BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Tuesday, December 10, 2013

The Dining Room - Veranda Resort Hua Hin Review

The Dining Room - All Day Dining and International Restaurant at Veranda Hua Hin Review

เดอะ ไดนิ่ง รูม - ห้องอาหารนานาชาติ อาหารเช้า วีรันดา หัวหิน



Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4/5

The Dining Room - International Restaurant on BumRes.com (for more pictures, menu and info)



โรงแรม Veranda หัวหิน - รีสอร์ท 5 ดาวที่เปิดมานานที่ตั้งอยู่ระหว่างหัวหินกับชะอำนั้นหลาย ๆ ท่านน่าจะรู้จักกันดี เพราะว่าที่นี่นั้นเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงและเปิดมานาน แต่ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงจะไม่เคยรู้ว่าจริง ๆ แล้วที่โรงแรมแห่งนี้นั้นเค้ามีห้องอาหารเจ๋ง ๆ อยู่ 2 ห้องอาหารเลยทีเดียว ซึ่งผมก็จะขอพาไปรีวิว 2 ห้องนี้แบบต่อเนื่องกันโดยเริ่มที่ห้องแรกก่อนนั่นก็คือ dining room - all day dining restaurant นั่นเอง ห้องอาหารนี้จะตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรม มีทั้งส่วนที่แบบเปิดโล่งสุด ๆ และตั้งอยู่ริมน้ำ และส่วน indoor dining ขนาดใหญ่ โดยทั้งหมดนี้ ณ วันที่ผมไปจะเป็นที่นั่งแบบ al fresco dining หมดเนื่องจากว่าอากาศค่อนข้างชิล ๆ (ไปตอนปลายปี) แต่เอาจริง ๆ แล้วเหมือนที่นั่งด้านใน ๆ หน่อยจะมีเปิดแอร์อยู่บ้างเหมือนกันนะครับไม่แน่ใจเหมือนกัน

ห้องอาหาร dining room - Veranda หัวหินนี้ตอนเช้าก็จะประพฤติตัวเองเป็นห้องอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์สำหรับแขกที่มาพักโรงแรม และพอเสร็จจากมื้อเช้าทางร้านก็จะเสิร์ฟอาหารแบบจริงจังขึ้นมาโดยจะเป็นอาหารแบบอาหารไทยและอาหารฝรั่งปน ๆ กัน มีให้เลือกเยอะพอสมควร โดยอาหารฝรั่งนั้นก็จะมี appetizer, soup, pasta, main course ให้เลือกส่วนอาหารไทยก็จะมีพวกของกินเล่นแบบไทย, แกง, ก๋วยเตี๋ยวและยำ อาหารโดยรวม ๆ แล้วก็จะเป็นอาหารที่ไม่ได้วิริศมาหราหรือหากินที่อื่นไม่ได้อะไรแบบนั้น จะเป็นอาหารที่เราคุ้นเคยพบเจอได้ทั่วไป ออกแนวว่าแขกชาติไหนมา (แขกต่างชาติเยอะครับที่นี่) ก็สามารถสั่งกันได้อย่างสบายใจเลย






มื้อนี้มีเครื่องดื่ม 2 อย่าง กับอาหารคาว 4 อย่างและของคาว 1 อย่างครับมาไล่เรียงกันไปเลย

Colada Veranda Style (220 บาท) (Havana club, midori, malibu, cream mix, pineapple, sugar syrup): แก้วนี้คล้าย ๆ น้ำสับปะรดปั่น แต่จะมีรสแแอลกอฮอล์หน่อย ๆ และก็มีน้ำเชื่อมมาช่วยเพิ่มความหวานอีกนิดนึง ก็เหมาะกับเป็นเครื่องดื่มริมทะเลดีครับ






Deep Sea Muffin (170 บาท) (Horlic powder, cream mix, fresh milk, strawberry syrup, chocolate powder, milo powder): แก้วนี้เป็นอารมณ์ประมาณ chocolate ปั่นแต่รสชาติจะไม่ได้ช็อคโกแลตปั่น pure ขนาดนั้นจะมีการใส่อย่างอื่นปนมาด้วยทำให้ได้รสที่ไม่ค่อยเหมือนกับช็อคโกแลตปั่นแท้ ๆ สักเท่าไรครับ ก็เป็นเครื่องดื่มก่อนอาหารที่ดื่มกันได้เพลิน ๆ ดีอีกแก้วนึง

Caesar Salad with Smoked Salmon (220 บาท): ซีซาร์สลัดจานนี้ให้ความเด่นของผักและของเนื้อปลาแซลมอนในแบบเท่า ๆ กันแตกต่างจากที่เคย ๆ กินมาที่ถ้าจานไหนตั้งชื่อว่าเป็น caesar salad ก็มักจะแบบให้ความเด่นไปอยู่ที่ผักหมด จานนี้วัตถุดิบประกอบด้วย ผักสลัดคอส, ไข่ต้ม, เบค่อน, ชีสพาร์เมซาน, ขนมปังทอด, ต้นหอมซอย, smoked salmon ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างมาตรฐานดีล่ะครับ ตัวเนื้อปลาแซลมอนรมควันก็นุ่ม ๆ หอม ๆ ดี ส่วนตัวผักก็มาแบบครบเครื่องความเป็นซีซาร์ดี








Greek Salad in Pita Bread (French spinach leaves, green leaves salad - cucumber cottage cheese, feta cheese, virgin olive oil, lemon, cherry tomato, black olive, green olive, salt & pepper, pitta bread - 230 บาท): สลัดสไตล์ เมดิเตอร์เรเนียนที่หน้าตานั้นแสนจะเมดิเตอร์เรเนียนจ๋าจริง ๆ เพราะมีการนำตัว pita bread ไปยัดไส้ด้วยผักต่าง ๆ นา ๆ และทำมารสชาติแบบกรีก ๆ ด้วยการใส่ feta cheese เป็นลูกเต๋ามาหลายลูกเลย จานนี้เป็นสลัดที่พวกผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับรสชาติสักเท่าไร และมันออกแนวแห้ง ๆ ไม่ค่อยมีน้ำสลัดด้วยก็เลยกลายเป็นว่ากินกันแล้วไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไรนักครับ แต่ผมเชื่อว่าฝรั่งน่าจะชอบจานนี้กันเพราะว่าอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนี่เป็นอะไรที่เค้าชอบกันอยู่แล้ว (แต่คนไทยเราจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไร)

Lasagna (lasagna noodle, tomato sauce, meat sauce, parmaesan cheese, white wine, whipping cream - 240 บาท): จานนี้ถ้าดูในรูปอาจจะนึกว่าจานเล็กแต่จริง ๆ แล้วจานใหญ่มาก ๆ เลยล่ะครับ ตัว lasagna จานนี้ตัวผิวด้านบนไม่ค่อยเหมือนกับร้านในกรุงเทพฯที่ผมเคยกินมาสักเท่าไร เพราะไม่ได้อบมาแบบให้ผิวเกรียม ๆ crusty ๆ สักเท่าไร แต่แบบอบมาพอให้ผิว firm ๆ แค่นั้น lasagna จานนี้อบมาร้อนดีมากครับ ร้อนจนแบบร้อนจนหยดสุดท้ายเลย ตัวไส้ในก็อร่อยดีเป็นเนื้อสับ, ผสมซอสมะเขือเทศและเส้นลาซานญ่าและพาร์มีซานชีสอย่างลงตัวเลย








Cannelloni (Lasagna noodle, sliced ham, mushroom, milk, whipping cream, salt & pepper, tomato sauce, mozzarella cheese - 240 บาท): พาสต้าอีกหนึ่งจานในมื้อนี้กับพาสต้าที่ไม่ค่อยจะพบเจอสักเท่าไรโดยจะเป็นลักษณะคล้าย ๆ ปอเปี๊ยะเป็นการนำแป้งมาห่อไส้ อะไรแบบนั้น ตัวไส้ในของจานนี้ถ้าเอาจริง ๆ ก็จะคล้าย ๆ กับตัว lasagna จานก่อนหน้านะครับแค่เปลี่ยนเป็นแฮมและก็ใส่เห็ดมาแทน ส่วนอย่างอื่นนี่คือแทบจะเหมือนกันเลย แต่แปลกดีครับ พวกผมกับชอบจานนี้มากกว่า lasagna ไม่รู้เพราะว่าเป็นพาสต้าแบบที่ไม่ค่อยเคยกินกันเลยทำให้ได้ความแปลกความอร่อยมากกว่าอะไรที่กินกันบ่อย ๆ หรือเพราะไว้ไส้ในที่มันผสมผสานลงตัวมากกว่าก็ไม่รู้เหมือนกันครับ





Tiramisu (icing sugar, rum, gelatins, whipping cream cream cheese - 220 บาท): ทีรามิสุที่เสิร์ฟมาแบบหน้าตาค่อนข้างจะ traditional เล็กน้อย mascarpone cheese หอมดี และตัวเนื้อ tiramisu ก็มาแบบนุ่มนวลสม่ำเสมอทั้งก้อนดีครับ ทางร้าน dining room มีความพิเศษหน่อยโดยราดซอส raspberry มาให้ด้วยก็ช่วยให้เป็นรสเปรี้ยวที่มาตัดกับรสหวานได้อย่างลงตัวดี

สรุป ร้าน dining room ณ Veranda Resort หัวหินแห่งนี้ ก็เป็นร้านบรรยากาศดี ๆ ของทางโรงแรมที่ค่อนข้างจะครบเครื่องในตัวความหลากหลายของอาหารพอตัวเลย อาหารมีให้เลือกแบบครบครัน พร้อม portion ที่เยอะคุ้มค่าเกินราคาอาหารมาตรฐานของอาหารโรงแรม (จานละ 200 - 300 บาท) ใครอยากจะหาร้านนั่งกินแบบชิลล์ ๆ ได้ service และคุณภาพของโรงแรม 5 ดาวในราคาที่เท่า ๆ กับหลาย ๆ ร้านอาหารฝรั่งในหัวหิน, ชะอำ แล้วละก็ ก็ลองแวะเวียนมาร้านนี้กันได้เลยครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...