Overall Score 9/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 5/5
Value 5/5
Shibuya Shabu - Japanese Buffet Restaurant on BumRes.com
เดี๋ยวนี้ร้านบุฟเฟ่ต์แบบ Shabu Shabu & Sukiyaki สไตล์ญี่ปุ่นในกรุงเทพก็มีเยอะซะเหลือเกินนะครับ เป็นร้านแบบสาขาเดียวบ้าง หรือร้านที่ประสบความสำเร็จขายดีและมีหลายสาขาบ้าง แต่ทุก ๆ ร้านที่ผมเคยกินมาส่วนใหญ่ก็จะมี concept แบบเดียวกันคือเป็นบุฟเฟ่ต์มีรายการอาหารให้สั่งแค่ เนื้อกับผัก อะไรแบบนี้ บางร้านก็จะมีให้เลือกหลายราคา (เช่นร้าน Kagonoya @ Market Place ทองหล่อ ร้านโปรดผม) บางร้านก็แอบมีคิดตังค์เพิ่มแบบน่าเกลียดกับค่าน้ำซุป, บางร้านก็ทำเป็นเคาน์เตอร์แบบหม้อใครหม้อมัน แต่กับร้าน Shibuya Shabu @ อาคารวรสมบัติถนนพระราม 9 ใกล้ ๆ กับ RCA แห่งนี้ผมว่า concept ของเค้าเจ๋งไม่เหมือนใครดีทีเดียวล่ะ กับการมี Sushi ให้เลือกสั่งหลากหลายหน้าแบบบุฟเฟ่ต์เคียงคู่ไปกับเนื้อและผักแบบเติมไม่อั้นอยู่แล้วด้วย
ทีเด็ดของร้าน Shibuya Shabu อีกอย่างก็คงเป็นเรื่องเวลาเปิดทำการของทางร้านนี่แหละครับ ที่เปิดตั้งแต่ 11.00 - 22.00 ทุกวันไม่มีวันหยุด คือผมเนี่ยเป็นคนที่เบื่อเวลาต้องไปแย่งกินกับคนอื่น ซึ่งหลาย ๆ ร้านก็จะชอบปิดพักตอนบ่ายเลยทำให้บางทีผมจะเลี่ยงคนเยอะโดยการไปกินตอนบ่าย ๆ ก็ไม่ได้ อย่างวันนี้ที่ไปนี่ก็ไปตอนบ่ายโมงครึ่งครับ ไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไร สบายดีแท้เหลาเลยล่ะ ส่วนการเดินทางร้าน Shibuya Shabu นี่จะอยู่ที่ชั้น G อาคารวรสมบัติถนนพระราม 9 เลย อยู่ตรงแยกผังเมืองเลยอ่ะครับ หาไม่ยาก จอดรถได้ที่หน้าตึกไม่ก็ในอาคารได้เลย
อาหารของทางร้าน Shibuya Shabu นี่ก็ตามที่พิมพ์ ๆ ไปครับ คือจะมีเนื้อให้เลือกไม่อั้นอยู่หลายแบบอยู่ เนื้อวัว 3 อย่างเป็นเนื้อ Harami (เนื้อซี่โครงเลาะกระดูก) , เนื้อ Rosu (เนื้อสันใน) และเนื้อโหนก (ชื่อญี่ปุ่นว่าอะไรจำไม่ได้ล่ะครับ) ส่วนเนื้อหมูก็มีให้เลือก 2 อย่าง สันคอ กับสันนอก และเป็นเนื้อคุโรบูตะชั้นดี ส่วนเนื้ออย่างอื่นก็มีปลากระพง กับเนื้อไก่ประมาณนี้ล่ะครับ ส่วนพวกเมนู Sushi นี่ผมแอบเซ็งเล็กน้อย ไม่ได้เซ็งที่ทางร้านมีให้เลือกน้อยหรือว่าอะไรนะครับ เซ็งที่แบบทางร้านจะแบ่งเมนู Sushi เป็น Set A กับ Set B ซึ่งเจ้า Set A นี่จะสั่งได้เฉพาะช่วงครึ่งเดือนแรกส่วน Set B นี่จะสั่งได้เฉพาะครึ่งเดือนหลัง ซึ่งวันที่ผมไป (วันนี้ 17 August 2012) นั้นตกไปอยู่ช่วงครึ่งเดือนหลังเลยได้แบบ Set B ซึ่งที่เซ็งคือซูชิ Ikura หรือไข่แซลมอน กับซูชิหน้าเนื้อดิบที่ผมเล็ง ๆ ไว้ก่อนจะมานั้นดันไปอยู่ใน Set A เลยอัดสั่งอดกินไปตามระเบียบ T_T
ส่วนใหญ่ร้าน Buffet Shabu หรือเนื้อย่างนี่การบริการมักจะไม่ค่อยดีต้องรอนาน ต้องตามอาหารหลายรอบ แต่ไม่รู้เพราะว่าวันที่ผมไปนี่ผมไปตอนไม่ค่อยมีคนก็เลยรออาหารไม่เคยนานเลยตลอดทั้งมื้อ และสั่งอะไรไปก็ไม่มี order ตกหล่น มาครบทุกอย่างเลยด้วย และน้อง ๆ เด็กเสิร์ฟของทางร้าน Shibuya Shabu นี่ก็พูดจาดี มารยาทดีแท้เหลา เรียกได้ว่าการบริการไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องเลยครับสำหรับมื้อนี้ ส่วนเรื่องบรรยากาศร้าน ร้านนี้จะเน้นแบบให้มากินกันเป็นครอบครัว โต๊ะเลยเป็นแบบ 4 ที่นั่งซะส่วนใหญ่ และร้านก็ตกแต่งสว่าง ๆ ดี โมเดิร์น ๆ หน่อย ๆ ทำให้เห็นอาหารชัด ถ่ายรูปสวย ช่วยเพิ่มความอยากอาหารและช่วยเพิ่มความสวยของอาหารเวลาคนถ่ายรูปลง social network กัน ผมว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีเลยทีเดียว
รสชาติเนื้อในมื้อนี้ ผมคงรีวิวได้แค่ 4 อย่างเพราะสั่งไปแค่นั้น ก็มีเนื้อ Harami, เนื้อโหนก และเนื้อหมูคุโรบูตะสันคอและสันนอกอีกอย่างละหนึ่ง ทั้ง 4 อย่างนี้เป็นเนื้อคุณภาพดีมากครับ ดีทั้งหน้าตาที่แบบมาสวยงามไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อนสวยงาม ที่ผมชอบสุดคงเป็นเนื้อ Harami ซึ่งแบบแล่มาชิ้นใหญ่มาก และหนากำลังดี เป็นเนื้อที่แล่มาได้เหมาะเจาะในการกินชาบู ๆ มาก ไม่ใช่เนื้อชิ้นเล็ก ๆ แล่มาบางเกิน ซึ่งบางร้านนี่น่าเกลียดจนแบบคีบด้วยตะเกียบไม่ได้เลย เนื้อมันขาด แต่กับร้าน Shibuya Shabu นี่ไม่ใช่ครับ เนื้อหนากำลังดี แผ่นใหญ่ แต่ก็ลวก ๆ ในน้ำแปบเดียวให้พอสุกและกินได้อร่อยดีแท้ ส่วนเนื้ออื่น ๆ นี่ผมชอบหมดนะ ไม่ว่าจะเนื้อโหนกหรือเนื้อหมู แค่ชอบไม่เท่าเนื้อ Harami เท่านั้นเองครับ
ตัว Sushi ในมื้อนี้สั่งกันไปแทบจะทุกอย่างที่สั่งได้เช่นกัน โดยรวมแล้ว Sushi ร้านนี้นี่คุณภาพดีทีเดียวครับ ดีเกินกว่าจะเป็น Sushi ในรายการบุฟเฟ่ต์ ดีเกินกว่าที่จะเป็น Sushi แบบเป็นรายการเสริมจากรายการหลักที่เป็นตัว Shabu Shabu ตัวซูชิที่ผมชอบสุดในมื้อนี้ก็เป็นเจ้าตัว California Temagi หรือข้าวปั้นแบบกรวยใส่หน้ามารวม ๆ น่ะครับ คือแบบทางร้านให้ไข่แซลมอนมาเยอะมาก เคียงคู่ไปกับปูอัด, ไข่หวานและแตงกวา ซึ่งแบบให้มาเยอะจนพอกัดไปแต่ละคำนี่แทบไม่เจอข้าวเลย โดยส่วนตัวผมเป็นคนไม่ค่อยชอบเจ้าเทมากินี่เท่าไรเพราะไปกินร้านไหน ๆ ก็จะเจอแต่แบบใส่ข้าวมาเยอะ ๆ ทั้งนั้น ซึ่งคนละเรื่องเลยกับร้านนี้ผมเลยสั่งไป 4 อันเลยทีเดียว ส่วน Sushi หน้าอื่น ๆ ที่ชอบก็จะมี Hotate หรือหอยเชลล์ซึ่งสดดีหน้าตาดี รสชาติใช้ได้, หน้า Katsuo หรือปลาโอญี่ปุ่น ปลาเนื้อแดงชนิดนึงซึ่งก็รสชาติดี สดดี รสชาติคล้าย ๆ ทูน่า, หน้าเนื้อสับคลุกไข่หรือ Yukke ซึ่งแม้จะไม่ได้อารมณ์เป็นชิ้นเป็นอันแบบกิน Yukke โดยตรง แต่อันนี้ก็ถือว่าโอเคอยู่ครับ ส่วนหน้าอื่น ๆ ไม่ว่าจะกุ้งหวาน, ปลาไหล, แซลมอน ฯลฯ ผมว่าร้าน Shibuya Shabu นี่ก็ทำมาได้ค่อนข้างดีเช่นเดียวกันครับ เมื่อคิดถึงว่าเป็นรายการเสริมจากบุฟเฟ่ต์และราคาที่เสียไป อ้อ ร้านนี้พวก Sushi เค้าจะปั้นมาแบบไม่เน้นข้าวครับ จะเน้นเนื้อ คือแต่ละคำนี่เนื้อแทบจะคลุมข้าวมิดทั้งนั้น บ่งบอกถึงความจริงใจไม่เอาเปรียบลูกค้าดีนะผมชอบ
อาหารอย่างอื่นในมื้อก็จะมีเทมปุระที่ก็อยู่ในระดับมาตรฐานกลาง ๆ สั่งกินได้เรื่อย ๆ อร่อยดี ไม่ใช่ Tempura แบบตั้งทิ้งไว้ ทำไว้นานแล้วแบบบางร้านซึ่งกินแทบไม่ได้, ผักสด ๆ ของทางร้านก็มีให้เลือกตักเยอะมาก บางชนิดผมเองยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ ผักของทางร้านแต่ละอันนี่ก็แบบสดน่ากินสุด ๆ เสียดายที่เพื่อนผมที่ไปด้วย 2 คนเป็นพวกไม่ค่อยชอบกินผักเท่าไร ผมเลยกินอยู่คนเดียวเลยได้กินแค่ 3 อย่าง คะน้าฮ่องกง, ปวยเล้ง และก็ผักอะไรไม่รู้คล้าย ๆ ผักบุ้ง สดอะไรดีครับส่วนของหานของร้าน Shibuya Shabu นี่ทางร้านจะให้ไปหยิบเองในตู้เย็นก็จะมีพวกเค้ก, Pannacotta, Jelly อะไรพวกนี้ รสชาติก็พอไปวัดไปวาได้ครับ ไม่ได้กระเดือกไม่ลงเหมือนไลน์บุฟเฟ่ต์โรงแรมบางที่
สรุปมื้อนี้กับ 690 บาท net ที่เสียไปนี่ผมค่อนข้างเรียกได้ว่าประทับใจและรู้สึกคุ้มค่ามากครับ อาหารรสชาติดี หน้าตาดี บ่งชี้ถึงความใส่ใจในแต่ละอย่างที่ทำ ๆ มาและอาหารมีให้เลือกเยอะหลากหลาย คุ้มค่าดี (โดยเฉพาะผักสด ๆ และ Sushi ที่ผมว่าเด่นกว่าร้านอื่นอย่างไม่เห็นฝุ่นเลย), พนักงานบริการดี อาหารไม่ช้า พูดจาสุภาพเรียบร้อย เรียกได้ว่าร้าน Shibuya Shabu นี่กลายเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ร้านโปรดของผมไปโดยปริยายแล้วล่ะตอนนี้ ผมเห็นว่าร้านนี้เค้ามี Drama อะไรกับลูกค้า และโพสท์ ๆ กันอยู่บนเน็ทอยู่บ้าง แต่สำหรับผมไม่มีเหตุการณ์ drama ใด ๆ ทั้งสิ้นครับ เช่นเดียวกันกับลูกค้าท่านอื่น ๆ ที่ผมเห็นในวันนี้ก็ดูมีความสุขกันดี ใครที่อยู่แถวพระราม 9 (ตัวผมเองด้วย) ก็น่าจะดีใจที่มีร้านบุฟเฟท์ดี ๆ แบบนี้อยู่ใกล้ ๆ ล่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment