Kaizen Sushi and Hibachi - Japanese Sushi and Teppanyaki Restaurant at BTS Ratchathevee Bangkok ไคเซน ซูชิ แอนด์ ฮิบาชิ ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ กระทะร้อน BTS ราชเทวี เบียร์สด
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4.5/5
Kaizen Sushi & Hibashi - Japanese Restaurant on BumRes.com
ท่ามกลางร้านอาหารญี่ปุ่นที่เน้นขาย Sushi ที่เปิดตัวกันมาอย่างมากมายในกรุงเทพ ร้านคลื่นลูกใหม่ทั้งหลายก็คงจะลำบากขึ้นถ้าจะแค่เปิดร้าน Sushi ธรรมดา ๆ มาอีกร้านนึง เพราะส่วนใหญ่ ลูกค้ามักจะเสพติดกับร้านประจำของตัว, ติดใจตัวเชฟ และความคุ้นเคยอะไรต่าง ๆ จนไม่อยากจะเปลี่ยนร้านกินกันแล้ว ซึ่งร้าน Kaizen Sushi and Hibachi ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ประมาณ 4 อาทิตย์ และตั้งตัวเองอยู่ที่ซอยข้าง ๆ โรงแรม Asia ติดกับรถไฟฟ้าสถานีราชเทวี แห่งนี้ ก็เข้าใจตรงจุดนี้ดี ทางร้านก็เลยมีอะไรมากกว่าที่จะเป็นแค่ Sushi เหมือนร้านช่วงหลัง ๆ ที่เปิดกันมา
ชื่อร้าน Kaizen Sushi and Hibachi นั้นทุกคำล้วนมีความหมาย ชื่อหลัก Kaizen นั้นแปลว่าการเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งโลโก้ของร้านก็จะเข้า Concept นี้เพราะเป็นต้นบอนไซที่แผ่ขยายกิ่งก้านออกไปเรื่อย ๆ ส่วน Sushi ก็แน่นอน ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่เน้นขาย Sushi มีครัวเย็นเด่นสง่าอยู่ในร้าน ตัวปลานั้นทางเจ้าของร้านว่าใช้ Supplier เดียวกันกับร้าน Honmono Sushi (ที่ตอนนี้มี 5 สาขาทั่วกรุงเทพแล้ว) เลยไม่ต้องห่วงเรื่องความหลากหลายของปลา หรือความสดของปลาเพราะว่าปลาเข้าแทบทุกวัน (รู้สึกจะยกเว้นแค่วันอาทิตย์หรือวันจันทร์นี่แหละครับ) และสามารถสั่งสัตว์ทะเลพิสดารได้ ถ้าต้องการลิ้มลองอะไรเป็นพิเศษ (เช่นปูทาราบะตัวละ 3 KG อะไรแบบนี้) ส่วนคำว่า Hibachi นั้นภาษาญี่ปุ่นจริง ๆ จะแปลว่าเตาปิ้ง เหมือนเตาปิ้งหมูปิ้ง, ปลาย่าง บ้านเรา แต่ก็เป็นคำที่ใช้เรียกเจ้าตัวกระทะร้อน หรือ Teppanyaki ได้ด้วย ทางร้านตั้งชื่อแบบนี้ก็เพราะ นอกจากครัวเย็น Sushi แล้วทางร้านก็มีกระทะร้อนตั้งอยู่กลางร้าน และมีเมนู Teppanyaki ให้เลือกสั่งค่อนข้างจะเยอะอยู่เหมือนกัน และตัวเชฟที่ประจำอยู่กระทะร้อน นั้นแม้ลีลาจะไม่ได้หวือหวาแบบร้าน Benihana แต่ก็พอมีลีลาในการปรุงอยู่บ้างให้ดูกันเพลิน ๆ ครับ
อาหารนอกเหนือจากที่กล่าว ๆ มาในย่อหน้าที่แล้วก็จะมีอาหารญี่ปุ่นอย่างอื่น ๆ ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างจะครบครัน สูสีกับร้านอาหารญี่ปุ่น Mainstream ทั่ว ๆ ไป ส่วนสนนราคานั้นผมว่าไม่ค่อยแพง หรือบางอย่างถูกกว่าที่คิดด้วยซ้ำครับ (โดยเฉพาะพวก Sushi) ทางร้าน Kaizen Sushi and Hibachi นั้นมีข้อดีอีกอย่างสำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นนอกห้างคือ ไม่มีปิดตอนบ่าย หิวเมื่อไรก็มากินได้โดยไม่ต้องเสียอารมณ์ และที่เจ๋งอีกอย่างคือ เบียร์สด 59+ บาท แค่นั้นเอง!
อาหารในมื้อนี้มีค่อนข้างเยอะครับ ไล่ไปทีละหมวดละกันนะครับ หมวดแรกเป็นหมวด Roll หรือข้าวปั้น มีทั้งหมด 3 อย่าง อย่างแรก Sexy Roll (450 บาท) หรือเป็นประมาณ ปลาแซลมอน, ปลาทูน่าห่อข้าว ไส้ในเป็นอโวคาโด แล้วก็โรยผงเทมปุระ, ไข่กุ้ง และก็ซอสเผ็ด ๆ มา เป็น Roll ที่ถามว่าหน้าตาสร้างสรรค์มั้ย? ก็คงตอบได้ว่าสร้างสรรค์และสวยดีมาก ส่วนเรื่องรสชาตินั้นไม่ค่อยหนีกับพวก Roll Salmon, Agami ทั้งหลายทั้งปวงเท่าไร แต่จะมีเพิ่มความอร่อยเข้าไปด้วย ผงเทมปุระกับซอสเผ็ด ๆ ที่ผมว่ามันช่วยเพิ่มรสให้ถูกปากคนไทยขึ้นมาเยอะทีเดียว // Roll อย่างที่ 2 เป็น Curi Maki (280 บาท) หรือเป็นประมาณตัวข้าวปั้นไส้รวม (Futomaki) แล้วเปลี่ยนสาหร่ายเป็นแตงกวา และก็เอาข้าวออกแทน ก็เป็น Roll ที่หน้าตาน่ากิน รู้สึกกินแล้วไม่อ้วนดีต่อสุขภาพ ส่วนรสชาติก็ดีครับ กินแล้วสดชื่นดี เบา ๆ // Roll อย่างสุดท้ายเป็น Roll ทีเด็ดประจำมื้อนี้เลยกับ Snowman Roll (320 บาท) ที่จะนำ Enkawa มาห่อข้าวและยัดไส้ในเป็นอะไรไม่ทราบผมไม่ค่อยแน่ใจ Roll อันนี้ อร่อยมากครับ คือโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนชอบกินเจ้า Enkawa อยู่ล่ะ แต่แบบกินหลาย ๆ คำมันก็จะเลี่ยนไป แต่อันนี้มันเหมือนกับตัวไส้ในกิน ๆ ไปแล้วมันจะช่วยดับเลี่ยนได้เป็นอย่างดี อร่อยครับ แนะนำเลย
ตัว Sushi กับ Sashimi ในมื้อนี้ก็จะมี 2 อย่าง อย่างแรกเป็น Otoro Sashimi (1,800 บาท) ช่วงหลัง ๆ นี่ผมก็ได้กิน Otoro มาค่อนข้างบ่อยเหมือนกัน ส่วนใหญ่สีของเนื้อ กับลายไขมันมันจะไม่ค่อยสวยบ้าง ไม่ค่อยมีบ้าง แต่คนละเรื่องกับ Otoro ของร้าน Kaizen Sushi & Hibachi แห่งนี้เลยครับ เนื้อสีสวย ลายไขมันแทรกตัวสม่ำเสมอสวยงาม และเสิร์ฟมาแบบพิถีพิถันสุด ๆ องค์ประกอบก่อนกินทุกอย่างสมบูรณ์แบบขนาดนี้ รสชาติก็เลยไม่ต้องสืบครับ อร่อย สด ละลายในปาก แบบไม่ละลายในบนตะเกียบเลย อีกอย่างในหมวดนี้คือ Kaizen King Sushi (1,800 บาท) Set นี้เป็น Sushi Set ที่ค่อนข้างแปลก เมื่อเทียบกับเซ็ทของร้านอื่น ๆ ในไทย คือจะให้ไข่หอยเม่นหรือ Uniมาถึง 3 แบบในจาน มีมาแบบ pure ๆ แบบผสมกับ Enkawa และก็ผสมกับไข่แซลมอนและทูน่าสับ อืม ก็แปลกดีครับ ซึ่งจะว่าไปมันก็ดีเหมือนกันเพราะ Uni ก็เป็นอะไรที่มัน กินหลาย ๆ คำก็คงเลี่ยน ซึ่งทั้ง 3 คำนี้อร่อยหมดครับ ไขหอยเม่นสดอร่อยมาก ส่วนอีก 5 คำก็เป็น Sushi แบบราคาค่อนข้างแพง มี Otoro, Chutoro, Enkawa, Kinmedai และ Hamachi ปลาแต่ละอันสดอร่อยหมด แต่เสียดายอย่างที่ผมรู้สึกว่ายังปั้นมาไม่ค่อยดีเท่าไร ข้าวกับปลาแอบมีหลุด ๆ ออกจากกัน และก็ปั้นมาแบบไม่ใช่แบบ Edo traditional style แต่ปั้นมาปลาคำโต ๆ ใหญ่กว่าข้าวเยอะ ๆ แทน ซึ่งผมไม่ค่อยชอบ เสียดายครับ เพราะปลาสด อร่อยขนาดนี้ ถ้าปั้นมาแบบ Edo นี่เผลอ ๆ จะยิ่งถูกปากผมยิ่งขึ้นไปอีก
ส่วนที่เหลือในมื้อก็จะมีของกินเล่นอีก 3 อย่างกับ Teppanyaki 1 อย่าง เอาที่ตัวเทปปันยากิก่อน มื้อนี้ได้ set Hibachi Kobe + Seafood (1,490 บาท) หรือเนื้อโกเบ มากับ ปลาแซลมอน และ กุ้งลายเสือ และผัด และข้าวผัดกระเทียมนั่นเอง เท่าที่ผมเคยกินเจ้ากระทะร้อนในเมืองไทยมา ส่วนใหญ่ราคาเจ้า Kobe Set นี่ก็จะ 2000 บาทโดยประมาณกันแทบทั้งนั้น และให้มาแต่เนื้อ แต่ของร้าน Kaizen Sushi & Hibachi นี่ให้มาแบบเยอะกว่าเยอะ คุ้มสุด ๆ เนื้อโกเบอร่อยมากครับ นุ่ม เกือบ ๆ จะละลายในปาก ปลาแซลมอนก็สด และทอดมาอร่อยดี ตัวผักต่าง ๆ นา ๆ ใน set ก็ผัดมารสชาติดี สมราคาเชฟที่เคยเป็นเชฟกระทะร้อนอยู่ที่อเมริกามาเป็นสิบ ๆ ปีครับ ไม่ผิดหวังเลย ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่น่าแปลกนะครับ ร้านไหนที่ถ้าไม่มั่นใจใน Teppanyaki จริง ๆ ก็คงไม่ตั้งกระทะร้อนโชว์เด่นเป็นสง่ากลางร้านแบบนี้ ร้านไหนที่ผมกินเจ้ากระทะร้อนไม่อร่อย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบกระทะร้อนซ่อนอยู่ในครัวหลักซะมากกว่า
จานอื่น ๆ ในมื้อก็มี หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว (280 บาท) จานนี้สุดยอดมาก ๆ ครับ เผลอ ๆ จะชอบสุดในมื้อนี้เลย หัวปลาแซลมอนอันใหญ่ (เรียกว่ายักษ์ก็ได้) และทำมาน่ากินมาก ๆ เนื้อปลาแซลมอนก็นุ่ม อร่อย ตัวซีอิ๊วก็รสชาติดี ไม่มีอะไรจะติครับ แต่มีข้อสงสัยแค่ว่า คิดราคาถูกไปมั้ย 280 บาท และอร่อยขนาดนี้! // Wagyu Salad (300 บาท) จานนี้เหมือนสวยแต่หน้าตาครับ ผมว่าตัวน้ำสลัดยังไม่ค่อยโดนเท่าไร และเนื้อวากิวก็ไม่รู้เป็นส่วนไหน เนื้อก็มาแดง ๆ ดิบ ๆ น่ากินดีนะครับ แต่เนื้อมันไม่นุ่มเท่าที่ควร แต่รวม ๆ ก็เป็นสลัดที่โอเค และดูคุ้มราคาดีครับกับ 300 บาทแต่ให้เนื้อวากิวมาเยอะขนาดนี้ อย่างสุดท้ายในมื้อนี้เป็น Zaru Soba (140 บาท) หน้าตาตอนแรกดูน่ากินมาก โซบะม้วน พันมาสวยงาม เส้นเรียวเล็กดูสด ๆ น่ากินเป็นอย่างมาก แต่พอกินแล้ว รสชาติแอบผิดหวังครับ ยังเทียบกับร้านโซบะเทพ ๆ ในเมืองไทยยังไม่ได้ แต่แน่นอน ดีกว่าร้าน Mainstream หรือร้านญี่ปุ่นส่วนใหญ่ (คือผมเป็นคนชอบโซบะมาก ชอบสั่งในทุกร้านที่ไป เจอร้านที่อร่อย ๆ ไม่ถึง 5 ร้านก็ว่าได้ครับในกรุงเทพ)
สรุปมื้อนี้ ค่อนข้างประทับใจในอาหารของร้าน Kaizen Sushi & Hibachi @ ราชเทวี แห่งนี้ทีเดียวเลยครับ อาหารแทบทุกจาน Portion ใหญ่กว่าร้านส่วนใหญ่ที่กินมา และมาพร้อมราคาที่ส่วนใหญ่จะถูกกว่าหรือไม่ก็ราคาเท่า ๆ กันกับร้านอื่น, รสชาติอาหารโดยรวมรสชาติดีแทบทุกอย่าง มี Fail บ้างเป็นบางอย่าง ตามประสาร้านอาหารทั่ว ๆ ไปที่คงไม่มีอะไรอร่อยโดนใจหมด และอาหารหลาย ๆ อย่าง เป็นอาหารที่แบบ Unique มาก เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกในร้านนี้ ร้านนี้ก็เรียกได้ว่าวางแผน วาง positioning ตัวเองมาดีทีเดียวเลยล่ะครับ ใครที่เบื่อ ๆ กับร้านญี่ปุ่นที่แบบขายอาหารธรรมดา หรือไม่ก็เป็นร้าน Sushi แบบเดียว ก็ลองมาร้าน Kaizen Sushi & Hibachi นี่ได้ครับ มาทีเดียวจบ แบบ One stop service สำหรับอาหารญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะอาหารเค้าครบครันจริงอะไรจริง
ปล. ช่วงนี้มีส่วนลด 10 / 15% ครับ เมื่อจ่ายด้วยบัตรเครดิตและเงินสดตามลำดับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment