Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 3.5/5
Paradise Dynasty - Chinese Restaurant on BumRes.com
ร้านอาหารจีนในกรุงเทพส่วนใหญ่เท่าที่ผมกิน ๆ มามันก็จะเป็นอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋ว ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจริง ๆ แล้วอาหารจีนแบบที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกนั้นจะเป็นอาหารสไตล์ Cantonese หรือสไตล์ กวางตุ้ง ซะมากกว่าซึ่งอาหารสไตล์นี้ช่วงหลัง ๆ ก็เริ่มมีหลาย ๆ ร้านอาหารจีนสไตล์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นในบ้านเราแล้ว กับร้าน Paradise Dynasty ร้านอาหารจีนเปิดใหม่ที่ชั้น 4 ห้าง Siam Paragon แห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารจีนที่ไม่ใช่อาหารจีนแต้จิ๋วอีกเช่นกัน ร้านนี้เท่าที่อ่าน ๆ ดูในคำโปรยของร้าน ทางร้านเขียนว่าเป็นการผสมผสานอาหารจีนของภาคเหนือกับภาคใต้ไว้ด้วยกัน ซึ่งภาคใต้เนี่ยมันก็คือ Cantonese ๆ นี่แหละ ส่วนภาคเหนือเท่าที่ผมรู้ก็จะมี Shanghai กับ Peking (ซึ่งเป็นอาหารจีนแบบที่หายากในบ้านเราและผมไม่ค่อยชอบเท่าไร) แต่ต้นกำเนิดของร้านนี้นั้นมาจากประเทศสิงคโปร์ ประเทศที่อาหารจีนก็ค่อนข้างจะครองเมืองเหมือนกัน แต่จะเป็นอาหารจีนสไตล์ Cantonese ผมก็เลยเดาว่า ร้านนี้อาหารน่าจะเน้น ๆ แบบกวางตุ้งซะมากกว่านะ
ร้าน Paradise Dynasty หรือ ราชวงศ์สวรรค์ แห่งนี้ก็ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ห้าง Siam Paragon เปิดแทนที่ร้าน Orengery เก่า ที่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเจ๊งนะ ร้านบรรยากาศก็ดี อาหารก็อร่อย มีให้เลือกหลากหลายอีกด้วย ตัวร้านมีขนาดใหญ่มาก เพราะกินพื้นที่เท่าร้าน Orengery เก่าเลย ร้านโปร่งโล่งสบาย แต่เห็นบรรยากาศร้านแล้ว หลาย ๆ อย่างมันดูประหลาด ๆ เหมือนกัน เช่นทำมีทำเป็นซุ้ม ๆ อันเล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางร้าน อะไรแบบนี้ การบริการของร้าน Paradise Dynasty นี่จัดได้ว่าค่อนข้างดี และจัดได้ว่าดีมาก เมื่อคิดว่าเป็นร้านเปิดใหม่ (เปิดเมื่อวันที่ 14 Sep 2012 ที่ผ่านมา) อาหารมาเร็ว พนักงานเติมน้ำชาให้ตลอด และมารยาทเรียบร้อยดี ก็สมกับเป็นร้าน แบรนด์ดัง (รึเปล่า?) จากสิงคโปร์ การบริหารจัดการยอดเยี่ยมดีครับ
อาหารของร้านนี้ตอนแรกที่เข้ามา แอบคิดว่าราคามันต้องแพงแน่ ๆ เลย แต่เปิด ๆ ไปเปิด ๆ มา ราคากลับแพงกว่าที่คิด! ล้อเล่นครับ ราคากลับถูกกว่าที่คิด อาหารจะแบ่งได้คร่าว ๆ เป็น 3 หมวด อย่างแรกคือหมวด ก๋วยเตี๋ยว หรือที่คนจีนจะเรียกว่า ลาเมียน (La mian) ซึ่งทางร้าน Paradise Dynasty @ Food Passage - Siam Paragon ก็จะมีน้ำซุปให้เลือก 3 แบบ กระดูกหมู กับน้ำซุปเสฉวน (เผ็ด ๆ ) และน้ำซุปไก่ ราเมนชามนึงจะราคา อยู่ที่ 200 บาทโดยประมาณเท่านั้น ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าถูกหรือแพงสำหรับคนทั่วไปยังไง แต่ทำไมผมรู้สึกว่ามันถูกก็ไม่รู้ -_-? อาหารหมวดที่ 2 ก็จะเป็นติ่มซำ ๆ แต่จะเป็นติ่มซำแบบสไตล์ Shanghai ครับ ไม่ใช่แนวตลาด ๆ บ้านเรา ซึ่งมันเป็นติ๋มซำที่ผมว่ามันไม่ค่อยน่ากินเท่าไรอ่ะครับ เป็นพวกเกี๊ยว ๆ มาใส่ซอส, ใส่ไส้โน่นนี่ประมาณนี้ ส่วนอาหารหมวดสุดท้ายก็จะเป็นอาหารจีนจานเดียว ที่แบบ มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ และหลาย ๆ เมนูนั้นเรียกได้ว่าแปลก และไม่เคยเห็นมาก่อนเลย สมกับเป็นอาหารจีนที่ผสมผสานอาหารจากหลายภูมิภาคแบบนี้
เนื่องจากมื้อนี้ผมไปตอนเที่ยง ซึ่งนับได้ว่าเป็นมื้อเช้าของผม ก็เลยกินอะไรกันเบา ๆ แทน อย่างแรกที่ได้เป็น cold appetizer นามว่า หมูสไลด์แช่เย็นในกระเทียมสับและซอสถั่วเหลือง (Chilled sliced pork in minced garlic and soya sauce - 165 บาท) จานนี้ คุ้น ๆ ว่าเหมือนจะเคยกินที่ไหนมาก่อนแต่ก็จำไม่ได้ ทางร้าน Paradise Dynasty @ Siam Paragon ทำมาได้ดีครับ อร่อย เย็น ๆ เผ็ด ๆ มัน ๆ ฉ่ำ ๆ ผสมผสานกันอย่างลงตัวมาก จานนี้มีชีวิตอยู่บนโต๊ะผมแค่ประมาณ 30 วินาทีเท่านั้น!
ส่วนอย่างที่ 2 นั้นเป็น เสี่ยวหลงเปาสัญลักษณ์ของไดนาสตี้ 8 รสชาติ (Signature Dynasty Dumplings 8 flavours 8 pcs - 285 บาท) อาหารที่น่าจะเป็นอาหารเรือธงของทางร้านจริง ๆ เพราะทั้งหน้าตา และความน่าสนใจนั้นมันน่าจะทำให้ลูกค้าทุกคนที่มาที่ร้านนี้ต้องสั่งกันทุกคนเป็นแน่แท้ กับเสี่ยวหลงเปา 8 สี 8 รส ที่เกิดมาผมก็ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเหมือนกันนะเนี่ย หน้าตาในเมนูนี่ว่าน่ากินแล้ว หน้าตาตอนยกมานี่ยิ่งกว่าครับ น่ากิน น่าค้นหาเป็นที่สุด ทางร้านบอกว่าให้กินไล่ไปจากรสอ่อนไปรสเข้ม และรสเผ็ด หรือคร่าว ๆ ก็คือ รสต้นตำรับ -> รสโสม -> รสตับห่าน -> รสเห็ดทรัฟเฟิล -> รสเนยแข็ง -> รสไข่ปู -> รสกระเทียม -> รสเสฉวน เนื่องจากเข่งนึง ผมต้องแบ่งกันกินกับเพื่อน ก็เลยไม่สามารถไล่รสชาติได้ตามที่ทางร้านแนะนำ (ส่วนอีกเข่ง เพื่อนผมสั่งคนเดียวเลยกินไล่ได้สบาย ๆ) โดยรวมแล้ว เป็น เสี่ยวหลงเปาที่อร่อยครับ รสชาติแต่ละอันนี่ทำมาได้เหมือนรสชาติต้นตอของมันมาก ๆ เช่น ตับห่าน ก็ตับห่านจริง ๆ ไข่ปูก็ไข่ปูจริง ๆ กินแล้วแบบ อืม เหมือนค่อย ๆ หฤหรรษ์ไปตามเส้นทางความอร่อยของเสี่ยวหลงเปาอะไรประมาณนั้น
ส่วนอาหารที่เติมเต็มกระเพาะผมนั้นเป็น ราเมนเกี๊ยวผักหมูสับในน้ำซุปกระดูกหมู (La Mian with vegetable pork dumpling in signature pork bone soup - 185 บาท) หรือก๋วยเตี๋ยวแบบจีน ๆ นั่นเอง สารภาพว่าตอนพนักงานยกมาวางต่อหน้านี่ผมอยากจะรีบ ๆ ถ่ายรูปรีบ ๆ กินเป็นอย่างมาก เพราะว่ามันน่ากินสุด ๆ น้ำซุปขาว ๆ ขุ่น ๆ , เส้นก๋วยเตี๋ยวมาแบบเส้นเรียวเล็กแบบที่ผมโปรดปราน และเกี๊ยวที่ดูช้ำ ฉ่ำ น่าหม่ำ แต่...พอกินเข้าไปแล้ว โอวว น้ำซุปมันค่อนข้างจืดทีเดียวครับ คนละเรื่องกับ tonkotsu soup ในราเมนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ที่กิน ๆ มาเลย มันเหมือนเป็น tonkotsu soup แบบอ่อน ๆ อ่อนมาก ๆ ซึ่งก็ไม่อะไรมากครับ ใส่พริกไทยลงไปเยอะ ๆ ปุ๊บ ก็มีรสชาติขึ้นมาล่ะ (สำหรับผม) เส้นกับ เกี๊ยวทำมาได้ดีมากครับ กับก๋วยเตี๋ยวชามนี้ แต่น้ำซุป มันคงเป็นน้ำซุปเอกลักษณ์ของคนจีนเค้า (อ่อน ๆ) อันนี้ก็คงไปว่าอะไรเค้าไม่ได้
ส่วนก๋วยเตี๋ยวของเพื่อนผมเป็น ราเมนในซุปเสฉวน (La Mian in hot and sour soup - 175 บาท) หรือก๋วยเตี๋ยวแบบเผ็ด ๆ นั่นเอง ชามนี้ ผมยิ่งไม่ชอบกว่าชามของผมขึ้นไปอีก เนื่องจากน้ำซุปมันคล้าย ๆ น้ำราดหน้า เหนียว ๆ ยืด ๆ และก็มาแบบเผ็ดแบบ เผ็ดแบบจีน ๆ อ่ะ บอกไม่ถูกเหมือนกัน ไม่ได้เผ็ดจากพริกป่น แต่เป็นพริกเผา ประมาณนั้นมั้ง ซึ่ง ผมเคยกินเจ้าราเมนแบบนี้มาทีที่ไต้หวัน จำได้ว่าไม่ชอบอย่างแรง ซึ่งชามนี้ทำได้ดีกว่าที่ไต้หวันครับ แต่ก็ยังไม่ค่อยชอบอยู่ดี (เพื่อนผมที่เป็นเจ้าของชาม บอกว่าพอกินได้ แปลกดี)
สรุป มื้อเบา ๆ ยามเที่ยงของผมที่ร้าน Paradise Dynasty @ Food Passage - Siam Paragon นี่ก็เรียกได้ว่าเป็นมื้อเช้าที่ดีจริง ๆ ครับได้กินอาหารเย็น ๆ แล้วตบท้ายด้วยอาหารร้อน ๆ ช่วยทำให้เจริญอาหารไปทั้งวันดีแท้ ร้าน Paradise Dynasty นี่ผมว่าก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความอยู่รอดในสงครามร้านอาหารอันแสนจะดุเดือด ณ ชั้น 4 ห้างหรูนี่ล่ะครับ เพราะอาหารจัดได้ว่าอร่อย (ไม่นับน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ฮา) ราคาก็ไม่ค่อยแพง (ถูกเมื่อเทียบกับร้านจีนอื่น ๆ ที่ชั้น 1 ของห้าง) พนักงานก็บริการดี อืม อาหารของทางร้านมีอะไรให้น่าลองอีกมากเลย ผมคงจะต้องชวนที่บ้านไปจัดหนักมื้อเย็นเร็ว ๆ นี้สักหน่อยล่ะครับ ไว้จะมารีวิวให้ชมอีกรอบครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment