BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Saturday, September 7, 2013

Guru Gyu - Japanese Yakiniku Buffet Review

Guru Gyu Japanese Yakiniku Buffet at Phahonyothin Soi 5 Review

กูรู กิว - ร้านอาหารเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น ราชครู สนามเป้า




Overall Score  9.5/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4.5/5

Guru Gyuu - Japanese Yakiniku Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)








Guru Gyu หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อในรีวิวนี้ แม้ว่าชื่อร้านจะฟังดูเป็นร้านเนื้อย่างธรรมดาทั่วไป แต่จริง ๆ เบื้องในนั้นมีอะไรมากกว่าร้านเนื้อย่างทั่วไปมากครับ ซึ่งผมสามารถสรุปออกมาได้เป็นประโยคหนึ่งประโยคว่า ร้าน Guru Gyu แห่งนี้น่าจะเป็นหนึ่งในร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างที่ไม่ได้ขายวิญญาณการเป็นร้านเนื้อย่าง ก็ว่าได้ครับ เพราะว่าร้านนี้เค้าสถาปนาตัวเองว่าเป็นกูรูด้านเนื้อแล้ว เค้าก็เลยทำเมนูอาหารของเค้าให้สมกับเป็นกูรูจริง ๆ ส่วนตัวร้านนั้นตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน อยู่ก่อนจะถึงซอยราชครู หรือ พหลโยธินซอย 5 เล็กน้อย ถ้ามาจากรถไฟฟ้าก็ลงป้ายอารีย์หรือสนามเป้าแล้วเดินมาก็ได้ หรือว่าถ้าขับรถมาก็สามารถมาจอดรถได้ที่อพาร์ทเม้นท์ด้านหลังร้านได้เช่นกัน เดินทางสะดวกสบาย (จ่ายเงินค่าจอดไปก่อนแล้วทางร้านจะให้เงินค่าจอดคืน)

บรรยากาศของร้าน Guru Gyu แห่งนี้ก็เป็นอารมณ์คล้าย ๆ กับร้านเนื้อย่างทั่วไป ร้านขนาดไม่ใหญ่มากนัก (เพราะเป็นการนำห้องแถวขนาด 2 คูหามาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร) มีทั้งโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งและ 6 ที่นั่ง ซึ่งถ้ามากันเยอะ ๆ ก็น่าจะต่อโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งให้ยาว ๆ ได้ครับ ส่วนการบริการของร้านนี้ ก็ทำได้ดีเหนือมาตรฐานร้านเนื้อย่างส่วนใหญ่ที่ผมกินมาพอสมควรครับ แม้ว่าน้อง ๆ พนักงานจะเป็นชาวต่างชาติบ้าง (บ้านใกล้เรือนเคียง) แต่ก็เหมือนกับจะถูกเทรนมาค่อนข้างดีมากเลย (น่าจะเป็นเพราะมีเจ้าของร้านประจำอยู่ที่ร้านตลอดเวลาด้วย)






อาหารของร้านนี้ก็ตามที่เขียนไปก่อนหน้านี้ครับจะเน้นที่เนื้อเป็นหลัก และตัวบุฟเฟ่ต์ของทางร้านก็จะมี 2 ราคา

แบบแรกนั้นคือราคา 444 บาท ให้เวลา 2 ชั่วโมง มีอาหารให้เลือกประมาณ 35 อย่าง มีเนื้อวัวให้เลือก 6 ชนิด และก็อย่างอื่นผสมผสานกันไป เช่น กุ้งแม่น้ำ, ปลาไข่, ไส้กรอกหมูญี่ปุ่น, เกี๊ยวซ่า อะไรประมาณนี้ และอีกราคานึง 555 บาทก็จะเพิ่มเนื้อวัวมาให้เลือกอีก 6 ชนิดพร้อมอาหารอื่น ๆ ให้เลือกเพิ่มจากราคา 444 บาทอีกประมาณ 24 อย่าง ที่เพิ่มเติมนอกจากเนื้อวัว 6 ประเภทก็จะมี หมูลูกเต๋า, ปลาแซลมอน, กุ้งขาวตัวใหญ่, ไอศครีมชาเขียวประมาณนี้ อืม บอกตรง ๆ ว่าเห็นเมนูของร้าน Guru Gyu แห่งนี้เข้าไปทีแรกนี่แอบอึ้งครับ ไม่คิดว่ากับราคาเท่านี้จะมีอาหารให้เลือกมากมายขนาดนี้ อ้อ ตัวราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มนะครับ เครื่องดื่มถ้าอยากได้แบบ refill ก็จะต้องเพิ่มอีก 55 บาท ก็จะได้พวกน้ำอัดลม, ชาเขียว, ชามะนาว อะไรพวกนี้มาดื่มได้ตลอด 2 ชั่วโมงเลย








อาหารในมื้อนี้พวกผมก็ได้ลองกันค่อนข้างจะครบครันอยู่ อาจจะไม่ได้ครบทุกเมนูแต่ก็ได้ซัดไปเกินครึ่งล่ะครับ ก็ขอไล่เรียงกันไปตามจานที่พวกผมรู้สึกถูกใจกันหน่อยละกัน อ้อ เนื้อหลาย ๆ อย่างของทางร้าน Guru Gyu แห่งนี้มีการตั้งชื่อให้ดูแบบน่ารักน่าชัง น่าสั่งมากินกว่าการตั้งชื่อแบบปกติหลายเมนูเลยล่ะครับ ยังไงก็ลองดูชื่อภาษาอังกฤษประกอบด้วยละกัน

อ้ออีกอย่างก่อนจะเข้าเรื่องอาหารของทางร้าน ร้านนี้เค้ามีความพิเศษเหนือร้านอื่นในด้านเตาย่างครับ ตะแกรงปิ้งย่างของร้านจะใช้เป็นแบบกระทะ Teflon ก็เลยทำให้ไม่ต้องมีการเปลี่ยนตะแกรงกันเลยตลอด 2 ชั่วโมงที่นั่งกินกัน ส่วนพวกรอยไหม้ นั้นเพียงแค่ใช้ทิชชู่มาถู ๆ ก็ออกหมดแล้ว ซึ่งเตาแบบนี้นอกจากจะทำให้เนื้อ lot หลัง ๆ สะอาดไม่มีคราบไหม้ติดมากับที่เรากินแล้ว เตา Teflon นี้ยังทำให้เราสามารถกินปลาไข่ หรือพวกเนื้อที่ sensitive ต่อคราบไหม้ได้ดีกว่าเตาปกติอีกด้วยครับ ชอบ ๆ

น้ำจิ้ม

ทางร้านมีน้ำจิ้มมาให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกัน คือ น้ำจิ้มเนื้อย่างทั่วไป, น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว, น้ำพริกเผา และน้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งแต่ละตัวก็รสชาติดีด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าจะลองเอามาผสม Mix & Match กันดู ก็อร่อยไปอีกแบบนะครับผมว่า



หมวดเนื้อวัว

เนื้อมาราธอน (Shank) : หรือเนื้อส่วนขาวัวนั่นเอง เนื้อส่วนนี้จะไม่ค่อยติดมันสักเท่าไร เหมาะสำหรับคนชอบเนื้อ lean ๆ ตัวเนื้อชิ้นใหญ่ และก็หนาดีครับ ก็โอเคอยู่

เนื้อหินอ่อน (Sirloin Tip) : เนื้อส่วนสันนอก ที่มีลายหินอ่อนแทรกค่อนข้างสวยงาม อร่อยดีครับ กินกันไปหลายจานเลย

เนื้อติดมันส์ (Brisket) : หรือเนื้อส่วนผ้าหน้าอกของวัว (บริเวณส่วนด้านหน้าตัวของวัว ระหว่างหัวกับขาหน้า ก็หน้าอกน่ะแหละเนอะ ลองนึกภาพจับวัวยืนขึ้นมาเหมือนคนดูครับ) เนื้อส่วนนี้จะติดมันแบบติดมันเป็นแผง ๆ ไม่ได้แทรกมาเป็นหลายหินอ่อน ความอร่อย ความมันจะต่างจากเนื้อหินอ่อน ก็อร่อยไปอีกแบบดี (จะคล้าย ๆ เนื้อเบคอนหมูกลาย ๆ ครับ)

เนื้อจำแลง (Hump) : หรือเนื้อส่วนหนอก เนื้อส่วนนี้เป็นเนื้อส่วนโปรดของผมมานานล่ะ ถ้าร้านไหนมีเมนูนี้สั่งมาทีไรก็ไม่เคยผิดหวังทุกที ซึ่งของร้าน Guru Gyu แห่งนี้ก็ทำมาได้ไม่ผิดหวังครับ ดีกว่าหลาย ๆ ร้านที่กินมาด้วยซ้ำ เนื้อส่วนนี้ลักษณะเด่นคือเนื้อจะสีอ่อน ๆ หน่อยและก็จะมีไขมันแทรกเยอะกว่าส่วนอื่น (เนื่องจากเป็นส่วนที่วัวไม่ค่อยได้ใช้งาน) อร่อยครับ แทบจะละลายในปากกันเลยทีเดียว







เนื้อสามศอก (Chuck Tender) : หรือเนื้อส่วนหลังด้านบนของวัวนั่นเอง เนื้อส่วนนี้จะนุ่ม ๆ หน่อย ไม่ค่อยมีไขมันแทรก แต่จะได้ความนุ่มในการกินแต่ละคำแทน

เนื้อบูลโกกิ (Bulkoki chuck) (มีเฉพาะใน package 555 บาท) : เนื้อส่วนนี้จริง ๆ ก็น่าจะเป็นส่วนหลังด้านบนของวัวนี่แหละครับ แต่เหมือนทางร้านจะคัดมาพิเศษเพิ่มเติมจากส่วน Chuck ปกติ คือจะมีลายไขมันแทรกเยอะกว่า ทำให้เนื้อนุ่มกว่าละลายในปากมากกว่า เนื้อจานนี้เป็นหนึ่งในจานที่พวกผมชอบที่สุดในมื้อนี้เลยล่ะครับ

เนื้อลายมัน (Finger rib) (มีเฉพาะใน package 555 บาท)  : เนื้อส่วน Rib หรือส่วนสันแหลม หรือส่วนหลังตอนกลางของวัว ที่มักจะเป็นส่วนที่เอาไปทำเนื้อเสต็กกัน เนื่องจากเป็นเนื้อส่วนที่เค้าว่ากันว่าอร่อยที่สุด คือจะมีไขมันแทรกกำลังดี พร้อมความนุ่มที่เหนือกว่าเนื้อส่วนอื่น ๆ เนื้อจานนี้ก็อร่อยเช่นเดียวกันครับ กินไป 2-3 จานเช่นเดียวกัน

นื้อใบบัว (Flank) (มีเฉพาะใน package 555 บาท): หรือเนื้อส่วนท้องด้านล่างของวัว จานนี้ผมค่อนข้างเฉย ๆ นะ โอเคก็อร่อยดีแต่ว่ากินเนื้อส่วนอื่น ที่เป็นส่วนหลังของวัวมันอร่อยกว่าแบบค่อนข้างชัดเจนเลย

เนื้อลูกเต๋า (Bevette) (มีเฉพาะใน package 555 บาท) : หรือเนื้อส่วนท้องด้านล่างของวัวที่นำมาหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำกิน หลาย ๆ ท่านที่เคยกินเนื้อลูกเต๋ามา ก็น่าจะคุ้นเคยกันดีว่าเวลาเนื้อหั่นเป็นลูกเต๋านั้น แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการปิ้งย่างนานกว่าแบบแล่เป็นแผ่นบาง ๆ ตามปกติ แต่ตัว texture ที่ได้นั้นมันจะแตกต่างกันแบบค่อนข้างชัดเจน มันจะได้ความเด้งดึ๋งของเนื้อในแต่ละคำที่กินเข้าไป มากกว่า เนื้อลูกเต๋านี่พวกผมก็ชอบกันครับ

ลิ้นวัว (Beef tongue) (มีเฉพาะใน package 555 บาท) : ลิ้นวัวของร้าน Guru Gyu นี่ทำมาได้ดีเกินกว่าจะมาอยู่ในบุฟเฟ่ต์จริง ๆ ครับ กินลิ้นวัวของหลาย ๆ ร้านมาส่วนใหญ่จะแล่มาบางเกินไป และก็ไม่ได้ปรุงรสอะไรกันมา กินแล้วเหมือนไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไร แต่ของร้านนี้เค้าพิถีพิถันครับ แล่มาหนากำลังดี ปรุงรสโดยการเหมือนจะหมักเกลือมาเล็กน้อย และก็มีน้ำจิ้มที่เข้าคู่กันกับการกินลิ้นวัวมาด้วยโดยเฉพาะให้มาด้วย (จะเป็นน้ำจิ้มมะนาวเปรี้ยว ๆ ใส ๆ) อร่อยครับ กินกันเพลินเลยลิ้นวัวของร้านนี้

หมวดเนื้อสัตว์บกที่ไม่ใช่เนื้อวัว

เบคอน (Bacon) : ค่อนข้างมาตรฐานครับ

หมูลูกเต๋า (Pork cubes) : อร่อย แต่ยังไม่เท่าเนื้อลูกเต๋า เนื้อนุ่มกว่าหน่อย แต่เหมือน texture มันจะไม่เด้งดึ๋งระคนหยุ่น ๆ เท่าครับ พวกผมชอบเนื้อวัวลูกเต๋ากันมากกว่า

ไส้กรอกหมูญี่ปุ่น (Pork hot dog) : ไส้กรอกทำมาได้ค่อนข้างดีมากครับ อารมณ์ประมาณพวกไส้กรอก arabica ตามร้านเนื้อย่าง premium ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ขายกันจานละ 200 - 300 บาทแต่ของร้าน Guru Gyu แห่งนี้ให้มากินกันแบบบุฟเฟ่ต์! อร่อยครับ






อกเป็ดกูรู (Duck breast) : อกเป็ดไม่เหม็นเลย เนื้อนุ่มกำลังดี แต่เนื่องจากเป็นเนื้อส่วนที่ lean ไร้ไขมัน กินไปคำหลัง ๆ ก็รู้สึกว่าอยากกลับไปกินพวกเนื้อวัวติดมันมากกว่าครับ ฮ่า ๆ

หมวดอาหารทะเล

หมึกกระดองสองใจ (Solf cuttlefish) : ร้านส่วนใหญ่เค้ามักจะมีหมึกกล้วยมาให้กินกัน แต่ของร้าน Guru Gyu นี่พิเศษกว่าครับมีหมึกกระดองมาด้วย หมึกกระดองเนื้อมันจะแข็ง ๆ กว่าหมึกกล้วยหน่อย กินแล้วก็ให้ความกรุบกรอบ อร่อยไปอีกแบบดีครับ

ปลาหมึกไข่ (Squid) : ปลาหมึกมาตรฐานตามร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างทั่วไป แต่เหมือนของร้านนี้จะพิเศษกว่าหน่อยเพราะปลาหมึกมีไข่แทรกมาด้วย ทำให้อร่อยกว่าร้านอื่น ๆ ครับ

ปลาไข่ย่างเกลือ (Shishamo fish) : ตามที่เขียนไปตอนแรก ๆ เนื่องจากเตาของร้านนี้เค้าใช้เตา Teflon ก็เลยทำให้ย่างปลาไข่ได้ดีมาก ปลาไข่แบบเนื้อเนียน ไม่แตก ไข่ไม่หลุดออกมา และปลาไข่ของร้านนี้ก็เลือกมาแต่ตัวโต ๆ ก็เลยยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ ผมขอเสนอเมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้เลยล่ะครับ






กุ้งขาว (White prawn) : กุ้งตัวใหญ่ดี แกะเปลือกมาเรียบร้อย ปิ้งกันสบาย ๆ ไม่ต้องมานั่งแกะเปลือกให้เมื่อยตุ้ม และกุ้งก็สุกง่ายกว่าพวกมีเปลือกด้วย (โอเค แม้จะต้องแลกกับการที่กุ้งจะแห้งกว่าปกติสักหน่อยก็ตาม)

หนวดปลาหมึก (squid tentacles) : อันนี้อีกหนึ่งจานทีเด็ดเช่นเดียวกันครับ ส่วนใหญ่ผมจะเป็นพวกชอบหนวดปลาหมึกมากกว่าลำตัวของมันอยู่แล้ว แต่หลาย ๆ ร้านมักจะไม่ยอมให้สั่งแต่หนวดปลาหมึก ก็เลยได้กินหนวดกันไม่ค่อยสะใจเท่าไร แต่ของร้านนี้มีให้สั่งแยกแบบนี้ก็ฟินล่ะครับ หนวดปลาหมึก กรุบกรอบ อร่อย และก็มาแบบเป็นหนวดใหญ่ ๆ ดีด้วย

หมวดอาหารอื่น ๆ และของหวาน

ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น (Chawanmushi) : อันนี้ค่อนข้างมาตรฐานไม่มีอะไรมาก

ผลไม้รวม (60 บาท) : เป็น แตงโม, สับปะรด และก็แอปเปิ้ล ก็มาตรฐานล่ะครับ

เกี๊ยวซ่า (gyoza) : เกี๊ยวซ่าของร้านนี้เป็นเกี๊ยวซ่าที่สั่งทำมาพิเศษ ทำให้ได้เป็นชิ้นที่ค่อนข้างใหญ่ และแป้งจะย่างแล้วไม่ขาดง่าย ไส้หมูสับก็อัดแน่นมาเต็ม ๆ กินแล้วประหนึ่งเหมือนกินเกี๊ยวซ่าของพวกร้านราเมนญี่ปุ่นดี ๆ เลยครับ โอเคอาจจะย่างไม่ได้เกรียมเท่า เพราะไม่ได้ใช้อุปกรณ์เฉพาะทางขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าอร่อยพอตัวเลยล่ะ







ถั่วแดงเย็นเกล็ดหิมะ (Ice red bean) : อันนี้ค่อนข้างมาตรฐานครับ คล้าย ๆ ตามร้านปิ้งย่างหลายร้าน ถั่วแดงกวนใส่มาบนน้ำแข็งใสราดน้ำแดงและนมข้นหวาน

มื้อนี้มีอาหาร a la carte หนึ่งจาน คือ ยำเนื้อย่างญี่ปุ่น (seared beef 200 บาท) เป็นอารมณ์ประมาณเนื้อแล่มาไม่บางมาก ไม่ถึงขนาดพวก beef carpaccio แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็น fillet อะไรงั้น และก็เสิร์ฟมาแบบให้เรากินกันดิบ ๆ เลยโดยมีแปะมาให้ในแต่ละชิ้น และก็มีมะนาวให้บีบกินด้วย จานนี้อร่อยครับ ที่สำคัญคือให้เยอะมาก คือแบบเห็นปริมาณกับราคาของร้านนี้แล้ว รู้สึกว่าพวกร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นที่ให้เมนูคล้าย ๆ กันนี้มาขยุมนึงแล้วคิดเรา 200 บาทเท่ากันนี่มันคืออะไรกันนี่

จริง ๆ เมนู a la carte ของร้าน guru gyu แห่งนี้ยังมีอีกหลายอย่างครับ เช่นพวกยำสาหร่าย, หมูชุบแป้งทอด, ไก่คาราเกะ อะไรพวกนี้ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เค้าสั่งกันรึเปล่า เพราะว่าแค่เมนูในบุฟเฟ่ต์นี่ก็น่าจะกินกันไม่หวาดไม่ไหวแล้วล่ะครับ

สรุป ร้าน Guru Gyu แห่งนี้ก็สมควรที่เค้าจะสถาปนาตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อวัวจริง ๆ ล่ะครับ ถ้านับเนื้อวัวทั้งหมดคร่าว ๆ ทางร้านมีให้เลือกร่วม ๆ 10 กว่าชนิด เหนือกว่าร้านอื่น ๆ อย่างชัดเจน แต่ว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่น หรืออาหารอย่างอื่นของร้านนี้ก็หาได้ด้อยกว่าเนื้อวัวไม่ มีให้เลือกกันแบบอลังการยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน อืม เมื่อบวกกับการพิถัพิถันในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะการที่เราสามารถสั่งให้แล่เนื้อ หนาบางได้ตามใจเรา + การบริการของพนักงานที่ผมว่าทำได้ดีกว่าหลาย ๆ ร้านในระดับราคาเท่านี้ + เตา Teflon ที่หากินที่ไหนไม่ได้ โอว ต่อไปถ้ามีใครถามว่า "เฮ้ย ไปกินบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างราคาประมาณ 500 - 600 บาทที่ไหนดี?" ผมก็คงจะตอบไม่ยากล่ะครับ ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าช่วงหลัง ๆ นี่ตอบยากเหลือเกินกับคำถามนี้ เพราะหลาย ๆ ร้านมันเหมือนกันไปซะหมด


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...