BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Friday, May 17, 2013

Ruen Urai Bangkok Review

Ruen Urai - Thai Restaurant at Surawong, Bangkok

เรือนอุไร - ร้านอาหารไทย สุรวงศ์





Overall Score  8.5/10
Taste   4/5
Ambiance  4.5/5
Service  4/5
Value   4/5

Ruen Urai - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ไม่น่าเชื่อว่าในย่าน สีลม - สุรวงศ์ ย่านที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนและคับคั่งไปด้วยตึกระฟ้าย่านนี้จะมีร้านอาหารไทยที่บรรยากาศร้านนั้นเหมือนร้านอาหารไทยริมน้ำซ่อนตัวอยู่ได้ กับร้าน เรือนอุไร หรือ บ้านทองคำ ในรีวิวฉบับนี้ ร้านนี้ ตั้งอยู่ในโรงแรม Rose Hotel โรงแรมที่ผมเองก็ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนจนกระทั่งตอนก่อนไปรีวิวนี้อีกเช่นกัน แต่เอาจริง ๆ ก็คือเหมือนทางร้านเรือนอุไรนี้จะเป็นร้าน Standalone ที่แค่ไปใช้พื้นที่ของทางโรงแรมเท่านั้น การเดินทางไปที่ร้านนี้ก็ทางมาจากทางฝั่งพระราม 4 แล้วเข้าถนนสุรวงศ์ ขับ ๆ มาสัก 200 - 300 เมตรก็จะเจอปากซอยที่มี 7-11 อยู่ ก็จะมีป้ายโรงแรมเล็ก ๆ เขียนอยู่ก็เลี้ยวเข้ามา แล้วก็ขับเข้ามาเรื่อย ๆ มาจอดรถได้ที่หน้าร้าน เรือนอุไรได้เลย หรือถ้าจะเดินจากรถไฟฟ้า MRT ป้าย สามย่านก็พอเดินไหวนะครับ เป็นร้านที่เดินทางได้สะดวกสมกับเป็นร้านที่อยู่ในเมืองจริงอะไรจริงเลย

บรรยากาศของร้านเรือนอุไรนั้นค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ และหาไม่ค่อยได้ที่ไหนในปัจจุบัน โดยตัวร้านจะเป็นเรือนไทยทั้งหลัง (น่าจะเป็นไม้สักทอง) ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก แบ่งเป็น 2 ชั้น โดยภายในก็จะตกแต่งร้านด้วยบรรยากาศไทย ๆ เรียบหรูแบบไทย ๆ ผมเองก็บรรยายไม่ค่อยถูกเหมือนกัน ก็ดูรูปประกอบเอาน่าจะเห็นภาพมากกว่า และที่ชั้นล่างก็จะมีสระว่ายน้ำที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศชิล ๆ เก๋ ๆ ให้กับตัวร้านเพิ่มเติม อีกด้วย ร้านนี้บรรยากาศดีจริง ๆ ครับ คือขนาดผมที่เป็นคนไทยมาที่ร้านนี้เองก็ยังชอบเลย ถ้าเป็นฝรั่งมังค่า หรือคนต่างชาติมาก็คงจะยิ่งชอบ เพราะได้เจออะไรแบบไทยจ๋าขนาดนี้ และไม่รู้ว่าเพราะทางร้านนั้นเป็นร้านที่ค่อนข้างดูดีมีสไตล์ หรือเพราะว่าร้านเป็นร้านที่ถือว่าอยู่ในโรงแรม การบริการของทางร้านนี้ก็เลยแบบบริการค่อนข้างดีมาก พนักงานมารยาทเรียบร้อย พูดจาดี รู้จักอาหารเป็นอย่างดี คือการบริการระดับโรงแรม 5 ดาวอะไรประมาณนั้นกันเลยทีเดียวล่ะ







อาหารของร้านเรือนอุไรนี้ก็ตามชื่อก็น่าจะพอเดาได้ว่าจะเป็นอาหารไทย ๆ เรานี่แหละ ตัวอาหารไม่ได้เป็นอาหารไทยจ๋ามากอะไรมาก มีการ twist ดัดแปลง ใส่ลูกเล่น เอาวัตถุดิบ, เนื้อสัตว์ที่ไม่ได้มีอยู่ในอาหารไทยโบราณมาทำเป็นเมนูเฉพาะของทางร้านบ้าง, มีการดัดแปลงหน้าตาอาหารให้ดูทันสมัย แนว contemporary บ้าง รวมถึงเครื่องดื่มก็มีให้เลือกครบครันทั้ง alcohol (เหล้า, ไวน์, ค็อคเทล) และ non-alcohol คือแบบครบครันครับ ราคาอาหารของร้านนี้ เท่าที่ผมดูเมนูมาอย่างละเอียดแล้วต้องบอกว่าราคาเค้าค่อนข้างถูกเกินกว่าที่คิดไว้ เมื่อพิจารณาถึงการบริการของร้าน, ทำเลร้าน และบรรยากาศร้านแล้ว ราคาอาหารของร้านนี้สามารถตั้งได้แพงกว่านี้  30-40% ก็ยังตั้งได้เลย แต่ด้วยราคาอาหารที่อยู่ที่ประมาณ 200 - 300 บาทแบบนี้ด้วยแล้ว อืม คนต่างชาติมากินนี่ก็คงคิดว่าเป็นอะไรที่ถูกมากอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ร้านเรือนอุไรแห่งนี้ นอกจากอาหารไทยแบบ a la carte ปกติแล้ว ทางร้านก็ยังมีตัว set menu หรืออาหารแบบ course ไว้บริการหลากหลาย course ด้วย ราคาก็ไล่เรียงกันไปตั้งแต่คนละเกือบ ๆ พันไปจนถึงพันกว่า ๆ ซึ่งถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ แล้วสั่ง set menu แบบนี้ก็น่าจะเป็นอะไรที่ลงตัวดีเหมือนกัน

มื้อนี้เริ่มต้นด้วยเครื่องดื่ม 2 อย่างเป็น Cocktail และ Mocktail อย่างละแก้ว ตัว Cocktail นั้นเป็นตัว  Blue Hawaii (Rum, Blue Curacao, Malibu & Coconut) - 240 บาท ซึ่งชื่อนั้นก็บ่งบอกหน้าตาและรสชาติของ cocktail แก้วนี้ได้เป็นอย่างดี ตัว cocktail แก้วนี้สีเขียวมรกต สีฟ้าอำพันน่ากินน่าดูด และรสชาติก็จะออกแนวเบา ๆ หวาน ๆ กินแล้วสดชื่น ๆ และก็มีเหล้าผสมเล็กน้อยพอให้ดื่มแล้วตึง ๆ นิดหน่อย ส่วนตัว Mocktail นั้นเป็น Passion Sunset (Passion fruit, orange & mango) - 160 บาท ที่ทำมาเป็น 3 ชั้นแยกกันระหว่างตัว เสาวรส, ส้ม และก็มะม่วง เราสามารถกินทีละชั้น สลับรสไปมาก็ได้ หรือว่าจะดูดรวดเดียวให้ได้รสพร้อมกัน 3 รสเลยก็ได้ ก็เป็นอะไรที่เจ๋งดีอีกเช่นกัน






อาหารจานแรกนั้นเริ่มเติมด้วย แสร้งว่ากระทงทอง (Sangwaah Kratong Tong - Crispy cups filled with prawns and garden herb salad - 250 บาท) ของกินเล่นแบบไทย ๆ ที่หากินไม่ค่อยได้แล้วตามร้านอาหารไทยทั่วไปในปัจจุบันนี้ จานนี้บอกตรง ๆ ว่าเป็นจานแรกที่เปิดตัวได้อย่างสวยสดงดงามมาก หน้าตาดูดี รสชาติเยี่ยม ตัวกระทงทองนั้นทอดมาได้แบบ กำลังดี กระทงรูปร่างสวย กรอบหน่อย ๆ แต่ทีเด็ดนั้นจะอยู่ที่ตัวไส้ด้านในที่เป็นกุ้งผสมกับสมุนไพรมา รสชาติมันแบบแซ่บ แล้วก็ฉ่ำ ๆ อร่อยมาก ๆ เด็ดมากครับจานนี้

ทูน่าพันสมุนไพร (Raw tuna rolls filled with fresh herbs in chili dressing - 250 บาท) : เป็น Appetizer ที่ทำมาได้หน้าตาคล้าย ๆ อาหารฝรั่งกิ๊บเก๋ ๆ พอสมควร แม้หน้าตาจะเป็นตะวันตก แต่รสชาตินั้นเป็นไทยมาก ๆ รสเผ็ด จัดจ้าน ได้กลิ่นสะระแหน่แรง ๆ กินแล้วแบบเป็น appetizer ที่ช่วยเปิดประสาทสัมผัสสำหรับการกินอาหารจานหลักจานอื่น ๆ ในมื้อนี้ได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตัวเนื้อปลาทูน่าจะไม่ได้สดมาก เหมือนเกรดซาซิมิอะไรพวกนั้น แต่การเอามาทำยำแบบนี้ เนื้อดีหรือไม่ดีมันก็จะออกมาไม่ต่างกันเท่าไร ก็ถือว่าทำได้ดีครับจานนี้






หอยเชลล์ ทรงเครื่อง (Scallops : Sauteed with fine herbs in oyster sauce - 400 บาท) : จานนี้เอาจริง ๆ แล้วตามเมนูไม่น่าจะใช่แบบที่ผมเขียนไป เพราะมันคือ หอยเชลล์ตัวขนาดกลาง ๆ ที่เอาไปผัดกับรากบัว และเห็ดหอม และแครอทฝาน ๆ กับซอสน้ำมันหอย จานนี้ผมเฉย ๆ แต่ว่าเพื่อนผม 2 คนค่อนข้างชอบ ก็เป็นจานที่รสชาติกลาง ๆ เป็นประมาณผัดผักทั่ว ๆ ไป อาจจะมีเด่นหน่อยก็ตรงหอยเชลล์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่ และก็สดดี แต่แบบตัวรากบัวก็ไม่ได้กรอบ ไม่ได้อร่อย ไม่ได้ดึงความเป็นรากบัวออกมามากนัก อะไรประมาณนั้น

แกงคั่วเนื้อปูกับใบชะพลู (Roasted red curry of crabmeat with betel leaves - 320 บาท) : ช่วงหลัง ๆ ผมได้กินเจ้าเมนูจานนี้มาบ่อยครับ และส่วนใหญ่กินทีไรก็จะอร่อยทุกที แต่ความอร่อยที่แล้ว ๆ มาก็ต้องมาสยบให้กับจานนี้จริง ๆ ครับ เนื้อปูให้มาเยอะมาก ๆ ตักไปคำไหนก็เจอแต่เนื้อ, ใบชะพลูที่ให้มาก็ต้มมาจนเปื่อยยุ่ย กินแล้วแบบเคี้ยวนิด ๆ หน่อย ๆ พอเป็นพิธีก็ได้แล้ว และอัดแน่นไปด้วยรสชาติของน้ำแกงที่แบบ เข้มข้น กลมกล่อมมาก เผ็ดหน่อย ๆ หวานนิด ๆ อร่อยมาก ๆ ครับถ้วยนี้






ต้มโคล้งทะเล (Smoky and spciy soup of seafood with tamarind juice and herbs - 280 บาท) : เป็นต้มโคล้งที่รสชาติดีเลยทีเดียวล่ะครับ แบบ กินแล้วชัดเจนเลยว่าเป็นต้มโคล้งจริง ๆ ไม่เหมือนบางร้านที่แบบทำมาแล้วเหมือนเป็นต้มยำอะไรพวกนั้นแทน จานนี้กลิ่นหอม และพวก seafood ก็ให้มาเยอะ และแต่ละอันก็สดเด้ง อร่อยดี แม้จะตัวไม่ใหญ่ แต่ถ้าเนื้อเด้งแค่นี้มันก็เพียงพอแล้วล่ะครับ

กุ้งแม่น้ำย่างเครื่องแกง (Grilled river prawns in curry paste - 350 บาท) : จานนี้ผมรู้สึกเฉย ๆ กุ้งไม่ได้สดอะไรมาก และก็ไม่ได้ย่างมาแบบโดน ๆ เท่าไร มันกุ้งไม่ค่อยเยิ้ม (หรือไม่มีก็ว่าได้) และตัวเครื่องแกงที่ปรุง ๆ ที่ราด ๆ มาก็เหมือนไม่ได้ช่วยเพิ่มรสชาติแต่อย่างใด อืม






ไก่ย่างตะไคร้ซอสมะขาม (Grilled lemongrass-infused chicken in tamarind sauce - 220 บาท) :  จานนี้ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างเฉย ๆ ก็เป็นไก่เอาไปผัดกับขิงและใบชะพลูมา แล้วก็ราดซอสมะขามมา ไม่ได้ต่างอะไรจากผัดแนวน้ำหวาน ๆ อะไรพวกนี้มากนัก เนื้อไก่ก็ไม่ได้มีอะไรเด่น ไม่ได้เลือกส่วนติดมัน หรืออะไรมา แต่เป็นส่วนอกน่าจะเกือบทุกชิ้น ก็กินได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรอ่ะครับ ประมาณนั้น

ปูนิ่มทอดกระเทียมพริกไทย (Soft-shelled crab : crispy fried with garlic and pper - 350 บาท) : ตัวจานนี้ผมไม่แน่ใจว่ามันตรงกับเมนูที่ผมพิมพ์ไปรึเปล่า จานนี้มันคือปูนิ่มเอาไปทอดกรอบ มาคล้าย ๆ พวกปลาดุกฟู อะไรแนว ๆ นั้นแล้วก็เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสองรส น้ำจิ้มแซ่บ ๆ กับน้ำจิ้มหวาน ๆ จานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจานเด็ดที่ผมและเพื่อน 2 คนชอบกันมาก ปูนิ่มนั้นมาตัวค่อนข้างใหญ่ที่ถ้าจะเรียกว่าปูม้าก็เรียกได้ และไม่ได้มาเปล่า ๆ มีการยัดไส้มาเพิ่มเติม ความอร่อยในแต่ละคำที่กัดลงไปอีกด้วย และคือกินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว แต่ทางร้านก็มีน้ำจิ้มรสชาติดี 2 อันมาให้ใส่เพิ่ม เพิมเติม เปลี่นยรสชาติไปมาได้อีกด้วย






ข้าวเหนียวมะม่วง (Fresh mango served with sticky rice) เนื่องจากว่าทางร้านชื่อว่า เรือนอุไร (บ้านทองคำ) ทางร้านก็เลยมีการใส่ทองคำเปลวลงไปในตัวอาหารจานนี้เพื่อให้เข้ากับชื่อร้านด้วย จานนี้ค่อนข้างสวยงาม แต่ว่ารสชาติรวม ๆ แล้วค่อนข้างธรรมดา ๆ ไปหน่อย โอเคตัวมะม่วง หวาน หอม อร่อยดี เนื่องจากเป็นหน้าของมันพอดี แต่ว่าตัวข้าวเหนียว ผมกับเพื่อนคิดว่ามันแห้ง ๆ ไปหน่อย ยังไม่ค่อยโดนนัก

ของหวานอีกอย่างนั้นเป็นทับทิมกรอบ ที่ทางร้านเสิร์ฟมาในแก้วช็อต หน้าตาล้ำ ๆ เหมือนกับกินของหวานตะวันตกก็ไม่ปาน ทับทิมกรอบในแก้วช็อต แก้วนี้ อร่อยมากครับ แม้ว่าจะไม่เย็นฉ่ำ เย็นเฉียบ แต่ก็มีความหวานของน้ำกะทิและน้ำตาลทราย และตัวทับทิมกรอบก็กรอบอร่อยมาก ถ้าเสิร์ฟมาเย็นเจี๊ยบกว่านี้คงจะฟินพิลึก

สรุป ร้าน เรือนอุไร - ร้านอาหารไทยย่านสุรวงศ์ ร้านนี้ก็เป็นร้านที่เรียกได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงามกลางเมืองก็คงไม่ผิดนักล่ะครับ (หรืออาจจะเป็นทอง?) ด้วยบรรยากาศแบบไทยเรียบหรู , การบริการประดุจเราอยู่ในวัง และตัวอาหารที่รสชาติดีแทบทุกอย่าง พร้อมราคาที่ไม่แรงแบบนี้ อืม ร้านนี้ เหมาะแก่การทั้งมากินแบบ casual กับครอบครัว ๆ หรือมาแบบ business คุยงานก็ได้ทั้งนั้น ก็ใครที่ไม่รู้จักร้านนี้แล้วเพิ่งมารู้จักเหมือนผม ร้านนี้แนะนำจริง ๆ ครับ โดนหมดทุกอย่าง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...