Overall Score 9/10
Taste 4/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 5/5
Su Tha Ros - Thai Restaurant on BumRes.com
ห้องอาหาร Su Tha Ros หรือ สุฑารส ห้องอาหารไทยประจำโรงแรม Hotel Muse Boutique Hotel ชิค ๆ แห่งย่านหลังสวนนี้ ก็เป็นร้านที่มีชื่อคล้าย ๆ กับร้านจุฑารส ร้านอาหารไทยเก่าแก่ ณ สยามสแควร์ ที่เป็นร้านโปรดของผมสมัยตอนผมยังเอ๊าะ ๆ อยู่ (ไม่รู้เจ๊งไปยัง) โดยร้านนี้ จะตั้งตัวเองอยู่ที่ชั้น 19 ของโรงแรม ทำให้ได้วิวที่ค่อนข้างสวยงาม (ถ้านั่งติดหน้าต่าง) หรือถ้าไม่ได้ที่นั่งติดหน้าต่าง ก็จะได้ยลการตกแต่งร้านอันสุดแสนจะงดงามและอลังการของร้านนี้แทน พร้อมกับการได้รับบริการที่ผ่านการเทรนมาดีของพนักงานเคียงคู่กันไปด้วย เรียกได้ว่า เพียงแรกเจอ ท่านก็อาจจะตกหลุมรักห้องอาหารนี้(แบบผม) ก็เป็นได้
อาหารของร้าน Su Tha Ros - The Thai Way @ Hotel Muse แห่งนี้ก็เป็นอาหารไทยที่ค่อนข้างจะ traditional หน่อยครับ มีแอบ twist ๆ บ้างแต่ก็ไม่มากมายอะไร อาหารมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับหลาย ๆ ห้องอาหารไทยที่ผมเคยกินมา แต่ที่เด่นเป็นพิเศษคือราคาครับ ราคาถือว่าค่อนข้างถูกเมื่อคิดว่านี่เป็นห้องอาหารไทยในโรงแรม รายละเอียดเมนูอาหารก็ดูที่ tab menu เอาละกันนะครับ ผมพิมพ์เอาไว้แล้วเช่นเคย
อาหารในมื้อนี้สั่งกันไม่เยอะครับ เนื่องจากไปกันแค่ 2 คนก็เลยสั่งกันไป 4 อย่างเป็น Appetizer 2 อย่าง กับ Main Course 2 อย่าง และก็มีของหวาน (กาก ๆ ) พ่วงท้ายมาอีก 2 อย่างครับ อาหารของทางร้านนี้เค้าจะจัดแบบฝรั่งครับคือเสิร์ฟเป็น course ๆ โดยผมได้ การะเวกสอดสี (Steamed minced shrimp and Chinese sausage wrapped within an egg sheet 190 baht) กับ ยำตะไคร้หอยเชลล์ (Pan fried scallops, lemongrass, chili and lime dressing 320 baht) เป็น 2 อย่างแรกในมื้อนี้ อาหารทั้ง 2 อย่างนี้ ถ้าคิดว่าเป็นอาหารไทย ผมก็ไม่เคยกินมาก่อนในชีวิตครับ ซึ่งทางร้าน สุฑารส ก็ได้มอบความทรงจำดี ๆ กับอาหารจานแรกในชีวิตของผม ด้วยความอร่อยที่ลงตัวของทั้ง 2 จาน หอยเชลล์แม้ว่าตัวจะไม่โตมาก (เป็นหอยเชลล์ไทย) แต่ก็เนื้อสด เด้งกำลังดี และปรุงรสมาเผ็ดเล็กน้อย กินคู่กับใบสะระแหน่กับตะไคร้ก็เป็นอะไรที่หอมกลบความคาวของหอยเชลล์ได้อย่างลงตัว ส่วนการะเวกสอดสี ก็ให้ความรู้สึกเหมือนกินหอยจ้อ ผสมกับแฮกิ๊นแบบของจีน เป็นลูกผสม ๆ ของทั้ง 2 อย่างซึ่งก็เป็นอะไรที่อร่อยดี
Main Course ในมื้อนี้ประกอบด้วย ผัดฉ่าปลาหิมะ (Snow fish with fresh garlic, chili, basil leaves and green peppercorn 420 baht) และ มัสมั่นแกะ (Slow-cooked leg of lamb with massaman curry served with potatoes 420 baht) ซึ่งก็เป็นอีก 2 จานที่ผมไม่เคยกินมาก่อนในชีวิตอีกเช่นกัน (วิธีการทำเคย แต่เนื้อที่เอาปรุงไม่เคย) และก็ต้องขอบคุณร้าน Su Tha Ros @ Hotel Muse, Bangkok ที่ทำให้เป็นประสบการณ์ดี ๆ อีกเช่นกัน คือปลาหิมะผัดฉ่า? ใครจะไปคิดว่าเนื้อปลาที่ถือว่าอยู่ในเกรดแพงนี้จะเอามาผัดฉ่า แบบเผ็ด ๆ แบบไทยได้? ซึ่งทางร้านก็ทำมาได้อร่อยเยี่ยมมาก แม้ว่ามันจะเผ็ดเกินไปจนขนาดพวกผมคนไทย กินแล้วต้องซี้ดซ้าด ๆ กัน (ฝรั่งแค่เห็นก็คงไม่กินแล้ว) แต่มันก็เป็นความเผ็ดที่อร่อยลงตัวเป็นอย่างดี ส่วนมัสมั่นแกะ ก็ได้ความกลมกล่อมของรสชาติน้ำแกงอันลงตัว กับเนื้อแกะนุ่ม ๆ ที่ตุ๋นมาจนได้ที กินเข้ากับข้าวสวยหอมมะลิอย่างดีที่แถมมาใน set ก็เรียกได้ว่ากินกันเพลินและหมดอย่างรวดเร็วทั้ง 2 จานเลยล่ะครับ
หลังจากประทับใจกับของคาวกันไป ผมก็เลยคิดว่าควรจะสั่งของหวานของทางร้าน สุฑารส @ หลังสวน มาลองซักหน่อย เผื่อว่าจะได้จบอย่าง happy ending ซึ่งสุดท้ายแล้วกลับกลายเป็นความคิดที่ผิดครับเนื่องจาก ของหวานในมื้อนี้ fail มาก กับเจ้า ฟักทองแกงบวด (pumpkin in coconut milk 190 baht) กับ หม้อแกงเผือก (Taro custard and coconut milk with dry shallots 190 baht) ทั้ง 2 อัน ไม่ขอบรรยายมาก เอาเป็นว่า ร้านรถเข็นข้างถนน ทำได้อร่อยกว่าครับ จบป่ะครับ?
สรุปร้าน Su Tha Ros @ Hotel Muse, Bangkok แห่งนี้ก็ได้มอบความประทับใจและความอร่อยกับผมได้เป็นอย่างดี รวมถึงการบริการและบรรยากาศร้านก็ถือว่าอยู่ในระดับดีเยี่ยม เสียแต่ว่าถ้าของหวานทำมาได้ดีกว่านี้มื้อนี้ผมก็คงจะให้คะแนน 10 เต็มอันหายากยิ่งของผมไปแล้ว ใครกำลังมองหาร้านอาหารไทย อร่อย ๆ แนว ๆ เหมาะแก่การมาสวีทกันสองต่อสอง หรือแม้แต่จะเลี้ยงรับรอง (มีห้องส่วนตัว) ร้านนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีร้านนึงนะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment