The Moon Terrace - Thai Seafood Restaurant at Hua Hin, Thailand
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
The Moon Terrace - Thai Seafood Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
ร้าน ระเบียงจันทร์ หรือ The Moon Terrace ในรีวิวฉบับนี้ก็เป็นร้านแรกในทริปหัวหินแบบสั้น ๆ ของผมครับ ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณถนนนเรศดำริห์ ถนนเล็ก ๆ ที่วิ่งรถสวนกันค่อนข้างลำบาก แต่เรียงรายไปด้วยร้านอาหารที่อัดแน่นกันจนเต็มพื้นที่ และเป็นถนนที่ขนาบไปกับทะเลหัวหิน อย่างสั้น ๆ ร้านนี้ผมจำไม่ได้เหมือนกันว่าค้นไปค้นมาอีท่าไหน แล้วเอาไปใส่ไว้ใน list ร้านที่จะต้องไปกิน ก็ร้านนี้ถ้าเอาจริง ๆ ก็จะเปิดทำการ กันทั้งวันเลย ตั้งแต่ 11.00 AM - 10.30 PM แต่แบบตอนที่ผมไปนั้นอาจจะเพราะเป็นวันจันทร์ด้วย และก็เป็นตอนกลางวันด้วย ตลอดเวลาที่ผมกินข้าวอยู่ก็เลยกลายเป็นเหมือนว่าผมเป็นลูกค้าอยู่โตีะเดียว เหมือนผมปิดร้านอาหารเลี้ยงแฟนอะไรประมาณนั้นเลย ฮ่า ๆ ร้านนี้ที่จอดรถผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจอดรถตรงไหน เพราะอย่างตอนที่ผมไป ผมก็ไปจอดที่ร้านชาวเล แล้วเดินมา และที่จอดรถของทางร้านเองก็ไม่มี และเจ้าถนนเรศดำริห์นี่ก็จอดรถไม่ได้แน่ ๆ ยังไงถ้าใครมาวันเสาร์ - อาทิตย์ ก็อาจจะต้องคำนึงถึงเรื่องที่จอดรถกันสักหน่อยนะครับ
ชื่อร้าน ระเบียงจันทร์ หรือ Moon Terrace นั้นผมเดาว่าน่าจะมาจากการที่ร้านทำส่วนพื้นที่หลักสำหรับรับรองลูกค้าเป็นระเบียงยื่นออกในทะเล และไม่มีหลังคา, ไม่มีเพดาน ปิดหัวลูกค้าแล้วเวลาไปนั่งตอนกลางคืนก็จะเห็นดวงจันทร์เต็ม ๆ เจอดวงจันทร์สาดแสงเดือนมาเต็ม ๆ จึงเป็นที่มาของชื่อร้านก็เป็นแน่แท้ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วร้านที่อยู่ติด ๆ กันกับร้านนี้ เช่นร้าน ชาวเล หรือ ร้านอื่น ๆ อีกหลาย ๆ ร้านก็ล้วนแล้วแต่จะมีโป๊ะ มีระเบียงยื่นออกไปบนทะเลทั้งนั้น แต่จะต่างจากร้านนี้หน่อยก็ตรงที่จะมีหลังคากั้น ซึ่งจุดนี้ก็อาจจะเป็นจุดขายของร้านนี้ในยามค่ำคืน แต่ว่าในยามกลางวันก็กลายเป็นที่ที่ไม่น่านั่งสำหรับลูกค้าชาวไทย หรือลูกค้ากลัวแดดไปโดยปริยาย
อาหารของระเบียงจันทร์ - The Moon Terrace แห่งนี้ก็จะเป็นอาหาร seafood แบบสไตล์ไทย ๆ มีอาหารฝรั่งปน ๆ แซม ๆ เล็กน้อย พอเป็นพิธี ตอนที่เห็นเมนูครั้งแรกผมแอบกลัวในราคาเล็กน้อยเพราะว่าอาหารแต่ละอย่างนั้นเหมือนจะทำมาขายฝรั่งอย่างไรก็ไม่ทราบ ราคาแพงพอ ๆ กับพวกร้านอาหารทะเลแพง ๆ ในกรุงเทพ หรือแพงกว่าร้านอาหารทะเลส่วนใหญ่ก็คงไม่ผิดนัก คือแพงจนแบบ คิดว่า "เอิ่ม นี่กูคิดผิดรึเปล่าเนี่ยที่เลือกร้านนี้ ไปอ่านรีวิวมาจากไหนวะเนี่ย" แต่ก็เข้ามาแล้วก็ทำใจ สั่ง ๆ ไปจนพอจะกินอิ่มครับ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วอาหารที่แพงนั้นจะเป็นพวกอาหารที่เอา seafood ตัวใหญ่ ๆ อลังการ ๆ มาทำ พวกอาหารไทย ธรรมดา ๆ ทั่วไปก็ไม่ได้แพงอะไรสักเท่าไร ผมแอบตีตนไปก่อนไข้เล็กน้อย
มื้อนี้เริ่มต้นกันอย่างแรกด้วย เบียร์สดสิงห์เหยือก (Singha Draft Beer : Pitcher - 200 บาท) ก็เบียร์สดเหยือกละ 200 บาทแพงมั้ย? ผมว่าเป็นราคามาตรฐานนะ ทางร้านนี้ไม่ได้เสิร์ฟเฉย ๆ แบบร้านในกรุงเทพที่จะยกเบียร์มารินใส่แก้วให้แล้วก็วางไว้เฉย ๆ แต่มีเอากระติกน้ำแข็งมาแช่เบียร์ของเราให้เย็นฉ่ำตลอดมื้ออีกด้วย อืม เคยเจอร้านที่ใส่ใจรายละเอียดแบบนี้ไม่ค่อยเยอะเท่าไรครับ ซึ่งพอเจออะไรที่ง่าย ๆ แต่ไม่มีใครทำแบบนี้มันก็ได้ใจลูกค้าไปพอสมควรเหมือนกันนะ
อาหารจริง ๆ อย่างแรกในมื้อนี้นั้นเป็น รวมมิตรทะเลกระทะร้อน (Stir-fried mix seafood in hot pan - 200 บาท) ที่แบบ โอว พอเห็นขนาดของกระทะร้อน , พอเห็นสัตว์ทะเลทั้งหลายทั้งปวงที่ให้มาบนกระทะที่ร้อนฉ่า ๆ ควันขึ้น ๆ แล้ว อืม หรือว่าร้านนี้อาหารของเค้าจะ size ใหญ่ size ฝรั่งแบบนี้หมดกันแน่เนี่ย รสชาติกระทะร้อนอันนี้ค่อนข้างอร่อยเลยครับ คือแบบไม่ได้เผ็ด ไม่ได้อะไร แต่ก็เป็นรสชาติที่กลมกล่อม ละมุนละม่อม ลงตัวดี ส่วนพวก seafood สารพัดที่ใส่มาก็ชิ้นใหญ่ เนื้อสด เนื้อเด้ง สมกับเป็นร้านที่ตั้งอยู่บนทะเลเหลือเกิน จานแรก work มากครับ
อย่างที่ 2 เป็น ข้าวผัดปู (Crab fried rice - 100 บาท) จานนี้ราคาไม่ค่อยแพง แต่ก็แลกมาด้วยข้าวผัดจานที่ใหญ่กว่าข้าวผัดปู 100 บาทที่ผมเคยกินมาส่วนใหญ่ เนื้อปูที่ให้ก็ให้มาค่อนข้างเยอะ ข้าวผัดก็ผัดมาได้ดีมาก แห้ง ร่วน ข้าวไม่เละ อืม เป็นข้าวที่กินเปล่า ๆ ก็ได้ กินเคล้ากับอาหารอย่างที่เหลือก็ดีครับ ใช้ได้เลย (นึกถึงข้าวผัดปูจานขนาดนี้ตามร้านในกรุงเทพน่าจะ 200 บาทได้นะเดี๋ยวนี้)
อย่างที่ 3 เป็น กุ้งลายเสือเผา (Grilled Tiger Prawn 500g - 350 บาท) ตอนแรกผมจะสั่งกุ้งอะไรสักอย่างอบเนยที่แบบ 2 ตัว 800 บาท พี่พนักงานที่รับออเดอร์ก็บอกว่าอย่าสั่งเลย มันแพงโดยใช่ที่ แล้วก็แนะนำเจ้ากุ้งลายเสือนี่ให้สั่งแทน ก็กลายเป็นได้กุ้งลายเสือปริมาณล้นหลาม และตัวใหญ่กำลังดี และเนื้อสดแน่นกำลังดี จำนวน 10 ตัวมาแทน อืม เจ้ากุ้งลายเสือ 10 ตัวนี่ก็ไม่เสียชื่อที่เป็นกุ้งของร้านบนทะเล ครับเพราะว่าเนื้อมันสดมาก หัวก็มันยังเยิ้ม ๆ อร่อย ๆ อยู่ โอย จานนี้กินแล้วรู้สึกว่า "กูถ่อมาทะเลก็เพื่อกินสิ่งนี้นี่แหละ" ประมาณนั้น
อย่างที่ 4 เป็น ปลากะพงทอดตะไคร้ (Deep-fried seabass with lemongrass sauce - 390 บาท) บอกตรง ๆ ว่าตัวปลากะพงของร้าน ระเบียงจันทร์ - หัวหิน นี่ทุกอย่างเริ่มต้น 390 บาทหมด ผมก็แอบคิดตอนแรกว่าจะสั่งดีมั้ยว้า ทำไมมันแพงจังเลยว้า แต่ก็แบบมาถึงหัวหินแล้ว มันก็ควรต้องสั่งปลาซักหน่อยก็เลยสั่ง ๆ ไป ซึ่งพี่คนรับออเดอร์ก็ใจดีอีกแล้ว แนะนำว่าให้ลองตัวนี้ดู อร่อยเหมือนปลากะพงทอดน้ำปลายอดฮิต แต่ว่าหากินยากกว่า ได้ความหอมของตะไคร้มากกว่า ซึ่งพอได้เห็นปลาที่ถูกยกมาแล้วก็ได้แต่คิดว่า โอว 390 บาทนี่มันไม่ได้แพงไปเลยนี่หว่า เพราะว่าปลากะพงตัวใหญ่มาก ๆ ใหญ่แบบขาย 500 บาทก็ยังไม่น่าเกลียดเลยก็ว่าได้ ปลากะพงทอดมาได้ดี เนื้อกรอบนอกข้างในนุ่มนิดหน่อย แต่กิน ๆ แล้วเหมือนเนื้อยังไม่ค่อยสดเท่าไร ทางร้านอาจจะเลือกเอาปลาที่ไม่ค่อยสดแล้วมาทอดให้ผมก็เป็นได้ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ ยังอร่อยดีอยู่ และยิ่งกินกับซอสตะไคร้, พริกขี้หนู ที่ให้มาด้วยกันแล้ว อืม มันแซบกว่า มันอร่อยกว่า ปลากะพงทอดน้ำปลาแบบเดิม ๆ ที่เคยกินมาจริง ๆ ด้วย
อย่างสุดท้ายเป็น ต้มยำทะเล (Mix seafood soup with lemongrass and lime - 150 บาท) อันนี้ก็เป็นอะไรที่อร่อยดีอีกแล้วครับ รสเปรี้ยวและเผ็ดมาแบบกำลังดี ใส่ใบโหระพามาเยอะ ก็เลยได้ความหอมที่กระจายอยู่ทั่ว ๆ น้ำซุปมากขึ้น พริกขี้หนูก็ให้มาเม็ดใหญ่ ตัวน้ำซุปซึมซับเอาความเผ็ดไปบ้าง หรือถ้าใครอยากกินเผ็ดสะใจ ๆ ก็กินพริกไปทั้งเม็ดด้วยก็ได้ ตัวเนื้อปลา ปลาหมึก เห็ด หรือ หอยที่ให้มาในชามก็ให้มาแบบไม่ขี้เหนียว ไม่กลัวร้านจะขายทุนเลยแม้แต่นิดเดียว จานนี้กินคู่กับข้าวผัดปูที่ได้มาก่อนหน้าเป็นอะไรที่ลงตัวและอร่อยมากครับ
สรุป มื้อแรกของทริปสั้น ๆ ณ หัวหินของผม ในมื้อนี้กับร้าน ระเบียงจันทร์ - The Moon Terrace ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างประทับใจครับ ร้านแม้ว่าจะไปตอนกลางวัน ไปตอนที่บรรยากาศยังไม่ได้ดีมากเหมือนตอนกลางคืน แต่ก็แลกมาด้วยความเงียบสงบ ความไม่มีแขกคนอื่น เหมือนเป็นร้านส่วนตัว | อาหารของทางร้านเห็นเมนูแว่บแรกก็อาจจะคิดว่าแพง แต่เอาจริง ๆ มันก็คือ seafood คุณภาพที่เอาจริง ๆ มันกลับกลายเป็นถูกซะด้วยซ้ำ อาหารแต่ละจานก็รสชาติดี ไม่ได้เป็นรสไว้ขายฝรั่งแต่อย่างเดียว คนไทยกินได้ ฝรั่งกินเพลิน ร้านนี้ใครมาหัวหิน ผมแนะนำให้มาลองดูกันครับ อาจจะติดใจเหมือนผมก็เป็นได้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment