Ruen Urai - Thai Restaurant at Surawong, Bangkok
เรือนอุไร - ร้านอาหารไทย สุรวงศ์
Overall Score 8.5/10
Taste 4/5
Ambiance 4.5/5
Service 4/5
Value 4/5
Ruen Urai - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ไม่น่าเชื่อว่าในย่าน สีลม - สุรวงศ์ ย่านที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและคับคั่งไปด้วยตึกระฟ้าย่านนี้จะมีร้านอาหารไทยที่บรรยากาศร้านนั้นเหมือนร้านอาหารไทยริมน้ำซ่อนตัวอยู่ได้ กับร้าน เรือนอุไร หรือ บ้านทองคำ ในรีวิวฉบับนี้ ร้านนี้ ตั้งอยู่ในโรงแรม Rose Hotel โรงแรมที่ผมเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนจนกระทั่งตอนก่อนไปรีวิวนี้อีกเช่นกัน แต่เอาจริง ๆ ก็คือเหมือนทางร้านเรือนอุไรนี้จะเป็นร้าน Standalone ที่แค่ไปใช้พื้นที่ของทางโรงแรมเท่านั้น การเดินทางไปที่ร้านนี้ก็ทางมาจากทางฝั่งพระราม 4 แล้วเข้าถนนสุรวงศ์ ขับ ๆ มาสัก 200 - 300 เมตรก็จะเจอปากซอยที่มี 7-11 อยู่ ก็จะมีป้ายโรงแรมเล็ก ๆ เขียนอยู่ก็เลี้ยวเข้ามา แล้วก็ขับเข้ามาเรื่อย ๆ มาจอดรถได้ที่หน้าร้าน เรือนอุไรได้เลย หรือถ้าจะเดินจากรถไฟฟ้า MRT ป้าย สามย่านก็พอเดินไหวนะครับ เป็นร้านที่เดินทางได้สะดวกสมกับเป็นร้านที่อยู่ในเมืองจริงอะไรจริงเลย
บรรยากาศของร้านเรือนอุไรนั้นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ และหาไม่ค่อยได้ที่ไหนในปัจจุบัน โดยตัวร้านจะเป็นเรือนไทยทั้งหลัง (น่าจะเป็นไม้สักทอง) ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก แบ่งเป็น 2 ชั้น โดยภายในก็จะตกแต่งร้านด้วยบรรยากาศไทย ๆ เรียบหรูแบบไทย ๆ ผมเองก็บรรยายไม่ค่อยถูกเหมือนกัน ก็ดูรูปประกอบเอาน่าจะเห็นภาพมากกว่า และที่ชั้นล่างก็จะมีสระว่ายน้ำที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศชิล ๆ เก๋ ๆ ให้กับตัวร้านเพิ่มเติม อีกด้วย ร้านนี้บรรยากาศดีจริง ๆ ครับ คือขนาดผมที่เป็นคนไทยมาที่ร้านนี้เองก็ยังชอบเลย ถ้าเป็นฝรั่งมังค่า หรือคนต่างชาติมาก็คงจะยิ่งชอบ เพราะได้เจออะไรแบบไทยจ๋าขนาดนี้ และไม่รู้ว่าเพราะทางร้านนั้นเป็นร้านที่ค่อนข้างดูดีมีสไตล์ หรือเพราะว่าร้านเป็นร้านที่ถือว่าอยู่ในโรงแรม การบริการของทางร้านนี้ก็เลยแบบบริการค่อนข้างดีมาก พนักงานมารยาทเรียบร้อย พูดจาดี รู้จักอาหารเป็นอย่างดี คือการบริการระดับโรงแรม 5 ดาวอะไรประมาณนั้นกันเลยทีเดียวล่ะ
อาหารของร้านเรือนอุไรนี้ก็ตามชื่อก็น่าจะพอเดาได้ว่าจะเป็นอาหารไทย ๆ เรานี่แหละ ตัวอาหารไม่ได้เป็นอาหารไทยจ๋ามากอะไรมาก มีการ twist ดัดแปลง ใส่ลูกเล่น เอาวัตถุดิบ, เนื้อสัตว์ที่ไม่ได้มีอยู่ในอาหารไทยโบราณมาทำเป็นเมนูเฉพาะของทางร้านบ้าง, มีการดัดแปลงหน้าตาอาหารให้ดูทันสมัย แนว contemporary บ้าง รวมถึงเครื่องดื่มก็มีให้เลือกครบครันทั้ง alcohol (เหล้า, ไวน์, ค็อคเทล) และ non-alcohol คือแบบครบครันครับ ราคาอาหารของร้านนี้ เท่าที่ผมดูเมนูมาอย่างละเอียดแล้วต้องบอกว่าราคาเค้าค่อนข้างถูกเกินกว่าที่คิดไว้ เมื่อพิจารณาถึงการบริการของร้าน, ทำเลร้าน และบรรยากาศร้านแล้ว ราคาอาหารของร้านนี้สามารถตั้งได้แพงกว่านี้ 30-40% ก็ยังตั้งได้เลย แต่ด้วยราคาอาหารที่อยู่ที่ประมาณ 200 - 300 บาทแบบนี้ด้วยแล้ว อืม คนต่างชาติมากินนี่ก็คงคิดว่าเป็นอะไรที่ถูกมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ร้านเรือนอุไรแห่งนี้ นอกจากอาหารไทยแบบ a la carte ปกติแล้ว ทางร้านก็ยังมีตัว set menu หรืออาหารแบบ course ไว้บริการหลากหลาย course ด้วย ราคาก็ไล่เรียงกันไปตั้งแต่คนละเกือบ ๆ พันไปจนถึงพันกว่า ๆ ซึ่งถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ แล้วสั่ง set menu แบบนี้ก็น่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวดีเหมือนกัน
มื้อนี้เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่ม 2 อย่างเป็น Cocktail และ Mocktail อย่างละแก้ว ตัว Cocktail นั้นเป็นตัว Blue Hawaii (Rum, Blue Curacao, Malibu & Coconut) - 240 บาท ซึ่งชื่อนั้นก็บ่งบอกหน้าตาและรสชาติของ cocktail แก้วนี้ได้เป็นอย่างดี ตัว cocktail แก้วนี้สีเขียวมรกต สีฟ้าอำพันน่ากินน่าดูด และรสชาติก็จะออกแนวเบา ๆ หวาน ๆ กินแล้วสดชื่น ๆ และก็มีเหล้าผสมเล็กน้อยพอให้ดื่มแล้วตึง ๆ นิดหน่อย ส่วนตัว Mocktail นั้นเป็น Passion Sunset (Passion fruit, orange & mango) - 160 บาท ที่ทำมาเป็น 3 ชั้นแยกกันระหว่างตัว เสาวรส, ส้ม และก็มะม่วง เราสามารถกินทีละชั้น สลับรสไปมาก็ได้ หรือว่าจะดูดรวดเดียวให้ได้รสพร้อมกัน 3 รสเลยก็ได้ ก็เป็นอะไรที่เจ๋งดีอีกเช่นกัน
อาหารจานแรกนั้นเริ่มเติมด้วย แสร้งว่ากระทงทอง (Sangwaah Kratong Tong - Crispy cups filled with prawns and garden herb salad - 250 บาท) ของกินเล่นแบบไทย ๆ ที่หากินไม่ค่อยได้แล้วตามร้านอาหารไทยทั่วไปในปัจจุบันนี้ จานนี้บอกตรง ๆ ว่าเป็นจานแรกที่เปิดตัวได้อย่างสวยสดงดงามมาก หน้าตาดูดี รสชาติเยี่ยม ตัวกระทงทองนั้นทอดมาได้แบบ กำลังดี กระทงรูปร่างสวย กรอบหน่อย ๆ แต่ทีเด็ดนั้นจะอยู่ที่ตัวไส้ด้านในที่เป็นกุ้งผสมกับสมุนไพรมา รสชาติมันแบบแซ่บ แล้วก็ฉ่ำ ๆ อร่อยมาก ๆ เด็ดมากครับจานนี้
ทูน่าพันสมุนไพร (Raw tuna rolls filled with fresh herbs in chili dressing - 250 บาท) : เป็น Appetizer ที่ทำมาได้หน้าตาคล้าย ๆ อาหารฝรั่งกิ๊บเก๋ ๆ พอสมควร แม้หน้าตาจะเป็นตะวันตก แต่รสชาตินั้นเป็นไทยมาก ๆ รสเผ็ด จัดจ้าน ได้กลิ่นสะระแหน่แรง ๆ กินแล้วแบบเป็น appetizer ที่ช่วยเปิดประสาทสัมผัสสำหรับการกินอาหารจานหลักจานอื่น ๆ ในมื้อนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตัวเนื้อปลาทูน่าจะไม่ได้สดมาก เหมือนเกรดซาซิมิอะไรพวกนั้น แต่การเอามาทำยำแบบนี้ เนื้อดีหรือไม่ดีมันก็จะออกมาไม่ต่างกันเท่าไร ก็ถือว่าทำได้ดีครับจานนี้
หอยเชลล์ ทรงเครื่อง (Scallops : Sauteed with fine herbs in oyster sauce - 400 บาท) : จานนี้เอาจริง ๆ แล้วตามเมนูไม่น่าจะใช่แบบที่ผมเขียนไป เพราะมันคือ หอยเชลล์ตัวขนาดกลาง ๆ ที่เอาไปผัดกับรากบัว และเห็ดหอม และแครอทฝาน ๆ กับซอสน้ำมันหอย จานนี้ผมเฉย ๆ แต่ว่าเพื่อนผม 2 คนค่อนข้างชอบ ก็เป็นจานที่รสชาติกลาง ๆ เป็นประมาณผัดผักทั่ว ๆ ไป อาจจะมีเด่นหน่อยก็ตรงหอยเชลล์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่ และก็สดดี แต่แบบตัวรากบัวก็ไม่ได้กรอบ ไม่ได้อร่อย ไม่ได้ดึงความเป็นรากบัวออกมามากนัก อะไรประมาณนั้น
แกงคั่วเนื้อปูกับใบชะพลู (Roasted red curry of crabmeat with betel leaves - 320 บาท) : ช่วงหลัง ๆ ผมได้กินเจ้าเมนูจานนี้มาบ่อยครับ และส่วนใหญ่กินทีไรก็จะอร่อยทุกที แต่ความอร่อยที่แล้ว ๆ มาก็ต้องมาสยบให้กับจานนี้จริง ๆ ครับ เนื้อปูให้มาเยอะมาก ๆ ตักไปคำไหนก็เจอแต่เนื้อ, ใบชะพลูที่ให้มาก็ต้มมาจนเปื่อยยุ่ย กินแล้วแบบเคี้ยวนิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นพิธีก็ได้แล้ว และอัดแน่นไปด้วยรสชาติของน้ำแกงที่แบบ เข้มข้น กลมกล่อมมาก เผ็ดหน่อย ๆ หวานนิด ๆ อร่อยมาก ๆ ครับถ้วยนี้
ต้มโคล้งทะเล (Smoky and spciy soup of seafood with tamarind juice and herbs - 280 บาท) : เป็นต้มโคล้งที่รสชาติดีเลยทีเดียวล่ะครับ แบบ กินแล้วชัดเจนเลยว่าเป็นต้มโคล้งจริง ๆ ไม่เหมือนบางร้านที่แบบทำมาแล้วเหมือนเป็นต้มยำอะไรพวกนั้นแทน จานนี้กลิ่นหอม และพวก seafood ก็ให้มาเยอะ และแต่ละอันก็สดเด้ง อร่อยดี แม้จะตัวไม่ใหญ่ แต่ถ้าเนื้อเด้งแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วล่ะครับ
กุ้งแม่น้ำย่างเครื่องแกง (Grilled river prawns in curry paste - 350 บาท) : จานนี้ผมรู้สึกเฉย ๆ กุ้งไม่ได้สดอะไรมาก และก็ไม่ได้ย่างมาแบบโดน ๆ เท่าไร มันกุ้งไม่ค่อยเยิ้ม (หรือไม่มีก็ว่าได้) และตัวเครื่องแกงที่ปรุง ๆ ที่ราด ๆ มาก็เหมือนไม่ได้ช่วยเพิ่มรสชาติแต่อย่างใด อืม
ไก่ย่างตะไคร้ซอสมะขาม (Grilled lemongrass-infused chicken in tamarind sauce - 220 บาท) : จานนี้ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างเฉย ๆ ก็เป็นไก่เอาไปผัดกับขิงและใบชะพลูมา แล้วก็ราดซอสมะขามมา ไม่ได้ต่างอะไรจากผัดแนวน้ำหวาน ๆ อะไรพวกนี้มากนัก เนื้อไก่ก็ไม่ได้มีอะไรเด่น ไม่ได้เลือกส่วนติดมัน หรืออะไรมา แต่เป็นส่วนอกน่าจะเกือบทุกชิ้น ก็กินได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรอ่ะครับ ประมาณนั้น
ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย (Soft-shelled crab : crispy fried with garlic and pper - 350 บาท) : ตัวจานนี้ผมไม่แน่ใจว่ามันตรงกับเมนูที่ผมพิมพ์ไปรึเปล่า จานนี้มันคือปูนิ่มเอาไปทอดกรอบ มาคล้าย ๆ พวกปลาดุกฟู อะไรแนว ๆ นั้นแล้วก็เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสองรส น้ำจิ้มแซ่บ ๆ กับน้ำจิ้มหวาน ๆ จานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจานเด็ดที่ผมและเพื่อน 2 คนชอบกันมาก ปูนิ่มนั้นมาตัวค่อนข้างใหญ่ที่ถ้าจะเรียกว่าปูม้าก็เรียกได้ และไม่ได้มาเปล่า ๆ มีการยัดไส้มาเพิ่มเติม ความอร่อยในแต่ละคำที่กัดลงไปอีกด้วย และคือกินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว แต่ทางร้านก็มีน้ำจิ้มรสชาติดี 2 อันมาให้ใส่เพิ่ม เพิมเติม เปลี่นยรสชาติไปมาได้อีกด้วย
ข้าวเหนียวมะม่วง (Fresh mango served with sticky rice) เนื่องจากว่าทางร้านชื่อว่า เรือนอุไร (บ้านทองคำ) ทางร้านก็เลยมีการใส่ทองคำเปลวลงไปในตัวอาหารจานนี้เพื่อให้เข้ากับชื่อร้านด้วย จานนี้ค่อนข้างสวยงาม แต่ว่ารสชาติรวม ๆ แล้วค่อนข้างธรรมดา ๆ ไปหน่อย โอเคตัวมะม่วง หวาน หอม อร่อยดี เนื่องจากเป็นหน้าของมันพอดี แต่ว่าตัวข้าวเหนียว ผมกับเพื่อนคิดว่ามันแห้ง ๆ ไปหน่อย ยังไม่ค่อยโดนนัก
ของหวานอีกอย่างนั้นเป็นทับทิมกรอบ ที่ทางร้านเสิร์ฟมาในแก้วช็อต หน้าตาล้ำ ๆ เหมือนกับกินของหวานตะวันตกก็ไม่ปาน ทับทิมกรอบในแก้วช็อต แก้วนี้ อร่อยมากครับ แม้ว่าจะไม่เย็นฉ่ำ เย็นเฉียบ แต่ก็มีความหวานของน้ำกะทิและน้ำตาลทราย และตัวทับทิมกรอบก็กรอบอร่อยมาก ถ้าเสิร์ฟมาเย็นเจี๊ยบกว่านี้คงจะฟินพิลึก
สรุป ร้าน เรือนอุไร - ร้านอาหารไทยย่านสุรวงศ์ ร้านนี้ก็เป็นร้านที่เรียกได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามกลางเมืองก็คงไม่ผิดนักล่ะครับ (หรืออาจจะเป็นทอง?) ด้วยบรรยากาศแบบไทยเรียบหรู , การบริการประดุจเราอยู่ในวัง และตัวอาหารที่รสชาติดีแทบทุกอย่าง พร้อมราคาที่ไม่แรงแบบนี้ อืม ร้านนี้ เหมาะแก่การทั้งมากินแบบ casual กับครอบครัว ๆ หรือมาแบบ business คุยงานก็ได้ทั้งนั้น ก็ใครที่ไม่รู้จักร้านนี้แล้วเพิ่งมารู้จักเหมือนผม ร้านนี้แนะนำจริง ๆ ครับ โดนหมดทุกอย่าง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment