Indigo - French Restaurant at Silom, Bangkok อินดิโก้ ร้านอาหารฝรั่งเศส ซอยคอนแวนต์ สีลม
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 3/5
Indigo - French Restaurant on BumRes.com
คือเท่าที่ผมตระเวณกินร้านอาหารฝรั่งเศสในกรุงเทพมา ผมก็เพิ่งมาสังเกตตัวเองว่าที่ผ่านมาผมมักจะกินเจ้าสัญชาติอาหารแห่งความสวยงามนี่เป็นมื้อเที่ยงซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจากประสบการณ์ตรงที่ผมมาพินิจพิเคราะห์ดูกับเจ้าอาหารสัญชาติยุโรปทั้งหลาย ไม่ว่าจะ อิตาเลียน, ฝรั่งเศส หรือตะวันตกแบบรวม ๆ จากประสบการณ์แล้วผมกินมื้อเที่ยงอาหารพวกนี้มายังไม่เคยมีร้านไหนประทับใจเลย แต่กับมื้อเย็นส่วนใหญ่ที่ไปก็มักจะประทับใจทุกที (ร้านฝรั่งเศสที่เคยไปมื้อเย็นรู้สึกจะมีแค่ Chez Pape @ Sukhumvit 11 ที่ผมนึกออกครับ) ซึ่งเหตุผลแห่งความไม่เท่าเทียมกันของมื้อเที่ยงกับมื้อเย็นนี้ ผมก็ตั้งสมมติฐานไปต่าง ๆ นา ๆ กับเพื่อนว่าทำม้าย ทำไม มื้อเที่ยงมึงจะช่วยตั้งใจทำอาหารให้มันออกมาอร่อยเหมือนมื้อเย็นกันหน่อยจะได้มั้ย(วะ) พวกร้านอาหารฝรั่งทั้งหลาย!
รีวิวฉบับนี้ก็จะเป็นของร้าน Indigo - French Restaurant ที่ตั้งตัวเองอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ของซอยคอนแวนต์ สีลม อีกทีนึงร้านนี้ตอนก่อนจะไปก็ชั่งใจอยู่นะครับว่าจะไปดีมั้ย เพราะผมกินอาหารฝรั่งเศสมาผมไม่เคยจะชอบเลยให้ตาย ส่วนใหญ่ที่กินมันจะจืด ๆ ไร้รสชาติ มีดีแค่ความสวยงามแค่นั้น แต่เนื่องจากมื้อนี้เพื่อนผมชวนไปและมันเป็นมื้อเย็นด้วยก็เลยคิดว่าไปลองเปิดประสบการณ์ตัวเองสักหน่อยก็น่าจะดี ร้าน Indigo นี่ถ้ามาจากทางสีลมเข้าซอยคอนแวนต์มาสัก 100 เมตรจะเจอตรอกเล็ก ๆ ทางขวามือที่ฝั่งตรงข้ามเป็น 7-11 ก็เลี้ยวเข้าตรอกมาเลย ทางร้านมีที่จอดรถให้ 7 คัน แต่ถ้าใครนั่งรถไฟฟ้ามาก็ไม่ยากครับ ลงป้ายศาลาแดงแล้วก็เดิน ๆ อีกนิดหน่อยก็จะถึงร้านล่ะครับ
ร้านนี้ Indigo @ Silom, Bangkok นี่ผมรู้สึกว่าอาหารของเค้าจะเป็นอาหารฝรั่งเศสแบบ Bistro ๆ เล็กน้อย แต่ก็แอบมีกลิ่นอาย Restaurant ๆ บ้างเหมือนกัน ที่พูดแบบนี้ก็เพราะตัวร้านตกแต่งสวยงามดีครับ มีทั้งส่วน Indoor และ Outdoor ที่สัดส่วนจำนวนโต๊ะเกือบจะพอ ๆ กันเลย ร้าน Indigo นี่ก็เป็นร้านที่จะเรียกว่าเก่าแก่ก็ว่าได้เพราะเปิดมาตั้งแต่ปี 2000 ตอนนี้ก็ 12 ปีแล้ว ลูกค้า ณ วันที่ผมไปก็จัดได้ว่าค่อนข้างเยอะอยู่ occupy ซัก 70% ของโต๊ะ แม้ว่าจะเป็นเย็นวันอังคาร เย็นของวัน weekdays ที่หลาย ๆ ร้านที่ไปมามักจะไม่ค่อยมีลูกค้าสักเท่าไร ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นดัชนีชี้วัดได้เหมือนกับร้านญี่ปุ่นที่ลูกค้าญี่ปุ่นเยอะ ๆ แล้วมักจะอร่อยได้หรือไม่ เพราะผมเองไม่ค่อยได้ไปร้านอาหารฝรั่งตอนเย็น สักเท่าไร ต่อไปจะเริ่มสังเกตขึ้นละกันครับ
อาหารของร้าน Indigo แห่งนี้ก็จะเป็นอาหารฝรั่งเศสแบบค่อนข้าง Traditional เท่าที่ดู ๆ แล้วไม่ได้เป็นแบบ Molecular ไม่ได้ twist ไม่ได้ fusion อะไรเลยแม้แต่นิดเดียว อาหารที่สั่งมาในมื้อนี้หลาย ๆ อย่างไม่ได้เน้นความสวยงามแต่เน้นปริมาณและรสชาติ มีอาหารหลายจานในมื้อนี้ที่พนักงานจะมาปรุงเพิ่มเติมจากห้องครัวให้สด ๆ ข้างโต๊ะ ซึ่งร้านที่ทำแบบนี้ที่เคยกินมาก็จะมีร้าน Artur @ ซอยต้นสน อีกหนึ่งร้านล่ะมั้งครับ ซึ่งการมาทำแบบนี้ผมชอบนะ เพราะเราสามารถสั่งพนักงานปรุงรสแบบที่เราชอบได้ รวมถึงมันเป็นการเพิ่มความอยากอาหารขึ้นมาด้วย แบบว่าอาหารอยู่ต่อหน้าแท้ ๆ แต่ชั้นยังไม่ได้กิน ชั้นต้องรอ ต้องนั่งนำลายไหลรอต่ออีกแปบนึง อะไรประมาณนั้น
เข้าเรื่องอาหารกันดีกว่า มื้อนี้สั่งไปประมาณ 6-7 อย่างครับ จานที่ผมชอบที่สุดในมื้อคือ Steak Tartare (Lean top round, cut to order prepared at the table with French fries - 490 บาท) จานนี้ก่อนมาได้อ่านรีวิวเว็บเพื่อนบ้านไว้ มีแต่คนแนะนำ ซึ่งมันก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ ครับ เป็น Beef Tartare ที่อร่อยที่สุดในชีวิตที่เคยกินมาก็ว่าได้ (แม้ว่าจะกินมาไม่เยอะก็ตาม) รสชาติมันค่อนข้างโดนใจผม เพราะพนักงานปรุงมาให้เป็นรสจัด ๆ (บอกตอนปรุงให้ข้าง ๆ โต๊ะ) ตัวเนื้อก็สด เย็น อร่อย และให้ปริมาณมาเยอะมาก รวมถึงตัว French fries ที่ให้มากินคู่กัน มันยังเป็นสุดยอดเฟรนช์ฟรายอีกต่างหาก กรอบ อร่อย ร้อน โอย จานนี้นี่ดีซะจนผมสามารถกลับไปร้านนี้อีกครั้งเพื่อกินแต่จานนี้อย่างเดียวได้เลยเนี่ย!
จานที่ชอบรองลงมาก็จะเป็น Milk fed veal chop served with spinach & forest mushroom sauce (850 บาท) จานนี้ก็เป็นสเต็กเนื้อลูกวัว เสิร์ฟมากับผักโขมและซอสเห็ด หน้าตาตอนยกมาก็ธรรมดา ๆ นะครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันเป็นเนื้อส่วนไหน มีติดกระดูกมาข้างนึงคล้าย ๆ pork-chop เลย รสชาติเนื้อจานนี้นี่มันแบบ..อร่อยมากครับ อร่อยประทับใจ ไม่ได้กินเสต็กอร่อย ๆ แบบนี้มานานแล้ว (ล่าสุดก็เป็นที่ร้าน Madison Steakhouse @ Four Season Hotel Bangkok) ไม่รู้ว่าทางร้าน Indigo ทำมายังไงเหมือนกันครับ เนื้อข้างนอกมันเกรียมได้ที่แต่ไม่ไหม้ เนื้อด้านในก็ medium rare มาพอดี เจ้าตัวซอสเห็ดที่ทำมาให้ราดก็รสชาติดี เพิ่มความอร่อยของเนื้อเข้าไปอีก ไม่เหมือนบางร้านที่ซอสแทนที่จะเพิ่มความอร่อยแต่ดันไปทำให้รสชาติเนื้อเสียลงไปซะงั้น ผักโขมที่ให้มาค่อนข้างเยอะก็รสชาติดีครับ เป็นอีกหนึ่งจานที่ประทับใจเลยล่ะ
ส่วนจานอื่น ๆ ที่ชอบพอประมาณในมื้อนี้ก็จะมี Cheese souffle with Gruyere cheese (240 บาท) คือเจ้าซูเฟล่นี่จริง ๆ ก็ค่อยได้กินมาสักเท่าไรครับ จานนี้แปลกใหม่ขึ้นไปอีกด้วยการเป็น Cheese souffle อีกต่างหาก รสชาติดีครับ อร่อยแบบชีสแน่น ๆ มีแต่รสชีส ขนาดผมผู้ซึ่งไม่ค่อยชอบชีสเท่าไร กินไปคำแรก ๆ ก็ยังว่าอร่อยเลย (แต่คำหลัง ๆ ไม่ไหวครับ เลี่ยนเกิน) // อีกจานเป็น 6 Escargots (6 Snails with garlic butter grain - 320 บาท) หรือหอยทากเอาไปอบกับเนยและกระเทียมนั่นเอง จานนี้คล้าย ๆ Baby Clam หรือพวกหอยทะเลอบแบบที่ผมชอบ ๆ ที่สามารถหากินได้ตามร้านอาหารไทย-จีน-ทะเล ทั้งหลาย จานนี้ทั้งรสชาติและหน้าตาและภาชนะมาแนวเดียวกันเลย จะขาดก็แต่ตัวขนมปังกระเทียมที่น่าจะมาด้วยเหมือนเจ้า Baby Clam เพราะมันจะทำให้หอยทากนี่อร่อยกว่ากินเปล่า ๆ เยอะเลย (กินเปล่า ๆ มันเค็มไปครับ) // จานสุดท้ายที่ชอบพอประมาณก็เป็น Rock lobster mousse in white wine sauce (200 บาท) จานนี้ อร่อยดีครับ รสชาติละมุน ๆ ให้ความเป็นฝรั่งเศสจ๋าดีทีเดียว
มื้อนี้ก็มีอาหารอีก 2 จาน ซึ่งทั้ง 2 จานเป็น Main Dish ทั้งคู่และผม(และเพื่อนในโต๊ะ) ไม่ชอบกันทั้งคู่ จานแรกเป็น Pan-fried calf liver, deglzed with aged vinegar, sauteed spinach, boiled potatoes (490 บาท) จานนี้ก็เป็นประมาณเสต็กตับลูกวัวนั่นเอง หน้าตาเสต็กไม่มีปัญหาน่ากินมาก (มาเป็นตับทั้งก้อน เป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนกันมาเลยทีเดียว) ตัวเครื่องเคียงก็รสชาติดีเหมือนจานเสต็กเนื้อลูกวัว แต่รสชาติพอกินเข้าไปนี่มันแบบ เอิ่ม .. ตับมัน overcook อ่ะครับ เนื้อแข็งมาก เด้งมาก กินแล้วไม่ให้ความรู้สึกเหมือนกินเนื้อตับแบบที่ควรจะเป็น ตัวซอสที่ราดมาเล็กน้อยก็ดีอยู่ล่ะครับ แต่ส่วนสำคัญที่เป็นเนื้อตับนี่ดัน Fail ซะงั้น -*- // อีกจานเป็น Whole grilled fish of the day - Mediterranean style - for two (750 บาท) ซึ่งปลาประจำวันก็เป็นปลากะพงครับ ตอนแรกถามพนักงานก่อนจะสั่งล่ะว่าเป็น Live seabass รึเปล่า ก็ได้ความมาว่าฟรีซมาแล้ว ก็แอบคิด ๆ ไว้ว่ามันจะต้องไม่อร่อยแน่ ๆ ซึ่งพอได้กินก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ครับ เนื้อปลาไม่สด ปรุงรสมาแบบพิกลพิการ คือไม่ค่อยมีรสเท่าไร แม้ว่าจะมีการยกมาทั้งโต๊ะ มาเลาะหนัง เลาะก้างออกให้เรา และเสิร์ฟมาแต่เนื้อปลากะพง แต่กินปลากะพงเผาเกลือ แบบไทย ๆ เรา ซึ่งให้ texture และรสชาติคล้าย ๆ กันกับเจ้าจานนี้ ปลากะพงเผาเกลือบ้านเราอร่อยกว่าแบบชัดเจนเลยครับ
มื้อนี้ ปิดท้ายลงโดยไม่มีของหวาน เนื่องจากเพื่อนผมคนนึงที่เป็น Chef ที่ไปกินด้วย คุณเธอทำของหวานมาให้กิน พวกเราก็เลยเช็คบิลออกไปกินของหวานกันริมถนนหน้าร้านแทน -*- มื้อนี้ผมค่อนข้างประทับใจกับร้าน Indigo @ Silom, Bangkok แห่งนี้นะครับ อาหารจานที่อร่อยก็อร่อยมาก อร่อยจนอยากไปกินอีกครั้งโดยไม่ต้องคิด (ส่วนจานที่ไม่อร่อยก็ไม่ได้แย่แค่นั้น แต่แบบกับราคาที่เสียไป ความคาดหวังมันเลยสูง) การบริการก็ดี พนักงานมารยาทดีมาก ร้านก็บรรยากาศดี ตอนหลุดเข้าไปในร้านนี่เหมือนหลุดไปอยู่ในฝรั่งเศสเลยก็ว่าได้ (ว่าไปนั่นยังไม่เคยไปเลย ฮ่า ๆ) จากมื้อนี้ก็ได้ข้อสรุปที่แน่นอนต่ออาหารฝรั่งเศส (เช่นเดียวกันกับอาหารอิตาเลียน) อีกแล้วว่า "ถ้าอยากอร่อย ให้ไปกินมื้อเย็น" จบครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment