วันสุดท้ายของผมที่เกาหลีนี่ก็ไม่มีอะไรมากครับ ทัวร์แค่พาผมไปตระเวณตามร้านที่รัฐบาลเกาหลีบังคับให้ไปแค่นั้นเอง ซึ่งจริง ๆ แล้ววันก่อน ๆ หน้านี้ก็มีไปครับ แต่เดี่ยวผมจะมาเขียนสรุปรวมในวันนี้เลยดีกว่าเนื่องจากวันนี้โปรแกรมมันน้อย
เปิดฉากของวันมาก็เหมือนเดิมครับ ล้างหน้า(แต่ไม่อาบน้ำ)แปรงฟัน ลงไปกินข้าวเช้ากาก ๆ ของโรงแรมแล้วก็มุ่งหน้าไปร้านขนมของฝาก ร้านขนมของฝากของเกาหลีนี่ผมว่าเค้าทำเจ๋งดีครับ(ไม่ได้ถ่ายรูปมา) คือมีโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมายซื้อ 2 แถม 1 บ้าง 5 แถม 1 บ้าง , มีสาหร่ายให้ชิมฟรี ๆ บ้าง, ซื้ออย่างนึงแถมอย่างนึงบ้าง และขนมของเค้าก็ค่อนข้างหลากหลายและอร่อยดีเลยทำให้ลูกทัวร์แทบจะทุกคนในทริปผม ซื้อขนมกลับกันไปคนละลังสองลังแทบทุกคน ซึ่งฟังดูอาจจะลำบาก แต่เปล่าเลยครับ ทางร้านมีบริการแพ็คลงกล่องให้อย่างดีพร้อม Label ชื่อให้เสร็จสรรพ เรียกว่าบริการกันอย่างมืออาชีพเลย
พอเสร็จจากร้านขนมของฝาก (ซึ่งผมว่าทัวร์ทุกทัวร์น่าจะพาไป เพราะน่าจะได้เปอร์เซ็นต์) เราก็จะไปต่อกันที่ร้าน Amethyst บ้าง ซึ่งก่อนจะถึงร้าน Amethyst นี่จริง ๆ แล้ววันก่อน ๆ หน้าทางทัวร์ก็พาเราไปลงร้าน โสม , ร้านเครื่องดื่มชูกำลังเกาหลี และก็มาปิดท้ายที่ร้าน Amethyst นี่แหละครับ ซึ่งเจ้าร้านทั้ง 3 ร้านนี้ก็เป็นร้านของรัฐบาลเกาหลี ทางรัฐบาลจะบังคับให้ทัวร์พานักท่องเที่ยวไปลง แลกกับอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้ค่าทัวร์มันถูกลง (เหมือนของประเทศจีนน่ะครับที่แทบทุกทัวร์จะต้องไปลงร้านพวกนี้ เคยมีทัวร์นึงไม่พาไปลง ผมเห็นราคาทัวร์โดดขึ้นไป 35,000 จากราคาปกติ 22,000 - 24,000 เลย) ทั้ง 3 ร้านนี้ลูกทัวร์ผมก็ซื้อกันบ้าประปรายครับ เนื่องจากแต่ละอย่างนี่มันแพงจริง ๆ เช่น โสมกล่องละ 6000 บาทเงี้ย , เครื่องดื่มชูกำลังเพื่อสุขภาพกล่องละหลายพันเงี้ย ผมไม่ได้ซื้อของมา 2 ร้านแต่ก็มาตกม้าตายเอาที่ร้าน Amethyst ร้านสุดท้ายเนื่องจากว่าเจ้า Amethyst (รู้สึกจะไม่มีชื่อไทย) นอกจากจะเป็นอัญมณีประจำราศีผมแล้ว พอผมได้เห็นของจริง ได้ลองลูบ ๆ คลำ ๆ แล้วมันแบบมันสวยดีอ่ะครับ สวยจนอดใจไม่ไหวจนผมต้องควักเงินซื้อไปฝากแฟนผมเลย (กำไลเส้นละ 5000 บาท) สรุปคือ ดู ๆ แล้วลูกทัวร์ทุกคนก็จะแวะซื้อร้านพวกนี้กันคนละอย่างสองอย่าง เบ็ดเสร็จ รัฐบาลเกาหลีก็คงได้กกำไรจากอะไรพวกนี้ไปพอสมควรแหละครับ
ข้าวเช้ากาก ๆ อีกแล้ว มื้อสุดท้าย |
อันนี้ของเพื่อนผม ทนไม่ไหว กินแต่โปรตีนไม่เอาผักเลย |
ของเพื่อนอีกคนนึงคล้าย ๆ กัน |
ผมอยู่เกาหลี 4 วันผมไม่เคยเห็นรถติดครับ ประเทศเจริญ ๆ ก็เป็นอย่างนี้กันหมด เฮ้อ public transport เค้าดีน่ะครับ ส่วนพี่ไทยเราคงต้องรอไปอีกชาตินึง |
พอเสร็จจาก Shopping ทั้งหลายทั้งแหล่ ทัวร์ก็พาพวกผมไปปิดท้ายกันด้วยร้านอาหารจีน ทัวร์ลง เฮงซวย ๆ ร้านนึงครับ ร้านนี้ ไม่อร่อยจนผมขี้เกียจเขียนครับ ดูคำบรรยายใต้รูปเอาละกัน เอาเป็นว่า คิดได้ยังไงไม่รู้พาลูกทัวร์ไปร้านแบบนี้ แทนที่จะได้ปิดทริปอย่างประทับใจด้วยอาหารอร่อย ๆ กลายเป็นการปิดทริปด้วยอาหารจีนกาก ๆ กะหลั่ว ๆ ไปซะงั้น เฮ้อ
ร้านจีนเฮงซวยปิดท้ายครับ |
ไข่เจียว เห็นสภาพกับหน้าตาแล้ว สู้ไข่เจียวบ้านเราไม่ได้สักกะนิด |
ปลาอะไรไม่รู้นึ่งซีอิ๊ว จานนี้อร่อยสุดในมื้อ แต่ปลาก็ตัวเล็กไป และเทียบกับปลากระพงนึ่งซีอิ๊วบ้านเราไม่ได้อยู่ดี |
ข้าวสวยเย็น ๆ กับซุปกาก ๆ ข้าวเย็นเฉียบ เสิร์ฟมาได้ไงไม่รู้ |
ผัดผักเน่า ๆ ครับ |
เอ็นข่อไก่ทอด หรือไก่ทอดนี่แหละครับ พอกินได้ |
ผัดเนื้อน้ำมันหอยอะไรก็ไม่รู้ ไม่อร่อยเลย |
พอเสร็จจากกินข้าว พวกเราก็เดินทางไปยังสนามบิน Inchoen International Airport กันต่อ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีจากในตัวเมืองโซล พอไปถึงสนามบิน ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยครับ พวกผมและลูกทัวร์แต่ละคนต้องมาแบ่งของที่สั่ง ๆ กันเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น สาหร่าย, กิมจิ, สตรอเบอรี่ ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้สั่งกันน้อย ๆ เลย กว่าจะแบ่งกว่าจะแพ็คลงกระเป๋ากันเสร็จก็กินเวลาไปสักพักแล้ว (แนะนำว่าไปเกาหลีให้เอากระเป๋าใบใหญ่ไปเผื่อหน่อยนะครับ เพราะของฝากนี่ตั้งใจว่าจะไม่ซื้อยังไงถึงเวลา มันก็จะอดใจไม่ไหวอยู่ดี แบบพวกผมและลูกทัวร์คนอื่น ๆ) ทำให้ผมมีเวลาเดินใน Duty Free เกาหลีค่อนข้างน้อย ยังเดินไม่ค่อยทั่วก็ต้องไป Boarding แล้ว (แอบเซ็ง)
สรุปการไปเที่ยวต่างประเทศกับทัวร์ที่ประเทศเกาหลีของผมครั้งนี้ก็ถือว่าประทับใจดีครับ เนื่องจากค่าใช้จ่ายถูก ไปเที่ยว 4 วันแต่เสียแค่ 22,000 บาทเท่านั้น (ช่วงตุลาเห็นบอกแค่ 16,000 เท่านั้นเอง) รวมถึงค่าครองชีพ พวกของกินเล่น, เครื่องดื่มในเกาหลีก็เป็นอะไรที่ไม่แพงเลยไม่เทียบกับกรุงเทพ บ้านเมืองเค้าก็เจริญดู ได้อยู่ ได้เห็น ได้เดิน ได้สัมผัสแล้วมันก็ทำให้รู้สึกดีขึ้นมา ผู้คนชาวเกาหลีนี่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันผมรู้สึกว่าคนของที่นี่จะให้ความรู้สึกกระเดียด ๆ ไปทางคนจีนมากกว่าคนญี่ปุ่นทำให้ผมชอบคนญี่ปุ่นมากกว่า ไม่ว่าจะเรื่องมารยาท (ผมกับเพื่อนโดนชนแล้วไม่ขอโทษหลายทีมาก) ของผู้คนหรือพนักงานขาย , การดูแลเอาใจใส่ของพนักงานและอะไรที่เกี่ยวกับมารยาทต่าง ๆ คนญี่ปุ่นทำได้ดีกว่ามากครับ และสุดท้าย สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ๆ แสดงถึงวัฒนธรรมและอารยธรรมของชาติตัวเองแล้ว ผมรู้สึกว่าเกาหลียังไม่ค่อยมี หรือมีแต่ก็ยังแสดงออกมาได้ไม่ถึงที่สุดเหมือนญี่ปุ่น จบจากทริปเกาหลีนี่ผมมีความรู้สึกดี ๆ กับการเดินทางแบบทัวร์มากขึ้น (หลังจากที่ไม่ได้ใช้บริการมานาน) แต่ยังไงก็ตาม ญี่ปุ่นก็ยังคงเป็นประเทศในอุดมคติของผม (ในเอเชียตะวันออก) ต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะครับ รีวิวการท่องเที่ยวของผมมีอีกหลายทริป แนะนำให้อ่านได้ที่เว็บนี่เลยครับ
ปล. ขามา Business Air กากยังไง ขากลับก็ยังคงกากแบบนั้นครับ ที่นั่ง, อาหาร, การบริการของ Cabin Attendance ผมล่ะอยากรู้ราคาค่าตั๋วของเจ้าสายการบินนี่จริง ๆ
Amethyst ที่ผมซื้อฝากแฟน เกาหลีเค้าบอกว่าเกาหลีนี่เค้าดังเรื่อง Amethyst มาก ใครที่เกิดราศีกันย์ หรือชอบ อัญมณีประเภทนี้เป็นพิเศษ ก็มาจัดกันได้นะครับถ้ามาเกาหลี |
เพื่อนผมฝากสวัสดีครับ บ๊าย บาย |
ได้เวลาจากลากัน |
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment