BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Saturday, September 15, 2012

Kaizen Sushi and Hibachi Review

Kaizen Sushi and Hibachi - Japanese Sushi and Teppanyaki Restaurant at BTS Ratchathevee Bangkok ไคเซน ซูชิ แอนด์ ฮิบาชิ ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ กระทะร้อน BTS ราชเทวี เบียร์สด




Overall Score  9/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4.5/5

Kaizen Sushi & Hibashi - Japanese Restaurant on BumRes.com



ท่ามกลางร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นขาย Sushi ที่เปิดตัวกันมาอย่างมากมายในกรุงเทพ ร้านคลื่นลูกใหม่ทั้งหลายก็คงจะลำบากขึ้นถ้าจะแค่เปิดร้าน Sushi ธรรมดา ๆ มาอีกร้านนึง เพราะส่วนใหญ่ ลูกค้ามักจะเสพติดกับร้านประจำของตัว, ติดใจตัวเชฟ และความคุ้นเคยอะไรต่าง ๆ จนไม่อยากจะเปลี่ยนร้านกินกันแล้ว ซึ่งร้าน Kaizen Sushi and Hibachi ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ประมาณ 4 อาทิตย์ และตั้งตัวเองอยู่ที่ซอยข้าง ๆ โรงแรม Asia ติดกับรถไฟฟ้าสถานีราชเทวี แห่งนี้ ก็เข้าใจตรงจุดนี้ดี ทางร้านก็เลยมีอะไรมากกว่าที่จะเป็นแค่ Sushi เหมือนร้านช่วงหลัง ๆ ที่เปิดกันมา

ชื่อร้าน Kaizen Sushi and Hibachi นั้นทุกคำล้วนมีความหมาย ชื่อหลัก Kaizen นั้นแปลว่าการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งโลโก้ของร้านก็จะเข้า Concept นี้เพราะเป็นต้นบอนไซที่แผ่ขยายกิ่งก้านออกไปเรื่อย ๆ ส่วน Sushi ก็แน่นอน ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เน้นขาย Sushi มีครัวเย็นเด่นสง่าอยู่ในร้าน ตัวปลานั้นทางเจ้าของร้านว่าใช้ Supplier เดียวกันกับร้าน Honmono Sushi (ที่ตอนนี้มี 5 สาขาทั่วกรุงเทพแล้ว) เลยไม่ต้องห่วงเรื่องความหลากหลายของปลา หรือความสดของปลาเพราะว่าปลาเข้าแทบทุกวัน (รู้สึกจะยกเว้นแค่วันอาทิตย์หรือวันจันทร์นี่แหละครับ) และสามารถสั่งสัตว์ทะเลพิสดารได้ ถ้าต้องการลิ้มลองอะไรเป็นพิเศษ (เช่นปูทาราบะตัวละ 3 KG อะไรแบบนี้) ส่วนคำว่า Hibachi นั้นภาษาญี่ปุ่นจริง ๆ จะแปลว่าเตาปิ้ง เหมือนเตาปิ้งหมูปิ้ง, ปลาย่าง บ้านเรา แต่ก็เป็นคำที่ใช้เรียกเจ้าตัวกระทะร้อน หรือ Teppanyaki ได้ด้วย ทางร้านตั้งชื่อแบบนี้ก็เพราะ นอกจากครัวเย็น Sushi แล้วทางร้านก็มีกระทะร้อนตั้งอยู่กลางร้าน และมีเมนู Teppanyaki ให้เลือกสั่งค่อนข้างจะเยอะอยู่เหมือนกัน และตัวเชฟที่ประจำอยู่กระทะร้อน นั้นแม้ลีลาจะไม่ได้หวือหวาแบบร้าน Benihana แต่ก็พอมีลีลาในการปรุงอยู่บ้างให้ดูกันเพลิน ๆ ครับ









อาหารนอกเหนือจากที่กล่าว ๆ มาในย่อหน้าที่แล้วก็จะมีอาหารญี่ปุ่นอย่างอื่น ๆ ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างจะครบครัน สูสีกับร้านอาหารญี่ปุ่น Mainstream ทั่ว ๆ ไป ส่วนสนนราคานั้นผมว่าไม่ค่อยแพง หรือบางอย่างถูกกว่าที่คิดด้วยซ้ำครับ (โดยเฉพาะพวก Sushi) ทางร้าน Kaizen Sushi and Hibachi นั้นมีข้อดีอีกอย่างสำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นนอกห้างคือ ไม่มีปิดตอนบ่าย หิวเมื่อไรก็มากินได้โดยไม่ต้องเสียอารมณ์ และที่เจ๋งอีกอย่างคือ เบียร์สด 59+ บาท แค่นั้นเอง!

อาหารในมื้อนี้มีค่อนข้างเยอะครับ ไล่ไปทีละหมวดละกันนะครับ หมวดแรกเป็นหมวด Roll หรือข้าวปั้น มีทั้งหมด 3 อย่าง อย่างแรก Sexy Roll (450 บาท) หรือเป็นประมาณ ปลาแซลมอน, ปลาทูน่าห่อข้าว ไส้ในเป็นอโวคาโด แล้วก็โรยผงเทมปุระ, ไข่กุ้ง และก็ซอสเผ็ด ๆ มา เป็น Roll ที่ถามว่าหน้าตาสร้างสรรค์มั้ย? ก็คงตอบได้ว่าสร้างสรรค์และสวยดีมาก ส่วนเรื่องรสชาตินั้นไม่ค่อยหนีกับพวก Roll Salmon, Agami ทั้งหลายทั้งปวงเท่าไร แต่จะมีเพิ่มความอร่อยเข้าไปด้วย ผงเทมปุระกับซอสเผ็ด ๆ ที่ผมว่ามันช่วยเพิ่มรสให้ถูกปากคนไทยขึ้นมาเยอะทีเดียว // Roll อย่างที่ 2 เป็น Curi Maki (280 บาท) หรือเป็นประมาณตัวข้าวปั้นไส้รวม (Futomaki) แล้วเปลี่ยนสาหร่ายเป็นแตงกวา และก็เอาข้าวออกแทน ก็เป็น Roll ที่หน้าตาน่ากิน รู้สึกกินแล้วไม่อ้วนดีต่อสุขภาพ ส่วนรสชาติก็ดีครับ กินแล้วสดชื่นดี เบา ๆ // Roll อย่างสุดท้ายเป็น Roll ทีเด็ดประจำมื้อนี้เลยกับ  Snowman Roll (320 บาท) ที่จะนำ Enkawa มาห่อข้าวและยัดไส้ในเป็นอะไรไม่ทราบผมไม่ค่อยแน่ใจ Roll อันนี้ อร่อยมากครับ คือโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบกินเจ้า Enkawa อยู่ล่ะ แต่แบบกินหลาย ๆ คำมันก็จะเลี่ยนไป แต่อันนี้มันเหมือนกับตัวไส้ในกิน ๆ ไปแล้วมันจะช่วยดับเลี่ยนได้เป็นอย่างดี อร่อยครับ แนะนำเลย











ตัว Sushi กับ Sashimi ในมื้อนี้ก็จะมี 2 อย่าง อย่างแรกเป็น Otoro Sashimi (1,800 บาท) ช่วงหลัง ๆ นี่ผมก็ได้กิน Otoro มาค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน ส่วนใหญ่สีของเนื้อ กับลายไขมันมันจะไม่ค่อยสวยบ้าง ไม่ค่อยมีบ้าง แต่คนละเรื่องกับ Otoro ของร้าน Kaizen Sushi & Hibachi แห่งนี้เลยครับ เนื้อสีสวย ลายไขมันแทรกตัวสม่ำเสมอสวยงาม และเสิร์ฟมาแบบพิถีพิถันสุด ๆ องค์ประกอบก่อนกินทุกอย่างสมบูรณ์แบบขนาดนี้ รสชาติก็เลยไม่ต้องสืบครับ อร่อย สด ละลายในปาก แบบไม่ละลายในบนตะเกียบเลย อีกอย่างในหมวดนี้คือ  Kaizen King Sushi (1,800 บาท) Set นี้เป็น Sushi Set ที่ค่อนข้างแปลก เมื่อเทียบกับเซ็ทของร้านอื่น ๆ ในไทย คือจะให้ไข่หอยเม่นหรือ Uniมาถึง 3 แบบในจาน มีมาแบบ pure ๆ แบบผสมกับ Enkawa และก็ผสมกับไข่แซลมอนและทูน่าสับ อืม ก็แปลกดีครับ ซึ่งจะว่าไปมันก็ดีเหมือนกันเพราะ Uni ก็เป็นอะไรที่มัน กินหลาย ๆ คำก็คงเลี่ยน ซึ่งทั้ง 3 คำนี้อร่อยหมดครับ ไขหอยเม่นสดอร่อยมาก ส่วนอีก 5 คำก็เป็น Sushi แบบราคาค่อนข้างแพง มี Otoro, Chutoro, Enkawa, Kinmedai และ Hamachi ปลาแต่ละอันสดอร่อยหมด แต่เสียดายอย่างที่ผมรู้สึกว่ายังปั้นมาไม่ค่อยดีเท่าไร ข้าวกับปลาแอบมีหลุด ๆ ออกจากกัน และก็ปั้นมาแบบไม่ใช่แบบ Edo traditional style แต่ปั้นมาปลาคำโต ๆ ใหญ่กว่าข้าวเยอะ ๆ แทน ซึ่งผมไม่ค่อยชอบ เสียดายครับ เพราะปลาสด อร่อยขนาดนี้ ถ้าปั้นมาแบบ Edo นี่เผลอ ๆ จะยิ่งถูกปากผมยิ่งขึ้นไปอีก







ส่วนที่เหลือในมื้อก็จะมีของกินเล่นอีก 3 อย่างกับ Teppanyaki 1 อย่าง เอาที่ตัวเทปปันยากิก่อน มื้อนี้ได้ set  Hibachi Kobe + Seafood (1,490 บาท) หรือเนื้อโกเบ มากับ ปลาแซลมอน และ กุ้งลายเสือ และผัด และข้าวผัดกระเทียมนั่นเอง เท่าที่ผมเคยกินเจ้ากระทะร้อนในเมืองไทยมา ส่วนใหญ่ราคาเจ้า Kobe Set นี่ก็จะ 2000 บาทโดยประมาณกันแทบทั้งนั้น และให้มาแต่เนื้อ แต่ของร้าน Kaizen Sushi & Hibachi นี่ให้มาแบบเยอะกว่าเยอะ คุ้มสุด ๆ เนื้อโกเบอร่อยมากครับ นุ่ม เกือบ ๆ จะละลายในปาก ปลาแซลมอนก็สด และทอดมาอร่อยดี ตัวผักต่าง ๆ นา ๆ ใน set ก็ผัดมารสชาติดี สมราคาเชฟที่เคยเป็นเชฟกระทะร้อนอยู่ที่อเมริกามาเป็นสิบ ๆ ปีครับ ไม่ผิดหวังเลย ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่าแปลกนะครับ ร้านไหนที่ถ้าไม่มั่นใจใน Teppanyaki จริง ๆ ก็คงไม่ตั้งกระทะร้อนโชว์เด่นเป็นสง่ากลางร้านแบบนี้ ร้านไหนที่ผมกินเจ้ากระทะร้อนไม่อร่อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบกระทะร้อนซ่อนอยู่ในครัวหลักซะมากกว่า







จานอื่น ๆ ในมื้อก็มี หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว (280 บาท) จานนี้สุดยอดมาก ๆ ครับ เผลอ ๆ จะชอบสุดในมื้อนี้เลย หัวปลาแซลมอนอันใหญ่ (เรียกว่ายักษ์ก็ได้) และทำมาน่ากินมาก ๆ เนื้อปลาแซลมอนก็นุ่ม อร่อย ตัวซีอิ๊วก็รสชาติดี ไม่มีอะไรจะติครับ แต่มีข้อสงสัยแค่ว่า คิดราคาถูกไปมั้ย 280 บาท และอร่อยขนาดนี้! // Wagyu Salad (300 บาท) จานนี้เหมือนสวยแต่หน้าตาครับ ผมว่าตัวน้ำสลัดยังไม่ค่อยโดนเท่าไร และเนื้อวากิวก็ไม่รู้เป็นส่วนไหน เนื้อก็มาแดง ๆ ดิบ ๆ น่ากินดีนะครับ แต่เนื้อมันไม่นุ่มเท่าที่ควร แต่รวม ๆ ก็เป็นสลัดที่โอเค และดูคุ้มราคาดีครับกับ 300 บาทแต่ให้เนื้อวากิวมาเยอะขนาดนี้ อย่างสุดท้ายในมื้อนี้เป็น Zaru Soba (140 บาท) หน้าตาตอนแรกดูน่ากินมาก โซบะม้วน พันมาสวยงาม เส้นเรียวเล็กดูสด ๆ น่ากินเป็นอย่างมาก แต่พอกินแล้ว รสชาติแอบผิดหวังครับ ยังเทียบกับร้านโซบะเทพ ๆ ในเมืองไทยยังไม่ได้ แต่แน่นอน ดีกว่าร้าน Mainstream หรือร้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่ (คือผมเป็นคนชอบโซบะมาก ชอบสั่งในทุกร้านที่ไป เจอร้านที่อร่อย ๆ ไม่ถึง 5 ร้านก็ว่าได้ครับในกรุงเทพ)








สรุปมื้อนี้ ค่อนข้างประทับใจในอาหารของร้าน Kaizen Sushi & Hibachi @ ราชเทวี แห่งนี้ทีเดียวเลยครับ อาหารแทบทุกจาน Portion ใหญ่กว่าร้านส่วนใหญ่ที่กินมา และมาพร้อมราคาที่ส่วนใหญ่จะถูกกว่าหรือไม่ก็ราคาเท่า ๆ กันกับร้านอื่น, รสชาติอาหารโดยรวมรสชาติดีแทบทุกอย่าง มี Fail บ้างเป็นบางอย่าง ตามประสาร้านอาหารทั่ว ๆ ไปที่คงไม่มีอะไรอร่อยโดนใจหมด และอาหารหลาย ๆ อย่าง เป็นอาหารที่แบบ Unique มาก เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกในร้านนี้ ร้านนี้ก็เรียกได้ว่าวางแผน วาง positioning ตัวเองมาดีทีเดียวเลยล่ะครับ ใครที่เบื่อ ๆ กับร้านญี่ปุ่นที่แบบขายอาหารธรรมดา หรือไม่ก็เป็นร้าน Sushi แบบเดียว ก็ลองมาร้าน Kaizen Sushi & Hibachi นี่ได้ครับ มาทีเดียวจบ แบบ One stop service สำหรับอาหารญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะอาหารเค้าครบครันจริงอะไรจริง

ปล. ช่วงนี้มีส่วนลด 10 / 15% ครับ เมื่อจ่ายด้วยบัตรเครดิตและเงินสดตามลำดับ





--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...