Once Upon A Time Restaurant - Thai Restaurant at Petchaburi 17, Bangkok
กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ - ร้านอาหารไทย เพชรบุรี ซอย 17
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
Once Upon A Time Restaurant - Thai Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ - ร้านอาหารไทย ชื่อเก๋ ๆ ที่อาจจะฟังดูเหมือนเป็นชื่อนิยายมากกว่าชื่อร้านอาหารนี้ ก็เป็นร้านที่ผมเคยเล็งไว้ว่าจะไปนานแล้ว ส่วนนึงก็เพราะชื่ออันเก๋ไก๋น่าไปลองนี้ และอย่างที่สองคือบรรยากาศของร้านที่ดูจากในรูปแล้วดูแนวดี เจ๋งดี ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยเพชรบุรี 17 ซอยตั้งข้ามกับพันธุ์ทิพย์พลาซ่าเลย จากปากซอยเข้าซอยไปประมาณสัก 100 เมตรก็จะเห็นร้านนี้อยู่ด้านขวามือเลย เป็นร้านที่นำเอาบ้านมาดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร ส่วนที่จอดรถนี่อาจจะลำบากหน่อยเพราะว่าทางร้านไม่มีที่จอดรถ แต่ก็สามารถจอดได้ริมถนนหน้าร้านได้ เพราะสามารถจอดได้ตลอดแนว ซึ่งวันที่ผมไปก็ได้จอดหน้าร้านพอดิบพอดีเลย
ว่ากันถึงบรรยากาศร้านกันก่อน สิ่งแรกที่เราจะพบหลังจากเดินเข้าไปในร้านเลยคือ บรรยากาศร้านที่เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในร้านยุคโบราณเลยจริง ๆ กับบรรยากาศร้านที่แบ่งเป็น 2 zone โดยประมาณ โซนนั่งรับประทานอาหารแบบขันโตก ไม่มีแอร์ กินอาหารโดยแวดล้อมไปด้วยต้นไม้ของทางร้าน , โซนห้องแอร์ ที่จะตกแต่งเก่า ๆ หน่อย ไฟสลัว ๆ เหมือนกินอยู่ในบ้านโบราณอะไรงี้ ส่วนพนักงานก็แสดงความเป็นไทยสุด ๆ ผู้ชายจะนุ่งโจงกระเบน ส่วนผู้หญิงก็จะห่มสะไบกันเลยทีเดียว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าร้านนี้เปิดมานานรึยัง , มี concept แบบนี้มานานรึยัง เพราะว่าในย่านเพชรบุรีตอนต้น, ราชปรารถ ช่วงนี้ก็เป็นย่านที่เรียกได้ว่ามีคนต่างชาติอยู่เยอะมาก การทำร้านอาหารไทยให้เป็นไทยจ๋า ๆ แบบนี้มันก็เลยจะเป็นจุดขายที่ดีกว่าปกติ เพราะอย่างวันที่ผมไปนี่ก็มีลูกค้าชาวต่างชาติสัก 70% ได้เลยมั้ง อ้อ แล้วก็พนักงานบริการกันดีมากด้วยครับ ไม่เสียทีที่อุตส่าห์ลงทุนแต่งตัวกันไทยจ๋าขนาดนี้
อาหารของร้าน กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ แห่งนี้ ก็แน่นอนครับจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากอาหารไทย อาหารของร้านนี้มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย และแต่ละรายการนี่เป็นอาหารไทยแท้ ๆ ไม่ได้มีการ fusion หรือการทำให้เป็น modern Thai แต่อย่างใดเลย ราคาอาหารของร้านนี้ผมรู้สึกว่าแพงกว่าที่ผมคิดเอาไว้พอสมควร คือส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประมาณ 150 - 250 บาทโดยประมาณ คือถ้าคิดว่าเป็นอาหารไทยแบบธรรมดา ๆ มันก็มีความรู้สึกว่าแพง แต่เมื่อคิดว่า เออ มันก็เป็นอาหารในร้านอาหารที่ลงทุนทำทุกอย่างเป็นอย่างดี มันก็น่าจะถูกขึ้นมาแทน (ซึ่งผมว่าความรู้สึกเรื่องไม่อยากจะจ่ายเงินแพง ๆ ให้อาหารไทยนี่ก็คงจะเป็นกันหลายคนนะครับ ร้านอาหารเปิดใหม่ในปัจจุบันเลยมักจะไม่ได้เป็นอาหารไทยแท้ ๆ กัน ทำให้เป็น Thai-Fusion, Modern Thai ก็จะขายได้ราคาสูงกว่าอะไรงี้)
มื้อนี้เริ่มต้นด้วย Singha Draft Beer Pitcher (199 บาท) เบียร์ไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งร้าน กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ แห่งนี้ก็เสิร์ฟมาแบบกะขายฝรั่งเต็มที่เลย ไม่มีน้ำแข็งใส่มาให้ แต่ก็เย็นชุ่มฉ่ำกันมาเลยทั้งเหยือกและแก้ว ก็ดื่มรออาหารได้สดชื่นดีครับ
อาหารอย่างแรกเป็น พะแนงเป็ด (Mildly hot, kefir-lime leaf flavored, redcurry with duck - 267.50 บาท) - พะแนงของร้านนี้มาแบบใส่มาในจาน ไม่ได้เป็นถ้วย แต่ก็มีน้ำแกงให้เลือกตักได้ค่อนข้างเพียงพอ กับข้าวสวยแบบบุฟเฟ่ต์ราคา 29 บาทต่อหัว ที่เป็นข้าวหอมมะลิอย่างดี กินแล้วอร่อยมาก ชอบมาก กินข้าวเปล่า ๆ ยังได้เลยอะไรงี้ ตัวรสชาติพะแนงนั้นผมชอบมาก ๆ ครับ ไม่ค่อยหวาน และก็รสชาติ เค็ม เผ็ด ลงตัวดี เนื้อเป็ดก็ให้มาเยอะ และเลือกเอาส่วนติดมัน, ติดหนังนิด ๆ มาทุกชิ้นเลยกินแล้วนุ่ม ๆ ดีมาก จานนี้อาจจะมีให้ปรับปรุงหน่อยก็เรื่องใส่กะทิมาน้อยไปหน่อยนี่แหละครับ
แกงส้มชะอมไข่ (Spicy soup with tamarind and cha-om omelet - 179 บาท) - ถ้วยนี้ผมก็ชอบครับ เป็นแกงส้มที่แบบไทยจ๋าอีกแล้ว ไม่มีความหวานเลยสักนิด มีแต่ความเปรี้ยว เผ็ด และ เค็ม ทางร้านมีการเสิร์ฟมาในหม้อไฟทำให้ตลอดเวลาที่กินถ้วยนี้นั้นก็ร้อนกำลังดีตลอด ส่วนตัวชะอมไข่นั้น ให้มาเยอะดีครับ เต็มถ้วยเลย และก็จะมาแบบเละ ๆ คล้าย ๆ จะเป็น omelet ไม่สุก มากกว่าเป็นชะอมแบบแข็ง ๆ ที่เรามักจะพบเจอกัน ซึ่งผมว่ามันก็อร่อยดีไปอีกแบบนะครับ
ทอดมันถั่วพู (Deep-fried fish patties with dipping - 195.75 บาท) - อันนี้ผมไม่ค่อยประทับใจเท่าไร อย่างแรกเลยคือทอดมันให้มาชิ้นเล็กและน้อยแต่ขายตั้งเกือบ 200 บาท, อย่างที่ 2 คือตัวทอดมันไม่ค่อยมีความอร่อยนัก แต่ละคำที่กัดเข้าไป กินเข้าไปนี่เจอแต่ texture แบบแป้ง ๆ เท่านั้น ซึ่งจุดนี้อาจจะไปโทษร้านเค้าไม่ได้เนื่องจากว่ามันก็เป็นไปตามชื่อของเค้า
ไข่เจียวโหระพา (Omelet with sweet basil leaves - 87 บาท) - จานนี้อร่อยครับ เป็นไข่เจียวที่ทอดมาได้เกรียม ๆ กำลังดี ใส่ใบโหระพามาเยอะ ใบใหญ่ดูน่ากิน และก็ปรุงรสมาแบบเน้นเค็ม ๆ นิดนึง เป็นไข่เจียวที่กินแล้วนึกถึงไข่เจียวในวัยเด็ก ๆ ฝีมือแม่ทำอะไรงั้นเลย
ผัดพริกขิงไข่เค็มปลาดุกฟู (Cubes of salty eggs, deep-fried bits of cat-fish meat and green beans pan-fried with red chilli curry paste - 177.50 บาท) - จานนี้ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ไม่ค่อยอร่อย รสแปลก ๆ คลุมเครือ และก็ texture รวม ๆ ของมันเละไปหมดเลย กินไปแค่คำสองคำแล้วก็ไม่ไปแตะแล้วครับจานนี้
กล้วยบวชชีสามสหาย (Assorted bananas in coconut milk - 54 บาท) - จานนี้ผมไม่ได้กินเลยครับ แต่แฟนผมที่กินอยู่คนเดียวบอกว่าไม่ค่อยอร่อย เป็นกล้วยบวชชีที่แปลกมาก ๆ ไม่ได้บวชชีมา เหมือนตัวกล้วยกับน้ำกะทิมันไม่ได้ไปทางเดียวกัน อะไรงี้
สรุป ร้านอาหารไทย นามว่า กาลครั้งหนึ่ง ณ เรือนเจ้าคุณอู๋ แห่งนี้ก็เป็นร้านที่เจ๋งดีทีเดียวครับ เรื่อง บรรยากาศ, การบริการนี่ไม่มีอะไรให้ต้องติเลย พาเพื่อนชาวต่างชาติ, พาแขกบ้านแขกเมืองมาก็น่าจะชอบร้านนี้กันหมด ส่วนอาหารก็มีให้เลือกเยอะแยะหลากหลายและเป็นอาหารไทยทั้งหมด แม้ว่าอาหารจะไม่ประทับใจเหมือนร้านอาหารไทยเทพ ๆ มากนัก แต่รสชาติโดยรวมจาก 5 จานที่ผมกินไปนี่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด ร้านนี้ผมคงมีโอกาสได้มาซ้ำอีกสักครั้งล่ะครับ เพราะต่อไปถ้าจะพาเพื่อนชาวต่างชาติไปกินที่ไหน ไม่ต้องนึกอะไรมา พามาร้านนี้ทีเดียวจบเลย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Wednesday, July 31, 2013
China House Mandarin Oriental Bangkok Review
Sunday Brunch at The China House - Mandarin Oriental Bangkok
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 5/5
Value 4.5/5
China House - Chinese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ห้องอาหาร China House - ห้องอาหารจีนประจำโรงแรม Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมที่น่าจะโด่งดังที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในบ้านเรา นั้นเป็นห้องอาหารจีนที่ค่อนข้างจะพิเศษกว่าห้องอาหารจีนในโรงแรม 5 ดาวอื่น ๆ ตรงที่จะมี Sunday Brunch หรือมื้อพิเศษวันอาทิตย์ไว้คอยบริการนอกเหนือจากติ่มซำบุฟเฟ่ต์แบบปกติอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดโดยรวมของห้องอาหารนี้ในมื้อต่าง ๆ ก็ตามนี้เลยครับ
ตัวห้องอาหาร China House นี่ก็เป็นอะไรที่ตั้งชื่อได้เหมาะสมดีครับ อย่างแรกเลยคือตัวร้านนั้นเป็นบ้านที่ตั้งออกมาเป็นเอกเทศจากตัวโรงแรม และมีการดัดแปลงตกแต่งออกมาเป็นแนว Shanghai 1970 หรือเป็นแนวจีน modern ๆ หน่อยนั่นเอง ตัวร้านนี้ค่อนข้างแตกต่างจากห้องอาหารจีนอื่น ๆ ที่ผมเคยกินมาคือจะไม่มีส่วนห้องโถงรวมที่จะวางโต๊ะสำหรับแขกทั่วไปเอาไว้เยอะ ๆ และมีห้องย่อย ห้องส่วนตัว เป็นโต๊ะจีนแยกเพิ่มเติมออกไป แต่ที่นี่คือ พอเดินเข้ามาในห้องโถงของทางร้าน ถ้ามาในวันอาทิตย์ก็จะเจอกับไลน์อาหารจีนบุฟเฟ่ต์แบบอลังการต้อนรับเราไว้ก่อนเลย และสองฝั่งของห้องโถงนี้ก็จะเรียงรายไปด้วยโต๊ะที่วางไว้แบบเป็นสัดเป็นส่วน เน้นความเป็นส่วนตัว และมีให้เลือกนั่งกันถึง 2 ชั้นเลย เป็นบรรยากาศร้านในแบบที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนครับ เก๋ ดูดี มีสไตล์จริง ๆ (แฟนผมชอบมาก) ในวันที่ผมไปนั้น แขกมากันแทบจะเต็มทุกโต๊ะทั้งชั้น 1 ชั้น 2 ซึ่งทางพนักงานก็บอกเอาไว้ว่าตัว Sunday Brunch ของที่ China House แห่งนี้ขายดีมาก ๆ เต็มทุกอาทิตย์ ถ้าจะไปยังไงก็จองกันเอาไว้ก่อนเนิ่น ๆ นะครับ
(แน่นอนว่าไม่ต้องเขียนถึงการบริการของที่นี่อยู่แล้วใช่มั้ยครับ? โรงแรม Mandarin Oriental แห่งนี้ ได้ชื่ออยู่แล้วว่าบริการดีที่สุดในสามโลกเลย ซึ่งบริกรของที่ China House แห่งนี้ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นครับ บริการทุกระดับประทับใจ ทั้งมารยาท การดูแลเอาใจใส่ และยิ่งแต่งตัวแบบจีน ๆ เพิ่ม feeling ความเป็นจีนเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งอินสุด ๆ ครับ)
อาหารในตัว Sunday Brunch นี้ผมขอแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 ประเภทละกันนะครับ โดยจะแบ่ง 3 ประเภทจากตัวเมนูที่ทางร้านกำหนดเอาไว้เอง บวกเพิ่มกับที่อยู่ในไลน์ buffet ที่เราสามารถเดินไปตักเองได้ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเดินไปตัก หรือสั่งมากินได้ตลอดเวลาที่มื้อนี้ครอบคลุมคือ 11.30 - 14.30 น. หรือ 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ เลย
หมวดติ่มซำ (Dim Sum)
รวม ๆ แล้วตัวติ่มซำในมื้อนี้ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ แต่อาจเพราะว่าติ่มซำที่ได้กินนั้นค่อนข้างน้อยมีแค่ 7 อย่าง เลยยังไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติได้ดีเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับติ่มซำบุฟเฟ่ต์ที่อื่น ๆ ที่กินมาแล้ว ส่วนใหญ่จะกินกันอยู่ที่ 20 - 30 อย่าง และก็ตัวเมนูหมวดถัดไปหรือ a la carte กับพวกข้าวผัด, ก๋วยเตี๋ยวนั้นทำได้โดดเด่นกว่าติ่มซำมาก ๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวติ่มซำในมื้อนี้ก็ถือว่าทำได้ดีสมชื่อ China House ล่ะครับ
ผมรู้สึกว่า Highlight ของ Sunday Brunch ณ China House - Mandarin Oriental แห่งนี้ก็คงเป็นหมวดหมู่นี้นี่แหละครับ เพราะมันคือการเอาเมนูที่ขายดีในมื้อเย็นวันปกติ มารวมกันให้เราสั่งกินได้แบบไม่อั้น ไม่ยั้งในยามเที่ยงหรือบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้ เมนูแต่ละจานนี่ใช้วัตถุดิบดีมาก ดีจนไม่คิดว่าจะเอามาทำเป็นบุฟเฟ่ต์ และก็แต่ละจานก็พิถีพิถัน ไม่ได้สักแต่ว่ารีบ ๆ ทำออกมาจากครัว (จนทางพนักงานบอกว่าให้สั่งล่วงหน้าไว้ก่อนสักพักเลย)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 5/5
Value 4.5/5
China House - Chinese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ห้องอาหาร China House - ห้องอาหารจีนประจำโรงแรม Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมที่น่าจะโด่งดังที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในบ้านเรา นั้นเป็นห้องอาหารจีนที่ค่อนข้างจะพิเศษกว่าห้องอาหารจีนในโรงแรม 5 ดาวอื่น ๆ ตรงที่จะมี Sunday Brunch หรือมื้อพิเศษวันอาทิตย์ไว้คอยบริการนอกเหนือจากติ่มซำบุฟเฟ่ต์แบบปกติอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดโดยรวมของห้องอาหารนี้ในมื้อต่าง ๆ ก็ตามนี้เลยครับ
ตัวห้องอาหาร China House นี่ก็เป็นอะไรที่ตั้งชื่อได้เหมาะสมดีครับ อย่างแรกเลยคือตัวร้านนั้นเป็นบ้านที่ตั้งออกมาเป็นเอกเทศจากตัวโรงแรม และมีการดัดแปลงตกแต่งออกมาเป็นแนว Shanghai 1970 หรือเป็นแนวจีน modern ๆ หน่อยนั่นเอง ตัวร้านนี้ค่อนข้างแตกต่างจากห้องอาหารจีนอื่น ๆ ที่ผมเคยกินมาคือจะไม่มีส่วนห้องโถงรวมที่จะวางโต๊ะสำหรับแขกทั่วไปเอาไว้เยอะ ๆ และมีห้องย่อย ห้องส่วนตัว เป็นโต๊ะจีนแยกเพิ่มเติมออกไป แต่ที่นี่คือ พอเดินเข้ามาในห้องโถงของทางร้าน ถ้ามาในวันอาทิตย์ก็จะเจอกับไลน์อาหารจีนบุฟเฟ่ต์แบบอลังการต้อนรับเราไว้ก่อนเลย และสองฝั่งของห้องโถงนี้ก็จะเรียงรายไปด้วยโต๊ะที่วางไว้แบบเป็นสัดเป็นส่วน เน้นความเป็นส่วนตัว และมีให้เลือกนั่งกันถึง 2 ชั้นเลย เป็นบรรยากาศร้านในแบบที่ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนครับ เก๋ ดูดี มีสไตล์จริง ๆ (แฟนผมชอบมาก) ในวันที่ผมไปนั้น แขกมากันแทบจะเต็มทุกโต๊ะทั้งชั้น 1 ชั้น 2 ซึ่งทางพนักงานก็บอกเอาไว้ว่าตัว Sunday Brunch ของที่ China House แห่งนี้ขายดีมาก ๆ เต็มทุกอาทิตย์ ถ้าจะไปยังไงก็จองกันเอาไว้ก่อนเนิ่น ๆ นะครับ
(แน่นอนว่าไม่ต้องเขียนถึงการบริการของที่นี่อยู่แล้วใช่มั้ยครับ? โรงแรม Mandarin Oriental แห่งนี้ ได้ชื่ออยู่แล้วว่าบริการดีที่สุดในสามโลกเลย ซึ่งบริกรของที่ China House แห่งนี้ก็ไม่ได้เป็นข้อยกเว้นครับ บริการทุกระดับประทับใจ ทั้งมารยาท การดูแลเอาใจใส่ และยิ่งแต่งตัวแบบจีน ๆ เพิ่ม feeling ความเป็นจีนเข้าไปด้วยแล้ว ยิ่งอินสุด ๆ ครับ)
อาหารในตัว Sunday Brunch นี้ผมขอแบ่งแยกย่อยออกเป็น 4 ประเภทละกันนะครับ โดยจะแบ่ง 3 ประเภทจากตัวเมนูที่ทางร้านกำหนดเอาไว้เอง บวกเพิ่มกับที่อยู่ในไลน์ buffet ที่เราสามารถเดินไปตักเองได้ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถเดินไปตัก หรือสั่งมากินได้ตลอดเวลาที่มื้อนี้ครอบคลุมคือ 11.30 - 14.30 น. หรือ 3 ชั่วโมงเต็ม ๆ เลย
หมวดติ่มซำ (Dim Sum)
รวม ๆ แล้วตัวติ่มซำในมื้อนี้ทำมาได้ค่อนข้างดีครับ แต่อาจเพราะว่าติ่มซำที่ได้กินนั้นค่อนข้างน้อยมีแค่ 7 อย่าง เลยยังไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติได้ดีเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับติ่มซำบุฟเฟ่ต์ที่อื่น ๆ ที่กินมาแล้ว ส่วนใหญ่จะกินกันอยู่ที่ 20 - 30 อย่าง และก็ตัวเมนูหมวดถัดไปหรือ a la carte กับพวกข้าวผัด, ก๋วยเตี๋ยวนั้นทำได้โดดเด่นกว่าติ่มซำมาก ๆ ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวติ่มซำในมื้อนี้ก็ถือว่าทำได้ดีสมชื่อ China House ล่ะครับ
- ขนมจีบเอ็กซ์โอซอส (Shrimp and pork "Siew Mai' dumplings flavored with X.O. sauce) - อร่อยครับ ขนมจีบลูกใหญ่ เนื้อกุ้งอัดแน่น ได้รสแปลกใหม่จากซอส X.O.
- ฮะเก๋าหอยเชลล์และกุ้ง (Steamed scallop and minced shrimp dumplings wrapped in spinach wheat dough) - คล้าย ๆ ขนมจีบ ลูกค่อนข้างใหญ่ เนื้อกุ้งและหอยเชลล์อัดแน่น แป้งมาแบบบาง ๆ ใส ๆ กำลังดี และไม่เปื่อยลุ่ย
- ฝันโก๋แต้จิ๋ว ("Toechew" style steamed crystal dumplings with peanuts) - อันนี้ค่อนข้างธรรมดาไปสักหน่อย เครื่องด้านในเคี้ยวแล้วออกแข็งกระด้างไปนิดนึงครับ
- ก๋วยเตี่ยวหลอดกุ้งสด (Steamed rice rolls "Cheong Fun" with shrimps) - อันนี้อร่อยดีครับ อร่อยมากก็คงจะไม่ผิดนัก ให้เป็นอันดับ 1 ของติ่มซำในวันนี้เลย กุ้งตัวใหญ่ น้ำซีอิ๊วกลมกล่อม
- ซาลาเปาเซี่ยงไฮ้ ("Shanghainese" style pork dumpling served with red vinegar) - หรือ เสี่ยวหลงเปา เป็นเสี่ยวหลงเปาที่ชิ้นใหญ่ดีครับ แต่ยังไงร้าน ติ่ง ไท้ ฝู แถวบ้านผม ผมก็ว่ายังอร่อยกว่า และเป็นอันดับ 1 ในกรุงเทพนี้อยู่ดี
- มะม่วงทอดไส้กุ้ง (Deep-fried mango fritters with shrimps) - อร่อยดีครับ ชอบอันดับ 2 ในมื้อนี้ของติ่มซำเลย
- เกี๊ยวกุ้งทอด (Deep-fried shrimp wanton served with sweet and sour sauce) - ธรรมดา ๆ ไปนิด
ผมรู้สึกว่า Highlight ของ Sunday Brunch ณ China House - Mandarin Oriental แห่งนี้ก็คงเป็นหมวดหมู่นี้นี่แหละครับ เพราะมันคือการเอาเมนูที่ขายดีในมื้อเย็นวันปกติ มารวมกันให้เราสั่งกินได้แบบไม่อั้น ไม่ยั้งในยามเที่ยงหรือบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้ เมนูแต่ละจานนี่ใช้วัตถุดิบดีมาก ดีจนไม่คิดว่าจะเอามาทำเป็นบุฟเฟ่ต์ และก็แต่ละจานก็พิถีพิถัน ไม่ได้สักแต่ว่ารีบ ๆ ทำออกมาจากครัว (จนทางพนักงานบอกว่าให้สั่งล่วงหน้าไว้ก่อนสักพักเลย)
- กุ้งทอดวาซาบิ (Deep-fried prawns with green mustard mayonnaise and mango) - อร่อยมากครับ รสชาติ ซับซ้อนซ่อนเงื่อน แฝงไปด้วยความอร่อยให้เราค่อย ๆ คลายมันออกมา อร่อยจริง ๆ
- ผัดคะน้าซีฟู้ดเอ็กซ์โอซอส (Sauteed kale with scallops and octopus slices in X.O. sauce) - Scallops ตัวใหญ่มาก ๆ ผักนุ่ม ๆ สีเขียวสดอร่อยตัวปลาหมึกก็มาเนื้อสด ๆ เด้ง ๆ และทั้งหมดนี้ผสมผสานกันมาในซอสเอ็กซ์โอ โอว ฟิน
- ปลาหิมะซอสซีอิ๊ว (Soy honey-glazed snow fish fillet served with salad greens) - ชอบที่สุดในเมนู a la carte เลยครับอันนี้ เป็นปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วแบบไร้ที่ติเลย งงว่าทำคุณภาพและรสชาติแบบนี้มาได้ยังไงใน all-you-can-eat menu แบบนี้!
- เนื้อปลาเก๋าผัดเต้าซี่รากบัว (Wok-fried garoupa fillet with lotus root and black bean sauce) - อันนี้ธรรมดา ๆ ไปนิดครับ
- ซี่โครงหมูอบซอสบ๊วย (Wok-baked pork belly ribs with spicy plum sauce) - อร่อยเช่นกัน ซี่โครงหมูชิ้นใหญ่ดี
- เนื้อผัดพริกไทยดำ (Wok-seared beef tenderloin with black peppercorn and seasonal soy sauce) - จานนี้ก็ highlight ครับเนื้อนุ่ม รสชาติแบบจีน ๆ เสฉวนหน่อย เพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชอบกันหมด
- ข้าวผัดฮกเกี้ยนทะเล ("Hokkien" style fried rice with shredded dried conpoy and assorted seafood) - จานนี้สมกับเป็นข้าวผัดทะเลจริง ๆ ครับ เพราะมาเป็นอารมณ์ข้าวต้มเลย จานนี้แฟนผมกับเพื่อนที่ไปด้วยกันชอบมาก ๆ ส่วนตัวผมก็ค่อนข้างชอบนะ ตัวน้ำนั้นจะอารมณ์ประมาณน้ำราดหน้า จะเหนียว ๆ หนืด ๆ นิดหน่อย ส่วนตัวเครื่องก็ผสมผสานมาดี ทั้ง seafood ทั้งผัก รสชาติจะออกแนวฮ่องกง ๆ หน่อยจานนี้
- บะหมี่กรอบราดหน้าซีฟู้ด (Crispy noodles topped with seafood and egg sauce) - อร่อยครับ โดดเด่นที่ตัวเครื่องที่ให้ seafood มาเยอะอีกแล้ว (เหมือนร้านนี้จะไม่งกอาหารทะเลเลยนะครับเนี่ย) เส้นราดหน้าก็พิเศษหน่อยตรงที่จะกรอบ ๆ อร่อยไปอีกแบบ
- บะหมี่ผัดซีฟู้ด (Stir-fried egg noodles with seafood and soya sauce) - จานนี้ธรรมดาที่สุดในเมนูข้าวและก๋วยเตี๋ยวครับ ไม่อร่อยมาก แต่ก็พอทำออกมาขายได้ครับ
อาหารในไลน์บุฟเฟ่ต์ - ผมไม่ค่อยได้กินเท่าไร เพราะเมนูแบบที่สั่งในเมนูนั้นน่าสนใจกว่า แต่ก็พอจะกินเกือบ ๆ ครบ line อาหารอยู่เหมือนกัน ที่ชอบ ๆ และไม่คิดว่าจะมีก็คงเป็นตัวหมูหันล่ะครับ (แต่หนังก็ไม่ได้กรอบแบบหันกันสด ๆ ตามร้านอาหารจีนทั่วไปสักเท่าไร) ส่วนอย่างอื่น ไม่ว่าจะไก่แช่เหล้า, เป็ดย่าง, หมูแดง, แมงกะพรุนน้ำมันงา, เกี๊ยวไข่เค็ม และอื่น ๆ ก็อยู่ในระดับมาตรฐานเลย
ของหวานในมื้อนี้ก็จะมีทั้งในไลน์บุฟเฟ่ต์และก็แบบสั่งเองครับ ที่ชอบเป็นพิเศษก็ตัวบัวลอยน้ำขิง อร่อยมาก ๆ น้ำขิงอร่อยมาก ๆ ตัวบัวลอยแม้จะมาลูกไม่ใหญ่แต่ก็อร่อยกำลังดี ส่วนอย่างอื่นไม่ว่าจะไอศครีม, พุดดิ้ง, เยลลี่ ก็อร่อยดีหมดเช่นกัน ขนาดอิ่มจากอาหารคาวแล้วยังกินได้อีกหลายอย่างเลย
สรุป Sunday Brunch ของห้องอาหารจีน China House ณ Mandarin Oriental Bangkok แห่งนี้ ผมและเพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชอบกันมาก ๆ ครับ อาหารมีให้เลือกหลากหลาย และส่วนใหญ่ทำมาได้อร่อยเกินกว่าจะเป็น all-you-can-eat มาก ๆ และบวกกับบรรยากาศร้าน และการบริการอันเลอเลิศนี่ ในราคาไม่ถึง 1,500 บาทนี่ด้วยแล้วยิ่งคุ้มและน่ามาสุด ๆ ใครที่เบื่อ ๆ Sunday Brunch แบบ International Buffet ที่มีกันค่อนข้างเกร่อทั่วบ้านทั่วเมือง และมีความอยากกินอาหารจีนแล้วล่ะก็ ที่ China House แห่งนี้ ยังไงก็ต้องมาโดนกันล่ะครับ
ของหวานในมื้อนี้ก็จะมีทั้งในไลน์บุฟเฟ่ต์และก็แบบสั่งเองครับ ที่ชอบเป็นพิเศษก็ตัวบัวลอยน้ำขิง อร่อยมาก ๆ น้ำขิงอร่อยมาก ๆ ตัวบัวลอยแม้จะมาลูกไม่ใหญ่แต่ก็อร่อยกำลังดี ส่วนอย่างอื่นไม่ว่าจะไอศครีม, พุดดิ้ง, เยลลี่ ก็อร่อยดีหมดเช่นกัน ขนาดอิ่มจากอาหารคาวแล้วยังกินได้อีกหลายอย่างเลย
สรุป Sunday Brunch ของห้องอาหารจีน China House ณ Mandarin Oriental Bangkok แห่งนี้ ผมและเพื่อนร่วมโต๊ะทุกคนชอบกันมาก ๆ ครับ อาหารมีให้เลือกหลากหลาย และส่วนใหญ่ทำมาได้อร่อยเกินกว่าจะเป็น all-you-can-eat มาก ๆ และบวกกับบรรยากาศร้าน และการบริการอันเลอเลิศนี่ ในราคาไม่ถึง 1,500 บาทนี่ด้วยแล้วยิ่งคุ้มและน่ามาสุด ๆ ใครที่เบื่อ ๆ Sunday Brunch แบบ International Buffet ที่มีกันค่อนข้างเกร่อทั่วบ้านทั่วเมือง และมีความอยากกินอาหารจีนแล้วล่ะก็ ที่ China House แห่งนี้ ยังไงก็ต้องมาโดนกันล่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Subscribe to:
Posts (Atom)