ปูดำ ร้านอาหารทะเล อำเภอเมือง กระบี่
Poo Dam - Thai Seafood Restaurant at Krabi, Thailand
Overall Score 5/10
Taste 2.5/5
Ambiance 3/5
Service 4/5
Value 3/5
Poo Dam - Seafood Restaurant on BumRes.com
สำหรับร้านปูดำแห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เพื่อนชาวคนกระบี่ คนท้องถิ่นของผมจัดพวกผมมาลองกัน โจทย์ในมื้อนี้มีอยู่ว่า "ขอร้านอาหารทะเลแบบเน้นอาหารทะเลสด ๆ ปิ้ง ๆ เผา ๆ เท่าไรเท่ากัน" จึงเป็นที่มาของร้านนี้ครับ ร้านนี้สาเหตุที่ตั้งชื่อร้านว่าปูดำไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะว่าทางร้านมีอนุสาวรีย์ปูดำอยู่ใกล้ ๆ กับร้าน หรือว่าตั้งเพราะว่าปูดำ(ปูเนื้อ, ปูทะเล) เป็นอาหารเด่นของทางร้าน ซึ่งถ้าให้เดาผมว่าน่าจะเป็นแบบแรก และผมเพิ่งดันมารู้ว่ามีอนุสาวรีย์ปูดำอยู่ ไม่งั้นคงได้ไปถ่ายรูปด้วยหน่อยแล้ว ร้านนี้ก็เป็นอีกร้านที่ผมไม่รู้เลยว่าตั้งอยู่ตรงไหน รู้แค่ว่าอยู่ในอำเภอเมืองกระบี่ การเดินทางก็ดูแผนที่ที่ Mark ไว้ในเว็บเอาละกันนะครับ
ร้านนี้เท่าที่สังเกตดูคือจะเป็นร้านที่เน้นลูกค้าฝรั่งมากกว่าร้านอื่น ๆ ในกระบี่ที่กินมา (อาจจะเพราะทำเล อยู่กลางเมืองรึเปล่า?) และก็เป็นร้านที่ค่อนข้าง Showoff เล็กน้อยคือมีอาหารทะเลสด ๆ ตัวใหญ่ ๆ เป้ง ๆ มากมายวางอยู่หน้าร้าน แล้วก็มีการเผา, การปิ้งอาหารทะเลโชว์กันสด ๆ ควันโขมง ๆ หน้าร้านเลย และร้านเป็นร้านขนาดใหญ่โต จุลูกค้าน่าจะหลักร้อยคนอัพ ตัวร้านมีแต่ที่นั่งแบบ open air และเนื่องจากตัวร้านอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างจะในเมือง + มีเตาเผาอาหารทะเลค่อนข้างเยอะ รึเปล่าไม่ทราบ ระหว่างที่นั่ง ๆ กินผมรู้สึกว่ามันร้อน, เหนียวตัวเหลือเกิน
อาหารของร้านนี้ก็ตามที่บอกครับ จะเน้นอาหารทะเลแบบอลังการ ทำกันแบบง่าย ๆ แต่เน้นความหลากหลาย และขนาดของสัตว์ทะเลเป็นหลัก อย่างตอนที่ผมไปนี่รู้สึกว่าอยากกินอะไรทางร้าน ปูดำ - กระบี่ ก็มีให้เลือกหมด ไม่ว่าจะ กุ้ง, หอย, ปู, ปลา ชนิดใด ๆ ราคาอาหารของพวก Seafood พวกนี้ก็เช่นเคยตามสไตล์ร้านอาหารทะเลทั่วไปคือไม่เขียนราคาไว้ที่เมนูแต่จะเป็นราคาตามน้ำหนักแทน ซึ่งจากราคาที่เช็คบิลออกมา ผมรู้สึกว่าราคาอาหารของร้านนี้นี่ไม่ได้ถูกเลยนะเนี่ย บางทีอาจจะแพงเท่า ๆ กับร้านที่กรุงเทพ หรือพัทยา หรือหัวหินได้สบาย ๆ เลย อืม ก็อย่างว่าครับ ดูเป็นร้านที่เน้นลูกค้าฝรั่งและลูกค้าคนไทยอย่างละครึ่ง ๆ ขายแพงหน่อยก็คงขายได้สบาย ส่วนพวกอาหารที่ไม่ใช่ Seafood ทางร้านนี้ก็มีและผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างถูกคืออย่างละแค่ 100 - 200 บาทเป็นหลัก คือเหมือนเป็นอาหารลูกเมียน้อยรึเปล่าไม่ทราบ เพราะราคามันช่างแตกต่างจริง ๆ (การบริการของร้านนี้ดีครับ อาจจะเพราะพนักงานเยอะ มาเก็บจาน, เปลี่ยนจานให้แทบจะทุกครั้งที่เริ่มเต็ม, เติมเบียร์ให้ตลอด และก็รู้เรื่องอาหารของทางร้านดี)
มื้อนี้ไม่มีอาหารจานไหนโดดเด่นเป็นพิเศษ เลยขอไล่เรียงไปตามลำดับของอาหารที่ได้รับละกันนะครับ อย่างแรกที่ได้เป็น กุ้งลายเสือเผา (Grilled Tiger Prawn) 1.5 KG 1,950 บาท จานนี้ไม่รู้ราคาตอนกินหรอกครับ มารู้ตอนหลังก็แอบช็อคเหมือนกันเพราะมันคือโลละ 1,300 บาทเลย แพงกว่ากุ้งแม่น้ำ และก็แพงกว่ากระชังขายกุ้งลายเสือแบบเดียวกันนี่แต่ตัวใหญ่กว่าสัก 30% ที่ผมเพิ่งไปกินที่ภูเก็ตมา (พวกสัตว์มีเปลือก Arthropod, Crustacean นี่ยิ่งตัวใหญ่สัดส่วนเนื้อต่อเปลือกก็จะยิ่งมากขึ้น ว่ามั้ยครับ) ส่วนความสดก็สดกำลังดี แต่เหมือนทางร้านจะเผาไม่ค่อยดีครับ หัวกุ้ง Overcook ไป และก็น้ำจิ้มทะเลของร้านนี้ก็ไม่ค่อยแซบเท่าไรด้วย ก็เลยไม่ค่อยประทับใจเท่าไรกับกุ้งแสนแพงจำนวนมากจานนี้
อาหารอย่างที่ 2 เป็น ปลาหมึกย่าง (Grilled Squid) 7.5 ขีด - 338 บาท จานนี้ก็ไม่ค่อยประทับใจอีกแล้วครับ ปลาหมึกมันไม่ค่อยมีไข่เท่าไร แล้วก็ย่างมาเกรียมไป เนื้อมันแข็งไปหมดแล้ว และยิ่งกินกับน้ำจิ้มที่ไม่ค่อยแซบของทางร้าน ปูดำ - กระบี่ แล้วอีกยิ่งไม่อร่อยไปใหญ่เลย เสียดายตังค์ครับ
อย่างที่ 3 เป็น กุ้งอบวุ้นเส้น (Baked Prawn in Glass Noodles) - 250 บาท จานนี้เป็นจานเดียวในมื้อที่มีราคากำกับไว้ในเมนู ซึ่งเป็นราคาที่ไม่แพงเลยว่ามั้ยครับ? รสชาติจานนี้ก็อร่อยดี วุ้นเส้นอบมาแบบไม่แห้งจนติดกันเป็นก้อนและซอสก็ปรุงรสมาดีเข้มข้นดี ส่วนกุ้งก็เป็นกุ้งตัวเล็ก ๆ ตามราคาอาหารที่สดดี กินเข้ากันกับวุ้นเส้นเป็นอย่างดี
อย่างที่ 4 เป็น หอยหวานเผา (Grilled Sweet Clam) จริง ๆ แล้วหอยหวานนี่คนใต้จะเรียกว่าหอยตลับ แล้วหอยตลับจะเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ผมจำไม่ได้ล่ะ ตอนยกมาเสิร์ฟก็แอบงง ๆ เหมือนกันดีที่เพื่อนชาวกระบี่ผมบอกไว้ เจ้าหอยหวานนี่ก็อร่อยดีครับ ตัวไม่ใหญ่มาก แต่แบบสด และย่างมากำลังดี ไม่ได้ย่างมาจนแห้งเกรียม เนื้อหอยแต่ละตัวไม่ต้องลำบากในการดึงออกมาจนครบวงเท่าไร แต่ก็นะ อีกล่ะ น้ำจิ้มไม่ค่อยแซบเท่าไรรสชาติเลย Down ลงไปหน่อย
อย่างที่ 5 เป็นหอยแมลงภู่ลวก (Steamed mussel) จานนี้ไม่แน่ใจว่าเป็นหอยไทยหรือหอยเทศ เพราะว่าหอยมันตัวค่อนข้างใหญ่ จานนี้ลวกมาไม่ค่อยดี หรือว่าทางร้านลวกทิ้งเอาไว้แล้วเอามาเสิร์ฟก็ไม่ทราบครับ มันมาแบบเย็น ๆ กินไปแต่ละคำนี่ไม่สบอารมณ์เลย ยังดีที่ได้ความใหญ่ของหอย, ความสดของหอย และการดึงเอาเจ้าเศษเนื้อที่กินไม่ได้ออกไปในทุกชิ้น ซึ่งช่วยทำให้รู้สึกดีกับจานนี้ขึ้นมาหน่อย
อาหารอย่างที่ 6 เป็น ปลาเก๋าทอดสามรส (Deep Fried Garoupa with Three Flavor Sauce) - 1 KG 500 บาท จานนี้บอกตรง ๆ ว่าเห็นปลาเก๋าแล้วยังไง ๆ ก็ไม่น่าหนักถึงกิโล อย่างมากก็ 7-8 ขีด ผมล่ะอยากให้พวกร้านอาหารที่แบบไม่เขียนราคามาก่อน ให้เราไปชั่งน้ำหนักก่อนจะกินกันทุกร้านจริง ๆ ผมเห็นร้านที่ทำแบบนี้คือให้ชั่งก่อนกินนี่มีแค่ร้านเดียวเองมั้ง คือร้าน นิวคอสโม - สุขุมวิท 26 ร้านโปรดของผม เจ้าปลาเก๋านี่ก็ไม่ค่อยประทับใจอีกล่ะครับ ทอดมายังไม่เกรียมผม ยังไม่กรอบพอ รสชาติของซอสสามรสมันก็พิกลพิการ ออกแนวเป็นซอสสองรสมากกว่า แต่ยังดีที่ได้ความสดของปลามาช่วยครับก็เลยพอกล้อมแกล้มกินกันไปจนหมด
อาหารอย่างที่ 7 เป็น ปลากะพงแดงนึ่งมะนาว (Steamed Red Snapper in Spicy and Sour Sauce) - 1.08 KG 540 บาท จานนี้ถ้าคิดว่าเป็นปลากระพงแดงก็เรียกได้ว่าถูกมากครับ เพราะที่กรุงเทพส่วนใหญ่ผมเห็นขายกันโลละเกือบพันตามร้านอาหาร และจานนี้ทำมาได้ดีกว่าจานปลาเก๋าครับ ปลานึ่งมาจนสุกทั่วถึงกันหมด และตัวซอสมะนาวก็มาแบบ เปรี้ยว ๆ แซ่บ ๆ โดนใจดี ไม่ lame lame อย่างซอสน้ำจิ้มทะเลกับซอสสามรสที่เจอมาก่อนหน้านี้
อาหารอย่างที่ 8 เป็นอาหาร 2 อย่างที่มาในจานเดียวคือ ปูม้านึ่ง (Steamed Blue Crab) - 8.4 ขีด 504 บาท และ ปูดำนึ่ง (Steamed Black Crab) - 1.08 KG 648 บาท จานนี้ผิดหวังครับ คือเวลาผมสั่งพวกปูตามร้านอาหารทะเลนี่ ทุกครั้งจะต้องคาดหวังว่าจะได้ปูที่ใหญ่ คุ้มค่าที่อุตส่าห์เสียเงินมากินที่ร้านแทนที่จะไปซื้อที่ Supermarket มาทำเอง (ส่วนใหญ่มีแต่ตัวไม่ใหญ่) แต่ปู 2 ชนิดที่ได้ในจานนี้มาแบบ เล็กมากครับ เล็กแบบเป็นปูเกรด C ก็ว่าได้ เห็นทีแรกก็เซ็งแล้วแต่ยังดีที่ความสดของเนื้อปู และการนึ่งที่ทำมาได้หมดจด ไม่รู้จะไปติอะไรมาช่วย ก็เลยทำให้ทน ๆ กินก้ามเล็ก ๆ , กรรเชียงเล็ก ๆ เหล่านี้ไปจนหมด (รู้สึกร้านนี้จะทำพวกนึ่ง ๆ ดี)
อาหารอย่างที่ 9 เป็น หอยชักตีนลวก อันนี้ก็สมบูรณ์แบบครับ หอยชักตีนตัวค่อนข้างใหญ่ ที่ถูกลวกมาร้อน ๆ และม้วนเนื้อออกมากินได้จนถึงไส้ในสุดแทบจะทุกตัว จานนี้กินเพลินมาก ๆ ครับ อาหารอย่างที่ 10 เป็น หอยแครงลวก (Steamed Blanched Clams) (จำราคาไม่ได้) จานนี้ผมเห็นตั้งแต่หน้าร้านแล้วว่ายังไงก็ต้องสั่ง เพราะขนาดของหอยแครงมันแบบใหญ่มาก ใหญ่กว่าหอยแครงไทยทุกที่ที่ผมเคยเห็นมา ใหญ่ประมาณ Akagai หรือหอยแครงญ๊่ปุ่นสบาย ๆ คือหอยตัวนึงขนาดเกือบ ๆ เท่ากำปั้นผมอ่ะครับ แต่น่าเสียดายที่ทางร้านอุตส่าห์มี วัตถุดิบชั้นดีขนาดนี้ แต่มาเจอกับฝีมือการเผา, การย่างอันเฮงซวย ของมือเผาที่น่าจะมีอยู่คนเดียวของร้านเข้าไป มันเลยกลายเป็นหอยแครงแห้ง ๆ น้ำระเหยออกมา ไม่เหลือเลือดหอย ให้กิน เซ็งครับ
อาหารอย่างที่ 10 เป็น ปลาสำลีทอด (Deep Fried Cotton Fish) - 1.27 KG 762 บาท จานนี้ก็เป็นอีกจานที่เว่อร์แน่นอนเพราะปลาสำลีตัวเล็กนิดเดียวจะหนัก 1.7 กิโลได้ยังไง และแบบราคาแพงมากกกก ปลาสำลีแดดเดียวที่ผมกินบ่อย ๆ ที่กรุงเทพ ขนาดเท่านี้อย่างมากก็แค่ 400 - 500 บาท แต่นี่เจอปลาสำลีที่คิดขนาดเกินจริง + การทอดที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ละคำที่กินเข้าไปนี่ไม่ชอบเลยครับ รู้สึกเสียดายของ ทำมาได้ชุ่ยมาก ๆ
อาหารอย่างสุดท้ายเป็น หอยตลับต้ม (Shell in Hot Soup) - 5.2 ขีด 156 บาท อันนี้ปิดท้ายได้อย่างลงตัวดีครับ ตัวน้ำซุปที่ต้มหอยมา ไม่รู้ว่าได้ความอร่อยจากหอย หรือว่าเป็นน้ำ Stock อยู่แล้ว มันเป็นน้ำซุปที่กลมกล่อม รสชาติดีมาก คือเอาไปทำเป็นน้ำซุปบะหมี่, ก๋วยเตี๋ยวได้สบาย ๆ เลย ตัวหอยตลับนั้นก็ขนาดมาตรฐาน และก็ต้มและลวกมาดี แต่ละคำที่กินเลยเจอแต่หอยเนื้อนุ่ม ๆ พร้อมกับน้ำซุปอร่อย ๆ เสมอ
สรุป ค่าเสียหายมื้อนี้ 8203 บาท มีเบียร์ 2 Tower มั้ง รวม ๆ แล้วก็คือคนละประมาณ 900 บาทครับ ร้านปูดำ - กระบี่ นี่ผมว่าแผนกปิ้ง, ย่าง, เผา ของพวกเขาต้องปรับปรุงหน่อยล่ะ คือผมมั่นใจว่าตัววัตถุดิบของเขาสดและดีแน่นอน แต่แบบเจอฝีมือการทำอาหารอันเฮงซวยเข้าไปของดี ๆ ก็กลายเป็นของไม่อร่อยแบบนี้ได้ ทำไมผมถึงแน่ใจ? เพราะพวกจานลวก, นึ่ง, ต้ม ทุกจาน มันอร่อยกว่าแบบชัดเจนยังไงล่ะครับ และที่สำคัญอีกอย่าง เป็นไปได้ร้านนี้ถ้าผมมาคราวหน้า ผมจะไปชั่งน้ำหนักอาหารเองก่อนจะให้ไปปรุง!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment