ซิลเวอร์ เวฟส - ร้านอาหารจีน บุฟเฟ่ต์ ติ่มซำ อาหารทะเล ริมแม่น้ำ วิวสวย โรงแรม ชาเทรียม เจริญกรุง รีวิว
Overall Score 9.5/10
Taste 5/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 3/5
Silver Waves - Chinese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ถ้านึกถึงร้านอาหารจีน ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงจะไม่ได้นึกถึงร้านที่วิวสวย บรรยากาศดี กันมากนัก มักจะนึกกันถึงบรรยากาศแนวหรูหรา, เหลา ๆ แบบจีน ๆ ซะมากกว่า เพราะว่าร้านอาหารจีนเหลา, ห้องอาหรจีนหรูในโรงแรมบ้านเราส่วนใหญ๋ก็มักจะเป็นแบบนั้นกันคือตั้งอยู่ในชั้นล่าง ๆ ไม่ได้มีวิว panorama หรือวิวมุมจากชั้นสูง ๆ แต่อย่างใด แต่จะแลกมาด้วยบรรยากาศภายในร้านที่ดูดี หรูหราแทน แต่ว่าร้าน Silver Waves ณ โรงแรม Chatrium Bangkok ในรีวิวนี้ ผมสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่าร้านนี้คือร้านอาหารจีนที่ "วิวสวย บรรยากาศดี และตกแต่งร้านได้หรูหราตามสไตล์จีนร่วมสมัย ที่สุดในกรุงเทพ" เพราะว่าร้านนี้ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดของโรงแรม - ชั้น 36 และเนื่องจากตัวโรงแรมนี้เองก็ตั้งอยู่บริเวณจุดโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยาพอดี และตัวพื้นที่ห้องอาหารก็ครอบคลุมพื้นที่ฝั่งริมแม่น้ำของชั้น 37 แบบ "ทั้งฝั่ง" อีกก็เลยทำให้วิวที่ได้เห็นจากห้องนี้นี่คือวิว panorama ของแม่น้ำเจ้าพระยาแบบมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาทั้งสองฝั่ง พร้อมทิวทัศน์ของกรุงเทพฝั่งธนจากมุมมองที่(ผม)ไม่ค่อยเห็นเท่าไร เพราะส่วนใหญ่โรงแรม 5 ดาวในฝั่งกรุงเทพมักจะไม่สูงมากนัก
บรรยากาศภายในของห้องอาหาร Silver Waves - Chatrium แห่งนี้ จะตกแต่งแนวน้ำเงินเทา ๆ ให้สอดคล้องกับชื่อร้าน แต่จริง ๆ แล้วชื่อร้านนี้มีที่มาจากทำเลที่ตั้งที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ และพอมองดูแม่น้ำก็จะเห็นเป็นคลื่นแบบสีเทา ๆ หน่อยเนื่องจากแสงที่ตกกระทบและสีของแม่น้ำเจ้าพระยา ตัวห้องอาหารแห่งนี้แบ่งที่นั่งออกเป็นหลายโซนมาก ๆ มีโต๊ะหลากหลายขนาดทั้งแบบนั่งกัน 2 คน, 4 คน หรือ 10 คน คือเรียกได้ว่ากลุ่มลูกค้าแบบไหนไม่ว่าจะคู่รัก, ครอบครัวเล็ก, ครอบครัวใหญ่ก็สามารถมา enjoy ที่ร้านนี้ได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจเลย หรือถ้าแบบอยากจะจัดปาร์ตี้ยิ่งใหญ่ มีแขกมากันหลายสิบคนทางห้องอาหารจีนแห่งนี้ก็สามารถรับได้ เพราะว่าบริเวณชั้นลอยของทางร้านนั้นจะเป็นห้องส่วนตัว 3 ห้องที่สามารถแยกเป็นแต่ละห้องหรือจะเชื่อมกันเป็นห้องใหญ่ห้องเดียวก็ได้ ที่เขียนเกี่ยวกับบรรยากาศของร้านนี้เยอะนี่ก็ไม่ใช่อะไรหรอกครับ พอดีผมชอบเป็นการส่วนตัวแค่นั้นเอง :)
อาหารของร้านนี้ก็สามารถแบ่งได้เป็น 2 หมวดหมู่ คือช่วงเที่ยง (11.30 - 14.30) ทางร้าน Silver Waves จะให้บริการ Dim Sum Buffet ราคา 690++ บาท โดยรายการบุฟเฟ่ต์นี้จะสามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็นเมนูที่สามารถสั่งได้ "คนละ" 1 อย่าง กับเมนูที่สามารถสั่งได้ไม่จำกัด พวกเมนูที่สั่งได้ 1 อย่างก็จะเป็น Soup , Rice & Noodle , Vegetables และ Special Dish รายการในหมวดหมู่นี้ก็จะมีเช่น ซุปกระเพาะปลาเนื้อปูน้ำแดง, ซุปเสฉวน, ข้าวผัดหยางโจว, บร็อคโคลี่ราดกังป๋วย, เป็ดย่างหนังกรอบ, หมูแดงอบน้ำผึ้ง เป็นต้น ส่วนเมนูที่สามารถสั่งเท่าไรก็ได้ (all-you-can-eat) ก็จะเป็นพวกติ่มซำจานเล็ก ๆ ที่เหลือไม่ว่าจะของทอด, ของนึ่ง, ซาลาเปา อะไรพวกนั้นสามารถสั่งได้หมดเลย กินกันจนพุงกางได้เลย ส่วนมื้อเย็น (18.00 - 22.30) ทางร้านก็จะให้บริการ อาหารเย็นสไตล์ Cantonese หรือกวางตุ้ง แบบ a la carte ที่เราสามารถเลือกรายการอาหารได้กว่า 100 รายการจากเมนูของทางร้าน โดยร้าน Silver Waves แห่งนี้ก็จะแบ่งหมวดหมู่ตามประเภทวัตถุดิบหลัก เช่น กุ้งมังกร, ปู, ปลา, เป็ด เหมือน ๆ กับร้านอาหารจีนร้านอื่น ๆ
ร้าน Silver Waves แห่งนี้ตอนแรกผมนึกว่าเป็นร้านที่เปิดมายาวนานแล้วอย่างต่ำ ๆ ก็สัก 10 ปีเพราะว่าผมรู้จักห้องอาหาร + โรงแรมแห่งนี้มานานมากแล้ว แต่เอาเข้าจริง ห้องอาหารและโรงแรมแห่งนี้เพิ่งจะเปิดมาได้แค่ 4-5 ปีแค่นั้นเอง แต่ก็นะ อาจจะด้วยความประทับใจของลูกค้าที่มาใช้บริการที่นี่กันก็เลยทำให้มีรีวิวของที่นี่ค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับห้องอาหารจีนอื่น ๆ ในตลาดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ อย่างตอนที่ผมไปซึ่งเป็นเที่ยงวันจันทร์ ตามปกติแล้วห้องอาหารจีนในโรงแรมก็มักจะไม่ค่อยจะมีลูกค้าเท่าไร แต่คือของที่นี่ ณ วันที่ผมไปนี่มีลูกค้า occupy อยู่สัก 50% ได้ (มีกลุ่มแม่บ้านญี่ปุ่นโต๊ะใหญ่ด้วย คุยกันเสียงดังเชียวแหม่) ทางร้านบอกมาว่ายิ่งถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ นี่ยิ่งหนัก โต๊ะเต็มตลอดต้องจองโต๊ะลวงหน้า กันเลยทีเดียว
อาหารในรีวิวนี้ก็ขอแบ่งเป็น 3 หมวดละกันนะครับเป็น (a) ติ่มซำแบบสั่งได้คนละจาน, (b) ติ่มซำแบบสั่งเท่าไรก็ได้และก็ (c) a la carte จะได้ไม่งงกันว่าอะไรคืออะไร
(a) ติ่มซำแบบสั่งได้คนละจาน (ราคาในวงเล็บคือราคาแบบถ้าสั่งแยกจาน)
ซุปข้าวโพดเนื้อปู (Corn soup with crabmeat - 200 บาท): อร่อยกลมกล่อม เนื้อปูเน้น ๆ ข้าวโพดนุ่ม ๆ และก็เสิร์ฟมาแบบร้อน ๆ เลย ซึ่งข้อหลังนี่เป็นอะไรที่ผมชอบมาก เพราะหลาย ๆ ร้านชอบเสิร์ฟซุปข้าวโพดเย็น ๆ
เป็ดย่างหนังกรอบ (Crispy roasted duck - 360 บาท): เป็ดหนังกรอบมากสมชื่อจริง ๆ เนื้อก็นุ่มพอประมาณแต่ว่าไม่ได้เด่นเท่ากับหนัง คือจานนี้อร่อยโดดเด่นเหนือใครเรื่องความกรอบของหนังจริง ๆ
ข้าวผัดหยางโจว (Yang-Zhou fried rice with prawns and roasted pork - 180 บาท): จานนี้รสชาติค่อนข้างมาตรฐาน ข้าวผมว่ายังผัดมาได้ไม่ค่อยสุดซอยสักเท่าไร ยังไม่แห้ง, ยังไม่ร่วนถึงขีดสุด แต่รสชาติการปรุงนี่กลมกล่อมมากเลยล่ะ
ผักรวมผัดกระเทียม (Wok-fried mixed vegetables with garlic - 220 บาท): เป็นผักหลากหลายประเภท บร็อคโคลี่, แครอท, เม็ดแปะก๊วย, ดอกกะหล่ำ ผัดมากับกระเทียม จานนี้ก็ไม่มีอะไรมากเช่นกันครับ ไม่ค่อยหนีจากร้านอื่นสักเท่าไร
กุ้งผัดซอสเสฉวน (Wok-fried shrimp Szechwan style - 450 บาท): หนึ่งในอาหารเสฉวนไม่กี่อย่างของทางร้าน Silver Waves แห่งนี้ กุ้งขาวตัวค่อนข้างใหญ่และผัดมาแบบค่อนข้างดีมากเลย เนื้อยังเหนียวนิด ๆ แต่ก็เริ่มสุกเริ่มเด้งแล้ว ส่วนซอสนี่ก็รสชาติจัดจ้านตามสไตล์เสฉวนดีแท้ จานนี้หมดอย่างรวดเร็วเลยล่ะครับ
(b) ติ่มซำแบบสั่งเท่าไรก็ได้ (ราคาในวงเล็บคือราคาแบบถ้าสั่งแยกจาน)
ขนมจีบกุ้งมันปู (Shrimp and pork dumpling with crab roe - 100 บาท): ชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น มันปูก็ให้มาเยอะ นึ่งมาร้อน ๆ กินแล้วเด้งในปากมากเลยครับ
สาหร่ายห่อกุ้งม้วนปูอัดนึ่ง (Crab stick and shrimp in seaweed rolls - 100 บาท): ชิ้นค่อนข้างใหญ่กว่าที่อื่น อัดเนื้อกุ้งกับปูอัดมาเต็ม ๆ กินแล้วแทบไม่มีแป้งเลย สาหรายก็นึ่งมาดีไม่หลุดลอกเหมือนบางที่ จานนี้ผมชอบครับ
ก้ามปูนึ่งซอสผงกะหรี่ (Crab claws with minced shrimp - 100 บาท): จานนี้ชื่อเมนูเป็นก้ามปูแต่ผมได้เป็นกรรเชียงปูแทน ซึ่งตัวกรรเชียงปูนั้นผสมมากับเนื้อกุ้งสับปั้นจนเป็นชิ้นค่นอข้างใหญ่ และก็โปะมาด้วยซอสผงกะหรี่ อร่อยดีครับ เข้ากันดีทุกอย่างเลย
ก๋วยเตี๋ยวหลอดหอยเชลล์ (Scallop noodle rolls - 120 บาท): แป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดนุ่ม ๆ ลื่น ๆ หอยเชลล์ขนาดกลาง ๆ นึ่งมาแบบร้อน ๆ ในน้ำซีอิ๊วที่หวานเล็กน้อย กินเพลินกันเลยทีเดียว
ซาลาเปานมสด (Crystal cream bun - 100 บาท): จานนี้ทางร้าน Silver Waves บอกว่าเป็น signature dim sum ของทางร้าน ซึ่งพอได้กินแล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เนื้อแป้งจะแบบเด้ง ๆ หน่อย ไม่ได้แบบนุ่ม ๆ ร่วน ๆ เหมือนกับซาลาเปาปกติ ส่วนไส้ในก็จะเป็นไส้หวานซึ่งก็เข้ากันดีกับตัวแป้งซาลาเปา อร่อยครับกินได้เป็นทั้งของหวานและของคาวเลยนะจานนี้ผมว่า
ฮะเก๋า (Shrimp Dumpling - 100 บาท): ฮะเก๋าคำโต นึ่งมาดีมาก แป้งไม่ติด ไม่หลุดเลย (หาร้านทำได้แบบนี้ค่อนข้างยากนะครับช่วงหลังที่ผมกิน) เนื้อกุ้งที่ให้มาก็คำโตดีมาก เสียดายจานนี้มาหลัง ๆ ผมเริ่มกินไม่ไหวแล้ว
ขนมผักกาด (Chinese turnip cake - 80 บาท): ขนมผักกาดชิ้นหนาดีครับ ตัวรสสัมผัสก็เด้ง ๆ หยุ่น ๆ ดี แต่เหมือนรสชาติจะขาดความเข้มข้นไปนิดนึงครับ กินแล้วยังไม่ค่อยฟินถึงขีดสุดสักเท่าไร
กุ้งนึ่งซอสซีฟู้ด (Steamed prawn in seafood sauce - 100 บาท): กุ้งตัวกลาง ๆ ค่อนไปทางโต ซอสซีฟู้ดรสจัดจ้านดี เป็นติ่มซำแบบที่ไม่ค่อยเจอที่อื่นสักเท่าไร ออกแนวเป็นสไตล์ไทยมากกว่า แต่กินแล้วก็อร่อยดีนะครับ
เนื้อปลานึ่งซอสพริกไทยดำ (Steamed fish with black pepper sauce - 100 บาท): ซอสพริกไทยดำหอม ๆ , เนื้อปลาชิ้นหนากำลังดี นึ่งมาแบบร้อน ๆ กินแต่ละคำแล้วตัวซอสซึมเข้าเนื้อปลาดี อร่อยอีกเช่นกันเข่งนี้
ทาร์ตไข่ (Macanese egg tart - 80 บาท): ค่อนข้างธรรมดาครับจานนี้
แปะก๊วยร้อน (Hot gingko nuts in syrup - 90 บาท): ไม่ค่อยแตกต่างจากที่อื่นสักเท่าไรครับ น้ำเชื่อมไม่ค่อยกลมกล่อม, เม็ดแปะก๊วยไม่ค่อยสด กินแล้วแบบไม่ค่อยเด้งสักเท่าไร
สาคูแคนตาลูป (Chilled sago with cantaloupe melon - 90 บาท): เป็นของหวานที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้แล้วล่ะครับ แต่เอาจริง ๆ แล้วน่าจะเป็นสาคูแคนตาลูปที่อร่อยที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผมตระเวณกินมาเลยก็ว่าได้ คือแบบทางร้านไม่ได้เสิร์ฟมาเป็นน้ำเย็น ๆ เหมือนที่อื่นแต่จะเสิร์ฟมาเป็นเกล็ดน้ำแข็งแทน ซึ่งพอเป็นแบบนี้แล้วมันก็ได้ความเย็น, ได้ผิวสัมผัสที่ไม่เหมือนใคร และก็แต่งรสมาดีมากหวานกำลังดี ตัวแคนตาลูปที่ให้มาก็เย็นพอกัน และก็สดดีมาก ก็เลยทำให้ช่วยส่งเสริมรสชาติความอร่อยเข้าไปอีก
(c) a la carte
ก้ามปูสอดไส้กุ้งเจี๋ยนซอสเอ็กซ์โอ (Prawns stuffed with crab claws in X.O. sauce - 350 per piece): เป็นก้ามปูอันไม่ใหญ่มากนำไปปั้นมากับเนื้อกุ้งสับและก็เอาไปเจี๋ยน(ไปผัด) จนผิวกรอบแต่เนื้อด้านในยังนุ่มอยู่ และก็ปรุงรสมาด้วยซอสเอ็กซ์โอรสชาติจัดจ้าน เผ็ด หอม โดดเด่น และก็เสิร์ฟมาพร้อมกับบร็อคโคลี่อีกหลายดอกเล็ก กลายเป็นอาหารที่หน้าตาสวยงามเก๋ไก๋แบบจีน ๆ ไปอีกแบบ ส่วนรสชาติ อร่อยประทับใจครับ คือรสชาติ, ผิวสัมผัส มีมาแบบหลากหลายแบบมากและทั้งหมดผสมผสานกันอย่างลงตัว โอววว
เนื้อวากิวออสเตรเลียเจี๋ยน ราดซอสพริกไทยดำ (Pan-fried Australian wagyu steak with black pepper sauce - 1,400 บาท): เนื้อวากิว (น่าจะเป็นส่วนสันใน) นำไปเจี๋ยนมาให้แบบเกือบ ๆ จะเป็น well-done แล้วก็ราดซอสพริกไทยดำรสจัดจ้านมา คำแรกที่กินเข้าไปและสัมผัสได้คือตัวเนื้อนุ่มาก ทางร้านน่าจะเอาไปทำอะไรมาก่อนมากกว่าที่จะเอาไปเจี๋ยนเลย ส่วนตัวซอสพริกไทยดำก็รสชาติชัดเจนดีครับ พริกไทยโดดเด่น ลอยมาเลย จานนี้เป็นอาหารจานเนื้อสไตล์จีนอันดับต้น ๆ ที่ผมเคยกินมาเลยล่ะ
เป็ดปักกิ่ง (Roasted whole peking duck - 1,200 บาท): ปิดท้ายจานสุดท้ายด้วยพระเอกของาน กับเป็ดปักกิ่งสไตล์เฉพาะของทางร้าน Silver Waves ที่จะแล่เป็ดมาแบบติดเนื้อเยอะ ๆ หน่อย (สไตล์ฮ่องกง) ถ้าได้อ่านรีวิวจานแรก ๆ ที่มีเมนูเป็ดย่างหนังรอบไปก็น่าจะพอคาดเดาได้ว่าเป็ดปักกิ่งจานนี้จะต้องหนังกรอบเช่นเดียวกัน หนังกรอบอร่อยมากกกก (ชอบจริง ๆ คนที่ไปกับผมทุกคนก็ชอบกัน) ส่วนเนื้อก็นุ่มดี และทางร้านเสิร์ฟแป้งมาแบบร้อน ๆ เพิ่งนึ่งเสร็จก็เลยยิ่งเพิ่มควาอร่อยเข้าไปใหญ่ แต่ละคำที่กินนี่คือแบบมันลงตัวมากครับ หนังกรอบ เนื้อนุ่ม แป้งเหนียวนิด ๆ น้ำจิ้มหวานหน่อย ๆ และที่สำคัญคือจานนี้แค่ 1,200 บาทเท่านั้น! คุ้มค่าเกินราคามากเมื่อเทียบกับจานอื่น ๆ ในมื้อนี้
สรุป ร้าน Silver Waves ณ โรงแรม Chatrium แห่งนี้ก็เป็นร้านอาหารจีนที่ทำให้ผมประทับใจมาก ประทับใจแบบที่ไม่ค่อยจะรู้สึกแบบนี้กับห้องอาหารจีนช่วงหลัง ๆ สักเท่าไร บรรยากาศร้านยอดเยี่ยมกระเทียมเจียว (ตอนผมไปนี่ฟ้าโปร่งพอดีอีก วิวยิ่งแหล่มเข้าไปใหญ่), บริการได้ทุกระดับประทับใจสมกับเป็นโรงแรม 5 ดาว, อาหารก็แบบหน้าตาสวยงา ให้เนื้อมาแบบไม่กั๊ก และที่สำคัญคืออร่อยด้วย (หลายอย่างด้วย) ยากครับที่จะหาร้านอาหารจีนที่ครบครันแบบนี้ ใครจะพาแฟนมาสวีท, พาครอบครัวมาเลี้ยงวันเกิด หรืออะไรก็ตาม ผมว่าร้านนี้ใครมาก็คงต้องติดใจกันหมดแน่นอน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment