเล็ก ๆ ของตัวเองกัน ซึ่งจากที่ฟัง ๆ ดูแล้วพอรู้ว่าเคยอยู่ Zanotti ก็พอจะเดาอาหารได้อย่างคืออาหารจะเป็นแนวแบบ traditional หน่อย ไม่ได้แบบ molecular หรือสวยงามอะไรเว่อร์นัก และก็ฝีมือก็น่าจะพอเชื่อขนมกินได้อยู่ไม่งั้นทางร้าน Zanotti คงไม่รับเข้าไปทำ





อาหารของร้าน Casa Pasta นี้ตอนแรกผมคิดเอาไว้ว่าจะถูกกว่านี้พอสมควรครับเพราะเห็นว่าตั้งอยู่ชานเมืองเหลือเกิน แต่ผมก็ลืมไปว่าร้านอิตาเลียนในบ้านเรา (กรุงเทพ หรือจังหวัดไหนก็ตาม) ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนราคาก็มักจะตั้งมาให้ดูแพง ๆ โอเว่อร์ ๆ อยู่แล้วซึ่งร้าน Casa Pasta แห่งนี้ก็ไม่ต่างกัน คือไม่ถึงกับแพงขนาดร้านในใจกลางเมือง แต่ก็ไม่ได้ถูก มากินกันแบบไม่คิดอะไรมากก็คงเท่า ๆ กับผมในมื้อนี้คือคนละ 500 - 1,000 บาทโดยประมาณ (พาสต้าจานละ 200 - 400 , main 300 - 600 ประมาณนี้)

มื้อนี้มีอาหาร 5 อย่างครับ ไม่ได้สั่ง main course เหมือนทุก ๆ ทีเพราะรู้สึกว่า..ไม่ได้เตรียมใจมากินอะไรแพง ๆ (lol)

Chef Salad (220 บาท) : จานนี้ไม่มีอยู่ในเมนูครับ พนักงานแนะนำมา (เพราะดู ๆ แล้วสลัดในเมนูยังไม่ค่อยโดนเท่าไร) จานนี้กินเข้าไปคำแรกแอบตกใจเพราะมาแบบร้อน ๆ เลย เป็นสลัดแบบร้อน ๆ หนึ่งในไม่กี่จานที่ผมเคยกินมาเลยมั้ง อร่อยดีครับ ผักสดอร่อยมีหลากหลายดีทั้ง green oak, rocket, cherry tomato และผักกาดม่วง ทั้งหมดนี้วางโปะมาด้วยเบคอน, ไส้กรอกและเห็ดแบบร้อน ๆ และก็โรยน้ำสลัดเปรี้ยว ๆ มาอีกเล็กน้อย อร่อยครับ ชอบจานนี้







Tagliolini with cheap mushroom and black summer truffle cream sauce (เส้นตาโยลินี่ผัดกับเห็ดหอมและซอสเห็ดทรัฟเฟิลครีมซอส - 250 บาท : พาสต้าแบบครีมมี่ ๆ หน่อย ไม่ได้ใส่เนื้อสัตว์มาเลยมีแต่เห็ดอย่างเดียว ไม่รู้ว่าแพงอะไร อาจจะเพราะตัวทรัฟเฟิลที่ขูดมาให้ค่อนข้างเยอะ แน่นอนครับ จานนี้โดดเด่นที่ความหอมของทรัฟเฟิล ตัวเส้น tagliolini ก็เส้นเรียว ๆ เล็ก ๆ เข้ากันดีกับซอสแบบครีมมี่ ตัวเห็ดก็ให้มาเยอะดี รวม ๆ ก็เป็นพาสต้าที่อร่อยใช้ได้นะครับ

Dry Pasta Angel Hair (Salsiccia e Funghi (Italian suasage, mushroom, chili, garlic, cherry tomato ซอสผัดแบบแห้ง ๆ ใส่ไส้กรอกอิตาเลียน, เห็ด, พริก, กระเทียม, มะเขือเทศเชอร์รี่ - 210 บาท : จานนี้เป็นจานเดียวที่ผมรู้สึกว่า fail ในมื้อนี้ ตัว topping, เครื่อง pasta ผมว่าทำมาค่อนข้างอร่อยดีนะครับ ไส้กรอกอิตาเลียนให้มาเยอะและอร่อยดี ตัวเห็ด, ผักต่าง ๆ ที่ให้มาก็แบบรสชาติจัดจ้าน ส่งเสริมรสชาติโดยรวมของจานดี แต่มันมาตกม้าตายเอาตรงเส้นนี่แหละครับ เส้นผัดมาแบบแห้ง ๆ และติดกันเป็นตังเม ผมพยายามจะกินเส้นให้พอดีคำ กินพร้อมกับเครื่องแต่ทำไม่ค่อยได้เท่าไร อืม แค่นี้จริง ๆ ล่ะครับ ไม่งั้นจานนี้คงอร่อยไปแล้ว








Pizza Spicy Salami (Mozzarella, Tomato พิซซ่าซาลามีแบบเผ็ด - 300 บาท : Pizza อร่อย แป้งบางกรอบ โรย Salami มาเต็ม ๆ ถาด ชีสก็มาแบบเยิ้ม ๆ คือทางร้านบอกว่าจานนี้เป็นพิซซ่าแบบเผ็ด แต่ผมกินแล้วหาความเผ็ดไม่เจอเลย ไม่แน่ใจว่าทำสลับกันอีกอันที่เป็น salami ธรรมดา ๆ รึเปล่า แต่ถึงจะไม่เผ็ดก็ไม่เป็นไรครับเพราะว่าอร่อยดี ราคาไม่แพงด้วยนะถาดนี้ทำเป็นเล่นไป

Traditional Italian Tiramisu espresso with mascarpone cheese and coffee (อิตาเลียนคอฟฟี่เค้ก ทิรามิสุ ใส่ชีสมาสคาโพนเน่กับกาแฟ - 130 บาท : จานนี้ราคาไม่ค่อยแพง tiramisu ดูจะทำมาให้มีรูปร่างเหมือนผีเสื้อ ก็น่ารักน่ากินดี จานนี้อร่อยได้มาตรฐานดีครับ ระดับเดียวกับพวกร้านอิตาเลียนหรู ๆ ใจกลางเมืองประมาณนั้น





มื้อนี้ค่าเสียหายประมาณ 1,400 บาท ทางร้าน Casa Pasta มี service charge ให้ด้วย 10% (อืมคือให้มาด้วยแต่ไม่อยากได้น่ะครับ ฮ่า ๆ) เอาจริง ๆ แล้วร้านนี้ผมค่อนข้างชอบนะ อาหารถือว่ารสชาติดีกว่าร้านอิตาเลียนชานเมืองหลาย ๆ ร้านเลย แต่คือราคามันแอบแรงกว่าที่ผมคิดไปพอสมควร, พนักงานแอบมีบริการงง ๆ บ้างบางจังหวะ แต่รวม ๆ แล้วร้านนี้ผมก็อยากมาอีกรอบนะครับ อืมก็ไว้ถ้ามีอารมณ์อยากจะกินอาหารอิตาเลียนดี ๆ อีกก็คงจะมาใหม่ล่ะครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Sunday, March 30, 2014

The Rock - Fusion Restaurant at Cape Nidhra Hua Hin Review

Rock Restaurant - International & Fusion Restaurant at Cape Nidhra Hotel Review



Overall Score  9/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4.5/5
Service  4.5/5
Value   4.5/5

Rock Restaurant - Asian Fusion Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ณ โรงแรม Capd Nidhra หัวหินจะมีห้องอาหารชื่อดังประจำโรงแรมอยู่ห้องนึงนามว่า Rocks Restaurant ชื่อร้านนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนักมวยปล้ำชื่อดังที่ผันตัวเองมาเล่นหนัง, ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนังเรื่องดังเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชื่อร้านนั้นมีที่มาจากอะไร (คือเขียนเหมือนจะรู้) เพราะว่าบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งเป็นแนว modern ริมทะเลนั้นไม่ได้มีอะไรที่มีความเป็นหินหรือเกี่ยวข้องอะไรกับหินเลย (เท่าที่สังเกต) ร้านนี้เป็นห้องอาหารหนึ่งเดียวของโรงแรม เสิร์ฟอาหารทั้งมื้อเช้า, เที่ยง และเย็นให้กับแขกเหรื่อและคนทั่วไป

ห้องอาหาร Rocks Restaurant แห่งนี้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ริมทะเลแบบติดทะเลเลย แต่ก็ยังพอเห็นวิวเป็นทะเลอยู่บ้าง ให้ไม่เสียเที่ยวกับห้องอาหารของโรงแรมริมทะเลแบบนี้ ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน จะมีส่วน al fresco dining อยู่เล็กน้อยมีโต๊ะอยู่ 4-5 โต๊ะซึ่งโต๊ะบริเวณนี้ถามาตอนกลางคืนนี่จะโรแมนติคมากเลเพราะจะเห็นวิวสระน้ำ, ทะเล และแสงจันทร์(นวลผ่อง) ส่วนถ้ามาตอนกลางวันก็อาจจะไม่ดีเท่าเพราะร้อนด้วยและไม่โรแมนติคเท่าไรด้วย ส่วนที่นั่งด้านในนั้นจะมีจำนวนโต๊ะอยู่ค่อนข้างเยอะ มีทั้งโต๊ะใหญ่และโต๊ะเล็ก ๆ รองรับลูกค้าหลากหลายรูปแบบ บรรยากาศด้านในนั้นตกแต่งสวยงามดีครับ สมกับเป็นห้องอาหารของโรงแรม 5 ดาว เช่นเดียวกันกับการบริการของที่นี่ พนักงานดูแลดีมาก มืออาชีพ และใส่ใจกับลูกค้าสุด ๆ







อาหารของห้องอาหาร Rocks Restaurant - Cape Nidhra Hua Hin นั้นจะเป็นอาหารแนวผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก แต่ว่าจะแบ่งหมวดหมู่อาหารเป็นแบบตะวันตกคือจะมี soup, pasta, appetzier, salad, main course, dessert อะไรพวกนี้ แต่คือก็ไม่ได้มีแต่อาหารตะวันตกจะมีอาหารไทย, อาหารตะวันออกแทรก ๆ เข้าไปอยู่ในเมนูด้วย ตัวอาหารมื้อเที่ยงกับมื้อเย็นนั้นก็จะแตกต่างกันบ้างพอสมควรมีอาหารบางตัวที่มีทั้ง 2 มื้อและมีบางตัวที่มีแค่มื้อใดมื้อหนึ่งก็เลยทำให้เกิดความหลากหลายในด้านอาหารเพิ่มเติม ลูกค้าสามารถมารับประทานได้ 2 มื้อติดต่อกันได้แบบสบาย ๆ






อาหารของทางร้านจะเป็นอาหารที่เน้นแนว fusion หน่อย มีการใส่ความเป็น seafood, ความเป็นไทย ลงไปในอาหารตะวันตก , มีการ twist อาหารไทยแบบบ้าน ๆ ให้หน้าตาออกมาดูดีเหมือนกับของตะวันตก จนสุดท้ายแล้วอาหารของร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้จึงเป็นแต่ละจานที่ creative และไม่ซ้ำแบบกับใครเลยจริง ๆ เพราะเป็นจานที่คิดขึ้นมาใหม่เองทั้งหมด ส่วนราคาอาหารนั้นก็อยู่ในระดับกลาง ๆ เทียบได้กับร้านอาหารตะวันตกมีระดับหน่อยในกรุงเทพมากินกันเต็มที่ก็คงจะคนละ 600 - 1,000 บาทโดยประมาณอะไรประมาณนั้น เครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกเยอะครบครัน เท่าที่ดู ๆ แล้วอยากจะดื่มอะไร อยากจะซดอะไรที่ร้านน้เค้ามีให้เลือกสั่งหมดครับ (ยกเว้นเบียร์สดนะ)

Cape Nidhra Coffee (Single malt whisky, baileys, whipped cream, lavazza coffee, Cinnamon - 260 บาท) : กาแฟที่เอาชื่อโรงแรมมาเป็นชื่อเมนู เห็นแบบนี้ปุ๊บอดที่จะไม่สั่งไม่ได้จริง ๆ ล่ะครับเป็นกาแฟเข้มข้นที่ผสมวิสกี้มาด้วย ใส่วิปครีมนิด, ซินนามอนหน่อยเพื่อความมันความอร่อย แก้วนี้ให้วิสกี้ค่อนข้างเยอะกินเข้าไปอึกแรกแอบสะอึกอยู่เหมือนกัน แต่กินไปกินมาหลัง ๆ เริ่มลื่น รู้สึกว่าเอ้อมันก็เข้ากันดีนะเนี่ยวิสกี้กับกาแฟเนี่ย







Watermelon and Feta Cheese Salad with Pink Pepper - 340 บาท : สลัดไอเดียสุดบรรเจิด นำแตงโมมาหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วเอาไปคลุกกับ feta cheese และมีการยัดกลับลงไปในแตงโมลูกเล็ก ๆ และเสิร์ฟมาพร้อมกับใบร็อคเก็ตเล็ก ๆ หน้าตาตอนแรกนี่บอกตรง ๆ คือผมไม่คิดว่ามันจะเข้ากันเลย แต่คือพอได้กินแล้วมันกลับเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด แตงโมเพิ่มความหวานและฉ่ำ ส่วนชีสเพิ่มความมันและหอม ใบร็อคเก็ตเหมือนเป็นใบตัดเลี่ยน แอบมีรสเผ็ด ๆ ด้วยเล็กน้อย

Angel hair pasta with crabmeat, crab roe, white wine, olive oil, chili, garlic and rocket leaves - 370 บาท : จานนี้ทางร้านบอกว่าเป็น pasta ที่โด่งดังที่สุดของทางร้านล่ะ ลูกค้าที่มานี่แทบจะสั่งกันทุกคน เป็นเส้นแองเจิ้ลแฮร์นำไปผัดกับไวน์ขาว, ใบร็อคเก็ตและใส่พวกเครือ่งเทศเพิ่มรสจัดจ้านลงไป ส่วนที่สำคัญที่สุดคือเนื้อปูที่ให้มาเยอะมาก ตักขึ้นมาคำไหนก็เจอ และมีก้ามปูขนาดใหญ่แปะมาด้วย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเนื้อปูนั้นมาจากก้ามปูรึเปล่า ซึ่งถ้าใช่นี่จานนี้จะเป็นอะไรที่ถูกมากเลยนะเพราะก้ามปูนึ่งเปล่า ๆ อย่างเดียวในกรุงเทพส่วนใหญ่ก็ขายกันก้ามละ 400 บาทเข้าไปล่ะ จานนี้รสชาติจัดจ้าน, ไม่แห้ง, ไม่แฉะไป เนื้อปูสด อร่อยฟินครับ









Herb-crusted Australian rack of lamb with truffle-flavoured mashed potatoes and rosemary gravy - 750 บาท : เป็นซี่โครงแกะที่สวยงามและบรรเจิดที่สุดที่ผมเคยเจอมาแล้วล่ะมั้งครับ ตัวซี่โครงมีเอาไปชุบกับแป้ง, สมุนไพร เพิ่มความกรอบของผิวด้านนอก ส่วนผิวในก็นุ่มและ medium rare กำลงดี ติดมันมากำลังดี, จานนี้มีการพัน onion rings มาให้สวย ๆ พร้อมกับเป็น side dish ของจานด้วย ยังไม่พอมีใส่มันบดกลิ่นทรัฟเฟิลมาให้อีก โอย เป็นซี่โครงแกะที่พิถีพิถันและอร่อยจริง ๆ ครับ

ไข่เจียวปู (Crabmeat Omelette - 450 บาท) : อาหารไทย fusion ตะวันตกจานเดียวในมื้อนี้เป็นไข่เจียวที่ทำออกมาเป็นหลาย ๆ ชั้น ระหว่างแต่ละชั้นจะมีเนื้อปูปริมาณมากแทรกเอาไว้อยู่และก็เรียง ๆ มาลักษณะคล้าย ๆ .. เบอร์เกอร์, พุดดิ้ง อะไรประมาณนั้น เป็นไข่เจียวที่อร่อย เนื้อปูเยอะ และหน้าตาน่ากินสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ









Pavlova with Fresh Tropical Fruist - 190 บาท : เป็นเมอแรงค์ที่นำไปอบมา รสชาติของตัว pavlova จะหวาน ๆ กรอบ ๆ และได้ความหวาน ฉ่ำ อ่รยเพิ่มเติมจากผลไม้ที่วางประดับประดาด้านบนมาจนเต็ม เป็นของหวานที่ผมไม่เคยกินมาก่อน สวยงามและอร่อยในตัวเอง ยอดไปเลย

Fruit Platter - 130 บาท : รวมมิตรผลไม้จานใหญ่ยักษ์ แกะสลักมาสวย ๆ ผลไม้สดทุกอย่าง



สรุป ร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้ก็สมกับเป็นร้านดังในหัวหินล่ะครับ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ ไม่ว่าจะบรรยากาศ, การบริการและตัวอาหาร และองค์ประกอบคุณภาพเยี่ยมทั้งหมดนี้แลกมากับราคาที่ไม่ได้แพงมากนัก (ตามความรู้สึกผม) ผมเลยรู้สึกว่าร้านนี้นี่เหมาะจริง ๆ ถ้ามาหัวหินแล้วอยากจะกินอาหารดี ๆ หากินที่ไหนไม่ได้ บรรยากาศดี ๆ โรแมนติค ร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้นี่เป็นอะไรที่ใช่เลยจริง ๆ ล่ะครับ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...