BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Wednesday, July 31, 2013

Once Upon A Time Restaurant

Once Upon A Time Restaurant - Thai Restaurant at Petchaburi 17, Bangkok

กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ - ร้านอาหารไทย เพชรบุรี ซอย 17




Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4/5

Once Upon A Time Restaurant - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ - ร้านอาหารไทย ชื่อเก๋ ๆ ที่อาจจะฟังดูเหมือนเป็นชื่อนิยายมากกว่าชื่อร้านอาหารนี้ ก็เป็นร้านที่ผมเคยเล็งไว้ว่าจะไปนานแล้ว ส่วนนึงก็เพราะชื่ออันเก๋ไก๋น่าไปลองนี้ และอย่างที่สองคือบรรยากาศของร้านที่ดูจากในรูปแล้วดูแนวดี เจ๋งดี ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 17 ซอยตั้งข้ามกับพันธุ์ทิพย์พลาซ่าเลย จากปากซอยเข้าซอยไปประมาณสัก 100 เมตรก็จะเห็นร้านนี้อยู่ด้านขวามือเลย เป็นร้านที่นำเอาบ้านมาดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร ส่วนที่จอดรถนี่อาจจะลำบากหน่อยเพราะว่าทางร้านไม่มีที่จอดรถ แต่ก็สามารถจอดได้ริมถนนหน้าร้านได้ เพราะสามารถจอดได้ตลอดแนว ซึ่งวันที่ผมไปก็ได้จอดหน้าร้านพอดิบพอดีเลย

ว่ากันถึงบรรยากาศร้านกันก่อน สิ่งแรกที่เราจะพบหลังจากเดินเข้าไปในร้านเลยคือ บรรยากาศร้านที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในร้านยุคโบราณเลยจริง ๆ กับบรรยากาศร้านที่แบ่งเป็น 2 zone โดยประมาณ โซนนั่งรับประทานอาหารแบบขันโตก ไม่มีแอร์ กินอาหารโดยแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ของทางร้าน , โซนห้องแอร์ ที่จะตกแต่งเก่า ๆ หน่อย ไฟสลัว ๆ เหมือนกินอยู่ในบ้านโบราณอะไรงี้ ส่วนพนักงานก็แสดงความเป็นไทยสุด ๆ ผู้ชายจะนุ่งโจงกระเบน ส่วนผู้หญิงก็จะห่มสะไบกันเลยทีเดียว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าร้านนี้เปิดมานานรึยัง , มี concept แบบนี้มานานรึยัง เพราะว่าในย่านเพชรบุรีตอนต้น, ราชปรารถ ช่วงนี้ก็เป็นย่านที่เรียกได้ว่ามีคนต่างชาติอยู่เยอะมาก การทำร้านอาหารไทยให้เป็นไทยจ๋า ๆ แบบนี้มันก็เลยจะเป็นจุดขายที่ดีกว่าปกติ เพราะอย่างวันที่ผมไปนี่ก็มีลูกค้าชาวต่างชาติสัก 70% ได้เลยมั้ง อ้อ แล้วก็พนักงานบริการกันดีมากด้วยครับ ไม่เสียทีที่อุตส่าห์ลงทุนแต่งตัวกันไทยจ๋าขนาดนี้





อาหารของร้าน กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ แห่งนี้ ก็แน่นอนครับจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากอาหารไทย อาหารของร้านนี้มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย และแต่ละรายการนี่เป็นอาหารไทยแท้ ๆ ไม่ได้มีการ fusion หรือการทำให้เป็น modern Thai แต่อย่างใดเลย ราคาอาหารของร้านนี้ผมรู้สึกว่าแพงกว่าที่ผมคิดเอาไว้พอสมควร คือส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 150 - 250 บาทโดยประมาณ คือถ้าคิดว่าเป็นอาหารไทยแบบธรรมดา ๆ มันก็มีความรู้สึกว่าแพง แต่เมื่อคิดว่า เออ มันก็เป็นอาหารในร้านอาหารที่ลงทุนทำทุกอย่างเป็นอย่างดี มันก็น่าจะถูกขึ้นมาแทน (ซึ่งผมว่าความรู้สึกเรื่องไม่อยากจะจ่ายเงินแพง ๆ ให้อาหารไทยนี่ก็คงจะเป็นกันหลายคนนะครับ ร้านอาหารเปิดใหม่ในปัจจุบันเลยมักจะไม่ได้เป็นอาหารไทยแท้ ๆ กัน ทำให้เป็น Thai-Fusion, Modern Thai ก็จะขายได้ราคาสูงกว่าอะไรงี้)

มื้อนี้เริ่มต้นด้วย Singha Draft Beer Pitcher (199 บาท) เบียร์ไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งร้าน กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ แห่งนี้ก็เสิร์ฟมาแบบกะขายฝรั่งเต็มที่เลย ไม่มีน้ำแข็งใส่มาให้ แต่ก็เย็นชุ่มฉ่ำกันมาเลยทั้งเหยือกและแก้ว ก็ดื่มรออาหารได้สดชื่นดีครับ





อาหารอย่างแรกเป็น พะแนงเป็ด (Mildly hot, kefir-lime leaf flavored, redcurry with duck - 267.50 บาท) - พะแนงของร้านนี้มาแบบใส่มาในจาน ไม่ได้เป็นถ้วย แต่ก็มีน้ำแกงให้เลือกตักได้ค่อนข้างเพียงพอ กับข้าวสวยแบบบุฟเฟ่ต์ราคา 29 บาทต่อหัว ที่เป็นข้าวหอมมะลิอย่างดี กินแล้วอร่อยมาก ชอบมาก กินข้าวเปล่า ๆ ยังได้เลยอะไรงี้ ตัวรสชาติพะแนงนั้นผมชอบมาก ๆ ครับ ไม่ค่อยหวาน และก็รสชาติ เค็ม เผ็ด ลงตัวดี เนื้อเป็ดก็ให้มาเยอะ และเลือกเอาส่วนติดมัน, ติดหนังนิด ๆ มาทุกชิ้นเลยกินแล้วนุ่ม ๆ ดีมาก จานนี้อาจจะมีให้ปรับปรุงหน่อยก็เรื่องใส่กะทิมาน้อยไปหน่อยนี่แหละครับ

แกงส้มชะอมไข่ (Spicy soup with tamarind and cha-om omelet - 179 บาท) - ถ้วยนี้ผมก็ชอบครับ เป็นแกงส้มที่แบบไทยจ๋าอีกแล้ว ไม่มีความหวานเลยสักนิด มีแต่ความเปรี้ยว เผ็ด และ เค็ม ทางร้านมีการเสิร์ฟมาในหม้อไฟทำให้ตลอดเวลาที่กินถ้วยนี้นั้นก็ร้อนกำลังดีตลอด ส่วนตัวชะอมไข่นั้น ให้มาเยอะดีครับ เต็มถ้วยเลย และก็จะมาแบบเละ ๆ คล้าย ๆ จะเป็น omelet ไม่สุก มากกว่าเป็นชะอมแบบแข็ง ๆ ที่เรามักจะพบเจอกัน ซึ่งผมว่ามันก็อร่อยดีไปอีกแบบนะครับ






ทอดมันถั่วพู (Deep-fried fish patties with dipping - 195.75 บาท) - อันนี้ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไร อย่างแรกเลยคือทอดมันให้มาชิ้นเล็กและน้อยแต่ขายตั้งเกือบ 200 บาท, อย่างที่ 2 คือตัวทอดมันไม่ค่อยมีความอร่อยนัก แต่ละคำที่กัดเข้าไป กินเข้าไปนี่เจอแต่ texture แบบแป้ง ๆ เท่านั้น ซึ่งจุดนี้อาจจะไปโทษร้านเค้าไม่ได้เนื่องจากว่ามันก็เป็นไปตามชื่อของเค้า

ไข่เจียวโหระพา (Omelet with sweet basil leaves - 87 บาท) -  จานนี้อร่อยครับ เป็นไข่เจียวที่ทอดมาได้เกรียม ๆ กำลังดี ใส่ใบโหระพามาเยอะ ใบใหญ่ดูน่ากิน และก็ปรุงรสมาแบบเน้นเค็ม ๆ นิดนึง เป็นไข่เจียวที่กินแล้วนึกถึงไข่เจียวในวัยเด็ก ๆ ฝีมือแม่ทำอะไรงั้นเลย






ผัดพริกขิงไข่เค็มปลาดุกฟู (Cubes of salty eggs, deep-fried bits of cat-fish meat and green beans pan-fried with red chilli curry paste - 177.50 บาท) - จานนี้ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ไม่ค่อยอร่อย รสแปลก ๆ คลุมเครือ และก็ texture รวม ๆ ของมันเละไปหมดเลย กินไปแค่คำสองคำแล้วก็ไม่ไปแตะแล้วครับจานนี้

กล้วยบวชชีสามสหาย (Assorted bananas in coconut milk - 54 บาท) - จานนี้ผมไม่ได้กินเลยครับ แต่แฟนผมที่กินอยู่คนเดียวบอกว่าไม่ค่อยอร่อย เป็นกล้วยบวชชีที่แปลกมาก ๆ ไม่ได้บวชชีมา เหมือนตัวกล้วยกับน้ำกะทิมันไม่ได้ไปทางเดียวกัน อะไรงี้





สรุป ร้านอาหารไทย นามว่า กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ แห่งนี้ก็เป็นร้านที่เจ๋งดีทีเดียวครับ เรื่อง บรรยากาศ, การบริการนี่ไม่มีอะไรให้ต้องติเลย พาเพื่อนชาวต่างชาติ, พาแขกบ้านแขกเมืองมาก็น่าจะชอบร้านนี้กันหมด ส่วนอาหารก็มีให้เลือกเยอะแยะหลากหลายและเป็นอาหารไทยทั้งหมด แม้ว่าอาหารจะไม่ประทับใจเหมือนร้านอาหารไทยเทพ ๆ มากนัก แต่รสชาติโดยรวมจาก 5 จานที่ผมกินไปนี่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด ร้านนี้ผมคงมีโอกาสได้มาซ้ำอีกสักครั้งล่ะครับ เพราะต่อไปถ้าจะพาเพื่อนชาวต่างชาติไปกินที่ไหน ไม่ต้องนึกอะไรมา พามาร้านนี้ทีเดียวจบเลย

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

China House Mandarin Oriental Bangkok Review

Sunday Brunch at The China House - Mandarin Oriental Bangkok



Overall Score  9/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4.5/5
Service  5/5
Value   4.5/5

China House - Chinese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ห้องอาหาร China House - ห้องอาหารจีนประจำโรงแรม Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมที่น่าจะโด่งดังที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในบ้านเรา นั้นเป็นห้องอาหารจีนที่ค่อนข้างจะพิเศษกว่าห้องอาหารจีนในโรงแรม 5 ดาวอื่น ๆ ตรงที่จะมี Sunday Brunch หรือมื้อพิเศษวันอาทิตย์ไว้คอยบริการนอกเหนือจากติ่มซำบุฟเฟ่ต์แบบปกติอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดโดยรวมของห้องอาหารนี้ในมื้อต่าง ๆ ก็ตามนี้เลยครับ

ตัวห้องอาหาร China House นี่ก็เป็นอะไรที่ตั้งชื่อได้เหมาะสมดีครับ อย่างแรกเลยคือตัวร้านนั้นเป็นบ้านที่ตั้งออกมาเป็นเอกเทศจากตัวโรงแรม และมีการดัดแปลงตกแต่งออกมาเป็นแนว Shanghai 1970 หรือเป็นแนวจีน modern ๆ หน่อยนั่นเอง ตัวร้านนี้ค่อนข้างแตกต่างจากห้องอาหารจีนอื่น ๆ ที่ผมเคยกินมาคือจะไม่มีส่วนห้องโถงรวมที่จะวางโต๊ะสำหรับแขกทั่วไปเอาไว้เยอะ ๆ และมีห้องย่อย ห้องส่วนตัว เป็นโต๊ะจีนแยกเพิ่มเติมออกไป แต่ที่นี่คือ พอเดินเข้ามาในห้องโถงของทางร้าน ถ้ามาในวันอาทิตย์ก็จะเจอกับไลน์อาหารจีนบุฟเฟ่ต์แบบอลังการต้อนรับเราไว้ก่อนเลย และสองฝั่งของห้องโถงนี้ก็จะเรียงรายไปด้วยโต๊ะที่วางไว้แบบเป็นสัดเป็นส่วน เน้นความเป็นส่วนตัว และมีให้เลือกนั่งกันถึง 2 ชั้นเลย เป็นบรรยากาศร้านในแบบที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนครับ เก๋ ดูดี มีสไตล์จริง ๆ (แฟนผมชอบมาก) ในวันที่ผมไปนั้น แขกมากันแทบจะเต็มทุกโต๊ะทั้งชั้น 1 ชั้น 2 ซึ่งทางพนักงานก็บอกเอาไว้ว่าตัว Sunday Brunch ของที่ China House แห่งนี้ขายดีมาก ๆ เต็มทุกอาทิตย์ ถ้าจะไปยังไงก็จองกันเอาไว้ก่อนเนิ่น ๆ นะครับ










(แน่นอนว่าไม่ต้องเขียนถึงการบริการของที่นี่อยู่แล้วใช่มั้ยครับ? โรงแรม Mandarin Oriental แห่งนี้ ได้ชื่ออยู่แล้วว่าบริการดีที่สุดในสามโลกเลย ซึ่งบริกรของที่ China House แห่งนี้ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นครับ บริการทุกระดับประทับใจ ทั้งมารยาท การดูแลเอาใจใส่ และยิ่งแต่งตัวแบบจีน ๆ เพิ่ม feeling ความเป็นจีนเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งอินสุด ๆ ครับ)

อาหารในตัว Sunday Brunch นี้ผมขอแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 ประเภทละกันนะครับ โดยจะแบ่ง 3 ประเภทจากตัวเมนูที่ทางร้านกำหนดเอาไว้เอง บวกเพิ่มกับที่อยู่ในไลน์ buffet ที่เราสามารถเดินไปตักเองได้ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเดินไปตัก หรือสั่งมากินได้ตลอดเวลาที่มื้อนี้ครอบคลุมคือ 11.30 - 14.30 น. หรือ 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ เลย

หมวดติ่มซำ (Dim Sum)

รวม ๆ แล้วตัวติ่มซำในมื้อนี้ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ แต่อาจเพราะว่าติ่มซำที่ได้กินนั้นค่อนข้างน้อยมีแค่  7 อย่าง เลยยังไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติได้ดีเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับติ่มซำบุฟเฟ่ต์ที่อื่น ๆ ที่กินมาแล้ว ส่วนใหญ่จะกินกันอยู่ที่ 20 - 30 อย่าง และก็ตัวเมนูหมวดถัดไปหรือ a la carte กับพวกข้าวผัด, ก๋วยเตี๋ยวนั้นทำได้โดดเด่นกว่าติ่มซำมาก ๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวติ่มซำในมื้อนี้ก็ถือว่าทำได้ดีสมชื่อ China House ล่ะครับ
  • ขนมจีบเอ็กซ์โอซอส (Shrimp and pork "Siew Mai' dumplings flavored with X.O. sauce) - อร่อยครับ ขนมจีบลูกใหญ่ เนื้อกุ้งอัดแน่น ได้รสแปลกใหม่จากซอส X.O.
  • ฮะเก๋าหอยเชลล์และกุ้ง (Steamed scallop and minced shrimp dumplings wrapped in spinach wheat dough) - คล้าย ๆ ขนมจีบ ลูกค่อนข้างใหญ่ เนื้อกุ้งและหอยเชลล์อัดแน่น แป้งมาแบบบาง ๆ ใส ๆ กำลังดี และไม่เปื่อยลุ่ย
  • ฝันโก๋แต้จิ๋ว ("Toechew" style steamed crystal dumplings with peanuts) - อันนี้ค่อนข้างธรรมดาไปสักหน่อย เครื่องด้านในเคี้ยวแล้วออกแข็งกระด้างไปนิดนึงครับ
  • ก๋วยเตี่ยวหลอดกุ้งสด (Steamed rice rolls "Cheong Fun" with shrimps) - อันนี้อร่อยดีครับ อร่อยมากก็คงจะไม่ผิดนัก ให้เป็นอันดับ 1 ของติ่มซำในวันนี้เลย กุ้งตัวใหญ่ น้ำซีอิ๊วกลมกล่อม
  • ซาลาเปาเซี่ยงไฮ้ ("Shanghainese" style pork dumpling served with red vinegar) - หรือ เสี่ยวหลงเปา เป็นเสี่ยวหลงเปาที่ชิ้นใหญ่ดีครับ แต่ยังไงร้าน ติ่ง ไท้ ฝู แถวบ้านผม ผมก็ว่ายังอร่อยกว่า และเป็นอันดับ 1 ในกรุงเทพนี้อยู่ดี
  • มะม่วงทอดไส้กุ้ง (Deep-fried mango fritters with shrimps) - อร่อยดีครับ ชอบอันดับ 2 ในมื้อนี้ของติ่มซำเลย
  • เกี๊ยวกุ้งทอด (Deep-fried shrimp wanton served with sweet and sour sauce) - ธรรมดา ๆ ไปนิด









Seafood & Poultry & Vegetables a la carte

ผมรู้สึกว่า Highlight ของ Sunday Brunch ณ China House - Mandarin Oriental แห่งนี้ก็คงเป็นหมวดหมู่นี้นี่แหละครับ เพราะมันคือการเอาเมนูที่ขายดีในมื้อเย็นวันปกติ มารวมกันให้เราสั่งกินได้แบบไม่อั้น ไม่ยั้งในยามเที่ยงหรือบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้ เมนูแต่ละจานนี่ใช้วัตถุดิบดีมาก ดีจนไม่คิดว่าจะเอามาทำเป็นบุฟเฟ่ต์ และก็แต่ละจานก็พิถีพิถัน ไม่ได้สักแต่ว่ารีบ ๆ ทำออกมาจากครัว (จนทางพนักงานบอกว่าให้สั่งล่วงหน้าไว้ก่อนสักพักเลย)
  • กุ้งทอดวาซาบิ (Deep-fried prawns with green mustard mayonnaise and mango) - อร่อยมากครับ รสชาติ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แฝงไปด้วยความอร่อยให้เราค่อย ๆ คลายมันออกมา อร่อยจริง ๆ
  • ผัดคะน้าซีฟู้ดเอ็กซ์โอซอส (Sauteed kale with scallops and octopus slices in X.O. sauce) - Scallops ตัวใหญ่มาก ๆ ผักนุ่ม ๆ สีเขียวสดอร่อยตัวปลาหมึกก็มาเนื้อสด ๆ เด้ง ๆ และทั้งหมดนี้ผสมผสานกันมาในซอสเอ็กซ์โอ โอว ฟิน
  • ปลาหิมะซอสซีอิ๊ว (Soy honey-glazed snow fish fillet served with salad greens) - ชอบที่สุดในเมนู a la carte เลยครับอันนี้ เป็นปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วแบบไร้ที่ติเลย งงว่าทำคุณภาพและรสชาติแบบนี้มาได้ยังไงใน all-you-can-eat menu  แบบนี้!
  • เนื้อปลาเก๋าผัดเต้าซี่รากบัว (Wok-fried garoupa fillet with lotus root and black bean sauce) - อันนี้ธรรมดา ๆ ไปนิดครับ
  • ซี่โครงหมูอบซอสบ๊วย (Wok-baked pork belly ribs with spicy plum sauce) - อร่อยเช่นกัน ซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ดี 
  • เนื้อผัดพริกไทยดำ (Wok-seared beef tenderloin with black peppercorn and seasonal soy sauce) - จานนี้ก็ highlight ครับเนื้อนุ่ม รสชาติแบบจีน ๆ เสฉวนหน่อย เพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชอบกันหมด






Rice and Noodles

  • ข้าวผัดฮกเกี้ยนทะเล ("Hokkien" style fried rice with shredded dried conpoy and assorted seafood) - จานนี้สมกับเป็นข้าวผัดทะเลจริง ๆ ครับ เพราะมาเป็นอารมณ์ข้าวต้มเลย จานนี้แฟนผมกับเพื่อนที่ไปด้วยกันชอบมาก ๆ ส่วนตัวผมก็ค่อนข้างชอบนะ ตัวน้ำนั้นจะอารมณ์ประมาณน้ำราดหน้า จะเหนียว ๆ หนืด ๆ นิดหน่อย ส่วนตัวเครื่องก็ผสมผสานมาดี ทั้ง seafood ทั้งผัก รสชาติจะออกแนวฮ่องกง ๆ หน่อยจานนี้
  • บะหมี่กรอบราดหน้าซีฟู้ด (Crispy noodles topped with seafood and egg sauce) - อร่อยครับ โดดเด่นที่ตัวเครื่องที่ให้ seafood มาเยอะอีกแล้ว (เหมือนร้านนี้จะไม่งกอาหารทะเลเลยนะครับเนี่ย) เส้นราดหน้าก็พิเศษหน่อยตรงที่จะกรอบ ๆ อร่อยไปอีกแบบ
  • บะหมี่ผัดซีฟู้ด (Stir-fried egg noodles with seafood and soya sauce) - จานนี้ธรรมดาที่สุดในเมนูข้าวและก๋วยเตี๋ยวครับ ไม่อร่อยมาก แต่ก็พอทำออกมาขายได้ครับ





อาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ - ผมไม่ค่อยได้กินเท่าไร เพราะเมนูแบบที่สั่งในเมนูนั้นน่าสนใจกว่า แต่ก็พอจะกินเกือบ ๆ ครบ line อาหารอยู่เหมือนกัน ที่ชอบ ๆ และไม่คิดว่าจะมีก็คงเป็นตัวหมูหันล่ะครับ (แต่หนังก็ไม่ได้กรอบแบบหันกันสด ๆ ตามร้านอาหารจีนทั่วไปสักเท่าไร) ส่วนอย่างอื่น ไม่ว่าจะไก่แช่เหล้า, เป็ดย่าง, หมูแดง, แมงกะพรุนน้ำมันงา, เกี๊ยวไข่เค็ม และอื่น ๆ ก็อยู่ในระดับมาตรฐานเลย

ของหวานในมื้อนี้ก็จะมีทั้งในไลน์บุฟเฟ่ต์และก็แบบสั่งเองครับ ที่ชอบเป็นพิเศษก็ตัวบัวลอยน้ำขิง อร่อยมาก ๆ น้ำขิงอร่อยมาก ๆ ตัวบัวลอยแม้จะมาลูกไม่ใหญ่แต่ก็อร่อยกำลังดี ส่วนอย่างอื่นไม่ว่าจะไอศครีม, พุดดิ้ง, เยลลี่ ก็อร่อยดีหมดเช่นกัน ขนาดอิ่มจากอาหารคาวแล้วยังกินได้อีกหลายอย่างเลย

สรุป Sunday Brunch ของห้องอาหารจีน China House ณ Mandarin Oriental Bangkok แห่งนี้ ผมและเพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชอบกันมาก ๆ ครับ อาหารมีให้เลือกหลากหลาย และส่วนใหญ่ทำมาได้อร่อยเกินกว่าจะเป็น all-you-can-eat มาก ๆ และบวกกับบรรยากาศร้าน และการบริการอันเลอเลิศนี่ ในราคาไม่ถึง 1,500 บาทนี่ด้วยแล้วยิ่งคุ้มและน่ามาสุด ๆ ใครที่เบื่อ ๆ Sunday Brunch แบบ International Buffet ที่มีกันค่อนข้างเกร่อทั่วบ้านทั่วเมือง และมีความอยากกินอาหารจีนแล้วล่ะก็ ที่ China House แห่งนี้ ยังไงก็ต้องมาโดนกันล่ะครับ











 


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...