BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Monday, December 2, 2013

Maki Maki Japanese Restaurant Bangkok Review

Maki Maki Japanese & Roll Restaurant at No. 88 Thonglor, Bangkok Review

มากิ มากิ ร้านอาหารญี่ปุ่น โรลล์ นัมเบอร์ 88 ทองหล่อ รีวิว



Overall Score   9.5/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   3.5/5

Maki Maki - Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ร้าน Maki Maki (แปลว่า ข้าวปั้น ๆ) เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นที่ผมขอเรียกว่า American - Japanese Restaurant แทนที่จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเฉย ๆ ละกัน ร้านนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นร้านน้องใหม่กับอาหารแนว Japanese fusion แบบนี้เพราะเพิ่งเปิดมาได้ประมาณแค่ 6 เดือนเท่านั้นเอง ตัวร้านตั้งอยู่ที่โครงการ No.88 ในซอยไปดีมาดี ซอยเล็ก ๆ ที่เชื่อมระหว่างทองหล่อซอย 5 และซอย 9 โครงการที่มีร้านอาหารเจ๋ง ๆ ตั้งอยู่อีกหลายร้านโครงการนึง และเนื่องด้วยตัวร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ของทางห้าง และตั้งอยู่ริมของโครงการก็เลยทำให้บรรยากาศของร้านนี้ค่อนข้างจะโดดเด่นกว่าหลาย ๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นหรือร้าน Sushi ที่ผมเคยไปลิ้มลองมาพอสมควร ที่โดดเด่นที่สุดก็น่าจะเป็นส่วนที่คล้าย ๆ glasshouse ยื่นออกไปของทางร้าน ที่ถ้าได้ไปนั่งตรงนั้นี่คือจะเหมือนกับได้กึ่ง ๆ วิว panorama กันเลยทีเดียว แต่ถึงจะนั่งด้านในร้านที่มีการตกแต่งเป็นแนวเรียบ ๆ แต่ modern โดยการใช้ปูนเปลือยเป็นหลัก ผมว่าบรรยากาศด้านในร้านก็กิ๊บเก๋ไม่แพ้ที่นั่งส่วนเรือนกระจกเลยแม้แต่น้อย

เชฟใหญ่ของร้าน Maki Maki แห่งนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นเชฟที่มีประสบการณ์สูงอย่างมากก็ว่าได้ เพราะเคยเป็นเชฟที่เคยไปทำงานอยู่ที่ร้านอาหารแนว Japanese fusion แนว ๆ เดียวกันกับร้าน Maki Maki แห่งนี้ที่อเมริกันมาร่วม 10 ปี และเชฟไม่ได้ประจำอยู่แค่ร้านเดียวแต่ได้ไปฝึกวรยุทธ์กับร้านดัง ๆ ในเมือง Chicago มาหลายร้านเลย คือตอนแรกที่ผมฟังชื่อชั้นของเชฟแล้วก็รู้สึกว่าอืม อาหารของร้านนี้จะต้องมีความโดดเด่น และยอดเยี่ยมไม่เหมือนกับร้านแนว American - Japanese ร้านอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ (หรือที่อเมริกา) ที่ผมเคยกินมาอย่างแน่นอน (ผลลัพธ์รออ่านไปเรื่อย ๆ ครับ)






อาหารของทางร้าน Maki Maki - ทองหล่อ แห่งนี้ตอนแรกผมก็นึกเอาไว้ว่าจะเป้นอาหารที่เน้น roll เหมือนกับร้านอื่น ๆ ที่เป็นร้านสไตล์เดียวกัน แต่เอาจริง ๆ แล้วอาหารของร้านนี้ก็ไม่ได้เน้น roll อะไรมากนัก มีอาหารอย่างอื่นระคนอยู่ใน menu ในระดับที่เกือบ ๆ จะ ใกล้เคียงกัน appetizer, sushi, roll, entree แต่กระนั้น roll ก็ยังคงเป็นเมนหลักของร้านนี้อยู่ดี (ก็แหงอ่ะนะชื่อร้านตั้งมะซะขนาดนี้) ราคาอาหารของร้านนี้ก็อยู่ในระดับกลาง ๆ มากินกันจัดเต็มก็คงคนละ 600 - 1,000 บาทโดยประมาณ ก็อยู่ในระดับเดียวกันกับร้าน Sushi ในกรุงเทพฯร้านอื่น ๆ ล่ะครับ จุดเด่นอีกอย่างนึงของร้านนี้คือ เนื่องจากว่าหนึ่งในหุ้นส่วนของทางร้านนี้เป็นมัณฑนากร จานชามช้อนส้อม, โต๊ะเก้าอี้ และอะไรต่าง ๆ นา ๆ ของทางร้าน ลามไปจนถึงตัวอาหารที่ได้ไอเดียความบรรเจิดจากเชฟมากฝีมือ ทั้งหมดนี้เลยมีความสวยงาม ใส่ใจในรายละะเอียดเหนือกว่าร้านแนว Japanese fusion แนวนี้ที่ผมเคยเจอมาค่อนข้างมากเลย ซึ่งผมก็จะมาไล่เรียงอาหารแต่ละจานที่ได้ในมื้อนี้กัน ทุกท่านคงน่าจะเห็นภาพมากขึ้น และเข้าใจว่าทุก ๆ อย่างของร้านนี้นี่คือใส่ใจในรายละเอียดจริง ๆ

Poseidon on Fire (Scallop, crab meat, shrimp, imitation crab, red tobiko with chili sauce - 270 บาท): โพเซดอนหรือจ้าวสมุทรเป็นชื่อที่ค่อนข้างจะเหมาะกับเมนูนี้เหมือนกันเพราะว่าในช้อนคันใหญ่นี้เป็นการรวมเอาอาหารทะเลหลาย ๆ อย่างที่ทำเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยวางรวม ๆ กันมา และเพื่อความน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้นทางร้านก็มีการจุดไฟก่อนที่จะนำมาเสิร์ฟให้เรากินด้วย แปลก แหวกแนวและเจ๋งดีจริง ๆ จานนี้รสชาติเยี่ยม เหมาะแก่การเป็น appetizer จริง ๆ ครับ วัตถุดิบที่โดดเด่นที่สุดเลยก็คงเป็นตัวเนื้อปูที่ให้มาเยอะมาก และตัว scallop, ปูอัด และไข่ปลาบินก็ช่วยเพื่อ texture ความนุ่ม ความกรอบให้กับในแต่ละคำที่เรากินเข้าไปได้อย่างลงตัว







Suki Sake (2 pcs) (Seared and marinated salmon - 230 บาท): Sake นั้นเป็นชื่อปลาแซลมอนที่คนญี่ปุ่นเองเรียกกัน แต่หลัง ๆ มานี่แม้แต่ร้านที่ญี่ปุ่นเองก็มักจะเขียนคำว่าแซลมอนทับศัพท์เป็นตัวคาตากานะกันไปหมดแล้วจนคำว่า Sake นี่ใครที่ไม่รู้ก็อาจจะคิดว่าหมายถึงเหล้าสาเกกันไปได้ (เพราะเขียนเหมือนกันเลย) จานนี้เป็นซูชิแซลมอนคำโตที่นำไปหมักกับโชยุมาหลายชั่วโมงก่อนจะนำมาปั้นเป็น nigiri คำโต ๆ และวางไข่ปลาแซลมอนปริมาณค่อนข้างเหมาะสมมาให้ด้วย ซูชิคำนี้ อร่อยเนื้อนุ่ม รสชาติโชยุไม่ได้เค็มโดดเด่นอะไรมาก ความนุ่ม ความสดของปลาแซลมอนยังคงเป็นพระเอกอยู่ อร่อยสมกับที่เป็น signature dish ของร้านนี้จริง ๆ ล่ะครับ

Black Pearl Maki (Scallop, cucumber, spicy mayo, fried chariotte, topped with seared salmon, and black pearl sauce - 390 บาท): จานนี้รสชาติเด่นเลยคงเป็นความมันและความเผ็ดนิด ๆ ในแต่ละคำที่กินเข้าไปครับ roll จานนี้จุดเด่นเลยคือตัวแซลมอนกับ scallop ที่สด นุ่ม อร่อย และได้ความมันและกรุบกรอบเพิ่มเติมจากตัวไข่ปลาบินที่วางโปะมาปริมาณนึง อร่อยอีกเช่นกันจานนี้







Mafia Maki (Salmon tempura, avocado, cucumber, mafia mayo, red tobiko, scallion, kiware - 350 บาท): จานนี้เป็นอีกหนึ่งจานที่บ่งบอกถึงความพิถีพิถันของทางร้านครับ ไล่กันไปตั้งแต่ตัวจานที่เป็นจานไม้แกะสลักเองเป็นรูปปลาวาฬน้อยโมบี้ดิ๊ก และมีการตกแต่งจานมาด้วยซอสให้ดูอลังการ ๆ เพิ่มขึ้นอีกชั้นนึง ตัว maki เองก็เป็น maki ที่หน้าตาดีไม่แพ้กันโดยจะใช้ไข่ปลาบินสีแดงหุ้มมารอบ ๆ ทั้งคำ ส่วนไส้ในนั้นจะเป็น salmon tempura กับแตงกวาเป็นหลัก แต่ละคำที่กินไปนั้นก็เลยได้ความ กรอบ ฉ่ำ และเด้งดึ๋ง ๆ ดีครับ อร่อยอีกแล้ว

Seared Scallop Hokkaido with Truffle (seared scallop, avocado served with truffle sauce - 370 บาท): จานนี้เรียบง่าย ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความอร่อยอันแสนจะลึกล้ำครับหอยเชลล์ hokkaido ตัวโต๊ โต นำไปเผามาจนผิวเกรียมเล็ก ๆ และวางโปะ avocado ชิ้นค่อนข้างใหญ่และมีการแกะสลักมาเล็กน้อยซึ่งให้ทั้งความสวยงามและความมันไปส่งเสริมรสชาติความหวานและนุ่มของหอยเชลล์คำโต ๆ แต่ละชิ้นได้อย่างลงตัว







Secret Garden Maki (Seared tuna, special spicy mayo, ichimi, scallion, masago, cucumber, lime juice - 390 บาท): จานนี้ตกแต่งมาเป็นเหมือนดอกไม้ช่อใหญ่ (คล้าย ๆ ดอกบานชื่น) โดยตัวกลีบนั้นจะเป็นตัว maki รสชาติจัดจ้านที่มีไส้หลักเป็นปลาทูน่า sear มานิด ๆ พอให้หอม ๆ แต่ละคำที่กินเข้าไปก็จะได้ความนุ่ม ความเผ็ดจัดจ้านดี แต่คือก็ไม่ได้นุ่มมากเพราะเหมือนเชฟจะปั้นมาแบบให้เนื้อแน่น ๆ กว่า maki จานก่อนหน้า ๆ ก็เป็น texture ที่ไม่จำเจดีครับอร่อยไปอีกแบบ

Beauty and the leaf maki (Scallop, salmon, asparagus, red tobiko, avocado, scallion, spicy mayo/lime - 450 บาท): จานนี้ก็เป็นอีกจานที่จัดจานมาแบบสวยงามตระการตามาก ๆ โดยทำเป็นรูปคล้าย ๆ ดอกหญ้า หรือ กิ่งไม้ มา ตัว texture จานนี้จะคล้ายๆ จาน secret garden maki คือจะแน่นอน ๆ เหมือนกัน แต่รสชาติจะไม่ได้เผ็ดจัดจ้านมากนัก เพราะไม่ได้ราดซอสมา จานนี้เหมือนจะต้องการให้กินเอาความหลากหลายของวัตถุดิบที่อยู่ในแต่ละคำมากกว่า ก็เป็น maki ที่สวยงามและรสชาติดีอีกจานล่ะครับ






สรุปแล้ว ร้าน Maki Maki ณ No. 88 ทองหล่อ นี่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเน้น roll ที่ผมรู้สึกว่ากินแล้วชื่นชอบในตัวรสชาติอาหารที่สุดในกรุงเทพฯนี้ที่เคยกินมาเลยนะครับ ราคาอาหารก็ไม่แพง บรรยากาศร้านก็แนวดี ใครที่เบื่อกับร้าน Sushi แบบดั้งเดิม ๆ ที่มีกันอยู่เกลื่อนกลาดเต็มบ้านเต็มเมือง (แค่ทองหล่อก็กี่ร้านเข้าไปแล้ว) ก็มาลองร้านแนว roll ร้านนี้กันได้ครับ รับรองว่าคุณจะได้ทั้งความอิ่มเอิบด้านวิสัยทัศน์และรสชาติจากอาหารจาน ๆ นึงได้อย่างไม่ยากเย็น


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...