El Osito - Spanish Restaurant and Tapas Bar at Mahatun Plaza, Bangkok
เอล โอซิโต้ ร้านอาหารสเปน ทาปาส มหาทุน พลาซ่า BTS เพลินจิต
Overall Score 6.5/10
Taste 3.5/5
Ambiance 3.5/5
Service 3/5
Value 3/5
El Osito - Spanish Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
ร้าน El Osito ร้านชื่อสเปนที่แปลว่า The Bear หรือ คุณหมี แห่งนี้ ก็เป็นร้านอาหารสเปน (แหงล่ะ) เปิดใหม่อยู่ตรงบริเวณตึกมหาทุนพลาซ่า ติดกับ BTS เพลินจิต เจ้าของร้านนี้เพื่อนผมบอกว่าเป็นเจ้าของคนเดียวกับร้านอาหารเม็กซิกันชื่อดัง (แต่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร) นามว่า La Monita ที่อยู่ติด ๆ กัน ถ้าเอาจริง ๆ ตัวผมเองก็ไม่เคยกินอาหารสเปนแบบร้านสเปนจริง ๆ จัง ๆ มาก่อน เคยกินแค่ Tapas ตามพวก Wine Bar ทั่ว ๆ ไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอาหารสเปนหน้าตาจริง ๆ นั้นเป็นแบบไหน แต่ถ้าให้เดามันก็คืออาหารยุโรปประเภทนึง ที่น่าจะมีกลิ่นอายของอาหารอิตาเลียน กับ เมดิเตอร์เรเนียน ปน ๆ กัน อะไรเทือกนั้น
ร้าน El Osito นี่ก็เป็นที่บรรยากาศค่อนข้างดีครับ ร้านโปร่ง โล่งสบาย มี 2 ชั้น ไม่ได้ซอยเป็นคอก ๆ แบบร้าน La Monita ที่อยู่ติดกัน ตัวร้านตกแต่งแนวดิบ ๆ หน่อยเล่นซีเมนต์เปลือยเป็นหลักและมีเอา prop มาตกแต่งอีกบ้างเล็กน้อย ซึ่งการตกแต่งง่าย ๆ แต่ดูดีแบบนี้ ก็เป็นอะไรที่น่าทำดีเหมือนกันนะครับ ลงทุนไม่เยอะ แต่ต้องใช้ความสามารถของมัณฑนากรแทน ร้านนี้ไม่รู้เนื่องด้วยเป็นร้านเปิดใหม่รึเปล่า (ไม่รู้กี่เดือน กี่วัน) การบริการสำหรับผมตัวผมแล้วก็เลยรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่เท่าที่ควร การบริการดูตก ๆ หล่น ๆ พนักงานอาจจะยังไม่เจนประสบการณ์นัก ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็น่าจะดีขึ้นไปตามลำดับ
อาหารของทางร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่อาหารเที่ยงกับอาหารเย็นนั้นเป็นคนละเรื่อง คนละเมนูกันเลย โดยตัวอาหารเที่ยงนั้นจะเป็น sandwiches และสลัด และของเบา ๆ เหมาะสำหรับกินเป็น brunch ส่วนมื้อเย็นนั้นก็จะเป็นพวก tapas , อาหารจานหลัก จานใหญ่ หรืออะไรที่เหมาะกับการกินหนัก ๆ จริงจังแทน ส่วนตัวเครื่องดื่มนั้น ร้านนี้จัดได้ว่ามีให้เลือกค่อนข้างเยอะ เบียร์สด, เบียร์นำเข้า, กาแฟเก๋ ๆ หรืออะไรต่าง ๆ นา ๆ มีหมด และสามารถสั่งได้ไม่ว่าจะเป็นมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นก็ตาม ร้านสไตล์ อาหารเที่ยง กับอาหารเย็น ที่เหมือนกลับตาลปัตรกันแบบนี้ ผมนึกออกอยู่ร้านเดียวก็คือร้าน Quince ที่เพิ่งไปกินมาและไม่ค่อยประทับใจเท่าไร
มื้อนี้เริ่มต้นกันด้วย อาหารหลักของผม Death Guy Ale - 220 บาท เบียร์นำเข้าขวดเล็ก ๆ ที่ราคาเท่ากับเบียร์ขวดใหญ่ซื้อซุปเปอร์บ้านเรา 4 ขวด (ฮ่วย แพงไปไหน!) ถ้าพูดถึงเบียร์ Ale บ้านเรา ก็เป็นเบียร์ที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมกันสักเท่าไร เมื่อเทียบกับเบียร์ Lager หรือเบียร์ดำก็ตาม ซึ่งโดยส่วนตัวผม ผมเองก็ไม่ค่อยได้กินเพราะบ้านเรามันไม่ค่อยมีขาย แต่หลังจากกลับจากอเมริกา ที่เบียร์ Ale เป็นที่นิยมมาก มีจำนวน, ยี่ห้อ ให้เลือกเยอะกว่าเบียร์ประเภทอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ผมก็เลยเริ่มชอบเบียร์ชนิดนี้ขึ้นมา เพราะดื่มแล้วมันจะหอม ๆ กว่าเบียร์ชนิดอื่น และก็จะแรงกว่านิด ๆ ส่วนเจ้า Death Guy Ale นี่ก็ใช้ได้ครับ รสชาติดีเลย เสิร์ฟในแก้วแสนเท่ ยังกะแก้วแยมด้วย
อาหารจานแรกในมื้อนี้เป็น Chef Salad (Mixed greens with avocado, tomatoes, hard boiled egg, chicken, and bacon with Ranch, Russian or Italian dressing) - 200 บาท สลัดที่สั่งมาเพราะไม่รู้จะสั่งอะไร เพราะในเมนูนั้นมีแต่ sandwiches และสลัด และ ซุป เจ้าสลัดจานนี้ก็ธรรมดา ๆ ครับ ไม่มีอะไรโดดเด่น ที่โดดเด่นอย่างเดียวอาจจะเป็นปริมาณ ที่ให้มาเยอะดี ส่วนที่เหลือ ไม่ว่าจะผัก ที่กินแล้วเหมือนกินผักตลาด ๆ ไม่ใช่ผัก premium อร่อย ๆ ที่ร้านอาหารดี ๆ น่าจะสั่งมาเสิร์ฟลูกค้า และตัวน้ำสลัดก็เปรี้ยวจี๊ด เพราะสั่งไปแบบ Italian dressing ก็นะ จานนี้ถือว่ากินเอา fiber ละกันครับ
อาหารจานสองก็เป็นอีกจานเบา ๆ กับ Cream of Mushroom Soup - 150 บาท ก็เป็นซุปเห็ดบ้าน ๆ รสชาติไม่ได้โดดเด่นอะไร ซุปเห็ดของร้าน Sizzler หรือร้านอื่น ๆ ผมว่ายังทำได้ดีกว่า ไม่รู้เพราะส่วนตัวไม่ชอบซุปเห็ดที่ครีมมันไม่ค่อยข้น และรสชาติมันอ่อน ๆ แบบนี้รึเปล่าก็ไม่ทราบ อ้อ และก็เป็นซุปแบบซุปเปล่า ๆ เลย ไม่มีเห็ดมา ก็เลยยิ่งไม่ชอบเข้าไปใหญ่
อาหารอย่างที่ 3 และอย่างต่อ ๆ ไปก็จะเป็น Sandwich หมด พวกผมไปกัน 5 คนก็เลยสั่งกันไปคนละอัน โดยอย่างแรกนั้นเป็น เป็น NY Pastrami Sandwich (Homemade pastrami on seedless Rye bread with deli mastard and Grayere) - 270 บาท แซนด์วิชก้อนนี้ ก็เป็นแซนด์วิชแบบธรรมดา ๆ ครับ เป็นขนมปังกับเนื้อ (Pastrami) แค่นั้น เปิดฉากอย่างแรกมาแบบ ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร มันเป็นแซนด์วิชที่ถ้าผมทำเองก็น่าจะได้รสชาติประมาณนี้อ่ะครับ
Reuben Sandwich(Homemade corned beef, on seedless Rye bread with sauerkraut, Russian dressing, deli mastard and Grayere cheese) - 310 บาท แซนด์วิชตัวนี้น่าจะอร่อยเป็นลำดับที่ 2 ของมื้อนี้เลย แค่หน้าตาก็กินขาดแล้วครับเพราะเป็นแซนด์วิชที่มาก้อนใหญ่มาก และมาแบบหนา ๆ ทั้งตัวขนมปังเองและตัวเนื้อสับที่ยัดมาแทบจะทะลัก ตอนแรกที่กินก็นึกว่ามันจะแห้ง ๆ ครับ แต่เปล่าเลย เนื้อที่ยัดไส้มามันมีความฉ่ำ กินแต่ละคำนี่แบบ เคี้ยวเพลินมาก และทางร้านเสิร์ฟมากับผักดองอะไรสักอย่าง ซึ่งเอามาโปะ ๆ กินด้วยกัน หรือกินตามแต่ละคำ ก็ช่วยเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้นไป
Philly Cheesesteak (Grilled steak, thin sliced on a Hoagie roll with melted Provolone and American cheese, grilled onion and pickled red and green pepper) - 270 บาท แซนด์วิชก้อนที่ 3 นี้มาแบบชีสเยิ้มมาก ๆ ถ้าเป็นคนที่ไม่กลัวอ้วน (ไม่ใช่ผม) เห็นแบบนี้ก็คงจะยิ้มกัน เพราะทุกอย่างมันดูเหลว ดูเละ ดูน่ากินสุด ๆ ซึ่งรสชาติพอได้กินมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ครับ พอกัดเข้าไปแล้ว มันเหมือนแบบไปเละ ๆ ไปละลายในปาก แล้วรสชาติก็ดีครับ เค็มหน่อย ๆ กินกันเพลินเลย
Vietnamese Pork Sandwich (Vietnamese barbecued pork on a French roll with, pork liver pate, steamed pork, ham, pickled carrot and daikon, cilantro, cucumber, Valapeno chilles and mayonnaise) - 210 บาท แซนด์วิชอันนี้ น่าจะอร่อยที่สุดในมื้อล่ะครับ ไม่รู้เพราะได้ความลำเอียงจากการที่มันมีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียมากที่สุด้วยรึเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ทุกอย่างมันผสมผสานกันอย่างลงตัว เป็นแซนด์วิชที่ขนมปังนุ่ม ๆ กินกับหมูบาร์บีคิว , แฮม และพริกเขียว และอื่น ๆ ทุกอย่างมันแบบกินแล้ว Fresh กินแล้วรู้สึกดีกว่าอันอื่น ๆ มากครับ เพื่อน ๆ ผมทุกคนก็ชอบอันนี้กันมากที่สุด
Jambon & Saucisson Sandwich (French cured ham and cured sausage stacked high on a French baguette with butter, Dijon mastard, Grayere cheese and lettuce) - 250 บาท แซนด์วิชอันนี้ เป็นอันที่ผมสั่งเอง ซึ่งอันที่ผมสั่งเอง ผมดันไม่ค่อยชอบเท่าไร เพราะว่าตัวขนมปังก็เป็น baguette มาล่ะ ซึ่งผมเกลียดเจ้าขนมปังนี่มากเพราะมันแข็งไป กรอบไป ไม่รู้ว่าคนฝรั่งเศสทำไมถึงกินกันได้สบาย ๆ และตัวไส้ในที่มาแต่แบบเนื้อ ๆ เป็นแผ่นไส้กรอก และแฮม มันก็แบบเนื้อเกินไปอ่ะครับ ไม่ได้มีผัก ไม่ได้มีอะไรมาตัดรส, เสริมรสเลย แต่ก็พอกินได้ครับ เพราะเผอิญ ผมมันก็สัตว์กินเนื้ออยู่แล้ว แต่ก็ต้องกินแบบสักแต่ว่ากินประมาณนั้น
มื้อนี้ ค่าเสียหายรวม 2255 บาท ไปกัน 5 คนก็ตกคนละประมาณ 450 บาท ซึ่งผมว่ามันก็แพงไปหน่อยนะเมื่อคิดว่าเรามากิน Sandwich หรือกินอาหารเบา ๆ ยามเที่ยงแบบนี้ แต่เดี๋ยวนี้การกินอาหารตะวันตก อาหารฝรั่ง มื้อละประมาณ 500 บาทก็กลายเป็นเรื่องปกติ หรือเผลอ ๆ ถูกไปแล้วด้วยซ้ำ ว่ามั้ยครับ? ใครอยากไปลอง อาหารสเปน ที่ในกรุงเทพ ผมนึกออกอยู่ไม่กี่ร้าน กับร้าน El Osito นี่ก็ลองไปกันดูได้ครับ แต่ผมว่าไปมื้อเย็นน่าจะดีกว่ามื้อเที่ยง เพราะได้ลองอาหารสเปนจริง ๆ ส่วนเจ้าแซนด์วิชที่ผมกินไปในมื้อเที่ยงนี่น่ะเหรอ? มีเยอะแยะ เกลื่อนกลาดไปครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment