คั่วกลิ้ง ผักสด ร้านอาหารไทย อาหารใต้ ทองหล่อ ซอย 5
Kuakling Puksod - Southern Thai Restaurant, Thonglor soi 5, Bangkok
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
Kuakling + Puksod - Southern Thai Restaurant on BumRes.com (for more pictures and menu)
ท่ามกลางร้านอาหารญี่ปุ่นและอาหารตะวันตกมากมายในย่านทองหล่อ ย่านที่มีร้านอาหารไทยแบบนับร้านได้ (ลองนั่งนับคร่าว ๆ ในใจน่าจะมีไม่ถึง 10 ร้าน) ก็ยังมีร้านอาหารไทยดี ๆ ที่เปิดมาได้ 2 ปีแล้ว และเป็นร้านที่ผมขับรถผ่านบ่อยเหลือเกินแต่ไม่ได้กินสักทีเพราะไม่ค่อยมีที่จอดรถนามว่า คั่วกลิ้ง + ผักสด อยู่ ร้านนี้ถ้าขับผ่านแบบไม่สนใจอะไรมาก (แบบผม) ก็คงคิดว่าเป็นร้านอาหารแบบขายอาหารตามสั่ง, ร้านบ้าน ๆ ขายอาหารจานเดียวจานละไม่ถึง 100 บาทอะไรประมาณนั้นเพราะหน้าร้านและชื่อร้านช่างแสดงความเป็นอาหารแบบบ้าน ๆ เหลือเกิน แต่จริง ๆ แล้วร้าน คั่วกลิ้ง + ผักสด แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นร้านระดับภัตตาคารเลยก็ไม่ผิดนักเพราะว่าภายในร้านตกแต่งสวยงามมาก, พนักงานก็บริการได้มาตรฐานร้านอาหารดี ๆ และอาหารของทางร้านก็ไม่ใช่อาหารแบบบ้าน ๆ ตามสั่ง, จานเดียวแบบที่ผมเข้าใจตอนแรกแต่อย่างใด
ตามที่เขียนไว้ข้างต้นว่าปัญหาอย่างนึงที่ชัดเจนและโดดเด่นของร้านนี้คือ "ที่จอดรถ" ตัวผมเคยคิดจะแวะกินร้านนี้อย่างต่ำ ๆ ก็ 3-4 ทีครั้งตอนขับรถหาร้านกินในทองหล่อ แต่ก็เป็นอันต้องข้ามไปเพราะไม่มีที่จอดรถ จากการถาม ๆ เจ้าของร้านก็ได้ความว่า .. ไม่ได้ความว่าอะไรทั้งนั้นครับ ทางร้านไม่มีที่จอดรถของตัวเองต้องจอดแบบตามมีตามเกิดริมถนนเอาเท่านั้น อ้อจริง ๆ ทางร้านมี solution อยู่อย่างนึงนั่นคือทางร้านมีบริการ Delivery ส่งทั่วกรุงเทพครับซึ่งจากที่สอบถามมาก็ได้ความว่า.. สัดส่วนของคนมากินที่ร้าน : คนสั่ง Delivery นั้นเป็นสัดส่วน 70 : 30 เลยทีเดียว ซึ่งตัวเลขคงไม่สูงขนาดนี้ถ้าร้านมีที่จอดรถสะดวก ๆ ละมั้ง (ฮา)
บรรยากาศของร้านคั่วกลิ้ง + ผักสด นั้นตามที่เขียนไว้ข้างต้นว่ารูปลักษณ์ภายนอกอาจจะหลอกตาได้ คือพอเราเดินผ่านหน้าร้านที่ดัดแปลงเป็นครัว ก็จะเข้าไปในส่วนห้องแอร์ที่ตกแต่งค่อนข้างอบอุ่นและสวยงาม เดินเลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นห้องเล็ก ๆ กึ่ง ๆ ห้องส่วนตัว และถ้าออกไปอีกหน่อยก็จะเป็นโต๊ะอาหารแบบ Outdoor หรือ Al fresco dining คือเรียกได้ว่าร้านเล็ก ๆ แบบนี้แต่มีบรรยากาศให้เลือกครบครันเหมือนร้านใหญ่ ๆ เลยก็ว่าได้ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้พบเจอกับร้านบ้าน ๆ แบบนี้คือ การบริการของทางร้านจัดได้ว่าค่อนข้างดีเลย พนักงานมารยาทเรียบร้อย พูดจาดี และมีพนักงานค่อนข้างเพียงพอ (ค่อนไปทางเหลือเฟือ) ต่อปริมาณลูกค้า และอาหารของทางร้านนี้ก็ถือได้ว่ารวดเร็วดีด้วย ตอนผมไป เป็นเที่ยงวันธรรมดามีลูกค้า Occupy อยู่สัก 70% ของร้าน แต่ว่าอาหารที่สั่งไป 6 อย่างก็รอไม่นานเลย เรียกได้ว่าเจ้าของร้านจัดระบบ, อบรมพนักงานได้ดีทีเดียว
มาเข้ากันที่เรื่องอาหาร อาหารของร้าน คั่วกลิ้ง + ผักสด นี้จากชื่อก็น่าจะพอเดาได้ว่าเป็นอาหารไทยใช่มั้ยครับ ก็ถูกสักครึ่งนึง เพราะอาหารจริง ๆ ของร้านนี้นั้นเป็นอาหารใต้ กับอาหารกลางอย่างละครึ่ง ๆ โดยสูตรอาหารของร้านนี้ได้รับมาจากคุณย่าของเจ้าของร้านคนปัจจุบัน หรือเป็นสูตรที่ผ่านการกลั่นกรอง ผ่านการทำและชิมกันมา 3 ชั่วรุ่นแล้ว อาหารของร้านนี้มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะตามประสาร้านดี ๆ ที่เน้นเมนูน้อยแต่คับคั่งด้วยคุณภาพดีกว่ามีเมนูเยอะแยะมากมายแต่ทำอะไรมาก็ห่วยแตกไปหมด (ร้านเมนูเยอะ ๆ ครับ เมื่อไรจะตระหนักกันสักทีครับ -*-) ราคาอาหารนั้นผมเห็นในเมนูแอบแพงกว่าที่คิดเอาไว้ (เล็กน้อย) คืออยู่ในช่วง 100 - 200 บาท และทางร้านจะมีเมนูพิเศษที่แบบเอาเนื้อปูมาทำโน่นทำนี่ (คนใต้น่าจะใช้เนื้อปูทำอาหารเยอะนะจริง ๆ แล้ว) ที่ทุกอย่าง 350 บาทเข้าไปอีก โอ้ว เห็นราคาตอนแรกแอบแปลกใจ แต่ก็ลอง ๆ สั่งไปครับ และความแปลกใจก็มลายหายไปในภายหลังเมื่อผมได้เห็นอาหารแต่ละจาน
อาหารอย่างแรกที่ได้เป็นอาหารโปรดของผมกับ เนื้อปูผัดดอกขจร (Fried crab meat with dok-ka-john) - 350 บาท คือผัดดอกขจรกับอะไรก็ตามนี่ผมเพิ่งมีโอกาสได้กินสัก 2-3 ปีมานี้เองที่ร้านครัวอัปษร - สามเสน เป็นที่แรก พอหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ชอบเจ้าเมนูนี้ตลอดและสั่งทีไรก็ไม่ค่อยจะผิดหวังเท่าไร แต่กับดอกขจรที่เอามาผัดกับไข่และเนื้อปูนี่เพิ่งเคยกินที่ร้าน คั่วกลิ้ง + ผักสด แห่งนี้เป็นครั้งแรกนี่แหละครับ และเป็นครั้งแรกที่ทำให้ประทับใจสุด ๆ ด้วยเพราะว่ารสชาติมันกลมกล่อมอร่อยมาก ๆ ทำมาดีจริง ๆ น่าจะดีพอ ๆ กับร้านครัวอัปษรเลยในเรื่องรสชาติซอสและการผัด แต่ร้านนี้ชนะไปด้วยเนื้อปูครับ เพราะแบบเนื้อปูมาก้อนใหญ่มาก เป็นดุ้น ๆ ตัน ๆ เลยและไม่ได้ให้มาเป็นวิญญาณ ให้มาเป็นกองทัพเนื้อปูเลยก็ไม่ผิดนัก และผมก็เพิ่งรู้ว่าเนื้อปู + ดอกขจร + ไข่ มันคืออะไรที่ลงตัวจริง ๆ
อาหารอย่างที่ 2 เป็นอาหารชื่อร้าน คั่วกลิ้งหมูสับ (Khua-kling with minced pork) - 120 บาท ซึ่งตามหลักมันควรจะอร่อยแบบโดดเด่นไม่งั้นคงไม่เอาไปตั้งเป็นชื่อร้านให้มัวหมองโดยเปล่าประโยชน์ว่ามั้ยครับ ซึ่งรสชาติ ผมกับเพื่อนก็ลงความเห็นว่าทำได้ดี เผ็ด ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ กำลังดี แต่ไม่รู้ทำไม มันรู้สึกว่าน่าจะโดนได้มากกว่านี้ มันอาจจะแห้งไปนิด, หมูยังไม่ค่อยมันพอล่ะมั้งถ้าให้ผมเดา แต่เอาจริง ๆ ก็เป็นอาหารที่กินตัดกับอาหารอย่างอื่นที่เป็นน้ำ ๆ ดีเหมือนกันนะครับ (หรือทางร้านจงใจทำให้แห้ง ๆ หน่อยเพราะเหตุนี้?)
อาหารอย่างที่ 3 เป็น ขนมจีนน้ำยาปู (Thai vermicelli with crab soup) - 350 บาท เป็นอาหารอีกจานที่เกิดมาก็เพิ่งเคยกินอีกเช่นกัน ใครจะไปคิดว่าจะมีคนทำน้ำยาปูแบบใส่เนื้อปูมาเป็นดุ้น หลายดุ้น แบบนี้ จานนี้รสชาติดีครับ เส้นขนมจีนกับผักทุกอย่างสดไปหมด น่าจะทำกันใหม่ ๆ วันต่อวันเลย ส่วนตัวน้ำยาก็ไม่มีอะไรจะต้องติรสชาติแบบไทยมาก ใต้มาก ชอบครับ
อาหารอย่างที่ 4 เป็น แกงเหลืองปลา (Yellow curry with fish) - 180 บาท อีกหนึ่งจานที่ทางร้านแนะนำมาว่าเป็นอาหารขายดี (จานนี้เพื่อนผมที่แนะนำร้านนี้มาก็บอกให้สั่งเช่นกัน) ซึ่งจานนี้รสชาติก็ดีครับ แต่ผมกลับคิดว่าน้ำยาปูมันอร่อยกว่านะ คือ 2 อย่างนี้จริง ๆ ก็เทียบกันไม่ค่อยได้ อันนึงน้ำข้น ๆ อีกอันน้ำใส อันนึงเผ็ด ๆ เค็ม ๆ อีกอัน เปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแกงนี้ก็เป็นแกงที่กินแล้วสะใจดีแท้ สะใจจากเนื้อปลาที่มาเป็นก้อนใหญ่ ๆ (น่าจะเป็นพุงปลา) มีเนื้อมีหนังสุด ๆ และกินกับข้าวกล้องชั้นดีของทางร้านลงตัวมาก ๆ
อาหารอย่างที่ 5 เป็น ไข่พะโล้ขาหมู (Pork leg with tofu and eggs) - 180 บาท จานนี้เจ้าของร้านบอกว่าทำไว้วันต่อวันหมดก็หมดเลยเพราะว่าจะต้องตุ๋นไว้, ต้มเอาไว้ ซึ่งพะโล้นี่ผมเห็นหน้าตาตอนแรกน่ากินมากครับ แต่กลายเป็นว่าจานนี้เป็นจานที่ชอบน้อยที่สุดในมื้อเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ส่วนนึงน่าจะเพราะน้ำพะโล้รสชาติยังไม่ค่อยโดนเท่าไร, ขาหมูก็มาแบบเป็นส่วนเนื้อ ไม่ค่อยมีส่วนเนื้อติดมัน และก็ไข่ก็มาแบบสุก ๆ และเหมือนน้ำซุป, ซอส จะยังไม่ค่อยเข้าเนื้อไข่ขาวสักเท่าไรด้วย (หรือเพราะผมกินไข่ออนเซ็นในราเมนมากไปเนี่ย ฮ่า ๆ)
และอาหารอย่างสุดท้าย กุ้งมะขาม (Deep fried prawn with tamarind sauce) - 350 บาท ก็เป็นจานสุดท้ายที่ปิดฉากได้อย่าง Happy ending สุด ๆ แม้ว่ากระเพาะผมจะเริ่มดึงประตูปิดไม่รับอาหารตั้งแต่ก่อนจานนี้มาแล้ว แต่พอได้ชิมคำแรกเท่านั้นล่ะมันก็เปิดประตูอ้าใหม่เต็มที่เลย กุ้งมะขามนี่อร่อยมาก ๆ ครับ กุ้งสด (ร้านนี้เท่าที่กินดู ของสดหมดเลย) ตัวใหญ๋กำลังดี ทอดมาแบบใช้แป้งไม่เยอะเท่าไร เพราะกุ้งตัวใหญ่อยู่แล้ว แล้วก็กินกับซอสมะขามที่รสชาติหวาน ๆ โอย กินเปล่า ๆ เพลิน ๆ ไม่ต้องกินกับข้าวหรืออะไรเลยล่ะครับ เยี่ยมดีแท้
ร้านคั่วกลิ้ง + ผักสด นี่พอกินอาหารร้านนี้เสร็จผมก็เข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมถึง...
1. รถถึงจอดเต็มหน้าร้านแทบทุกครั้งที่ผมขับผ่าน
2. ร้านชื่อบ้าน ๆ แบบนี้ทำไมถึงอยู่รอดในย่านสมรภูมิอันแสนดุเดือดของร้านอาหารแบบย่านทองหล่อมาได้นานขนาดนี้
3. ทำไมเพื่อนผมบางคนถึงมาเช็คอินร้านนี้ซ้ำกันหลายครั้ง
คำตอบทั้งหมดไขกระจ่างแล้วหลังจากกินมื้อนี้เสร็จ อืม ผมอาจจะเขียนดูเว่อร์ไป แต่ผมก็เป็นงี้ทุกทีเวลาได้กินอาหารอร่อย ๆ ทุกท่านเป็นกันมั้ยล่ะครับ?
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment