Steve Cafe & Cuisine - Thai Restaurant by the River, Bangkok
สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ คูซีน - ร้านอาหารไทย ริมแม่น้ำ
Overall Score 6.5/10
Taste 3/5
Ambiance 4/5
Service 3/5
Value 3/5
Steve Cafe & Cusine - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
ร้าน Steve Cafe & Cuisine แห่งนี้เป็นร้านที่เพิ่งเปิดมาได้ไม่นาน (ถ้าจำไม่ผิดเปิดเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว) ร้านนี้ผมรู้จักจากตอนที่ไปเล่น ๆ เว็บ tripadvisor หาร้านท็อป ๆ ในกรุงเทพแล้วก็ไปเจอกับร้านนี้เข้า (รู้สึกว่าร้านนี้จะได้อันดับ 20 กว่า ๆ เลยมั้งตอนที่ค้น ๆ ดู) แล้วแบบพอไปอ่าน comment ที่ฝรั่งมาเขียนรีวิว, ดูรูปและข้อมูลร้านเพิ่มเติมจากตัว website ของทางร้าน ก็เลยกลายเป็นหนึ่งในร้านที่น่าจะไปลองดู ลองชิม แซงหน้าหลาย ๆ ร้านขึ้นมาในทันที
ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงแถว ๆ ท่าเรือเทเวศร์ คือถ้าขับรถไป ก็ขับไปจนสุดถนนศรีอยุธยาเลย (จริง ๆ คือต้นถนนศรีอยุธยามากกว่า) ผ่านสี่แยกหอสมุดแห่งชาติไป ขับเข้าไปในวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ที่อยู่สุดถนน แล้วก็จอดรถในตัววัดแล้วก็เดินไปทางท่าเรือของทางวัดก็จะเจอทางเข้าร้าน Steve Cafe & Cuisine แห่งนี้ตั้งอยู่ ร้านนี้จุดเด่นอย่างแรกนั้นคือบรรยากาศและทำเลของตัวร้าน คือร้านจะเป็นร้านเล็ก ๆ บ้าน ๆ ที่เป็นบ้านพักริมน้ำเอามาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ก่อนจะเข้าไปในร้านเราก็จะต้องถอดรองเท้าก่อน เพื่อทำตามธรรมเนียมของการขึ้นเรือนชานบ้านคนอื่นแบบไทย ๆ เรา พอเข้าไปในร้านก็จะเจอที่นั่ง 2 ส่วนคือส่วนด้านนอก ติดแม่น้ำ และ open air ที่ถ้ามาตอนเย็นบรรยากาศคงจะดีมาก ๆ เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยายามอาทิตย์อัสดง สีส้มอำพัน เห็นฝูงนกบิน และเสียงผิวปากเข้าเทียบเรือของเรือโดยสาร อะไรแบบนั้น (แต่ตอนที่ผมไปเป็นตอนเที่ยง ที่แดดเปรี้ยง ๆ ก็เลยไม่ได้ชิล ไม่ได้บรรยากาศดีอะไรมาก) หรือถ้าใครร้อน ทางร้านก็มีที่นั่งด้านใน ที่เป็นห้องแอร์ขนาดเล็ก ๆ ไว้บริการเช่นกัน เอาจริง ๆ ร้านนี้เป็นร้านที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่อะไรมากจริง ๆ ครับ แต่ก็เป็นร้านเล็ก ๆ บ้าน ๆ ที่บรรยากาศดีไม่แพ้ร้านริมแม่น้ำร้านอื่น ๆ เลยล่ะ
พนักงานของร้านนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนลูกค้าฝรั่งมากินเองนี่จะสื่อสารกับลูกค้ากันรู้เรื่องมั้ย เพราะขนาดแค่พวกผมพูดภาษาไทยด้วย ถาม ๆ โน่นนี่ก็ยังดูไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับอาหารเลย รวมถึงแบบ การบริการรวม ๆ ก็ยังไม่ค่อยดี ต้องปรับปรุง ไม่มีเอาอุปกรณ์การกินมาให้ ต้องตาม, ถืออาหารมาก็ถือมาแบบเก้ ๆ กัง ๆ ไม่ค่อยดูเป็นมืออาชีพ การบริการของร้านนี้ค่อนข้างแหม่ง ๆ อยู่ครับ (ไม่แน่ใจตอนเย็นนี่คุณ Steve เจ้าของร้านจะมาดูแลปูเสื่อต้อนรับลูกค้าเองรึเปล่า เพราะถ้าแบบให้น้อง ๆ พนักงานพวกนี้สื่อสารกับลูกค้าฝรั่ง, ลูกค้าชาวต่างชาติ ยังไง ๆ ก็ดูไม่น่าจะสื่อสารกันรู้เรื่องจริง ๆ ล่ะครับ)
อาหารของร้านนี้ ก็จะเป็นอาหารไทย ๆ แบบไทยค่อนข้างจะไทยแท้เลย พยายามหาเมนูที่เป็นอาหาร fusion แล้วผมหาไม่เจอ แต่กลับเจอแต่อาหารไทย ๆ แทน เมนูบางจานนั้นเป็นเมนูที่ร้านอาหารไทยบางร้านก็ยังหากินยากเลยก็มี และรายการอาหารนั้นมีให้เลือกค่อนข้างเยอะมากครับ ตามประสาร้านอาหารไทยทั่วไป อาหารของร้านนี้เหมือนจะเน้นตัวกับข้าวมากกว่าอาหารจานเดียว ก็เหมือนกับอยากจะสนับสนุนให้ลูกค้าสั่งกับข้าวมากินกัน มาแชร์กันแบบที่คนไทยกินกันตามบ้านมากกว่า แต่ว่าเนื่องจากทางร้านมีเปิดบริการมื้อเที่ยงด้วย และแถวย่านนี้ก็มีหน่วยงานราชการเยอะ ก็เลยมีอาหารจานเดียว จานด่วน ไว้คอยรองรับลูกค้ากลุ่มเหล่านี้ด้วย หลายเมนูเหมือนกัน ราคาอาหารของร้านนี้ ก็เป็นราคาที่ค่อนข้างจะกลาง ๆ ครับ main dishes หรืออาหารจานหลักหรือกับข้าวก็ประมาณ 150 - 300 บาท ส่วนพวกอาหารจานเดียวก็ประมาณ 100 กลาง ๆ ราคาก็อาจจะสูงสักหน่อยเมื่อเทียบกับร้านอาหารไทยในย่านนี้ แต่ก็เป็นราคาที่ถ้าลูกค้าชาวต่างชาติมากิน (ซึ่งเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งนึงของลูกค้าทั้งหมดที่มา) ก็ถือว่าเป็นราคาที่สบายกระเป๋ามากเลยล่ะครับ
มื้อนี้เริ่มต้นด้วย ยำส้มโอ (Spicy pomelo salad - 150 บาท) : ยำรสชาติเบา ๆ ที่หลัง ๆ มานี่ผมเห็นเมนูนี้ในร้านอาหารเยอะมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนกัน จานนี้รสชาติเบามาก ๆ ครับ แบบเบาจนแทบไม่มีรสชาติเลย เบาจนไม่น่าจะเรียกว่ายำเลยก็ว่าได้ เรียกว่าสลัดส้มโอน่าจะเหมาะสมกว่า ผักและส้มโอที่ให้มาในจานนี้รวม ๆ ก็สด และฉ่ำดีครับ เป็นจานเปิดประเดิมที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ค่อนข้างดีเลยล่ะ
ส้มตำยอดมะพร้าวกุ้งลวก (Som tum top coconut with prawn - 140 บาท) : จานนี้แปลกดีในด้านความแปลกใหม่และความคิดสร้างสรรค์ คือใครจะไปคิดล่ะครับว่าจะเอายอดมะพร้าวมาทำเป็นส้มตำแทนมะละกอแบบนี้ได้ จานนี้รสชาติก็เบา ๆ อ่อน ๆ อีกแล้ว ไม่น่าจะตั้งชื่อว่าส้มตำสักเท่าไร น่าจะเป็นสลัดรสเปรี้ยวอะไรประมาณนั้นแทน รสชาติรวม ๆ ก็เบา ๆ อ่อน ๆ กินเพลิน ๆ คล้าย ๆ จานแรกครับ มีจุดเด่นตรง กุ้งที่ให้มาค่อนข้างเยอะ และก็ตัดหางมาด้วย (ทำให้น่ากินกว่าแบบหลาย ๆ ร้านที่ให้หางมา) และก็สดดี จานนี้ก็โอเคครับ
แกงเหลืองปลา (Southern style fish soup - 180 บาท) : ผมกินแกงเหลืองมาค่อนข้างเยอะ แต่กินมากี่เจ้า ๆ ทั้งที่ในกรุงเทพหรือร้านอาหารที่ภาคใต้เองเลยก็ตาม ก็ไม่ค่อยจะเจอที่อร่อย ๆ สักเท่าไร แต่กับแกงเหลืองปลา ของร้าน Steve Cafe & Cuisine ชามนี้นี่ต้องขอบอกเลยว่าของเค้าเด็ดดวงจริง ๆ ครับ รสชาติแบบ เปรี้ยว เผ็ด แซบ โดนใจมาก (ไม่ได้รสอ่อนเหมือน 2 จานก่อนหน้าแต่อย่างใดเลย) ตัวไหลบัวที่ใส่มาในแกงก็ให้มาเยอะและมันแบบกรอบอร่อยดีมาก ไม่ได้แบบเละ ๆ ยุ่ย ๆ เหมือนหลาย ๆ ที่ที่เคยกินมา ตัวเนื้อปลาที่ให้มาในชามก็ชิ้นใหญ่ และให้มาหลายชิ้น (แต่แอบมีก้างติดมาเยอะเหมือนกัน) เมนูนี้ แนะนำครับ ผมและเพื่อน 2 คนชอบกันมากเลย
ปลากะพงสองน้ำ (ผัดกระเทียมและพล่า) (Two ocean sea bass style (fried with garlic and spicy salad - 390 บาท) : จานนี้เรื่องหน้าตาและความบรรเจิดนี่เอาไปสิบกะโหลกเต็ม ๆ หน้าตามาแบบดูดีมาก อลังการและยั่วยวนความอยากอาหารไปพร้อม ๆ กัน แต่ว่าตัวรสชาตินั้นยังไม่ค่อยผ่านสักเท่าไร ปลายังทอดมาไม่ค่อยดีมาก กรอบน้อยไปหน่อย และตัวเนื้อปลาก็ไม่ค่อยสด ๆ เท่าไร เนื้อไม่ได้เนียนนุ่ม เหมือนปลากะพงสด ๆ หลาย ๆ ตัวที่ผมเพิ่งกินมาไม่นานนี้ในรีวิวก่อน ๆ หน้า ตัวซอสที่ฝั่งนึงเป็นซอสกระเทียมก็แบบหวานไปหน่อย รสชาติแปลก ๆ ส่วนอีกฝั่งที่เป็นพล่า ก็รสชาติยังไม่ค่อยจัดจ้าน ยังไม่ค่อยโดนเท่าไร จานนี้ได้แค่เรื่องหน้าตาและความอลังการ และความมีหลายรสชาติในจานเดียวแค่นั้นล่ะมั้งครับ
ข้าวผัดปลาทู (Fried rice with mackerel - 140 บาท) : จานนี้ผมบอกตรง ๆ ว่าผมไม่เห็นปลาทูเลย เนื้อปลาอาจจะเล็กมาก หรือซอยมาละเอียดมากจนตาผมไม่สามารถมองเห็น (-_-?) ตัวรสชาติก็เป็นข้าวผัดที่ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ ผัดมาแห้ง ๆ ร่วน ๆ ดี รสชาติรวม ๆ จะออกรสหวานไปหน่อย ซึ่งผมและเพื่อนเห็นตรงกันว่าข้าวผัดปลาทูแบบนี้มันควรจะมาเค็ม ๆ มากกว่า ไม่ควรมีความหวานแทรกเข้ามาแต่อย่างใด
ข้าวผัดคะน้าเนื้อเค็ม (Fried rice with Chinese broccoli & salty beef - 160 บาท) : อาหารจานสุดท้ายในมื้อนี้ จานนี้หน้าตาคล้าย ๆ กับจานก่อนหน้าครับ แต่พอทำลายก้อนข้าวที่ปั้นมาแล้ว ก็พบว่าข้าวผัดมาแบบค่อนข้างเละ ๆ ไปหน่อย น้ำเยอะไป ไม่ค่อยสมเป็นข้าวผัดสักเท่าไร ตัวเนื้อเค็มก็ให้มาไม่ค่อยเยอะ แต่ก็ยังพอมีให้เห็นเยอะกว่าตัวปลาทูของจานก่อนหน้า รสชาติก็มาแนวหวาน ๆ คล้าย ๆ จานที่แล้วอีกแล้ว พวกผม 3 คนก็ไม่ค่อยชอบรสข้าวผัดหวาน ๆ ของจานนี้อีกเช่นกัน
สรุป ร้าน Steve Cafe & Cuisine @ ท่าเรือเทเวศร์ แห่งนี้ ก็เป็นร้านอาหารไทยที่ค่อนข้างจะโดดเด่นเรื่องบรรยกาศของทางร้านและความบ้าน ๆ ของทางร้านจริง ๆ คือแขกคนไหนมาจะคนไทยหรือเทศผมว่าก็น่าจะชอบบรรยากาศของร้านนี้กันทุกคน (ยิ่งมาตอนเย็น ๆ ด้วยนี่คงฟินสุด ๆ) ส่วนตัวอาหารนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายรายการ และแต่ละเมนูส่วนใหญ่ทำมาได้หน้าตาค่อนข้างสวยงาม สวยกว่าร้านอาหารไทยส่วนใหญ่ในท้องตลาดปัจจุบัน แต่ไม่รู้ว่าเพราะลูกค้าของทางร้านเป็นคนต่างชาติเยอะ รสชาติอาหารหลาย ๆ จานที่กินในมื้อนี้มันก็เลยแบบเป็นรสที่พวกผมไม่ค่อยคุ้นกันสักเท่าไรรึเปล่าก็ไม่ทราบ คือมันไม่ได้เป็นรสแบบที่ควรจะเป็น ยำก็ไม่ได้เผ็ด, เปรี้ยว จัดจ้าน | ข้าวผัดก็ไม่ได้มัน ๆ เค็ม ๆ อะไรงี้ แต่อันนี้มันก็เข้าทำนองลางเนื้อชอบลางยาอีกแล้วล่ะครับ หลาย ๆ คนอาจจะชอบรสชาติแบบนี้กัน ไม่อย่างนั้นร้านนี้คงไม่ได้ rating สูงขนาดนี้หรอกเนอะ? ยังไงก็ไปลองพิสูจน์กันดูได้ครับ หรือจะไปสวีทกับคนพิเศษ ก็น่าสนใจเช่นกันนะครับเนี่ยร้านนี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment