Blue Elephant - Exclusive Thai Restaurant at Sathorn Road BTS Surasuk Bangkok บลู อีเลเฟ้นท์ ร้านอาหารไทย สาทร BTS สุรศักดิ์
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 5/5
Value 3/5
Blue Elephant - Thai Premium Restaurant on BumRes.com
บนถนนสาทร ย่านธุรกิจที่สองข้างทางเต็มไปด้วยโรงแรมหรู ๆ และตึกสูง ๆ มีอาคารสถาปัตยกรรมสไตล์ Colonial อายุร่วม ๆ 100 กว่าปีที่ตั้งเป็นเอกเทศโดดเด่น อยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS Surasuk และเป็นที่ตั้งของ Blue Elephant สถานที่ที่เป็นทั้งตัวร้านอาหารและ Cooking School ในตัวเอง ร้าน Blue Elephant แห่งนี้เป็นร้านอาหารไทยที่จริง ๆ แล้วตัวสาขาต้นตำรับนั้นคลอดขึ้นมาบนโลกนี้ครั้งแรกที่กรุง Brussel ประเทศ Belgium เมื่อ 32 ปีที่ผ่านมา ด้วยความโด่งดังในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะด้านรสชาติ, การบริการ, บรรยากาศ หรือความโดดเด่นของอาหาร เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน (สิงหาคม 2002) ร้านอาหารไทยที่เกิดขึ้น ณ ต่างแดน แต่มีเจ้าของร้านเป็นผู้หญิงไทยที่มีเสน่ห์ปลายจวักอันเยี่ยมยอดแห่งนี้ ก็ได้มาเปิดตัวที่กรุงเทพ บ้านเกิดของอาหารไทย ณ ย่านสาทรแห่งนี้ 22 ปีหลังร้านสาขาแรกเปิดตัวมา
พอก้าวเข้าไปในอาคารเก่าแก่ทรง Colonial ก็จะพบกับการตกแต่งของร้าน Blue Elephant - Bangkok ที่เน้นความหรูหรา และย้อนยุคแบบไทย ๆ ตัวร้านแบ่งเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างนั้นจะเป็นส่วนร้านอาหารหลัก ไว้รองรับลูกค้าขาจรทั่ว ๆ ไป (รวมทั้งตัวผมด้วย) ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นส่วนบาร์, โต๊ะนั่งดื่มเครื่องดื่ม และห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ ส่วนชั้น 3 ก็จะเป็นตัว Cooking School ที่จะเปิดสอนกันทุกวัน รอบเช้าและรอบบ่าย และมีหลักสูตรให้เลือกเรียนหลากหลายแบบ บอกตรง ๆ ว่าเท่าที่ผมเคยไปกินร้านอาหารไทยหรู ๆ มา ร้านหรู ๆ ที่ผ่านมานั้นเทียบไม่ได้เลยกับความหรูหราของร้าน Blue Elephant - Bangkok แห่งนี้ ไม่ว่าจะตัวจาน ชาน ช้อนส้อม บรรยากาศร้าน, ของประดับร้าน และชุดของพนักงาน เห็นแว่บแรก แอบรู้สึกว่ามันหรูเกินไปจนเกร็ง แต่พอนั่ง ๆ ไปเริ่มคุ้น และมีอาหารไทยมาวาง ๆ ประกอบบนโต๊ะความเกร็งก็แปรเปลี่ยนเป็นความคิดที่ว่า อืม อาหารไทย กับความหรูหรา มันก็ลงตัวได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องไป exclusive ความหรูหราแบบนี้เฉพาะในอาหารสัญชาติอื่น ๆ (โดยเฉพาะฝรั่งเศส) อาหารไทยก็หรูได้ นะคะคุณขา
อาหารของทางร้าน Blue Elephant Bangkok แห่งนี้แน่นอนครับ เป็นอาหารไทย แต่ตอนที่ผมเห็นเมนูอาหารแล้ว แอบผิดคาดไปเล็กน้อยเนื่องจากตัวอาหารนั้นมีให้เลือกค่อนข้างเยอะ(กว่าที่คิด) และก็ไม่ได้เป็นอาหารไทยดั้งเดิมตามที่เข้าใจ อาหารของทางร้านจะแบ่งเป็น อาหารไทยโบราณ (Thai cooking of the Past) หรืออาหารแบบตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ๆ มาจนถึงซักสมัย ร. 5 อาหารที่อยู่ในหมวดนี้ก็เช่น ต้มจิ๋วไก่, หมูชะมวง หรือ แกงขี้เหล็กเนื้อย่าง เป็นต้น , อาหารไทยสมัยนิยม (Thai cuisine of today) อาหารพวกนี้ก็เป็นอาหารที่เราจะเจอได้ตามร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ในสมัยนี้ เช่น ทอดมันปลากราย, ยำวุ้นเส้น หรือแพนงเนื้อ อะไรประมาณนี้ ส่วนหมวดสุดท้าย (และเป็นหมวดที่ผมไม่คิดว่าจะมี) ก็คือหมวด ครัวไทยประยุกต์ (Thai kitchen of tomorrow) หรือสั้น ๆ ง่าย ๆ ก็คือ Thai Fusion นั่นเอง อาหารหมวดนี้บางอย่างแปลกและผมไม่คิดว่าจะมีใครทำกันเช่น ตับห่านซอสมะขาม, พล่ากุ้งอโวคาโด หรือ โครเก็ตกุ้งเขียวหวาน เป็นต้น แค่เห็นเมนูของร้าน Blue Elephant นี่แล้วผมก็รู้สึกแบบ โอว อาหารเยอะดีจัง บางอย่างแปลกและไม่เคยกินมาก่อน และแค่อ่านชื่อก็อยากจะลองกันแล้ว
ตามที่เกริ่น ๆ ไปตอนต้นถึงความหรูหราของร้าน และเมื่อพิจารณาถึงตัววัตถุดิบของอาหารที่แทบทุกอย่างทางร้านจะสั่งมาจาก โครงการหลวง (Royal Project) หรือเป็นประมาณผลิตภัณฑ์ปลอดสารพิษทางการเกษตร หรือไม่ก็ถ้าเป็นวัตถุดิบอื่นที่ไม่ใช่ผักก็จะใช้ของดี ๆ เช่น เนื้อก็ใช้เนื้อโพนยางคำ กุ้งก็ใช้กุ้งแม่น้ำตัวโต เมื่อรวม 2 องค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกันแล้ว ทำให้ราคาอาหารของร้าน Blue Elephant Bangkok นี้มีราคาสูงกว่าร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ไปโดยปริยาย แต่ถ้าถามว่าสูงกว่าเยอะมั้ย? ผมก็ว่าไม่เยอะนะ เพราะสมัยนี้ร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ หรือจะสวนอาหาร ราคาส่วนใหญ่ก็อยู่กันที่ 150 - 400 บาทโดยประมาณแล้ว ไม่นับพวกร้านหรู ๆ ที่ผมชอบ ๆ และเคยไปกินมา ราคาก็อยู่ในระดับเดียวกันกับร้านช้างน้ำเงินแห่งนี้หมดนะผมว่า
อาหารในมื้อนี้ของพวกผมแบ่งคร่าว ๆ ได้เป็น 3 หมวด หมวดแรกคือหมวด Appetizer ที่ประกอบด้วยอาหาร 4 อย่าง จานแรกเป็น พล่ากุ้งอโวคาโด (Spicy prawn salad with herbs and avocado - 480 บาท) อาหารไทยสไตล์ฟิวชั่นที่หน้าตาดูดี รสชาติดี และตัววัตถุดิบต่าง ๆ ในจานยอดเยี่ยมมากครับ อโวคาโดสดอร่อย และ กุ้งตัวใหญ่ หัวโต มันกุ้งเยิ้ม ๆ เป็นจานเปิดตัวที่งดงามมากครับ , จานที่ 2 เป็น แสร้างว่ากุ้งปลาดุกฟู (Rice fileld catfish and prawns sald - 360) อาหารไทยโบราณ ที่ก่อนหน้านี้ผมเคยกินมาไม่เคยจะเกิน 3 ครั้ง จำได้ว่าครั้งก่อน ๆ หน้านี่รสชาติมันจะไม่ค่อยอร่อยเท่าไร แห้ง ๆ รสชาติแหม่ง ๆ แต่กับ แสร้งว่าของร้าน Blue Elephant - Bangkok แห่งนี้นี่ไม่เลยครับ อร่อย แบบเป็นสลัดแบบไทย ๆ ที่เจ๋งดี ตัวองค์ประกอบทุกอย่างในจานจะมาแบบกรอบ ๆ หมด ไม่ว่าจะตัวกุ้ง หรือปลาดุกฟู และใบชะพลูทอด เจ๋งดีครับจานนี้
Appetizer อย่างที่ 3 เป็น ถุงทองเขียวหวาน (Golden Bag - 380 บาท) จานนี้ ก็ทำมาหน้าตาน่ารัก น่ากินสมเป็น Appetizer ดีครับ รสชาติก็จัดได้ว่าเป็นของกินเล่นกินเพลิน ๆ ยังไม่ได้อร่อยโดนใจผมมาก แต่เพื่อน ๆ ในโต๊ะอีก 2 คนชอบกันครับ วันนี้ผมแอบปล่อยไก่ด้วย คือก่อนหน้านี้ ไม่เคยเลยที่จะกินเจ้าเชือกที่มัดถุงทองมาด้วย นึกว่ากินไม่ได้ โชคดีได้เพื่อนผมกินให้ดู ซึ่งรู้สึกเสียดายที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้กินครับ เพราะมันคือส่วนอร่อยชัด ๆ เลย -_-' อาหารเรียกน้ำย่อยอย่างสุดท้ายเป็น ยำมะเขือม่วงดอยคำ (Doi Kahm eggplant salad - 380 บาท) จานนี้เห็นหน้าตาตอนแรกนี่นึกว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสหลุดมารึเปล่า เพราะว่ามันสวยงาม และบรรเจิดมาก แต่พอพิจารณาองค์ประกอบดี ๆ แล้ว มันมีแต่วัตถุดิบแบบไทย ๆ ทั้งนั้น คือโดยส่วนตัวผมเป็นคนชอบมะเขือม่วงอยู่แล้ว จานนี้ก็เลยผ่านโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก อร่อยดีครับ แอบเผ็ด ๆ เล็กน้อยให้แสดงถึงความเป็นอาหารแบบไทย ๆ
พอดื่มด่ำกับอาหารเรียกน้ำย่อย 4 อย่างเสร็จ อาหารจานหลัก (Main Course) ก็ตามมาติด ๆ จำนวน 7 อย่าง จาก 7 อย่างนี้ มี 4 อย่างที่ผมและเพื่อน ๆ เห็นตรงกันว่าอร่อยมาก จานแรกคือ กุ้งผัดซอสตะไคร้พริกไทยดำ (Black pepper tiger prawns - 880 บาท) ซึ่งก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกกว่าร้านไทยร้านอื่น ๆ หน่อย เพราะส่วนใหญ่ผมจะเห็นเป็นกุ้งผัดซอสมะขาม ทางร้าน Blue Elephant - Bangkok ใช้ กุ้งลายเสือตัวใหญ่ ที่ทอด(ผัด) มาสุกกำลังดี และเนื้อสดเด้งมาก กินเคล้าไปกับซอสพริกไทยดำ เผ็ดแบบพริกไทย ๆ รสชาติกลมกล่อม อร่อยดีครับ อ้อ ทางร้านจะมีข้าวให้เลือก 2 แบบเป็นข้าวหอมมะลิ กับข้าวกล้องครับ ตัวข้ามหอมมะลิใช้ของดีตามพิมพ์นิยม แต่ทีเด็ดจะเป็นตัวข้าวกล้องครับ อร่อยกว่าข้าวกล้องร้านอื่น ๆ ที่ผมเคยกินมามาก ผมและเพื่อน ๆ ติดใจกันทุกคน กินข้าวกันไปหลายทัพพีเลย (ทางร้านจะคิดราคา 60 / 120 บาท ต่อหัว สำหรับค่าข้าวหอมมะลิและข้าวกล้อง ตามลำดับครับ)
อาหารที่ชอบอย่างที่ 2 คือ แกงเขียวหวานไก่ดำ (Black chicken green curry - 680 บาท) เป็นแกงเขียวหวานที่รสชาติ กลมกล่อม อร่อยแบบไม่รู้จะไปติอะไร และเพิ่มทีเด็ดเข้าไปด้วย ไก่ดำ เนื้อนุ่ม ๆ และให้มาเยอะมาก และกินคู่กับโรตีรสชาติเยี่ยม ทุกอย่างลงตัวมากครับจานนี้ ขนาดผมที่กินแกงเขียวหวานออกบ่อย ๆ ยังชอบขนาดนี้ ฝรั่งที่ไม่ค่อยได้กิน สงสัยพอได้กินนี่คงจะ Amazing กันเลยทีเดียว อย่างที่ 3 เป็น ผัดไทยบลูเอเลเฟ่นท์ (Blue elephant phad thai - 380 บาท) เห็นราคาแล้วอาจจะตกใจ ผัดไทย บ้าอะไรจานละ 380++ บาท หน้าตาตอนยกมาก็ธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรมากครับ แต่พอกินแล้ว อืม น่าจะเป็นผัดไทยที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาในช่วงหลายปีมานี่เลย (คือนึกไม่ออกว่าเคยกินอร่อยแบบนี้เมื่อไร) คือทางร้าน Blue Elephant - Bangkok ทำมาได้ดีมากจริง ๆ ครับ มันไม่แห้ง ไม่แฉะไป มาแบบกำลังดี (ซึ่งหาได้ยาก) เส้นก็จันทน์ก็ไม่เกาะกันเป็นก้อน ๆ รสชาติที่ปรุงมาก็อร่อย กลมกล่อม และกุ้งที่ให้มาก็ตัวใหญ่และสดเหมือน ๆ กับกุ้งจานก่อน ๆ หน้าที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนอีกคนชอบมากจริง ๆ เจ้าผัดไทยนี่ ส่วนเพื่อนอีกคนที่เคยอยู่อเมริกามานาน บอกว่า เป็นรสชาติประมาณผัดไทยที่อเมริกา คือจะทำมาดี ๆ อร่อย ๆ แบบนี้ เค้าก็เลยไม่ค่อยตื่นเต้นอะไรมาก
ส่วนของคาวที่ชอบอย่างสุดท้ายคือ ผัดยอดบวบ (Stir fried tips of ivy gourd vine - 240 บาท) หรือประมาณยอดมะระ, ยอดฟักแม้วผัดน้ำมันหอยน่ะแหละครับ จานนี้ สุดยอดมากครับ ยอดฟักแม้วนี่แบบ กรอบ อร่อย แบบ ผัดมาได้เก่งมาก ๆ เลย ไม่เคยเจอที่ไหนผ่านมาได้กรอบขนาดนี้เลย รสชาติน้ำมันหอยก็ดี โอย ไม่รู้จะไปติอะไรเลยครับ ยิ่งกินกับข้าวกล้องขั้นเทพของร้านนี่วิเศษสุด ๆ
แม้ว่าที่ผ่าน ๆ มาอาหารทุกจานที่เขียนไปก่อนหน้านี้จะอร่อยแบบ โดดเด่นเหนือกว่าร้านอื่นหมด แต่ร้าน Blue Elephant - Bangkok แห่งนี้ก็มีอาหารที่ไม่ถูกปากผมอยู่เหมือนกัน อย่างแรกเป็น ปลาเผากระบอกไม้ไผ่ (Bamboo fish - 480 บาท) จานนี้เป็นประมาณ ปลากระพงไปเผาในกระบอกไม้ไผ่และให้เรากินเล่นกับน้ำจิ้มรสหวานกับรสเผ็ดของทางร้าน คือจานนี้รสชาติปลาโอเคอยู่ เนื้อสดดี และเอาก้างออกหมด เอามาแต่ fillet จริง ๆ แต่มันดันไปตกม้าตายตรงตัวซอสที่แบบเหมือนทำมาขายฝรั่งมากกว่า (ซึ่งลูกค้าฝรั่งหรือชาวต่างชาติของร้านนี้มีถึง 85% ก็ไม่แปลกที่เค้าจะทำซอสรสแบบนี้) พวกผมกินแล้วมันยังไม่ค่อยแซ่บเท่าไรครับ // อย่างที่ 2 เป็น ต้มข่าไก่ดำมะพร้าวอ่อน (Tom Kha black chicken - 330 บาท ) จานนี้การนำเสนอยอดเยี่ยม มาในลูกมะพร้าวสวยงาม แต่แกงดันมาแบบไม่ร้อน และก็ไม่ได้มีความหอมของกะทิเลย เป็นต้มข่าไก่ที่ประมาณสวยแต่รูปจูบไม่หอม ประมาณนั้น ส่วนอย่างสุดท้ายเป็น แกงมัสมั่นแกะ (Massaman Lamb - 580 บาท) แกงนี้ ก็เหมือนกับทางร้านจะจงใจทำรสชาติขายชาวต่างชาติอีกแล้วครับ เพราะว่ามันหวานนำมาก ไม่ค่อยเป็นแกงมัสมั่นแบบไทย ๆ สักเท่าไร กินคำแรก ๆ ตกใจในความหวาน แต่พอกินไปหลัง ๆ ก็เริ่มจะอร่อยขึ้นมานิดครับ แต่พวกผมก็ยังชอบ มัสมั่นรสไทย ๆ มากกว่าอยู่ดี
ระหว่างที่กินอาหารไทยอันเลิศรสของร้าน Blue Elephant - Bangkok นี้ เราก็ได้มีการกินไวน์ของทางร้านด้วย คือร้านนี้จะมีทีเด็ด (ที่ผมว่าเด็ดมาก) คือ จะมีไวน์ยี่ห้อของทางร้านเอง โดยทางร้านได้ให้ฟาร์มองุ่นที่ฝรั่งเศสเป็นคนบ่มและติดฉลากให้ และก่อนบ่มก็จะมีการเรียกตัวฟาร์มองุ่นมาชิมอาหารไทยกันก่อนและบอกสเปคไปว่าให้ทำไวน์ให้เข้ากับอาหารแบบนี้ ฟังที่มาของไวน์ก่อนจะดื่มแล้ว อืม ดูพิถีพิถันเหลือเกิน และพอดื่มแล้วก็ไม่ประหลาดใจเลยครับ เป็นไวน์ที่รสชาติดีมาก เข้ากับอาหารไทยดีสุด ๆ
มื้อนี้ปิดฉากลงด้วยของหวานทีเด็ดของทางร้าน Star of Siam ที่ประกอบด้วย ข้าวเหนียวมะม่วงรสชาติดี (แต่ผมอยากให้ใส่น้ำกะทิมาอีกสักหน่อย), ไอศครีมกะทิสดรสชาติไร้ที่ติ, Cheese Cake ทุเรียน ที่ได้แค่ความแปลก รสชาติแอบประหลาดไป, คัสตาร์ดอะไรสักอย่างที่อร่อยเว่อร์มาก และเงาะ กับอะไรอีกสักอย่างผมไม่แน่ใจครับ คือจานนี้ เหมือนจะมีทีเด็ดอยู่ที่ ไอศครีม, ข้าวเหนียวมะม่วง กับคัสตาร์ดครับ สำหรับผม แค่กิน 3 อย่างนี้ก็เรียกได้ว่าพึงพอใจสุด ๆ ล่ะครับ
ร้าน Blue Elephant - Bangkok ในรีวิวฉบับนี้ ก็เรียกได้ว่าน่าจะเป็นการปิด Series ร้านอาหารไทยแบบ Premium, Exclusive ในกรุงเทพของผมลงอย่างเป็นทางการล่ะ หลังจากที่ค่อย ๆ ทยอยกินร้านอาหารไทย หรู ๆ แบบนี้มาทีละร้าน ๆ จน(น่าจะ)ครบแล้ว ร้านอาหารไทยเกรดนี้ ที่ผมชอบก่อนหน้านี้ก็จะมีร้าน Issaya - Siamese Club ของเชฟ เอียน กิตติชัย , ร้าน Patara Fine Thai Cuisine , Nahm - Metropolitan Hotel และ The Local by Oamthong Thai cuisine ซึ่งแน่นอนครับ หลังจากดื่มด่ำกับ Blue Elephant มื้อนี้เสร็จ ร้านนี้ก็เข้าไปแทรกตัวอยู่ในร้านไทยหรูหรา ร้านโปรดของผมได้อย่างไม่ยากเย็น ก็กลายเป็น 5 ร้านในดวงใจพอดี
หลาย ๆ ท่านมีปัญหามั้ยครับเวลาที่แบบมีเพื่อนชาวต่างชาติจะมาเมืองไทยและแบบขอให้พาไปกินร้านอาหารไทย หรือไม่ก็มีเพื่อนถามว่าจะพาเพื่อนต่างชาติไปกินอาหารไทยเทพ ๆ หรือ มีร้านอาหารไทยหรู ๆ เทพ ๆ ร้านไหนแนะนำบ้าง? ก่อนหน้านี้ ผมค่อนข้างอับจนกับคำตอบที่จะไปตอบคำถามเหล่านี้เหลือเกิน แต่หลังจากนี้ไป ผมสามารถตอบได้อย่างเต็มปากด้วย Top 5 ร้านที่อยู่ในย่อหน้าก่อนหน้านี้ได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องกลัวว่า ผมจะหน้าแตกเพราะร้านจะหรูไม่พอหรืออาหารไม่อร่อยพอ เพราะถ้ากิน 1 ใน 5 ร้านนี้ไม่อร่อยแล้ว ผมว่า ก็คงไม่มีอาหารไทยในโลกนี้ หรือ สามโลกไหน หรือภพไหนจะอร่อยแล้วล่ะ ว่ามั้ยครับ?
ปล. ร้าน Blue Elephant นี่นอกจาก อาหารจะเยี่ยมแล้ว ผมว่าทีเด็ดเหนือสิ่งอื่นใดคือบริกร กับ บริgirl (มันเรียกแบบนี้รึเปล่าครับพนักงานหญิง ฮ่า ๆ) ของร้านนี้ครับ ผมว่า เท่าที่เคยกินร้านไหน ๆ มา พนักงานร้านนี้เจ๋งสุดล่ะ กระฉับกระเฉง, ยิ้มแย้มแจ่มใส, รู้เรื่องอาหารดี, สังเกตโต๊ะอาหารเราโดยไม่ต้องสั่ง ครบเครื่องและเท่จนผมอยากจะรู้จริง ๆ ว่า ทำได้ไงอ่ะ?
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment