Fire & Dine - Modern French (European) Pub & Restaurant at Asiatique, Bangkok
ไฟร์ แอนด์ ไดน์ - ร้านอาหารฝรั่งเศส อาหารยุโรป เอเชียติค เบียร์สด ดนตรีสด
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 4.5/5
Value 4.5/5
Fire & Dine - Modern European (French) Cuisine on BumRes.com (For more pictures and menu)
ร้าน Fire & Dine ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารแนวเน้นทั้งของกินและเครื่องดื่ม, เน้นทั้งมากินจริงจังหรือจะมาสังสรรค์ก็ได้ ประจำห้าง Asiatique ซึ่งอยู่ติดกับร้าน Flann O'Brien's ที่ผมเพิ่งได้มากินเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่แบบผมว่ามันใหญ่โตดีนะ เหมือนกับว่าแต่ละ Unit ของห้าง Asiatique นี่เค้าจะทำเป็น size ใหญ่ ๆ ประมาณนี้แทบจะทั้งหมดเลยมั้งกับโซนร้านอาหาร ก็เลยทำให้แต่ละร้านในย่านโกดัง 10 นี่แบบ ใหญ่โต โอ่โถ่ง สมเป็นร้านอาหารจริง ๆ ไม่เหมือนกับบางห้างที่แบบแต่ละ Unit เล็กจนน่าหงุดหงิด
บรรยากาศของร้าน Fire & Dine นี่ก็จะเป็นแนว Modern ๆ , หรู ๆ , ยุโรป หน่อย ๆ มีทั้งส่วนที่เป็น indoor และ al fresco dining มีทั้งบาร์ และโต๊ะอาหาร มีทั้งโต๊ะธรรมดา และโต๊ะสูง ๆ นั่งห้อยขาเล็กน้อย คือแบบ ครบครันจริงอะไรจริง กับที่นั่งของร้าน Fire & Dine นี้ แน่นอนครับ วันที่ผมไปเป็นช่วงอากาศกำลังชิล ๆ พอดี (อ่านว่า ชิลสำหรับเมืองไทย แต่มันคืออากาศฤดูร้อนสำหรับประเทศส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร) ส่วนการบริการของร้านนี้ ดูเหมือนจะ train พนักงานมาดีมากครับ ทั้งการแต่งตัว, การพูดจา, การดูแลเอาใจใส่ลูกค้า ทำได้ดีทีเดียว ไม่ถึงกับดีจนประทับใจ แต่เมื่อคิดว่าเป็นร้านระดับกลาง ๆ ค่อนไปทางบนตาม positioning ของร้านนี้แล้ว ก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว
เข้ากันถึงเรื่องเครื่องดื่มของร้านนี้ก่อน เนื่องจากว่าร้าน Fire & Dine นี้เค้าก็จัดได้ว่าค่อนข้างเน้นเครื่องดื่มจริงจังกว่าหลาย ๆ ร้านที่ผมเคยเจอมา (ร้านที่เปิดใหม่ช่วงหลัง ๆ ก็รู้สึกจะเป็นแนวนี้เยอะนะครับ เน้น Mixology เคียงข้างไปกับ Gastronomy ด้วย (ศัพท์พวกนี้ผมมั่วมาเองนะครับ -*-)) ร้านนี้ตัวไวน์จะมีให้เลือกค่อนข้างเยอะมาก เยอะจนไม่มี list อยู่ในเมนู (หรือผมไม่ได้ขอ wine list ก็ไม่ทราบ) แต่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะงง สั่งไม่ถูก เพราะว่าทางร้านนี้มี sommelier ประจำร้าน ซึ่งสามารถแนะนำไวน์กับเราได้ (ร้านที่มี sommelier ประจำร้านนี่.. น่าจะมีน้อยมากในไทยตอนนี้นะครับ) ส่วนพวก เครื่องดื่มอื่น ๆ เช่นพวก whiskey, bourbon, vodka หรืออะไรทั้งหลายก็มีให้เลือกเยอะจนตาลาย เพราะบาร์ของร้านนี้เค้าก็ค่อนข้างอลังการอยู่
แต่ในมื้อนี้ผมได้ Cocktail มาดื่ม 3 แก้วแทนครับ เนื่องจากว่าทางร้านดูค่อนข้างจะภูมิใจนำเสนอมากกว่าเครื่องดื่มใด ๆ และพอดีวันที่ผมไปเป็นวันจันทร์ซึ่งเป็นวันหยุดของตัว sommelier พอดี Cocktail แก้วแรกนั้นชื่อ Fire & Dine จากชื่อก็พอจะเดาได้แล้วใช่มั้ยครับว่าถ้าไม่เจ๋งจริง ไม่อร่อยจริงก็คงไม่เอาชื่อร้านมาตั้งให้เสื่อมเสียไปเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ซึ่งก็เป็นไปตามนั้นจริง ๆ ครับเพราะแม้ว่าหน้าตาเจ้าเครื่องดื่มนี้จะดูเบา ๆ ดื่มง่าย ๆ กับน้ำสีชมพูอ่อน ๆ แต่ด้วยเหล้าที่ผสมมา 5 ชนิด (gin, rum vodka, malibu, southern comort) แล้วมันไม่ใช่อะไรที่อ่อนเลย แต่แม้ว่าจะดื่มไปอึกแรกแล้วก็ต้องอุท่านว่า "แร้ง" ก็ตาม มันก็เป็นรสชาติแรง ๆ ที่อร่อยลงตัวดี ส่วนแก้วที่ 2 นั้นเป็น Wake up แก้วนี้ก็เป็นอะไรที่รสชาติค่อนข้างจะตรงกลับชื่อครับ คือจะเบา ๆ ลงมาหน่อย กินเพื่อปลุกให้เราตื่น อยากกินอาหารก็ได้ หรือจะให้ตื่นสร่างเมาก่อนกลับก็ดี รสชาติดีอีกเช่นกันครับแก้วนี้ ส่วนแก้วสุดท้ายนั้นชื่อ Chocolate I love you ที่เป็นส่วนผสมของ Amaretto และเหล้าอะไรสักอย่างที่ทางร้านไม่ยอมบอกว่ามันคืออะไร แก้วนี้ผมชอบน้อยที่สุดใน 3 แก้วที่ได้มา แต่ก็ถือว่ารสชาติดีใช้ได้ ดื่มเพลิน ๆ เช่นเดียวกัน
เข้าถึงตัวอาหารของร้านนี้กันบ้าง อาหารของร้าน Fire & Dine นี้จะเป็นอาหารแนวยุโรป ๆ หน่อย ทางเชฟใหญ่ของร้านนั้นนิยามอาหารของตัวเองว่าเป็น Modern French Cuisine ที่จะเน้นความ Minimalism ให้มากที่สุด คือเน้นวัตถุดิบหลัก และใช้เครื่องปรุงให้น้อยที่สุด อาหารของร้านมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะเท่าไร ยิ่งเมื่อเทียบกับความหลากหลายของเครื่องดื่มด้วยแล้วยิ่งน้อยกว่ากันแบบเทียบกันไม่ได้ สิ่งนึงที่โดดเด่นออกมาเลยตอนที่ดู ๆ เมนูของทางร้านคือ ราคาอาหารเค้าจะไม่ค่อยแพงเท่าไรครับ (เมื่อเทียบกับร้านแนว ๆ เดียวกันนี้ กับความหรูของร้าน) คืออยู่ที่ช่วง 200 - 300 บาทเท่านั้น และยิ่งตัว pizza ที่แบบถาดละประมาณ 300 บาท อันนี้ก็ยิ่งโดดเด่นเข้าไปใหญ่อีก
อาหารอย่างแรกในมื้อนี้เป็น Hokkaido Scallop Truffle Oil and Ginger Sauce (หอยเชลล์ฮอกไกโดเสิร์ฟพร้อมซอสขิงและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลขาว - 280 บาท) appetizer เบา ๆ ที่เน้นความกินง่าย ไม่หนักท้องเท่าไร ที่มีเนื้อ hotate ที่แล่มาบาง ๆ (น่าจะเป็น hotate ตัวใหญ่ตัวนึง หรือไม่ก็ตัวเล็ก 2 ตัวแล่มาบาง ๆ) กินกับเห็ดชิตาเกะ และซอสอะไรสักอย่าง จานนี้ก็อร่อยดีครับ อร่อยแบบเบา ๆ หอยสด, เห็ดสด ทุกอย่างสดหมด คืออาหารแนวนี้ถ้าวัตถุดิบไม่ดีจริง เชฟก็คงไม่กล้าทำออกมาเพราะมันจะกลายเป็นอาหารห่วยแตกไปเลย
อาหารอย่างที่ 2 เริ่มหนักขึ้นมาหน่อยกับ Pasta with Ebiko Cream Sauce (เส้นพาสต้าผัดครีมซอสไข่กุ้ง - 260 บาท) ก็เป็นพาสต้าหน้าตาธรรมดา ๆ มีโดดเด่นกว่าชาวบ้านหน่อยก็ตรงที่มีกุ้งวางเรียงรายตรงขอบจานมาด้วย ตัวพาสต้านั้น อร่อยดีครับ ครีมมาแบบน้ำไม่เยิ้ม แต่ก็เหนียว ข้นคลั่ก เกาะติดมากับเส้นแบบแทบจะทุกอณูของเส้น ส่วนตัวไข่กุ้งก็ให้มาเยอะดี พอคลุก ๆ เส้นกับไข่กุ้งเข้าด้วยกันก็เป็นปริมาณที่เหมาะสมดี รสชาติจานนี้จะมาแบบ เผ็ดนิด ๆ creamy หน่อย ๆ ครับกินเพลินดีเหมือนกัน แต่ผมรู้สึกว่าเส้นมันน่าจะ al dante น่าจะทำมาได้ดีกว่านี้นิดนึง ส่วนตัวกุ้งที่ประดับจานมาก็ไม่อร่อยมากครับ เหมือนแบบมาช่วยเพิ่มความเป็นเนื้อหนังมังสาให้จานนี้เฉย ๆ
อาหารอย่างที่ 3 นั้นเป็น ปลาแซลมอนย่างเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น (Grilled Salmon Miso Glazed - 320 บาท) จานนี้คะแนนหน้าตาเอาไปเกือบเต็มเลยละกัน ทำมาได้สวยงามดีมาก แต่คะแนนรสชาตินั้นยังไม่ค่อยผ่านเท่าไร อย่างแรกคือ ปลายังไม่ค่อยสดดี และก็มาชิ้นเล็กไปหน่อย คือแบบไม่รู้เพราะผมคาดหวังกับ salmon fillet ที่มันควรจะชิ้นใหญ่ ๆ กว่านี้ อวบ ๆ กว่านี้ด้วยรึเปล่าก็ไม่ทราบ คือมันมายังไม่ค่อยสะใจเท่าไร ส่วนตัวผักที่มาเคียงคู่กันก็ไม่สดอีกเช่นเดียวกัน และเป็นผักแบบที่ไม่ได้ปรุงอะไรเลย เหมือนแค่เอาไปตุ้มมาแล้วก็เอามาหั่น ๆ วางบนจานและเสิร์ฟมาแค่นั้น ไม่เหมือนกับผักของร้านดี ๆ ที่มันจะแบบกินแล้วหวาน ๆ อร่อย ๆ นิ่ม ๆ สด ๆ อะไรแบบนั้น
อาหารจานสุดท้าย ปิดฉากลงได้อย่าง grand finale มากกับ Fire & Dine Wagyu Burger on Charcoal Bun (ไฟร์ แอนด์ ไดน์ แฮมเบอเกอร์เนื้อวากิว ขนมปังถ่าน - 320 บาท) คือเจ้าเบอร์เกอร์ดำนี่ผมเคยกินก่อนหน้านี้มาทีเดียวที่ร้าน Smith - สุขุมวิท 49 ซึ่งมื้อนั้นไม่ค่อยประทับใจเท่าไร แต่กับมื้อนี้นี่เรียกได้ว่าคนละเรื่อง หรือคนละโลกก็ว่าได้ครับ ทุกอย่างยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะตัว Bun ที่มาแบบนุ่ม ๆ ร้อน ๆ อร่อยโดยตัวมันเองโดยไม่ต้องไปกินกับอะไร | ตัว patty ที่แบบกินแล้วรู้เลยว่าใช้เนื้อวากิวจริง ใช้เนื้อดีจริง เพราะมันฉ่ำในปากมาก ๆ และยิ่งมีเบคอน กับชีสมาเพิ่มความอร่อย (อ่านว่าเพิ่มความอ้วน) เข้าไปอีก จานนี้เลยกลายเป็น Burger ที่ผมประทับใจมาก ๆ ในช่วงหลายเดือนมานี่เลย (ประทับใจกว่าที่ไปกินที่อเมริกามาเดือนที่แล้วทุกร้านเลยก็ว่าได้ครับ) แต่สิ่งนึงที่ยังไม่ค่อยโดดเด่นคือ Fries คือถ้าได้ fries เทพ ๆ แบบบางร้านที่ภูมิใจทำเป็น fries ขายจานละ 200 บาท++ อะไรแบบนั้น จานนี้จะเรียกได้ว่ามันคือนิพพานแห่งเบอร์เกอร์ก็เป็นได้เลยครับ
สรุป มื้อนี้กับร้าน Fire & Dine นี่ผมค่อนข้างประทับใจนะ อาหารทำมาได้ดีกว่าที่คิดทั้งเรื่องรสชาติ, หน้าตา และราคา | ตัวเครื่องดื่มก็แบบจะเยอะไปไหน จะหลากหลายไปไหน จะครบครันไปไหน และ cocktail ของร้านที่แบบดูจะภูมิใจเสนอก็ทำมาได้อร่อยจริงอะไรจริง เมื่อรวม ๆ ไปกับบรรยากาศและการบริการที่เกินจากค่า SD ของร้านส่วนใหญ่ในระดับนี้ (เกินมาทางด้านขวาของกราฟ) แล้วด้วย ร้านนี้ก็เลยไม่แปลกที่ทำไม วันที่ผมไปแม้จะเป็นวันจันทร์ ลูกค้าก็ยังคงคับคั่งมากกว่าร้านอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ กันทุกร้าน เสียดายที่มื้อนี้อิ่มก่อนที่จะได้ลอง pizza เพราะทางร้านโฆษณาเอาไว้เหมือนกันว่า pizza ของทางร้านนั้นเด็ดจริงอะไรจริง อืม คงต้องไปจัดรอบ 2 ล่ะครับร้านนี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment