BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Friday, August 31, 2012

L'ulivo Italian Restaurant Bangkok Review

L'ulivo Italian Restaurant at Narathiwas soi 7, Bangkok ลูลิโว ร้านอาหารอิตาเลียน นราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 7 Pasta, Seafood, Wine



Overall Score  8/10
Taste   3.5/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   4.5/5

L'ulivo - Italian Restaurant on BumRes.com



ร้านที่ชื่ออ่านแว่บแรกอาจจะอ่านไม่ค่อยถูกนามว่า L'ulivo หรือ Lulivo (แปลว่าต้นมะกอก) แห่งนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารอิตาเลียนระดับ Hi-end ที่ตั้งอยู่บริเวณ สาทร-นราธิวาส-สีลม ร้านนี้ผมเพิ่งอ่านเจอข้อมูลในนิตยสารสักเล่มนึง (จำไม่ได้ว่าเล่มอะไร) และเห็นเขาเขียนบรรยายถึงสรรพคุณของตัวเชฟใหญ่ของทางร้านไว้ค่อนข้างเลิศหรูดี ก็เลยชวนเพื่อนคู่กินมาลองโดนกันหน่อย ร้าน Lulivo หรือ ลูลิโว แห่งนี้ก็เปิดทำการมาได้ประมาณปีนิด ๆ แล้ว ตัวร้านตั้งอยู่ที่ปากซอยนราธิวาสราชนครินทร์ ซอย 7 แบบ ปากซอยจริง ๆ ครับ ผมขับรถมาตอนแรกมีแอบเลย เข้าซอยไป 10 เมตรจะเจอร้านเลย เป็นบ้านหลังสีเหลือง ๆ มาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ส่วนที่จอดรถก็สามารถจอดที่ลานจอดรถของทางร้านซึ่งอยู่ติดกันด้านหลังร้าน หรือไม่ก็ใช้บริการ Valet Parking ได้ตามสะดวก

ร้าน L'ulivo แห่งนี้ก็เป็นดังเช่นร้านอิตาเลียนแทบจะทุกร้านในบ้านเราที่จะมี Set Lunch ไว้คอยให้บริการแขกผู้เร่งรีบ หรือแขกผู้ต้องการความประหยัด (ผมเป็นแบบหลัง แต่หลัง ๆ ไปกิน set lunch ร้านอิตาเลียนมาไม่เคยเจออร่อยเลย ก็เลยคิดว่าเลิกดีกว่าไปกินมื้อเย็นดีกว่า) set lunch ของร้านลูลิโวนี่จะมีให้บริการ 3 แบบ 1, 2 และ 3 Course ราคาก็ 310, 360, 430 บาทตามลำดับ เนื่องจากผมไปมื้อเย็น ก็เลยได้แต่มอง ๆ ดูเมนู set lunch ไปแบบพอเป็นพิธี แอบเห็นว่าเมนูของร้านนี้เค้ามีให้เลือกค่อนข้างเยอะดีทีเดียว เยอะกว่าหลาย ๆ ร้านที่เคยเจอมาครับ ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่ทำงานแถว ๆ นี้และอยากแวะมากินอาหารอิตาเลียนเก๋ ๆ นะครับ ส่วนเมนูมื้อเย็น ก็จะคล้าย ๆ กับร้านอิตาเลียนอื่น ๆ มีให้เลือกอย่างละนิดอย่างละหน่อย มีครบทุกรูปแบบ จะยกเว้นก็ตัว Pizza ที่ทางร้านไม่มีให้บริการครับ ราคาอาหารมื้อเย็นก็ตามมาตรฐาน (อ่านว่าแพง) อยู่ที่ 300 - 500 บาทโดยเฉลี่ย

ที่ผมเขียนไว้ตอนต้นว่า สนใจร้าน L'ulivo @ Bangkok แห่งนี้เพราะตัวเชฟดูรัศมีเปล่งประกายดี ก็เพราะว่าตัวเชฟนั้นเคยเป็น Head-chef อยู่ที่ห้องอาหาร Biscotti @ Four Seasons Hotel Bangkok ห้องอาหารอิตาเลียนที่ผมไปมา 2 ทีแล้วก็ค่อนข้างชอบ และก่อนหน้านั้นก็เคยทำงานอยู่ที่อิตาลีกับร้านที่ได้ดาวมิชลิน 3 ดาว, 2 ดาว อย่างละร้าน ที่ฝรั่งเศส ร้าน 3 ดาวอีก 1 ร้าน และแบบอยู่ในครัวมาตั้งแต่เด็ก ได้เป็น head-chef ที่ Biscotti ตั้งแต่ตอนอายุเพียงแค่ 30 ปีเ เรียกได้ว่าเป็นเชฟที่ดูมีพรสวรรค์มาก ๆ และที่ผมเสียดายหนักคือ ก่อนหน้าผมไปแค่ไม่กี่วัน เพื่อนสนิทของเชฟ Danilo Aiassa ที่เคยฝึกงานอยู่ที่ร้านอิตาเลียน 3 ดาว และตอนนี้มีร้าน 1 ดาวของตัวเองแล้ว บินมาช่วยเชฟทำอาหาร Course พิเศษให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกัน ที่เสียดายคือราคาไม่แพง 5 Course และมี Wine paring ให้ 3 แก้ว และลูกค้าให้การตอบรับกันดีมาก (เต็มทุกวัน) แต่ก็เห็นพนักงานบอกว่าจะมีเชิญมาอีกซึ่งคราวหน้า ผมคิดว่าจะไม่ให้พลาดแน่นอน







อาหารของทางร้านลูลิโวนี่จะเป็นอาหารแบบ Traditional Italian (ตามที่เชฟมาคุย ๆ ด้วย) ซึ่งผมก็ไม่รู้สักเท่าไรหรอกครับว่า Modern, Traditional หรือ Contemporary มันแตกต่างกันยังไงบ้าง อาจจะเป็นเรื่องหน้าตาของอาหาร ซึ่งผมว่าอาหารในมื้อนี้ มันก็ดูหน้าตาสวยงาม เจิดจรัสดี ซึ่งนอกจากเรื่องหน้าตาแล้วผมก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเค้าเอาอะไรมาแบ่งเรื่องยุคสมัยของอาหาร

ของเรียกน้ำย่อยแบบฟรี ๆ ของร้านนี้มีมาให้ถึง 2 อย่าง อย่างแรกเป็นขนมปังที่หน้าตาดูดี รสชาติดีกว่าหลาย ๆ ร้านที่กินมา และให้มาเยอะมาก พอดีว่าผมอยากจะเก็บท้องไว้กินอาหารคาวอย่างอื่น ๆ ก็เลยกินไป 3-4 ชิ้น แต่ก็ 3-4 แบบก็อร่อยดีครับ ส่วนของกินเล่นอีกอย่างเป็นประมาณซุปเห็ด, แฮมเบอเกอร์จิ๋ว และก็แป้งอบอะไรสักอย่าง จานนี้ก็อร่อยอีกเช่นกัน โดยเฉพาะตัวคล้าย ๆ ซุปเห็ด เป็น 2 จานเรียกน้ำย่อยที่ดีทีเดียว

อาหารจริง ๆ จานแรกในมื้อนี้เริ่มต้นด้วยซุปเบา ๆ กับซุปฟักทอง ที่เสิร์ฟมาแบบอุ่น ๆ และมีกุ้งกับแผ้นแป้งและคล้าย ๆ เมนูพิเศษที่อยู่นอกเหนือจากในเมนูหลัก ผมก็เลยไม่ค่อยรู้รายละเอียดเป๊ะ ๆ ว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง ก็เป็นซุปที่รสชาติธรรมดา ๆ ครับ เบา ๆ ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ชอบแบบเข้มข้น ๆ กินแล้วแบบสะใจ ๆ ในรสชาติแบบนั้นมากกว่า และที่สำคัญคือผมชอบซุปร้อน จานนี้มาเป็นซุปอุ่น ๆ ก็เลยเหมือนลดความอร่อยลงไปอีก







Main Course อย่างแรกเป็น อาหารทะเลหลากชนิดและปลาทะเลสด ๆ นำไปย่างจนหอม เสิร์ฟกับผักรวมย่าง (Assorted grilled crustaceans and fish with mixed vegetables - tiger prawns, river prawns, red snapper, sea bass, squid, rock lobster - 950 บาท) คือเป็นประมาณจานกินกันกับครอบครัว หรือเพื่อนฝูงน่ะครับ เพราะมาจานใหญ่มาก จานนี้เป็นอาหารพิเศษที่มีขายเฉพาะตอนเที่ยงวันเสาร์ ซึ่งทางร้าน L'ulivo นี่วันเสาร์ของทางร้านจะเหมือนวันอาทิตย์ เพราะวันอาทิตย์จะหยุด วันเสาร์เที่ยงก็เลยจะมี Long Lunch ไว้รองรับลูกค้าแทน จานนี้พนักงานบอกว่าเป็นจานที่คุ้มมาก ลูกค้าสั่งเยอะมากเพราะว่าให้ของมาคุ้มค่าเกินราคาจริง ๆ ซึ่งจากที่ผมได้กินแล้วมันก็เป็นตามนั้นจริง ๆ ครับ เพราะแค่กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ 2 ตัว กับกุ้งลายเสือ ตัวเบิ้ม 2 ตัวแค่นี้ ถ้าเอาจริง ๆ บางร้านก็ขายกัน 900 บาทล่ะ แต่นี้มีปลากระพงแดง, ปลากระพง, ปลาหมึก และกั้งมาอีก จานนี้ดีครับ อาหารทะเลทุกอย่างสดหมดและย่างมากำลังดีมาก ตัวผักทอดที่ให้มาด้วยก็ดีครับ แปลกดี ผมเพิ่งเคยกินผักย่างแบบฝรั่งกับอาหารทะเลที่ให้ความรู้สึกคล้ายกินอาหารทะเลเผาแบบไทย ๆ แบบนี้

Main Course อีกจานเป็น เนื้อนานาชนิด (เนื้อริบอายส์, เนื้อแทนเดอร์ลอย, ไก่อ่อน, อิตาเลียนซอสเสจ, เบคอน) นำไปย่างบนเตาถ่านหินจากภูเขาไฟเสิร์ฟกับผักรวมย่าง (Assorted grilled meat with mixed vegetables - grass fed rib eye, beef tenderloin, baby chicken, fresh sausages and bacon - 950 บาท) จานนี้จะคล้าย ๆ จานแรกที่มีขายเฉพาะ Long Lunch วันเสาร์ และมาแบบจัดเต็ม ครบครันความเป็นเนื้อ รสชาติโดยรวมถือว่าดีครับ แต่ยังไม่ได้แบบอร่อยแบบโดดเด่น จะมีดีที่สุดก็คงเป็นตัวไส้กรอก Homemade ที่อร่อยมาก ส่วนตัวเนื้อ 2 แบบกับหมูสามชั้น ผมว่ายังค่อนข้างเฉย ๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะไม่ได้ใช้เนื้อเกรดดี เพราะราคาเท่านี้คงเอาเนื้อชั้นดีมาขายไม่ค่อยได้ แต่ก็ถือว่ายังโอเคครับ กินกับ Red Wine ได้เพลิน ๆ







อาหารคาวอีกอย่างเป็นพาสต้า สปาเก็ตตี้ชิทาร่าโฮมเมด ผัดกับเนื้อปูราชันย์ ปลาคิงฟิชหางเหลือง จากทะเลอเดรียติกที่อยู่ติดกับอิตาลีและผักอาติโช้คผัด (Homemade spaghetti chitarra with king crab, yellowtails and sauteed articokes - 450 บาท) จานนี้ความโดดเด่นคงเป็นที่เส้นสปาเก็ตตี้แบบโฮมเมด ที่ทางร้านทำเองที่ร้านเลย เส้นก็เลยจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ ๆ และให้ texture ที่โดดเด่นกว่ากินสปาเก็ตตี้ร้านอื่น คือมันจะมีความหนึบไม่เท่ากันในทุก ๆ จุดที่กัด แปลกดี แต่ว่าตัวรสชาติมันยังไม่ค่อยโดนเท่าไร คือเค็มไปสำหรับผม มีรสชาติเค็มอยู่รสเดียว ไม่ได้เป็นรสแบบ complex ๆ แบบพาสต้าเทพ ๆ ที่ผมกินมา ตัวปูกับปลาที่ให้มาก็ดีครับ สดอร่อยดี แต่ชิ้นเล็กไปนิด

ของหวานในมื้อนี้ก็จะมี แผ่นแป้งทอดสไตล์ซิซิเลี่ยน สอดไส้ด้วยดาร์คช็อตโกแลต ผลไม้รวมในน้ำเชื่อม ถั่วอบแห้ง และน้ำผึ้ง (Sicilian cannoli with dark chocolate and ricotta cheese, candit and dry fruit - 270 บาท) จานนี้เป็นของหวานที่แปลกมาก ไม่เคยได้ยิน หรือได้กินมาก่อน รสชาติจะแปลก ๆ ประหนึ่งเป็นของคาวผสมของหวานครับ บรรยายไม่ถูกเหมือนกันว่าเป็นยังไง ผมตื่นตาตื่นใจกับรสชาติประหลาด ๆ ตอนแรก แต่กินไปกินมาก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไร เพื่อนผมที่ไปด้วยกันบอกว่าแปลกดี และก็กิน ๆ จนหมด -*-








ของหวานอีกอย่างเป็น Chocolate Lava แบบหรูหรา ไฮโซ ดูดีน่ากิน และแน่นอนครับ ทำมาดูดีขนาดนี้ รสชาตินั้นก็เลยยอดเยี่ยมตามไปติด ๆ เป็น Chocolate Lava ที่ผมว่าอร่อยอันดับต้น ๆ หรืออร่อยที่สุดที่เคยกินมาเลย ตัวช็อคโกแลตอร่อยอยู่แล้ว เสริมรสชาติด้วยกล้วยหอมอร่อย ๆ และไอศครีมวานิลลาชั้นดี สุดยอดของหวานเลยครับจานนี้

สรุป ร้าน L'ulivo Italian Restaurant @ นราธิวาสซอย 7 Bangkok แห่งนี้ ก็ถือว่าเป็นร้านอาหารอิตาเลียนชั้นดีร้านนึงประจำเมืองกรุงเราเลยล่ะครับ การบริการนั้นเข้าขั้นไร้ที่ติ บรรยากาศร้านก็ยอดเยี่ยม (ผมชอบรูป paint ผนังสวย ๆ ที่กระจายอยู่ทั่ว ๆ ร้านมาก) และความคุ้มค่านั้นผมก็ว่าคุ้มจริง โดยเฉพาะพวกจานรวมมิตรจานใหญ่ 2 จานที่ผมสั่งไป รสชาติ อาหารแม้ว่าผมว่าจะยังไม่ค่อยโดนผมนัก เพราะมันเป็นรสชาติแบบอิตาเลียนแท้ ๆ ซึ่งจะเป็นแบบรสไม่ค่อยจัดเท่าไร ซึ่งผมก็เป็นแบบนี้กับทุกร้านที่ทำอาหารมารสชาติประมาณนี้ แต่ว่า ผมเห็นลูกค้าหลาย ๆ คนที่ค่อนข้างแน่นร้านในวันที่ไป ก็ดู enjoy อาหารดี อืม ก็คงจะมีคนที่ชอบอาหารรสชาติแท้ ๆ แบบนี้อยู่เยอะเหมือนกันนะครับ แล้วคุณเป็นหนึ่งในนั้นรึเปล่า?





--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...