Kaguya - Japanese Gastro Bar at Thonglor Soi 10 Review
คากุยะ - ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ฟิวชั่น สาเก เบียร์สด ทองหล่อ ซอย 10
Overall Score 9.5/10
Taste 5/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 4/5
Kaguya - Japanese Gastro Bar on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
คากุยะ เป็นชื่อตัวเอก(นางเอก) ของนิทานปรัมปราที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น (มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10) หลาย ๆ ท่านคงน่าจะเคยได้ยินนิทานเกี่ยวกับเจ้าหญิงไม้ไผ่ผู้เลอโฉมกันอยู่บ้าง ซึ่งเจ้าหญิงนางนั้นก็มีนามว่า Kaguya-hime หรือแปลตรงตัวว่า เจ้าหญิงไม้ไผ่จรัสแสงนั่นเอง ซึ่งถ้าจะให้เล่าเรื่องนี้กันแบบเต็ม ๆ มันก็คงจะยาวเกินไป และก็คงจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการรีวิวร้านอาหารในครั้งนี้ แต่เอาเป็นว่าสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับนิทานเรื่องนี้ก็คือ ชื่อภูเขาไฟฟูจินั้น เค้าเชื่อกันว่าถูกตั้งมาจากนิทานเรื่องนี้กันเลยทีเดียวล่ะ
ส่วนสาเหตุที่ทางเรื่อง Kaguya Japanese Gastro Bar ได้นำชื่อของเจ้าหญิงไม้ไผ่นางนี้มาตั้งเป็นชื่อร้านนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากครับแค่เพราะว่าทางเจ้าของชื่นชอบนิยายเรื่องนี้ก็แค่นั้นเอง (-*-) ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ 10 จากปากซอยเข้าไปประมาณสัก 10 เมตรก็จะเห็นร้านนี้แล้ว ตัวร้านนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 zone คือส่วน al fresco dining ที่มีม่านบังแดด เปิด-ปิด(แบบ auto) ได้ คอยกำบังแดดหรือฝนให้ลูกค้าที่นั่งด้านนอก และส่วนด้านในห้องแอร์ที่มีที่นั่งหลายโซนอีกเช่นกัน ทั้งโซน บาร์น้ำ, โต๊ะเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ , โซนเกือบ ๆ จะเป็นห้องส่วนตัวที่มี wallpaper เป็นลวดลายเจ้าหญิงคากุยะอันแสนจะงดงาม และบรรยากาศภายในร้านทั้งหมดนี้ก็จะมีการนำไม้ไผ่มาตกแต่ง, มีของตกแต่งที่รูปร่างคล้าย ๆ เมล็ดข้าวญี่ปุ่น ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับบรรยากาศร้านส่วนอื่น ๆ ที่จะเป็นแนว modern contemporary เล็กน้อย กลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่สวยงาม เก๋ไก๋ โดดเด่นไม่เหมือนใครได้อย่างลงตัว
ตอนก่อนที่ผมจะมาร้านนี้นั้น ตอนแรกผมก็นึกว่าร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar แห่งนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ไม่ได้มีอาหารแตกต่างหรือพิเศษกว่าร้านอื่น ๆ แต่อย่างใดหรอก แต่ความคิดนั้นเป็นความคิดที่ค่อนข้างจะไม่ตรงกับ concept อาหารของทางร้านเลย ไม่เฉียดเลยก็ว่าได้ โอเค อาหารญี่ปุ่นแบบ Sushi, Sashimi แน่นอนว่าคงไม่มีใครสามารถไปปรับเปลี่ยนหรือทำอะไรให้มันพิเศษไปกว่าแบบต้นตำรับได้สักเท่าไร (ซึ่งร้าน Kaguya แห่งนี้ก็เป็นแบบนั้น) แต่อาหารอย่างอื่น ๆ ในเมนูนั้นบอกตรง ๆ ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะโดดเด่น แตกต่างและไม่เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นร้านไหนจริง ๆ ซึ่งสาเหตุนั้นก็คงจะมาจากตัวเชฟใหญ่ประจำร้าน "เชฟก้อง" เชฟหนุ่มไฟแรงผู้เรียนจบการทำอาหารจาก Le Cordon Bleu ออสเตรเลีย และเป็นเชฟใหญ่ประจำร้าน Fire & Dine ณ Asiatique มาก่อน และด้วยประสบการณ์, แนวคิด และความมุ่งมั่นที่ต้องการจะทำให้อาหารญี่ปุ่นของทางร้านนี้ไม่เหมือนใคร, มีการนำเทคนิคการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศสมาประยุกต์ใช้, การเลือกใช้วัตถุดิบ ๆ ตั้งแต่วัตถุดิบหลักไปจนถึงวัตถุดิบรอง เช่น เนย, ซีอิ๊ว, โชยุ ก็เลยทำอาหารของร้านนี้กลายเป็นอาหารญี่ปุ่นที่น่าจเรียกว่าเป็นอาหารแนว contemporary Japanese cuisine ก็ว่าได้ แต่คือเอาจริง ๆ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเราควรจะนิยามอาหารของร้านนี้ว่าอย่างไรดี เพราะไม่เคยพบเจอการผสมผสานอาหารญี่ปุ่นกับอาหารฝรั่งเศสได้อย่างลงตัวแบบนี้เลย ยังไงก็ลอง ๆ อ่าน ๆ ดูต่อและช่วยผมวิเคราะห์หน่อยละกันว่าเราควรจะนิยามอาหารของร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar แห่งนี้ว่าเป็นอาหารแนวไหนดี
ก่อนจะเข้าถึงตัวอาหาร ก็คงจะไม่ได้เลยถ้าจะไม่พูดถึงบาร์น้ำ หรือ เครื่องดื่มของทางร้านนี้ เพราะว่าทางร้านนี้ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับตัวเครื่องดื่มไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตัวอาหารเลยล่ะ เริ่มกันที่ตัว bartender ที่ทางร้านมีกันถึง 3 คนและแต่ละคนนั้นล้วนแต่เป็นบาร์เทนเดอร์มากฝีมือที่เคยไปแข่งขันบาร์เทอนเดอร์และได้รางวัลกันมาหมดแล้ว และเมื่อบวกกับเครื่องดื่มของทางร้านที่มีอยู่มากมายก็เลยทำให้บาร์เทนเดอร์สามารถแสดงฝีมือออกมากันได้อย่างเต็มที่ ไม่มีข้อจำกัดด้านความหลากหลายของเครื่องดื่ม ขาดื่มทั้งหลายถ้ามาที่ร้านนี้ไม่น่าจะผิดหวังกับ drink list ของทางร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar แห่งนี้ล่ะครับ เครื่องดื่มประเภทนึงที่ผมรู้สึกว่าร้านนี้โดดเด่นมากเลยก็คือพวก whiskey ที่ทางร้านมี whiskey หลากหลายแบบมาก ตั้งแต่ whiskey premium ของญี่ปุ่นแบบ single malt, super premium whisky - single grain ของ Scotland คือพวกผมได้มีโอกาสชิม whiskey ขั้นเทพพวกนี้บ้างหลายชนิด บอกตรง ๆ ว่ามันเป็นประสบการณ์ความเลิศรส (หรือเมามายหว่า) ที่ "คนละเรื่อง" กับการดื่มวิสกี้แบบบ้านเราเลยก็ว่าได้ ผมเพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมในหนังฝรั่ง, การ์ตูนญี่ปุ่น พวกตัวละครในเรื่องถึงชอบมานั่งดื่ม whiskey กันแบบ on the rock กัน เพราะว่า premium whiskey นี่มันเป็นอะไรที่ อร่อย หอมหวาน ดื่มแล้วไม่ร้อนผ่าว เหมือน whiskey บ้าน ๆ ของบ้านเราเลยแมแต่นิดเดียว อืม
Signature cocktail ของทางร้าน Kaguya Japaense Gastro Bar แห่งนี้ค่อนข้างจะมีให้เลือกพอสมควรเหมือนกัน ซึ่งในมื้อนี้เราก็มีทั้งหมด 4 แก้วมาไล่เรียงกันไปเลยละกันครับ
Kumo Mizu (vodka mixed with french white chocolate liqueur and peach. With homemade tangy passionfruit foam - 280 บาท): แก้วนี้เก๋ไก๋ด้วยการที่จะแบ่งเครื่องดื่มออกเป็น 2 ชั้น ชั้นบนที่เป็นเหมือนโฟม เหมือนปุยเมฆ (kumo แปลว่าเมฆ) ส่วนชั้นล่างที่จะเป็นน้ำธรรมดา (mizu แปลว่าน้ำ) เวลาดื่มก็ต้องดื่มพร้อมกันให้ได้ทั้งเมฆและน้ำ และพอดื่มพร้อมกันเท่านั้นปุ๊บ ทั้งรสชาติ ผิวสัมผัส ทุกอย่างมันผสมผสานกันออกมาเป็น cocktail ที่ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ
Caribbean Navy Smash (Tiki style cocktail with Venezuelan light rum, Tropical & seasonal fruits, citrus and homemade cardamom ginger syrup - 280 บาท): เครื่องดื่มที่ให้บรรยากาศเหมือนเครื่องดื่มชิล ๆ ริมทะเล รสชาติจะไม่แรง ไม่หนักสักเท่าไร จะมาแนว หวาน เปรี้ยว ระคนกันแบบลงตัว สาว ๆ น่าจะชอบครับแก้วนี้
The Way of Samurai (Japanese single malt, yuzu, brown sugar shaken up and serve in iced cold cobbler shaker which represent Samurai's armor - 280 บาท): แก้วนี้ concept คือต้องการจำลองวิถีซามูไรมาอยู่ในเครื่องดื่มแก้วนึง ไล่กันไปตั้งแต่ตัวแก้วที่เปรียบเสมือนเกราะของซามูไร, ตัว bitter ที่เปรียบเหมือนเลือด และรสชาติหลังจากดื่มแล้วจะแบบ พลุ่งพล่าน ห้าวหาญเหมือนกับจิตวิญญาณของซามูไรก็ไม่ปาน รสชาติแก้วนี้จะแรง ๆ นิดหน่อย แต่ก็มีความหอมของเปลือกส้มที่วางแปะลงมา และก็รสขม ๆ ของ bitter มาช่วยทำให้รสละมุนขึ้นเล็กน้อย
Kola Tora (Concoction of Bourbon gently stir with a big chunk of ice. Serving on the rock in a handcrafed German crystal glass. With drunken cherry and cola essence. Fit a bill as an afterwork - gentleman drink - 280 บาท): ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่มองผิวเผินอาจจะไม่ค่อยเหมือน cocktail สักเท่าไร เหมือนเป็นเครื่องดื่ม on the rock เปล่า ๆ มากกว่า แต่จริง ๆ แล้วแก้วนี้นี่คือมีการใส่กลิ่นโคล่า, ใส่เชอรี่, เนื้อส้มมาด้วย ก็เลยทำให้รสชาตินั้นไม่ได้เป็น bourbon เพียว ๆ สักเท่าไร มีความหอม, มีกลิ่นที่แตกต่างออกไป ก็เหมาะกับคุณผู้ชายที่อยากได้ cocktail แรง ๆ ล่ะครับแก้วนี้
อาหารในมื้อนี้ก็มี 4 อย่างเท่ากันกับตัวเครื่องดื่มครับมาไล่เรียงกันไปเลย
เริ่มกันที่อย่างแรกเป็น a la carte sushi ที่จัดรวมกันมาในจานเดียวกลายเป็น Sushi Platter งาม ๆ น่ากินจานนึง ในจานนี้ก็จะประกอบด้วย Aji (Spanish Mackerel - 120 บาท), Akami (Lean tuna - 250 บาท),Hokkigai (Surf clam - 200 บาท), Hamachi (Young yellow tail tuna - 280 บาท), Otoro (Fatty tuna - 400 บาท), Kampachi (Amber Jack - 300 บาท) ทั้งหมดนี้จะมาในลักษณะ modern sushi คือจะมีการบากเนื้อปลา, การตกแต่งหน้าด้วยทองคำเปลว, เงินเปลว, มีการโรย topping ด้วย tobiko เล็กน้อยอะไรแบบนี้ ซึ่งก็เป็นอะไรที่เข้ากันดีกับ concept อาหารของร้านนี้เหมือนกันครับ ตัวซูชิแน่นอนว่าปราณีตมาขนาดนี้รสชาติไม่ผิดหวังอยู่แล้วล่ะครับ อร่อย เนื้อนุ่ม สด อร่อยในทุก ๆ คำที่กินเข้าไป
Salmon Belly (Salmon roe, micro green and white truffle oil and lemon foam - ท้องปลาแซลมอนย่างเกลือและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลขาวเสิร์ฟพร้อมเลม่อนโฟม - 450 บาท): เนื้อปลาแซลมอนที่ถูกเลือกมาเฉพาะช่วงท้อง นำไปทอดมาจนกรอบกำลังดี ผิวกรอบเกรียม แต่ว่าเนื้อยังนุ่มอร่อยอยู่ และเพิ่มความมันความร่อยด้วยเห็ดทรัฟเฟิลขาวที่ทำมาคล้าย ๆ เมล็ดโฟม และเพิ่มความเปรี้ยวแบบละมุนกว่าปกติด้วย lemon foam ที่ราดลงมา (หรือจะบีบมะนาวเพิ่มด้วยก็ได้) แต่ละคำที่กินเข้าไปคือได้ครบหมดเลย ทั้งผิวสัมผัสอันหลากหลาย จาก โฟม, ฟอง, หนังปลา และเนื้อปลา และรสชาติอันหลากหลายเช่นเดียวกัน
Spring Roll (Steamed with tiger prwn, french butter, chinese chives and sesame broth - ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้งและกุยช่ายนึ่งน้ำจิ้มงาและเนยจากฝรั่งเศส - 380 บาท): จานนี้ถ้าไม่ได้อยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นเราก็อาจจะคิดว่านี่มันอาหารจีนชัด ๆ แต่คือจริง ๆ แล้วก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบจีน ๆ จานนี้มีการผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นอยู่พอสมควร ด้วยตัวน้ำซอสที่ราดมานั้นจะมีรสชาติและกลิ่นคล้าย ๆ โชยุแบบญี่ปุ่นมาก และเป็นรสชาติหลักของจานก็ว่าได้ ส่วนตัวก๋วยเตี่ยวหลอดนั้นก็แบบสมบูรณ์แบบ แป้งนุ่ม, เนื้อกุ้งให้มาเยอะ แต่ละคำที่กินนี่คือจะแบบนุ่มละมุน หอมเนย เปรี้ยวแบบเฝื่อน ๆ กำลังดีจากตัวโชยุผสมน้ำส้ม ฟินครับจานนี้ฟินมาก ๆ เลย พวกผมไปกัน 3 คนในมื้อนี้พูดเหมือนกันว่า "เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดที่อร่อยที่สุดในชีวิต" (จานนี้ทางเชฟก้องนำไปใช้แข่งในเชฟกระทะเหล็กด้วยครับ แต่มีการดัดแปลงเปลี่ยนไส้ในเป็นปูขนแทนกุ้งลายเสือ)
Bisque (Scallop, catch of the day fish, tiger prawn, and mix vegetables - ซุปกุ้งล็อบสเตอร์เสิร์ฟในกระบะหินร้อนสไตล์สุกี้ยากี้ - 900 บาท): ปิดท้ายกันด้วยจานที่ผมว่าอลังการที่สุดในมื้อนี้ด้วยการนำ Japanese cuisine และ French cuisine มาผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยทางฝั่งฝรั่งเศสนั้นจะเป็นตัวซุป lobster bisque รสชาติเข้มข้น เค็มนำ แต่ก็ยังถือว่ากำลังดี กินแต่ซุปเปล่า ๆ ก็อร่อยฟินแล้ว แต่นี่เพิ่มความอร่อยเพิ่มเติมด้วยอาหารจากฝั่งญี่ปุ่นที่จะเป็นผักและ seafood สไตล์สุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นให้เราเอามาลวกกิน, หรือต้มกินใน lobster bisque กันเอง ซึ่งตัววัตถุดิบก็ให้มาแบบครบครันลงตัวดี มีเห็ด, ผัก และเนื้อ seafood มาอย่างละประมาณ 3 อย่างลงตัวดี และอาหารจานนี้จะไม่ฟินเลยถ้าไม่มีหินภูเขาไฟร้อน ๆ ที่เราสามารถเติมลงไปในถ้วยได้ตลอดเวลา ทำให้ได้ซุปที่ร้อนอยู่เสมอและก็ไม่ต้องมีเตามาอุ่นหม้อให้เสียอารมณ์
สรุป ร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar - ร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่และแนวใหม่ในย่างทองหล่อแห่งนี้ก็น่าจะเรียกได้ว่าแหวกแนวได้อย่างลงตัว ไม่เหมือนกับบางร้านที่แหวก ๆ ออกมาแล้วกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ character ไม่ชัดเจน concept lame ๆ อะไรแบบนั้น ใครที่เบื่ออาหารญี่ปุ่นแบบ traditional เอะอะก็ซูชิ, เอะอะก็ shabu shabu หรืออะไรแบบธรรมดา ๆ แต่อยากหาอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี, เครื่องดื่มให้เลือกดื่มเข้าคู่กับอาหารกันอย่างหลากหลาย ร้าน เจ้าหญิงไม้ไผ่แห่งนี้ น่าจะเป็นอะไรที่จะช่วยเปิดประสบการณ์แห่งความเลิศรสแบบใหม่ ๆ ให้กับคุณได้ไม่ยากเลยล่ะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment