BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Wednesday, August 8, 2012

Nahm Metropolitan Hotel Bangkok Review

Nahm Thai Restaurant at Metropolitan Hotel, Bangkok นาห์ม (น้ำ) ร้านอาหารไทย โรงแรม เมโทรโพลิทัน สาทร กรุงเทพ



Overall Score  9.5/10
Taste   4.5/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   4/5

Nahm - Thai Restaurant on BuMRes.com



รีวิวฉบับนี้ อาจจะยาวสักหน่อยนะครับ เนื่องจากมันมีอะไรให้เขียนเยอะแยะมากมาย และเป็นมื้อที่ผมประทับใจเอามาก ๆ หลาย ๆ ท่านก็คงเป็น เวลาที่ชอบอะไร ประทับใจอะไรแล้ว เราก็มักอยากจะเขียนถึงสิ่งนั้นเยอะ ๆ รีวิวครั้งนี้เราจะไปกันที่ร้าน Nahm ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพอเขียนเป็นไทยแล้วมันคือ นาห์ม หรือ น้ำ ร้านนี้เป็นร้านสาขาที่ 2 ของร้าน Nahm @ London ร้านอาหารไทยร้านแรกของโลกที่ได้ดาวมิชลิน (แม้จะแค่ 1 ดวงก็ตาม แต่ก็เป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่มาก) (รายละเอียดเกี่ยวกับร้านติดดาว มิชลิน คลิกที่นี่เลยครับ) ตัวสาขาแม่ของร้าน Nahm นี้จะมีวัตถุดิบหลาย ๆ อย่างสั่งตรงจากเมืองไทยไป แต่ก็มีหลาย ๆ อย่างที่ไม่สามารถนำเข้าประเทศอังกฤษได้ ด้วยสาเหตุนี้รึเปล่าไม่ทราบ ตัวเชฟ David Thompson เชฟชาวออสเตรเลีย หัวใจรักอาหารไทย แต่ดันไปเปิดร้านที่ London -*- ก็เลยมาเปิดร้านสาขา 2 ที่กรุงเทพ ประเทศไทย ซะเลย จะได้มีวัตถุดิบครบ ๆ ตามแบบที่ควรจะเป็นกับอาหารไทยแท้ ๆ

ร้าน Nahm @ Metropolitan Hotel, Sathorn, Bangkok แห่งนี้ก็เปิดมาได้ เกือบ ๆ 2 ปีแล้ว ร้านจะมีอายุครบ 2 ปีเดือนกันยา หรือตุลาที่จะถึงนี่แหละครับ พนักงานของทางร้านบอกว่า ร้านนี้มื้อเย็นจะเต็มทุกวัน (วันที่ผมไปก็เต็มครับ) ส่วนมื้อเที่ยงก็จะพอมีลูกค้าบ้างประปราย ตอนแรก ๆ ที่ร้านนี้เพิ่งเปิด ทางพนักงานบอกว่าต้องจองโต๊ะกันเป็นหลาย ๆ เดือนกว่าจะได้โต๊ะ และเมื่อสักครึ่งปีที่แล้วที่ร้าน Nahm แห่งนี้ได้ถูกจัดอันดับอยู่ใน The World's 50 Best Restaurants ลูกค้าก็กลับมาคึกคักกันใหม่ แต่ช่วงนี้พนักงานบอกว่าเริ่มซา ๆ ลงไปบ้าง จองล่วงหน้าแค่ประมาณสัก 2-3 อาทิตย์ก็พอ (แค่นั้นเอง?)

ร้านอาหารไทยที่ได้ดาวมิชลินในโลกนี้จริง ๆ จะมีอยู่ 2 ร้าน อีกร้านนึงคือร้าน Kiin Kiin @ Copenhegen, Denmark ที่ทางเชฟเจ้าของร้านก็มาเปิดร้านสาขาที่ 2 ที่เมืองไทยชื่อว่า Sra Bua @ Siam Kempinski Hotel ซึ่งร้านสระบัวนี่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร เนื่องจากมันเป็นอาหารไทย ที่ไม่ได้เป็นอาหารไทยน่ะครับ คือเสิร์ฟมาเป็น course  ๆ แบบอาหารยุโรป หน้าตาอาหารก็ไม่เหลือเค้าเดิม และไม่ได้กินกับข้าว ไม่ได้แชร์ ๆ กันกินแบบที่คนไทยจริง ๆ เค้ากินกัน (รายละเอียดแบบเจาะลึกตาม link ไปอ่านรีวิวเอาละกันนะครับ) ส่วนร้าน Nahm นี่จะเป็นอีกอารมณ์นึงครับ เป็นอาหารไทยแบบแท้ ๆ เลย เนื่องจากทางเชฟ David Thompson นั้นเป็นคนที่ศึกษาอาหารไทยมามาก อาหารของทางร้านนี้จึงเป็น อาหารไทยแบบ กินแชร์กัน, อาหารจะรสจัดหน่อย (เค็ม, เผ็ด) เพราะถูกออกแบบมาให้กินกับข้าวสวย (ข้าวสวยของทางร้านใช้ข้าวสวยจากสุรินทร์ ที่ทางเชฟไปขอมาจากชาวบ้านโดยตรง นำมาหุงด้วยน้ำมะลิ จนข้าวมีรสชาติหอมกว่าปกติ) ซึ่งแค่จุดนี้จุดเดียว ก็ซื้อใจผมกับร้านอาหารไทยโดยคนฝรั่งได้แล้วล่ะครับ






ร้าน Nahm @ Metropolitan Hote, Bangkok แห่งนี้เปิดทำการวันธรรมดามื้อเที่ยง กับ มื้อเย็น (อย่าลืมจองโต๊ะนะครับถ้าจะมา) ส่วนวันหยุดก็จะเปิดแค่มื้อเย็นเท่านั้น อาหารของทางร้านจะมี Set Menu ที่ทางร้านจะ encourage ให้ลูกค้าสั่งแบบนี้ เนื่องจากพอเลือกแบบนี้แล้ว อาหารมันจะได้อารมณ์กินอาหารไทยมาก ๆ เนื่องจาก พวกอาหารจานหลัก แกง, ผัด, ทอด, น้ำพริก อะไรพวกนี้ ทั้งโต๊ะจะสามารถเลือกได้ set เดียวแต่จะปรับปริมาณตามจำนวนคนของโต๊ะนั้น ๆ เพราะทางร้านต้องการจะให้กินอาหารแบบแชร์ ๆ กัน ยกจานส่งกันไปส่งกันมา จึงเป็นที่มาที่ภาชนะใส่อาหารของร้านนี้ ที่ใส่พวกอาหารจานหลัก จะเป็นภาชนะที่เบา (เบาจริง ๆ ครับ) จะได้เวียน ๆ กันไปมาได้สะดวก ตัว Set Menu จะมี 2 ราคา มื้อเที่ยงจะราคา 1,100++ บาท ส่วนมื้อเย็นจะ 1,700++ บาท ตัวมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น ตัวจำนวน course จะเท่ากัน ต่างกันที่ ความหลากหลายของอาหารที่มื้อเย็นจะมีให้เลือกเยอะกว่า ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเมนูมื้อเที่ยงนั้นมีให้เลือกเยอะน้อยแค่ไหน แต่สำหรับมื้อเย็นนี้ผมว่ามีให้เลือกค่อนข้างเยอะ (กว่าที่คิด) เลยทีเดียว ส่วนถ้าใครแบบ อยากจะกินแบบ a la carte ทางร้าน Nahm ก็สามารถจัดให้ได้ เช่นกัน ตัว Portion ของ a la carte ก็จะประมาณ 2 คนกินครับ (รายละเอียดเมนู a la carte ดูได้ที่ tab menu ครับ)





มื้อนี้เนื่องจากผมไปกัน 4 คน และอยากสั่งอาหารหลาย ๆ อย่างก็เลยจัดแบบ set 2 คนและ a la carte อีก 3 อย่าง มื้อนี้เริ่มต้นด้วย canapés หรือ ของกินเล่นเรียกน้ำย่อย 4 อย่างมี สาคูไส้ปลาช่อน, กอแระหอยแมลงภู่, ขนมเบื้องไก่เค็ม, ข้าวทอดแหนมสด ทั้ง 4 อย่างนี้ พอเห็นหน้าตาก็แบบ อืม ร้าน Nahm นี่เค้าไทยจ๋าจริง ๆ ไม่ได้มีการประยุกต์ apply fusion โน่นนี่จนออกมาเป็นอาหารอะไรก็ไม่รู้เหมือนบางร้าน แต่รสชาติของเจ้า 4 อย่างนี้ ผมกลับค่อนข้างเฉย ๆ ครับไม่ได้มีจานไหนเลยที่ทำให้ผมกินแล้วรู้สึกว่าแบบ โอว อร่อย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะผมคาดหวังไว้มากเกินไปด้วยรึเปล่า แต่เพื่อน ๆ ผมก็ดูจะเฉย ๆ เช่นเดียวกันกับผม จะมีก็เจ้าข้าวทอดแหนมสด ที่กินกับใบชะพลู เขียวสด ใบใหญ่ที่ทางร้าน Nahm เด็ดมาเฉพาะใบที่อยู่ที่ยอดต้นเท่านั้น ที่ผมรู้สึกว่า อืม เข้าท่าที่สุด และกินแล้วแบบรู้สึกไท้ย ไทย

ส่วน Main Course ของทางร้าน Nahm นี้ตามที่เขียนไว้ข้างต้นครับ ว่าทางร้านตั้งใจจะให้กินพร้อมกัน และกินด้วยกันทุกคน ทางร้านก็เลยยกมาพรวดเดียวทุกอย่างที่สั่งไป (ประมาณ 7-8 อย่าง) ซึ่งผมก็พอเข้าใจแล้วว่าทำไม ทางร้านต้องทำโต๊ะอาหารใหญ่ขนาดนี้ และเป็นโต๊ะกลมอีกต่างหาก เพราะพออาหารมาจนครบ มันก็แทบจะไม่เหลือที่ที่จะวางอะไรแล้วล่ะครับ ตัว Main Course ของมื้อนี้ประกอบด้วย ยำหอยเชลล์, แกงจืดเป็ดย่างมะพร้าวอ่อน, หลนกุ้ง ผักสด ปลาส้ม, แกงกะทิปูม้า, หมู(คุโรบูตะ)ผัดเต้าเจี้ยว, ต้มยำไก่ใส่เห็ดฟาง, แกงใบยอเนื้อย่าง, ผัดกระเทียมดองใส่กุ้ง ไก่ และไข่






หลังจากที่เริ่มกลัว ๆ ว่ามื้อนี้มันจะ fail เหมือนกับที่ผมไปกินร้าน Bo.lan - Essentialy Thai @ สุขุมวิท 26 มารึเปล่า เพราะร้านนั้นนี่ผมจำได้ว่าค่อนข้างชอบตัว Appetizer ของเค้า แต่แบบ ของคาว fail แต่ล้วความกลัวและกังวลนั้นก็หมดไปกับคำแรกที่ได้กินอาหารจานหลักครับ รสชาติ Main Course ของร้าน Nahm นี่อร่อยทุกจานครับ อร่อยแบบกินแล้วประทับใจอ่ะครับ คือผมก็ไม่รู้จะบรรยายอะไรเกี่ยวกับอาหารมาก คือบางอย่าง ผมยังไม่เคยกินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ (เชฟ David Thompson ไปเรียนอาหารสูตรโบราณมาจากใครสักคนนี่แหละครับ) องค์ประกอบแต่ละอย่างของแต่ละจาน ก็เลยไม่ค่อยรู้ว่ามันคืออะไร เอาง่าย ๆ เลยก็คือ ทุกจานอร่อยหมด อร่อยกว่าร้าน Bo.lan อย่างชัดเจน อร่อยแบบสูสีกับร้าน Patara - Fine Thai Cuisine กับร้าน The Local by Oamthong 2 ร้านอาหารไทยที่ผมเพิ่งไปกินมาและชอบมาก ๆ

จานที่ผมชอบมากที่สุดก็คงเป็น หลนกุ้ง ผักสด ปลาส้ม จานนี้นี่แบบ โอ้วว้าว ตัวหลน อร่อยเทพอยู่แล้ว มาเจอกับปลาส้ม ชิ้นโต ๆ (ปลาตะเพียนเอาไปทำอะไรสักอย่าง) ที่ผมไม่เคยกินมาก่อน และทางร้าน Nahm ทำมาได้อร่อยมาก ๆ ทั้ง 2 กันผสมผสานกันอย่างลงตัว ส่วนจานที่ชอบรองลงไปก็จะมี หมู(คุโรบูตะ) ผัดเต้าเจี้ยว ซึ่งหน้าตาธรรมดามาก ๆ หมูก็ดูไม่ได้ติดมันมา แต่แบบพอกินแล้ว เฮ้ย ความอร่อยมันมาจากไหนเนี่ย เนื้อหมู นุ่ม อร่อย หมักมาให้มีรสชาติเค็ม ๆ เล็กน้อย คือจานนี้ผมงงจริง ๆ ครับว่าทำไมรสชาติมันต่างจากหน้าตาแบบนี้ ส่วนอีกจานก็คง แกงกะทิปูม้า ซึ่งจานนี้พนักงานบอกว่า อยู่ในเมนูมาตั้งแต่ร้านเปิดแล้ว ขายดีมาก อร่อยมาก ลูกค้าสั่งกันทุกคน (คือเมนูของร้าน Nahm นี้จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามฤดูกาลน่ะครับ) ซึ่งผมเห็นด้วยอย่างยิ่งเลย รสชาติมันแบบ นัวมาก กลมกล่อม แบบเผ็ด ๆ กินเข้ากับข้าวหอมมะลิขั้นเทพจากสุรินทร์แล้วแบบ Fin สุด ๆ อาหารจานอื่นที่ไม่ได้เขียนถึง ไม่ใช่ว่าไม่อร่อยนะครับ อร่อยหมด แค่อร่อยกว่า 3 จานนี้และผมอยากให้ไปลองชิมกันดูบ้าง รสชาติมันล้ำลึกจริง ๆ ครับแต่ละจาน












หลังจากที่ประทับใจกับของคาวไปแล้ว นึกว่าแค่นี้มันจะ Fin พอแล้ว แต่ทางร้าน Nahm @ Metropolitan Hotel, Bangkok ก็ไม่ได้หยุดทำให้ผมอัศจรรย์ใจ ด้วยของหวานแบบไทย ๆ ที่ผมพูดได้เต็มปากเลยว่า เป็นของหวานแบบไทย ๆ (หรืออาจจะฝรั่งด้วย) ที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมา! ของหวานมี 3 อย่าง อย่างแรก ผมชอบที่สุดคือ ลอดช่องทรงเครื่อง(ใส่ข้าวเหนียวดำมาด้วย) ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าทางร้านมีกรรมวิธีอย่างไรถึงทำออกมาได้อร่อยเว่อร์ขนาดนี้ ที่แน่ ๆ และชัดเจนคือ ลอดช่องจะไม่เย็นมาก แต่ก็เย็นแบบกินแล้วชื่นใจไม่ได้ใส่น้ำแข็งมาจนท่วมถ้วย กินแล้วเสียอารมณ์เหมือนร้านอาหารไทยทั่ว ๆ ไป ซึ่งน้ำกะทิ, ตัวเส้นลอดช่อง, ตัวข้าวเหนียวดำ ทุกอย่างมันแบบผสมผสานกันจนลงตัว คือแบบกินคำแรกเข้าไปแล้วผมตกใจว่า เฮ้ย "ลอดช่องมันอร่อยได้ขนาดนี้ด้วยเหรอวะ!"




ของหวานอย่างที่ 2 เป็น ข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิ คือตัวเชฟ David Thompson นี่เค้าจะมีความเป็นศิลปินสูง อาหารที่ร้านอื่น ๆ มี เช่น ต้มยำกุ้ง, ผัดไทย, ข้าวเหนียวมะม่วง ทางร้าน Nahm นี้จะไม่ทำ ลูกค้า Request ก็ไม่ได้ด้วย เพราะทางร้านไม่ง้อลูกค้า! จึงเป็นที่มาของ ข้าวเหนียวทุเรียนน้ำกะทิ ซึ่งเกิดมาผมก็เพิ่งจะเคยกินเหมือนกัน ทางร้าน Nahm ใช้ทุเรียนพันธุ์แพง พันธุ์ก้านยาว และฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีให้กินแต่ละคำมาให้แล้ว รสชาติเยี่ยมครับ คล้าย ๆ ข้าวเหนียวมะม่วงขั้นเทพ แต่แอบมีกลิ่นฉุน ๆ ของทุเรียนและความหวานที่น้อยกว่ามะม่วง ของหวานอย่างสุดท้ายเป็น เต้าส่วน คำหยาด หม้อแกง คือ ตัวเต้าส่วนก็อร่อยดี แต่ยังไม่ประทับใจผมเท่า ของหวาน 2 อย่างแรก ทีเด็ดจะอยู่ที่ตัวหม้อแกงที่ใช้ pistachio มาทำ กินแล้วแบบ โอว ขนมหม้อแกงจากสวรรค์หรืออย่างไร ไม่เหมือนกับหม้อแกที่เคย ๆ กินมาเลยครับ




ประทับใจกับของหวาน 3 อย่างแค่นี้ยังไม่พอ ทางร้าน Nahm @ Metropolitan Hotel, Bangkok ปิดท้ายอย่างงดงามให้ผมด้วย ขนมกินเล่น 4 อย่าง ประมาณ Petite Four  ประมาณนั้น 4 อย่างนี้มี 2 อย่างที่ผมชอบมาก เป็นคล้าย ๆ คุกกี้ แต่ข้างในจะกลวง ซึ่งหน้าตาตอนก่อนจะกินนี่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไร แต่พอกินแล้ว ตกใจครับ ตกใจในความอร่อย เพื่อน ๆ ร่วมโต๊ะอีก 3 คนก็เป็นแบบเดียวกัน อร่อยกว่าคุกกี้ไหน ๆ ในโลกที่เคยกินมาเลยล่ะครับ! ส่วนอีกอย่างเป็น ก้อนสีขาว ๆ คล้าย ๆ วิบครีม หรือ มูส หรืออะไรสักอย่างที่พอกินแล้วแบบมันละลายหายวับไปในปากพร้อมรสชาติ หวาน ๆ ลงตัว กำลังดี โอย ชอบ




รีวิวอันแสนจะยาวเหยียดของผมกับร้าน Nahm ร้านอาหารไทยฝีมือเชฟมิชลิน David Thompson อันนี้ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ละกันครับ (เคยมีรีวิวที่ยาว ๆ แบบนี้ก่อนหน้านี้ก็ที่ Favola @ Le Meridien Chaing Mai ละมั้งครับ มื้อนั้นผมก็ชอบมาก ๆ) มื้อนี้ประทับใจมากครับ กินแล้วรู้สึกภูมิใจในความเป็นคนไทยขึ้นมาเลย ผมล่ะอยากให้มีร้านอาหารไทยที่พิถีพิถันในทุก ๆ อย่าง ไม่ว่าจะวัตถุดิบ, บรรยากาศ, การบริการ, ความเป็นไทย ฯลฯ แบบนี้ในเมืองไทยเยอะ ๆ จังครับ ช่วงหลัง ๆ ผมไม่เห็นมีร้านอาหารไทยเทพ ๆ เปิดตัวขึ้นมาเลย จะมีก็แต่ร้านอาหารไทยแบบสวนอาหารที่เปิด ๆ กันขึ้นมา ซึ่งกลับกัน ร้านอาหารญี่ปุ่นเทพ ๆ ในกรุงเทพ ตอนนี้ทยอยเปิดตัวกันมามากมาย จนแบบเวลานึกอยากจะกินอาหารแพง ๆ โอกาสพิเศษ คนไทย (รวมทั้งผมด้วย) ก็ไม่อยากจะเสียเงินกับอาหารไทยกันไปแล้ว ซึ่งถ้ามีร้านแบบร้าน Nahm อยู่เยอะ ๆ ทำให้คนไทยคิดได้ว่า "เฮ้ย อาหารไทยมันก็เทพ มันก็คู่ควรจะเสียเงินนะ" แบบที่คนญี่ปุ่นก็เชิดชูอาหารตัวเอง ร้านอาหารที่แพง ๆ เทพ ๆ ในโตเกียวก็เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น (มื้อละเป็นแสนเยนต่อคนอะไรแบบนั้น) , แบบที่คนฝรั่งเศสก็เชิดชูอาหารของตัวเอง ว่าอาหารของเค้าสวยงาม มีชาติตระกูล ก็ไม่รู้ว่าจะได้แต่หวังลม ๆ แล้ง ๆ รึเปล่านะครับ เพราะกระแส Japan Fever ตอนนี้มันแรงเหลือเกิน ใครมีร้านอาหารไทยเทพ ๆ ในดวงใจ ก็แนะนำผมมาหน่อยนะครับ แล้วผมจะรีบบึ่งไปกินและมาเผยแพร่โดยพลันเลย







--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

2 comments:

  1. tab menu นี่คือตรงไหนครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. อยู่ที่เว็บครับ http://www.bumres.com/index.php?route=restaurant/information&restaurant_id=7842

      Delete

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...