BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Sunday, August 4, 2013

Casa di Dolce - River City Bangkok Review

Casa di Dolce - River City Complex Bangkok Review

คาซ่า ดิ ดอลเช่ - ริเวอร์ ซิตี้ คอมเพล็กซ์ ร้านอาหารอิตาเลียน ร้านกาแฟ ไวน์บาร์




Overall Score  7.5/10
Taste   3.5/5
Ambiance  3/5
Service  3/5
Value   4.5/5

Casa di Dolce - Italian Cafe & Coffee Shop on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



Casa di Dolce เป็นภาษาอิตาเลียนแปลว่า "บ้านแห่งของหวาน" และเป็นชื่อร้านของร้าน Cafe เก๋ ๆ ณ ห้าง River City ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สุดถนนสี่พระยาอีกด้วย ร้านนี้จากชื่อนั้นอาจจะคิดว่าขายแต่ของหวาน แต่จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยครับ อาหาร, ของหวาน และเครื่องดื่มของที่ร้านนี้นี่คือมาครบมาเต็มมาก มีทั้งของคาว, ของหวาน, เครื่องดื่มหลากหลายชนิด ครบครันเกินกว่าชื่อร้านมากมายจริง ๆ ร้านนี้อาจจะหายากสักหน่อย แม้ว่าจะรู้ว่าอยู่ที่ River City Complex แล้วก็ตาม เพราะอย่างตอนที่ผมมาก็แอบเดินหาร้านนี้อยู่สักพักเหมือนกัน จนสุดท้ายหาไม่เจอต้องโทรถาม เพราะว่าร้านนี้จะอยู่โซนด้านนอกตึก บริเวณทางออกของรถจากลานจอดรถ (อยู่ติดกับ Tops Supermarket) ก็ถ้าใครตั้งใจจะมาก็ต้องเดินมานอกตึกกันหน่อยล่ะครับ

บรรยากาศของร้านนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือการตกแต่งแนวไหน แต่ถ้าให้เดาก็น่าจะเป็นแนว อิตาเลียน หรือแนว Tuscany กระมัง ด้วยตัว แคชเชียร์ , เครื่องทำกาแฟ และอะไรต่าง ๆ ที่อยู่ตรงกลางร้าน ขนาบข้างด้วยโต๊ะอาหารทั้งแบบนั่งสบาย ๆ และนั่งกินจริงจัง และ wine cellar ขนาดเล็กด้านหลังร้าน ร้าน Casa di Dolce แห่งนี้ก็กลายเป็นร้านคาเฟ่ที่มีสไตล์สวยเก๋ ไม่ซ้ำใครขึ้นมาได้อย่างไม่ยากเย็น







ตามที่เกริ่นไปว่าร้านนี้มีอาหารหลากหลายครบทุกแบบ เราก็มาเจาะกันไปทีละหมวดหมู่เลยละกัน เนื่องจากมื้อนี้พวกผมได้อาหารมาค่อนข้างจะครบทุกหมวดหมู่ของทางร้านก็คงไม่ผิดนัก

หมวดเครื่องดื่ม - กาแฟของทางร้าน Casa di Dolce แห่งนี้ เค้าจะใช้เมล็ดกาแฟจากเชียงราย ที่ปลูกอยู่เหนือระดับน้ำทะเลขึ้นไปประมาณ 1000 เมตร ซึ่งจะทำให้เมล็ดกาแฟอยู่ในสภาพที่เมื่อนำมาคั่วสด ๆ ที่ร้านแล้วก็จะอร่อยที่สุด ซึ่งด้วยสาเหตุนี้ (และจากสาเหตุอื่น ๆ ด้วย) ก็เลยทำให้ ลูกค้าหลายคนติดใจกาแฟของร้านนี้กันค่อนข้างมากเลย มื้อนี้ก็มีกาแฟมา 2 แก้วกับเครื่องดื่มอีกอย่างนึงครับ

- Espresso (ground coffee, hot water - 60 บาท) : หอม เข้มข้น อร่อย

- Latte (Espresso, steamed milk, microfoam - 70 บาท) :  มาแบบลาเต้ แท้ ๆ (เลยมั้ง?) ใส่แค่นมกับกาแฟ ไม่มีปรุงแต่งอะไรเพิ่ม หอม อร่อยดีเช่นกันครับ

- Bluesky Italian Soda (70 บาท) : แก้วนี้รสชาติดี สวยงามเป็น blue sky ตามชื่อเลยจริง ๆ






หมวดอาหาร - อาหารของร้านนี้ก็จะเน้นไปที่อาหารอิตาเลียนครับ โดยจะไม่ได้เป็นอิตาเลียนจ๋า แต่จะเป็นลูกผสมระหว่างอิตาเลียนกับไทย เล็ก ๆ โดยจะเน้นไปที่อิตาเลียนซะมากกว่า มีไทยฟิวชั่นแซมเล็กน้อย และก็มีหมวดหมู่ให้เลือกครบครันตามประสาร้านอิตาเลียนทั่วไป (แต่ก็เรียกได้ว่ามีเยอะกว่าร้าน cafe ทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะมีแค่ pasta กับ appetizer ล่ะครับ) ราคาอาหารของร้านนี้น่าจะเป็นจุดเด่นที่สุดเลยก็ว่าได้ อาหารส่วนใหญ่ราคาอยู่ที่ประมาณ 100 - 200 บาทแค่นั้น (จะยกเว้นก็ตัว steak ที่จะแพงกว่าปกติหน่อย) อาหารมีทั้งหมด 7 จาน ครับ

- สลัดผักไฮโดโปนิกราดด้วยน้ำสลัดสูตรลับเฉพาะ (Green salad Di Dolce - 128 บาท) : ผักสด อร่อย ได้มาตรฐานผักไฮโดโปนิกจริง ๆ ส่วนน้ำสลัดสูตรลับเฉพาะนี่ก็ลับเฉพาะจริง ๆ ครับ อร่อย เข้มข้นดี อารมณ์คล้าย ๆ น้ำสลัดงา ผสมกับน้ำสลัดครีม เจ้าของร้านบอกว่ามีลูกค้าติดอกติดใจเจ้าน้ำสลัดนี่มากเลย อืม ก็ไม่น่าแปลกใจล่ะเนอะ






- ซุปเห็ด (Mushroom Soup - 78 บาท) : เป็นซุปเห็ดที่เข้มข้นมาก ๆ กินไปแต่ละคำนี่่มีเนื้อเห็ด, ผงเห็ดปนมาด้วยทุกคำ อร่อย เข้มข้น พวกผมชอบกันหมด 3 คน

- ซุปผักโขม (Spinach Soup - 78 บาท) : ถ้วยนี้อาจจะสู้ซุปเห็ดไม่ได้แต่ก็ถือว่าเป็นซุปผักโขมที่ทำได้ดีกว่าหลาย ๆ ร้านที่กินมาเลยล่ะครับ รสชาติกลมกล่อม ๆ หน่อย ไม่เหม็นเขียวเลย






- ลาซานญ่าไก่ (Chicken Lasagna - 158 บาท) : จานนี้บอกได้คำเดียวว่า .. ไม่ได้กินลาซานญ่าอร่อย ๆ แบบนี้มานานมากแล้ว คือนี่ขนาดไม่ได้เป็นลาซานญ่าเนื้อวัวนะเนี่ยยังอร่อยได้ขนาดนี้เลย ตัวชีสใส่มาเยอะมาก เห็นแล้วรู้เลยว่าไม่งกเลย จานนี้บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันอร่อยยังไง รู้แต่ว่ากินไปแต่ละคำนี่แบบฟินครับ ทั้งชีส, เนื้อไก่ ความหอม ความมัน ความนุ่ม ความกลมกล่อม มาครบเลย (คนที่ไปด้วยอีก 2 คนก็ชอบมากเลยครับ)

สปาเก็ตตี้ต้มยำทะเล (Spaghetti sea food Thai spicy - 178 บาท) : มาแบบแห้ง ๆ หน่อย ให้ seafood มาค่อนข้างเยอะ และก็เผ็ดนิด ๆ ออกแนวเป็นพาสต้าแบบไทย ๆ ที่ลงตัวดีมากครับ กินแล้วจะแบบจัดจ้าน ๆ อร่อยใช้ได้เลย







สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (Spaghetti Cabonara - 178 บาท) : เป็นคาโบนาร่าที่มาแบบแนวไทย ๆ หน่อยครับ ชีสเยิ้ม ๆ น้ำเยิ้ม ๆ ครีมเยอะ ๆ และก็ให้แฮมมาเยอะดี ม้วนเส้นมากินแต่ละคำนี่คือ ครีมเกาะมาเยอะมาก ๆ และเบคอนก็ติดมาด้วย กินแล้วก็อร่อยแบบแนวเข้มข้น ๆ ดีครับ

สปาเก็ตตี้เบคอนขี้เมา (Spaghetti bacon Thai spicy - 168 บาท) : จานนี้ค่อนข้างมาตรฐาน กินแล้วไม่ได้มีความโดดเด่นอะไรออกมาเหนือสปาเก็ตตี้ขี้เมาที่มีกันค่อนข้างเยอะ ในบ้านเราสักเท่าไร อยู่ในระดับกินง่าย ๆ กินเพลิน ๆ อร่อยระดับร้านอาหาร อะไรงี้ล่ะครับ แต่ก็ต้องชมการลวกเส้นพาสต้าของทางร้านที่ทำออกมาได้กำลังดีทุกจานเลย ไม่แข็งไม่เละจนเกินไป เหนียวนุ่มดีมาก




หมวดของหวาน

- Affogato (เอสเพรสโช่เพคเพ็คช็อตราดบนไอศครีมเจลาโต้รสวานิลลา - 95 บาท) : เป็นการนำ Espresso   รสเข้ม ๆ หอม ๆ ของทางร้านมาราดใส่ลงใน vanilla ice cream ซึ่งมีร้านที่มีเจ้าเมนูของหวานประเภทนี้ไม่ค่อยเยอะเหมือนกันนะเท่าที่ผมเคยเจอมา ซึ่งร้าน Casa di Dolce แห่งนี้เนื่องจากตัวไอศครีมนั้นใช้ ไอศครีม Gelato แบบ home-made ที่ไม่ได้ home-made (งงมั้ยครับ? คือสั่งจากที่อื่นมา แต่เจ้าที่สั่งมาไม่ได้ทำเป็น mass) รสชาติเข้มข้น หวานกำลังดี มาบวกกันกับกาแฟ ก็เลยกลายเป็น affogato รสชาติดีไปโดยปริยายล่ะครับ






- Waffle Choco Banana - Serve with vanilla ice-cream (95 บาท) : จานนี้จะแปลกหน่อยตรงที่มีโยเกิร์ตไว้ให้ทานคู่กับตัววาฟเฟิลกรอบ ๆ ด้วย พอทานรวม ๆ กัน ความหวานของกล้วยกับไอศครีมรสช็อคโกแลตชิพตัดเลี่ยนด้วยโยเกิร์ตรสเปรี้ยวนิด ๆ ก็ดูลงตัวดีทีเดียว จานนี้จะติดนิดนึงที่ตัวแป้งน่าจะหอมเนยมากกว่านี้อีกสักนิดนึงน่าจะดีกว่านี้อีกครับ

- Honey Toast (ไม่ทราบราคา) : เมนูนี้ทางราสชาติทำมาได้ดี รสชาติไม่แพ้เจ้าดัง ๆ เลย ขนมปังอบมากรอบนอกนุ่มใน ข้างในชุ่มฉ่ำไปด้วยเนยหอม ๆ ทานคู่กับไอศครีมวานิลลา ที่ทางร้านใช้ยี่ห้อที่ส่งให้ร้านอาหารและโรงแรมระดับพรีเมียมด้วยแล้ว ราดด้วยเมเปิ้ลไซรัปที่ต้องบอกว่าไม่หวงของกันเลย จานนี้เลยโอเคทีเดียว




สรุป ร้าน Casa di Dolce แห่งนี้ก็เป็นร้านที่เจ๋งเกินกว่าที่ผมคาดเอาไว้ก่อนมาพอสมควรเลยล่ะครับ สิ่งแรกที่เกินคาดก็คือตัวอาหารที่มีอะไรนอกจากของหวานเยอะมาก และก็ทำมาได้รสชาติดี จนสามารถเอาไปตั้งชื่อร้านเป็น Casi di Dolce & ของคาว ก็ยังได้เลยนะเนี่ย และยิ่งประกอบกับบรรยากาศของร้านที่เป็นแนว ๆ อิตาเลียนจ๋าดี และราคาอาหารที่ไม่แพงแบบนี้แล้วด้วยละก็ ถ้าบ้านผมอยู่แถวนี้ ผมคงแวะมาบ่อยล่ะครับ มานั่งเล่น จิบกาแฟ, กินอาหารว่าง อะไรก็ว่าไป ประหยัด และอร่อย สมัยนี้เป็นอะไรที่หาได้ค่อนข้างยากจริงอะไรจริง ว่ามั้ยครับ?

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...