IL Ceilo Italian Restaurant Review - Dusit Thani Hotel, Silom, Bangkok

IL Ceilo Italian Restaurant of Dusit Thani Bangkok - Traditional Italian Cuisine




Overall Score  8/10
Taste   3/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   3/5

The Italian restaurant in the name of IL Ceilo is one of the many restaurants of various nationalities at the Dusit Thani Bangkok.  Since this establishment has been around for so many years, restaurants in this hotel may have been overlooked recently.  People mostly get excited with the newer places in town.  There are rarely any recent reviews of the IL Ceilo on the internet, so this occasion is rather proper for review to update on it.  

The IL Ceilo is located on the level M or at the lobby level of the Dusit Thani, opposite to the Chinese restaurant.  In the interior setting, main areas of regular seating surround the center column.  Open kitchen is set off further in the back of the room.  Private rooms are off to the side; two on the left and one on the right.  The decoration appealed more oriental contemporary style than an Italian one.  With the lengthy straws, textured stone façade, and the contrast of wood and stone floor, the whole luxurious elements embedded in it could also express the southern region of the Europe as well, I supposed.  Overall, I definitely rate the atmosphere of the IL Ceilo with high stars; well matched with the Traditional Italian Cuisine that they offer.

The review is on the Business lunch set.  In my opinion, this is a great place for a business meeting.  There are 5 different lunch set menus for the each day of the week; set A, B, C, D, and E.  You can choose the 2-course set for 690++ or the 3-course set for 850++.  The appetizer and dessert is set for you and you have the choice for the main course. 

The starter of the Menu C (on a Wednesday)was the “Four kinds of light hot and cold appetizer.”  There were actually five choices on the plate.  Parma ham was in the center and the four corners of the square plate were a variety of Italian style bites; beef carpaccio, cheese frites, ravioli like, and tuna salad.  Its eye catchy presentation beat its tastefulness a little bit.  For being in the set, it was well worth it.  We also had the Pumpkin soup with amaretto, which was rather awkward.  Its taste wasn’t impressive, though not that bad.  Perhaps if it was served slightly hotter, it would be more enjoyable.  One of my friends wasn’t so fond of this soup.  He thought it was too sweet.    

For the main course in the party of four, we all chose four different ones, which were all there were to choose.  My choice was the Crespelle stuffed with radicchio and ricotta with parmesan cheese sauce.  This one had an interesting look; it was good but the flavors were as prominent.  Three other choices on the table were great looking as well.  Sea bream with baby spinach, roasted ratte potato and saffron sauce was most attractive to me, in terms of the look and taste.  It had a light flavor but just delicious.  The pick four toppings Pizza was a nice one.  We picked Milano salami, parmesan, rocket, and pepperoni.  This was a well baked pizza for a lunch time and the doe was decent.  The other choice was the Roasted duck breast with chestnut puree, honey shallot and port wine sauce – good duck but the sauce was mediocre.  I may not have much experience with the Traditional Italian cuisine, so I couldn’t be the perfect judge.  These dishes tasted average good.  My friends and I were satisfied but not intrigued with any dish in particular.  At the Dusit Thani, target customers are mostly non-Thai, so I would assume that the flavors are milder.  I admit that the ingredients were of good quality.  For being the lunch set, the IL Ceilo actually did well overall.  However, the flavors of each dish could be tuned up a notch.

We were in for the 3-course set, so we were served with the dessert of the day, which were the Tiramisu and the Chocolate Ice Cream.  The Italian chef of the IL Ceilo proudly presented the Tiramisu in his own style, creamy foamy mousse, very light though very interestingly done.  To me, it was too light since I was used to having the crisp contrasting in the layers of typical Tiramisu.  The Chocolate ice-cream served in the waffle was basic – tasty ice-cream, good combination as a whole.        

All in all, the Business lunch set at the IL Ceilo of the Dusit Thani Bangkok at Silom was satisfying even though we may not felt special with any dish specifically.  When considered this meal being at lunch time, it was all a pleasure.  Other factors such as customer service or atmosphere were wonderful.  I personally loved the décor.  Being the seated in the private room with the water feature out the window, it was a one of a kind lunching spot – I felt very special.  This restaurant was the perfect for hosting business guests.     

For more yummy review of Bangkok restaurants please Click Here!

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Chicken T Gateway Ekkamai Review

Chicken T - Thai and Asian Dishes Restaurant at Gateway Ekkamai, Bangkok

ชิคเก้น ที - ร้านอาหารไทย อาหารเอเชียน เกทเวย์ เอกมัย BTS เอกมัย

Overall Score  7/10
Taste   3/5
Ambiance  3.5/5
Service  3.5/5
Value   4.5/5

Chicken T - Thai & Asian Dishes Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)

For more yummy review of Bangkok restaurants please Click Here!

ร้านเล็ก ๆ ที่ชั้นล่างของห้าง Gateway Ekkamai นามว่า Chicken T แห่งนี้  ตัวชื่อร้านนั้นมาจาก ไก่ตะนาวศรี ที่เป็นไก่บ้านที่เกิดจากการปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ไก่ จนเกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือมีเนื้อไก่ที่ แน่น นุ่ม หนังบาง และไขมันน้อย ซึ่งจากปากคำของผู้จัดการร้าน ร้าน Chicken T แห่งนี้เป็นร้านแรกในไทย (หรือในโลก?) ที่ใช้ไก่ตะนาวศรีที่ว่านี่มาขาย เพราะปกติไก่ตะนาวศรีจะเป็นไก่เกรด Premium ที่จะใช้ส่งออกเป็นหลัก (คือไอ้เรื่องของดีคนไทยไม่ได้กิน นี่รู้สึกจะมีหลายอย่างนะครับ ข้าวหอมมะลิก็อีกอย่างนึงล่ะ ไม่รู้ทำไม ในขณะที่ต่างประเทศ ของดี ๆ เค้าจะเก็บไว้ให้คนของประเทศตัวเองกินกัน) และด้วยความภาคภูมิใจต่อไก่ตะนาวศรีของทางร้าน เมนูทุก ๆ จาน ทุก ๆ อย่างของทางร้านนี้เลยจะมีไก่ตะนาวศรีเป็นวัตถุดิบหลักทั้งหมดเลย ร้านนี้ทางผู้จัดการร้านบอกว่า เชฟกระทะเหล็กอาหารไทย เชฟ ชุมพล แจ้งไพร นั้นเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ และอาหารทุกจานจะผ่านการคิด การ QC มาจากเชฟชุมพลทั้งหมด และร้านนี้เป็นร้านต้นแบบ ถ้าประสบความสำเร็จก็จะมีการขยับขยายเปิดสาขาอื่น ๆ เพิ่มเติมต่อไป

อาหารของทางร้าน Chicken T แห่งนี้ก็ตามที่พิมพ์ไปครับ เมนูทุกจานจะมีไก่เป็นส่วนประกอบทั้งหมด (แน่นอนยกเว้นของหวานของทางร้านที่เป็นไอศครีม Movenpick) และก็อาหารจะมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะเท่าไร ตัวเมนูเรือธงของทางร้านก็จะเป็นตัวไก่บ้างย่างหนังกรอบ ที่เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาครึ่งตัว หรือเต็มตัว และก็เลือก sidedish เลือกซอสมาจิ้มกินได้ คือแบบจับคู่กันได้หลากหลาย เลือกปริมาณกันได้ตามใจ ออกแนวคล้าย ๆ ร้าน Piri-Piri อีกหนึ่งร้านจากโปรตุเกสที่มีเมนูคล้าย ๆ กันนี้อยู่ ส่วนอาหารอย่างอื่นก็จะเป็นอาหารไทย ๆ , อาหารเอเชียน ๆ , fusion ๆ เล็ก ๆ ตามประสา ไม่ค่อยมีเมนูอะไรโดดเด่นสักเท่าไร แต่สิ่งที่โดดเด่นก็น่าจะเป็นตัวราคาครับ ราคาอาหารจะอยู่ในช่วง 100 กว่าบาทแค่นั้น (คือถ้าเทียบกับร้านอื่น ๆ ในห้างนี้ก็ค่อนข้างถูก แต่ถ้าเทียบกับร้านอาหารไทยก็ธรรมดา ๆ ) และทางร้านจะมีตัว set lunch ราคา 89 บาท ที่จะเป็นอาหารไทยแบบง่าย ๆ เน้นไก่ตะนาวศรี และยังมีไข่ + น้ำดื่มให้ด้วย 1 ขวด ก็เป็น set lunch ที่น่าจะคุ้มค่าที่สุดในสามโลกของร้านอาหารในห้างล่ะครับ

มื้อนี้เริ่มต้นด้วย สลัดซีซาร์ไก่บ้านย่าง (Grilled Chicken Caesar Salad - 175 บาท) อาหารสุดแสนจะเบสิค ที่แทบทุกร้านมีขายกัน จานนี้ก็เป็นซีซาร์สลัดธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ตัวไก่ตะนาวศรีที่ใส่มาก็เป็นส่วนเนื้อหน้าอก ที่มัน... lean เกินไป แห้งเกินไป (สำหรับผม) แต่ก็ยังดีที่ได้ตัวผักที่ฉ่ำ ๆ น้ำ ตัวน้ำสลัดที่ให้มาค่อนข้างเยอะ มาช่วยเพิ่มความมีน้ำมีเนื้อขึ้นมาในสลัดจานนี้รวม ๆ ก็เป็นสลัดที่โอเคจานนึงครับ ดีกว่าที่คิดเมื่อคิดว่าเป็นสลัดจากร้านอาหารไทย ๆ ที่ส่วนใหญ่มักจะทำได้ fail กว่านี้

ปอเปี๊ยะไก่บ้านบาร์บีคิว กรอบนอก นุ่มใน (BBQ Chicken Spring Rolls-with chunky chicken meat - 125 บาท) อาหารกินเล่นอย่างที่ 2 ที่ผมกินแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไร ตัวแป้งปอเปี๊ยะไม่ค่อยกรอบ ออกมาแนวนุ่ม ๆ ตัวไส้ในก็รสชาติไม่ค่อยโดดเด่น เป็นรสอะไรก็ไม่รู้ที่กินแล้ว ไม่ค่อยรู้สึกถึงรสชาติของไส้สักเท่าไร แต่เพื่อนผมที่ไปด้วยอีกคนค่อนข้างชอบจานนี้ ส่วนอีกคนนั้นก็เฉย ๆ ก็เลยไม่รู้เหมือนกันว่าตกลงจานนี้มันยังไง เพราะเสียงแตกออกเป็น 3 เสียงแบบนี้

ไก่บ้านย่างหนังกรอบ เนื้อนุ่ม ชุ่มลิ้น + ซอสพีริ พีริ ต้นตำรับจากโปรตุเกส + มันอบนุ่ม ๆ ชุ่มเนย ครึ่งตัว (Chicken T Grilled Chicken + Portuguese Peri Peri Sauce + Melt-in-your-mouth Baked Potato Half-chicken - 195 บาท) | อาหารเรือธงของทางร้าน ก็ได้มาเป็นไก่ที่ย่างมาแบบดู กร๊อบ กรอบ และเหมือนที่ผิวก็จะทาเครื่องเทศ ทาอะไรมาค่อนข้างเยอะ จานนี้ก็ทำได้ดีครับ เนื้อไก่ นุ่มอร่อยดี ส่วนมัน ๆ เช่นสะโพก หรือ น่องไก่ ก็อร่อยดี แต่เจ้าส่วนหน้าอกนี่สิ มัน แห้งเกินไป lean เกินไป คือปกติอกไก่มันก็ประมาณนี้อยู่แล้ว แต่พอมาเจอไก่ตะนาวศรีนี่ยิ่งแล้วหนักครับ ไม่เหลือความมันเลยสักนิดเดียว (ไก่ป่า (แม่ปลาช่อน) หรือไก่ฟาร์ม ตามร้านอื่น ๆ ผมยังชอบอกไก่มากกว่าเลย) ตัวซอส Piri Piri ที่สั่งไปก็เข้มข้น จัดจ้านอร่อยดี ก็รวม ๆ ก็ดูจะเป็นอาหารที่เป็นเรือธงของทางร้านได้ แต่ก็ไม่ถึงกับแบบจะเอาไปคุยโม้กับร้านอื่นได้สักเท่าไรครับ ผมรู้สึกไก่แนว ๆ เดียวกันนี้ของร้าน Piri-Piri ยังอร่อยกว่าเลย

ข้าวไก่บ้านผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ กรอบ มันถึงใจ (Crunchy Sauteed Chicken with Cashew Nuts Served with steamed jasmine rice - 125 บาท) | อาหารธรรมดาเบสิค ที่ผมค่อนข้างชอบในรสชาติ ที่ผัดมาเค็ม ๆ และเนื้อไก่ก็แบบเลือกส่วนที่นุ่ม ๆ มัน  ๆ มาทำ ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากไก่ผัดเม็ดมะม่วงของร้านที่ทำมาดี ๆ สักเท่าไร แต่ก็ถือว่าทำได้ดีกว่าร้านส่วนใหญ่ครับ (แต่เพื่อนผม 2 คนที่ไปด้วยกันบอกไม่ชอบ เค็มไป -*-)

โรตีแกงมัสมั่นไก่บ้านรสเข้มข้น (Rich & Flavorful Thai Massaman Curry Chicken served with crispy roti - 155 บาท) | อาหารคาวจานสุดท้ายจานนี้ ก็เป็นมัสมั่นที่ใส่น่องไก่ติดสะโพกชิ้นใหญ่มาในถ้วยแบบเต็ม ๆ เลย เมื่อคิดถึงราคาแล้ว จานนี้ค่อนข้างคุ้มเลยนะครับ ตัวมัสมั่นมาแนวหวานไปหน่อย น้ำก็เหมือนจะกลายเป็นน้ำสะเต๊ะไป ไม่ใช่น้ำแกงมัสมั่นสักเท่าไร แต่ยังดีที่ได้ตัวเนื้อไก่ส่วนที่อร่อยที่สุด (สำหรับผม) มาช่วยเพิ่มรสชาติ จานนี้ก็เลยจัดได้ว่าค่อนข้างโอเคเลย ตัวโรตีก็ทอดมาได้กรอบดีครับ กินกับมัสมั่นเข้ากันเป็นอย่างดีเลย

Movenpick Icecream 2 Scoops - 215 บาท (Passion Fruit & Mango + Tiramisu) | ของหวานอย่างเดียวของทางร้านที่จะมีตัวไอศครีมให้เลือก 8 รส (แต่ละรสไม่ค่อยเจอในไอศครีมยี่ห้ออื่น ๆ สักเท่าไร) และตัว Sorbet อีก 2 รส ก็ไอศครีมยี่ห้อนี้เค้าก็ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย ความ premium อยู่แล้วล่ะครับ ตัวผมเองก็ค่อนข้างจะชอบยี่ห้อนี้เหนือยี่ห้อที่ราคาเท่า ๆ กันยี่ห้ออื่นพอสมควรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตัวไอศครีมอร่อย ตัววัฟเฟิลที่ให้มายิ่งอร่อย กรอบ ๆ อร่อยมาก ชอบมาก ๆ ครับ

สรุปร้าน Chicken T แห่งนี้ สำหรับผมแล้วก็ถือว่าค่อนข้างเฉย ๆ กับอะไรหลาย ๆ อย่างนะครับ ไม่ว่าจะตัวเมนู ที่เหมือนทางร้านจะพยายามสร้างความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา แต่ว่ามันก็ยังไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเองเท่าไร , การเลือกใช้ไก่ตะนาวศรี ที่ผมกับเพื่อน ๆ กินแล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างจากไก่ทั่ว ๆ ไปตามร้านอาหารอื่นสักเท่าไร ไม่เหมือนพวกเนื้อ Wagyu A5 หรือเนื้อวัวเทพ ๆ ที่อืม แบบนั้นกินแล้วมันต่างจริง ๆ ร้านนี้จุดเด่นอย่างเดียวก็คงเป็นราคาอาหารจริง ๆ ที่แบบน่าจะเป็นราคาที่เป็นมิตรที่สุดในห้าง Gateway Ekamai แห่งนี้แล้วล่ะครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

Tamaruya Honten Isetan Review

Tamaruya Honten - Japanese Yakiniku (BBQ) Restaurant at Isetan 6th Floor, Central World

ทามารูยะ ฮอนเต็น - ร้านอาหารญี่ปุ่น ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น อิเซตัน เซ็นทรัลเวิลด์

Overall Score  9/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4.5/5
Service  4.5/5
Value   3.5/5

Tamaruya Honten - Japanese Yakiniku Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)

For more yummy review of Bangkok restaurants please Click Here!

ร้าน Tamaruya Honten แห่งนี้ สำหรับรีวิวครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 2 ของผม ซึ่งห่างจากครั้งแรกประมาณ 2 ปี จำได้ว่างวดที่แล้วค่อนข้างจะติดอกติดใจร้านนี้มาก ทั้งในด้านความหลากหลายของอาหารประเภทเนื้อ, คุณภาพของเนื้อที่มาพร้อมกับราคาที่ไม่ค่อยสูงมาก และการบริการดี ๆ จากทางร้าน ผ่านไป 2 ปีกลับมากินร้านนี้อีกทีทุก ๆ อย่างก็ยังเหมือนเดิมจะมีเพิ่มมาก็แต่ตัวรายการอาหาร (ที่แต่เดิมก็มีครบครันและมากมายพออยู่แล้ว) โดยจะมีพวกเนื้อจัด set เป็นเซ็ทใหญ่ให้เลือก 2-3 แบบเพิ่มขึ้นมา และก็มี set lunch ราคาประหยัดให้สั่งอีกด้วย คือแบบ เหมือนทางร้านต้องการจะเจาะกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้นอีก เจาะกลุ่มครอบครัวใหญ่ ๆ เพื่อนกลุ่มใหญ่ กับคนที่เร่งรีบตอนมื้อเที่ยงด้วยอะไรประมาณนั้น

เนื่องจากผมไปถึงร้านตอนเวลาที่คนเค้าไม่กินข้าวกันแล้วนั่นก็คือประมาณบ่าย 3 ก็เลยทำให้ทั้งร้านมีโต๊ะของผมอยู่โต๊ะเดียว การบริการจากทางร้านก็เลยค่อนข้างจะ top notch เพราะเหมือนเป็น private dining ประมาณนั้นเลย แต่ก็แอบเสียดายอยู่ที่เลยเวลาที่จะสั่ง set lunch ไปแล้ว ไม่งั้นอาจจะมีสั่ง set lunch มาแซม ๆ นิดนึง เตาปิ้งของร้านนี้ก็เป็นเตามาตรฐานวงกลม ๆ ที่ไฟแรงดี ไม่ต้องมีเติมถ่าน ไม่ต้องมามีคลุก ๆ ถ่านอะไรเลยตลอดเวลาที่กินอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง จะมีก็แค่มาเปลี่ยนตะแกรงให้ทีนึงเท่านั้น อืม บางทีแค่คุณภาพของถ่าน ของเตา ก็พอจะบอกได้แล้วว่าร้านไหนใส่ใจมากน้อยแค่ไหนว่ามั้ยครับ

iาคาอาหารของร้านนี้ก็เหมือนจะเท่าเดิมกับเมื่อ 2 ปีก่อนที่ผมมากินไม่มีการเปลี่ยนแปลง จะว่าไปแล้ว เท่าที่สังเกตร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ จะไม่ค่อยมีการขึ้นราคากันบ่อย ๆ สักเท่าไร ไม่รู้เพราะว่า Margin ดีอยู่แล้ว หรือเพราะว่าไม่อยากขึ้นราคาให้ลูกค้าแอบหงุดหงิดเล่น แต่ก็มีร้านภูเขาไฟร้านนึงในเมืองไทย ที่ปรับราคาขึ้นแทบจะทุก ๆ ปี ปรับทีนึงก็ไม่ใช่ถูก ๆ แต่คนก็ยังไปกินกัน ปรับทีคนก็บ่นที แต่พอฝุ่นหายตลบ ก็ยังไปกินกันต่อ ผมก็ไม่ค่อยจะเข้าใจคนไทยเหมือนกันนะเนี่ยว่าถ้ารู้สึกว่าถูกเอาเปรียบแล้วทำไมยังถึงไปกินกันอีกน้า

มื้อนี้ขอแบ่งอาหารที่จะรีวิวเป็น 2 หมวดละกันนะครับเป็นหมวดเนื้อวัว กับหมวด non-เนื้อวัวละกัน

หมวดเนื้อ

• เนื้อแดงคัดพิเศษ สับละเอียด วางด้วยไข่แดงดิบ - Yukke - 200 บาท | เนื้อดิบสับสไตล์ญี่ปุ่นที่จะว่าไปก็คล้าย ๆ Beef Tartare ของอาหารตะวันตกเค้านี่ (ไม่รู้ใครเป็นคนต้นคิดกันแน่นะครับ แต่กิน  ๆ มารู้สึกว่าต้นกำเนิดน่าจะมาจากที่เดียวกัน และมีการดัดแปลงให้เข้ากับอาหารของชาติตัวเองเพิ่มเติมทีหลัง) เป็นจานที่ถ้าผมเห็นในร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นทีไร ผมก็จะสั่งทุกที เพราะชอบมาก กินทีไรมักจะไม่ผิดหวัง ซึ่งร้านในกรุงเทพเท่าที่ผมเคย ๆ กินมาก็จะมีแค่ 3 ร้านเท่านั้นเองที่มี (Stamina en , Ginzado คืออีก 2 ร้านที่ว่า) และผมรู้สึกว่า Yukke ของร้าน Tamaruya Honten แห่งนี้ ดีที่สุดใน 3 ร้านนี้เลย แถมถูกที่สุดด้วย 

• เนื้อสันนอกพิเศษ - Jou Karubi - 330 บาท | จานนี้อร่อย เนื้อสวย ลายสวย หนากำลังดี ปิ้งกับไฟแรง ๆ จากเตาของร้าน พลิกทีเดียว หยิบขึ้นมากิน เนื้อ medium rare กำลังดี ฟิน แท้ เหลา
• เนื้อสันในพิเศษ - Jou Rosu - 330 บาท | อันนี้เหมือนจานสันนอกทุกประการ ยกเว้นที่เนื้อจะมันน้อยกว่า แต่ก็จะได้ความนุ่มที่มากกว่ามาทดแทน ฟิน แท้ เหลา อีกเช่นกัน

• ลิ้นวัวหมักเกลือผสมวาซาบิและต้นหอม - Wasabi Negi Tan Shio - 190 บาท | จานนี้โดดเด่นด้วย ตัววาซาบิและต้นหอมที่ซอยมาจนละเอียดและให้มาเยอะเหลือเกิน เอาลิ้นวัวไปปิ้งให้พอสุกนิดหน่อย แล้วก็เอาวาซาบิและต้นหอมมาโรย แล้วก็กิน โอย ชีวิตนี้ไม่ขออะไรไปมากกว่านี้แล้วล่ะครับ
• เนื้อเสือร้องไห้พิเศษ - Jou Harami - 250 บาท | เนื้อส่วน Harami หรือแปลเป็นไทยก็คือส่วนเนื้อนุ่ม ๆ ที่ได้มาจากแถว ๆ กระบังลม นี้ เป็นเนื้อที่ค่อนข้างจะ vary เป็นร้าน ๆ ไปครับ บางร้านที่ผมกินมามันก็นุ่ม อร่อย เหนียวกำลังดี เคี้ยวเพลิน แต่บางร้านมันก็เหนียวไป กินแล้วทรมาน ซึ่งของร้าน Tamaruya Honten ในมื้อนี้ค่อนข้างจะกระเดียดไปทางเหนียวไปครับ กินแล้วไม่ค่อยชอบเท่าไรเลย แม้ว่าเนื้อจะลายค่อนข้างสวยก็ตาม

หมวด non-เนื้อ

• คอหมู - Tontoro (Pork Neck) - 140 บาท | อันนี้หน้าตาเหมือนคอหมูตามร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นชั้นดีทั่ว ๆ ไปเลย มาแบบสีขาว ๆ ชมพูเรื่อ ๆ มันแทรกเยอะ ๆ ซึ่งเนื้อแบบนี้หาไม่ได้ตามร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างส่วนใหญ่ แต่กับร้านเนื้อย่าง premium นี่สั่งกีที่ ๆ ก็จะได้แบบนี้ตลอด และก็จะอร่อยเหมือนกันตลอด ซึ่งในงวดนี้ก็เช่นกัน เนื้อนุ่ม อร่อย เอาไปปิ้งแล้วแบบเนื้อมันจะเด้ง ๆ แข็ง ๆ ขึ้นมากินแล้วเหมือนกับไขมันมันไปแตกตูมในปาก อร่อยคุ้มค่าคุ้มราคามาก คอหมูนี่ผมเจอร้านไหนหน้าตาเป็นแบบนี้ก็จะสั่งตลอด เพราะไม่เคยผิดหวังเลย

• ลิ้นหมู - Buta Tan - 120 บาท | ไม่ค่อยเจอร้านที่ขายลิ้นหมูเท่าไร มางวดนี้เห็นมีอยู่ในเมนู และเห็นถูกดีก็เลยสั่งซักหน่อย รสชาติก็พอใช้ได้นะครับ แต่ลิ้นวัว อร่อยกว่าแบบไม่ต้องสืบเลย
• ยำผักรวม - Namuru Moriawase (Seasoned Vegetables) - 100 บาท | สิ่งนึ่งที่ fail ในมื้อนี้ก็คือตัวผักของทางร้านนี้ล่ะครับไม่ว่าจะ ยำผักรวม จานนี้ หรือกิมจิ ในอีกจาน 2 อย่างนี้ทำได้ fail มาก ๆ สู้ของร้านบุฟเฟ่ต์ที่ราคาถูกกว่าบางร้านยังไม่ได้เลย คือไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงทำมาได้แย่ขนาดนี้
• กิมจิ - Kimchi - 70 บาท | comment ตามยำผักรวมเลยครับ

สรุป มางวดนี้ก็ยังรู้สึกประทับร้าน Tamaruya Honten @ Isetan แห่งนี้เช่นเคยนะครับ ตัวเนื้อสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงทำมาได้ค่อนข้างดีมาก และราคาก็ไม่ค่อยแรงเท่าไร จะมีก็แต่ตัวผักยำ กับกิมจิ ที่กินแล้วอารมณ์เสียนี่แหละครับ ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ก็ร้านนี้จะว่าไปก็อาจจะเป็นร้านเนื้อย่างระดับ Premium ร้านเดียวที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าก็ว่าได้ (อาจจะมีร้านอื่นแต่ผมนึกไม่ออก) ใครอยากจะลองเปลี่ยนบรรยากาศจากการกินเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์มากินเนื้อย่างแบบ a la carte premium ที่ร้านนี้ซึ่งบางทีอาจจะทำให้ท่านลืมการกินเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์ไปเลยก็ได้นะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

River Cafe and Terrace Dinner Buffet Review at The Peninsula Hotel Bangkok

River Cafe and Terrace at The Peninsula Hotel Bangkok - Dinner Buffet Riverfront

Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  5/5
Service  4/5
Value   4/5

See more details of the River Cafe and Terrace on BumRes.com

The Sunset on the Chao Phraya River is a picturesque scene.  Many tourists in Thailand would find it very enticing, but for local Thais like me; it seemed to be an everyday occurrence and I tend to not value its beauty as much in the past.  To accentuate the Thai’s local beauty and historical gems along the Chao Phraya River, the Peninsula Hotel Bangkok is offering what they call, “A Journey to the Temple of Dawn.”  It is the cocktail cruise at sunset, taking a route pass the fascinating Wat Arun or we know as the Temple of Dawn.  On the river ride, unlimited cocktails and canapés are served.  The trips are happening every Friday to Sunday at 5.30pm (price is 1,250 baht per person).  I was planning to spend romantic sunset hours with a girl and I knew for sure that she would be really impressed.  We were very excited and looking forward to the cruise. 

At first I thought about driving there since I was out of my office for a meeting but it was a Friday and the traffic in Bangkok was horrible I sensed that there was no way I could get it to the Peninsula at 5.30pm by car, so I parked near the BTS line and headed for the Taksin station where my date was waiting.  From there, we had to catch to Peninsula boat at Sathorn pier to the Peninsula Hotel pier, where the cruise starts. Unfortunately we got to the BTS Taksin around the time that the cruise departs for the journey to the Temple of Dawn.  Yep, sadly we missed the cruise but we didn’t miss the gorgeous reflection of the red sky on the Chao Phraya River just right before sunset.  Skipping the cruise was upsetting but it didn’t ruin the night.  

The Peninsula Hotel on the Charoennakorn road has the River Café and Terrace located right at the edge of the Chao Phraya River.  There, the dinner buffet is served on Friday and Saturday.  The river terrace atmosphere saved our night.  We got the front row seats of the river view.  The atmosphere was absolutely amazing.  There happened to be an event on the glass courtyard between the terrace and the hotel.  A lot of people were at the party but it didn’t bother us because they had a live band playing soothing music.  The surroundings of our dinner all turned out to be just perfect.  

We were more than half-way content with our night just enjoying the river phenomenon.  For the rest of our contentment, our mouth was the judge.  Surely the stomach would be happy since it was a buffet – I could fill it up as much as I could.  Personally I am not a fan of typical buffets.  Luxurious hotel buffets are an exception, I guess.  At first glance of my walk through, the culinary pleasures at the River Café and Terrace @ the Peninsula Hotel Bangkok were orchestrated with the line buffets of international dishes, western specialties of steaks and seafood, authenticated Thai selections from Thiptara (Thai restaurant by Peninsula Hotel), Cold cuts and cheese, Salads and canapés, and plenty of dessert choices.  The dinner buffet at the river Café and Terrace offered a nice diversity but certainly not as grand as what we would find at Sunday brunches.  We were there just in time for the first batch served, looking appetizing and fresh.     

To get into details, I can list a few items.  Let’s begin with food from the line buffet set up indoor.  For Thai food, there were papaya salads, Larb (minced pork salad), Tom Yum soup, Chili paste with steamed veggies, and a couple of different Yum (Thai spicy salads).  The seafood cocktail section had steamed river prawn, crabmeat, scallop cocktails, oyster shooters.  There are a couple of small trays serving Japanese sushi and rolls.  On had basic choices of sashimi; Salmon, Akami, Squid, and Saba.  The other one was full of Maki rolls.  At the center table were the European starters; mix of green salads with all types of dressing; the cold cuts – Spicy salami, Salami Milano, 14 months Italian Ham ; variety of pre-mixed salads – Roasted beef with apple chutney, Duck with Beetroot chutney, Tuna with mango salsa, and Shrimp with avocado.  The rest of the indoor area was full of the sweet selection; fondue fountain, ice-cream, cakes, pastries, Thai desserts, fresh fruits, and more.  It was quite a dessert heaven.  I bet sweet tooth diners would go berserk.     

The two lines set up outdoor were comprised of hot food.  First area had the oriental choices such as stir-fried Broccoli, fried rice, Yakisoba noodles, and Thai Panang curry.  The other was the western choices, which had Wagyu rump, Lamb, Pork Sausages, Lamb Chorizo Sausages, Atlantic scallop, Tasmanian Salmon, Pork loin with peppercorn sauce, Roasted corned beef.  It all sounds like a great selection of food for an international buffet, doesn’t it? 

We didn’t try all of what were listed above.  Honestly, I wasn’t disappointed with the food at this buffet at all.  In fact, I there were a few choices I really enjoyed.  The Wagyu rump and the lamb were awesome.  Some of the seafood cocktails and the chutney were nice and delightful.  I really liked the Seabass with caper sauce.  The grilled shrimps and scallops were wonderful.  Pastas and pizza were not as great.  The roasted corned beef was too chewy.  Thai dishes looked quite authentic but I didn’t try at all.  My girlfriend was happy with the dessert choices.  The Tahitian vanilla crème brulee was a good choice.  The ice-creams had many toppings.  Other fabulous selections of sweet were overtly eye-catching but steaks and seafood were more attractive to me. 

Overall, the dinner buffet at the Peninsula Hotel was an enjoyable one.  The food was prepared with quality ingredients.  Of course, the atmosphere and the company made the meal so much better.  In my opinion, I would prefer to stay at the table and have the a la carte buffet served to me.  I didn’t like walking back and forth to dish up the food myself.  This could be something that the hotel should consider for improvements.  Well – for missing out on “A Journey to the Temple of Dawn” at sunset, the make up at the River Café and Terrace of the Peninsula Hotel Bangkok was actually one of the most memorable and romantic dinner for me.  For 1,800++ Baht, it was all worth it if you were to look for a special place to spend quality time with your special someone.  On my next visit, I hope to catch the boat for river ride action on the Chao Phraya River at sunset in time.  Btw, this place is great for the Valentine’s Day coming up.    

For more yummy review of Bangkok restaurants please Click Here! 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร