Sushi Hiro - Japanese Restaurant and Sushi Bar at Ramintra 57 Review
ซูชิ ฮิโระ ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิบาร์ ปลาดิบ ซาซิมิ รามอินทรา 57
Overall Score 9.5/10
Taste 5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4.5/5
Sushi Hiro - Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ร้าน Sushi ในกรุงเทพมหานครนั้นแม้ว่าในตอนนี้จะมีผุดกันขึ้นมาเป็นดอกเห็ดมากมายแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะกระจุกตัวกันอยู่ในตัวเมือง หรือกรุงเทพฯ ชั้นในกันแทบทั้งนั้น แต่ถ้ามีร้านซูชิสักร้านนึงที่มาเปิดอยู่ที่ย่านชานเมืองบริเวณปากซอยรามอินทรา 57 และก็ไม่ได้เป็นร้านแฟรนไชส์ หรือเคยมีสาขาที่ไหนมาก่อนแต่อย่างใด แล้วล่ะก็ แสดงว่าทางเจ้าของร้านนั้นคงมีความมั่นใจในตัวอาหาร หรืออาจจะมีใจรักในอาหารมาก หรืออาจจะต้องมีจุดเด่นอะไรสักอย่างนึงที่จะทำให้คนในกรุงเทพฯ ชั้นในถ่อมากิน (หรือจริง ๆ เค้ากะจะเจาะกลุ่มคนที่อยู่แถวรามอินทราอย่างเดียวรึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ ฮา) ซึ่งร้านที่ว่านี้ก็คือร้าน Sushi Hiro (ฮิโระแปลว่า Prosperity หรือความเจริญรุ่งเรือง) นั่นเอง
ร้าน Sushi Hiro แห่งนี้ตั้งอยู่ปากซอยรามอินทรา 57 และเป็นหนึ่งในเวิ้งร้านอาหารญี่ปุ่น 3 ร้าน ที่มีร้านเนื้อย่าง Niku King และร้าน Izakaya นามว่า Tetsuya มาประกอบกันเป็นหมู่บ้านอาหารญี่ปุ่นย่อม ๆ ในย่านรามอินทราแห่งนี้เลย (ร้าน Niku King และ Tetsuya เราจะมาเจาะลึกกันในรีวิวลำดับถัด ๆ ไปนะครับ) ร้าน Sushi Hiro แห่งนี้เนื่องจากเป็นการต่อเติมจากร้าน Niku King ก็เลยทำให้พื้นที่ร้านมีไม่ค่อยเยอะนัก แต่ถ้าถามว่าใหญ่เพียงพอมั้ยผมว่าก็ใหญ่อยู่นะ ใหญ่กว่าร้าน Sushi Bar ในกรุงเทพชั้นในหลาย ๆ ร้านด้วยซ้ำ บรรยากาศร้านนั้นจะแบ่งเป็น 2 zone คือโซน al fresco dining ด้านนอกที่จะเป็นโต๊ะคล้าย ๆ โต๊ะโรงอาหาร และปกคลุมไปด้วยกำแพงไม้ไผ่ และบ่อปลา ให้บรรยากาศที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร และทำให้ความคิดที่ว่า Sushi ต้องกินในห้องแอร์อย่างเดียวเป็นอันตกไปได้ เพราะว่าทางร้านบอกว่ามีลูกค้ามานั่งกินด้านนอกนี่กันเยอะพอตัวเลย แต่ยังไงก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังคงเลือกด้านในที่เป็น Counter Sushi Bar ขนาดกำลังดี ประมาณ 12 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งอีก 4 โต๊ะอยู่ดี บรรยากาศด้านในก็จะคล้าย ๆ ด้านนอกเล็กน้อยครับ เน้นการตกแต่งด้วยไม้และประติมากรรมจากญี่ปุ่น ทั้งมีดซูชิ ตัวตุ๊กตาล้มลุก และอื่น ๆ
อาหารของทางร้าน Sushi Hiro นั้นก็ไม่ได้หนีจากร้านอาหารญี่ปุ่นแนว Sushi Bar อื่น ๆ สักเท่าไรนัก อาหารหลักจะเป็นพวกอาหารจากครัวเย็นหรือจาก Sushi Bar ทั้งหลายแหล่ Sushi, Sashimi, Roll, Chirashi Sushi (Donburi) นั้นมีครบหมด และก็มีเมนูจากครัวร้อนด้วยอีกนิดหน่อย อาหารของทางร้านนี้เท่าที่สังเกตคือจะเป็นลูกผสมระหว่าง traditional กับ contemporary (fusion) คือพวก sushi, sashimi แบบดั้งเดิม ที่ไม่ได้มีการดัดแปลงหน้านั้นก็มีให้เลือกสั่งเคียงคู่กันไปกับ sushi สมัยใหม่ที่มีการผสมหน้าหลาย ๆ อย่างเข้าไปในแต่ละคำ อาหารของร้านนี้อาจจะดูว่าแพง คือราคาเท่า ๆ กับร้านในเมืองเลย แต่ว่าราคาที่เขียนในเมนูนั้นเป็นราคา net แล้ว และทางร้านก็มีโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมายมาช่วยเพิ่มความคุ้มเช่น จ่ายเงินสดลด 20% จ่ายบัตรเครดิตลด 10% และก็มี menu กุ้งมังกรจากแคนาดาที่คิดแค่ตัวละ 700 บาทแค่นั้น (ร้านอื่นนี่ขายกัน 3000 บาทได้ครับ ทางร้านบอกว่าเจ้ากุ้งมังกรนี่เป็นเมนูฮอตฮิตเลย)
อาหารของทางร้านก็มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะสักเท่าไร ส่วนนึงอาจจะเพราะร้านเล็ก และก็ไม่ได้เน้นครัวร้อนอะไรมากมายด้วย อ้อ เชฟหลักของทางร้านนั้นเคยประจำอยู่ที่ร้าน Maru Kaiseki มาเป็น 10 ปีนะครับ รับประกันความสามารถได้พอสมควรเลย
อาหารก็มาไล่เรียงกันไปเลยดีกว่า
Spicy Maguro Roll (450 บาท) : Roll ที่ทางร้านบอกว่าลูกค้านิยมสั่งกันมากเนื่องจากว่ารสชาติถูกปากคนไทย ซึ่งจากที่ได้กินรสชาตินั้นจะเผ็ด ๆ หน่อย และก็ได้ความมันจากตัวไข่ปลา ซึ่งทางร้านจะใช้เป็น Tobiko ล้วน ๆ และได้ความนุ่มจาก avocado ที่สอดไส้อยู่ ส่วนความเผ็ดนั้นได้จากตัวซอสที่ราดมาค่อนข้างได้สัดส่วนเหมาะสม ตัวข้าวของ roll นี้ปั้นมาค่อนข้างแข็งไปนิดครับ แอบรู้สึกว่าถ้าข้าวไม่อัดกันเป็นก้อนกว่านี้น่าจะอร่อยกว่านี้อีกเหมือนกันนะเนี่ย
Kisetsu Set + Chawan + Miso (450 บาท) : เป็น set สุดคุ้มของทางร้านที่ตัว Sushi นั้นจะให้มาทั้งหมด 7 คำ + 3 Roll ประกอบด้วย Shima Aji , Salmon , Kohada, Hotate, Tamago, Ebi, Maguro และ Salmon maki ครับ ตัวหน้าซูชิอาจจะไม่ได้เป็นหน้า premium อะไรมากทุกอย่างจัดว่าเป็นซูชิราคาประหยัดหมด (ก็เลยทำให้ราคาเมนูนี้ไม่ค่อยแพง) แต่จะหน้าประหยัดหรือไม่ประหยัดก็ไม่เกี่ยวครับ ถ้าปั้นซูชิมาขนาดพอดีคำ ข้าวกับปลาได้สัดส่วน , เนื้อปลาสดหมดทุกอย่าง แบบเห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่าต้องอร่อย (ซึ่งกินแล้วก็อร่อยจริง) และปั้นซูชิมาดีมาก ส่วนซุปมิโซะก็รสชาติดีครับ รสชาติแบบพบเจอได้แต่เฉพาะในร้าน Premium ทั้งหลายแหล่ ส่วนไข่ตุ๋นนั้น แอบไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก รสชาติมาตรฐานทั่วไป
Unagi (Fresh Water Eel - 100 บาท) : ปลาไหลน้ำจืดอร่อยครับ เนื้อและข้าวจะแน่น ๆ หน่อย (ไม่แน่ใจว่าร้าน Sushi Hiro นี่เน้นความแน่นของ Sushi รึเปล่า ซึ่งก็ให้ texture ที่แตกต่างจากหลาย ๆ ร้านที่เคยกินมาครับ แต่ไม่ใช่ว่าไม่อร่อยนะครับ อร่อยดีมาก ซอสรสชาติหวานกำลังดี ลงตัว
Salmon Foie Gras Roll (650 บาท) : Roll อันนี้มีแต่ความนุ่มและนุ่มครับ ความนุ่มอย่างแรกเกิดจากตัว Salmon ที่เอาไป aburi หรือไป sear มาเลยทำให้มันนุ่มกว่าเนื้อแซลมอนดิบ ๆ อยู่แล้ว (กินแล้วแทบจะละลายในปาก) ความนุ่มอย่างที่สองและ 3 ก็เกิดจากตัว avocado และตัวตับห่าน และข้าวของ roll นี้ก็ปั้นแตกต่างจากจานแรกครับข้าวไม่ได้อัดแน่นมาก อาจจะต้องการเพิ่มความนุ่มขึ้นไปอีก จานนี้ผมก็เลยอยากจะเปลี่ยนชื่อเป็น Super tender salmon foie gras roll ให้จริง ๆ
Salmon Tartare (480 บาท) : เมนูสุดแนวที่ไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน (ไม่เคยแม้แต่จะเจออะไรที่คล้ายคลึงด้วยครับ) เป็นการนำแซลมอนไปสับจนละเอียดและก็ปรุงรสมานิดหน่อย แต่ไม่ได้เป็นรสเผ็ดนะครับ จะเป็นแนวผสมกับโชยุมากกว่า และก็เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ปลาแซลมอนปริมาณมาก และสาหร่าย Nori ทอดกรอบเป็นเทมปุระ เวลากินนั้นเราก็สามารถเอาเนื้อปลาแซลมอนบด + ไข่ปลาแซลมอนวางโปะลงบนสาหร่ายแล้วกินก็ได้ หรือจะกินตัวเนื้อกับไข่ปลาก็ดี ซึ่งผมแนะนำให้กินแบบแรกครับ เพราะมันได้สัมผัสที่ซับซ้อนดี ได้ทั้งความกรอบ ความเหนียว ความนุ่ม ระคนกันไปหมด อร่อยดีทีเดียว
Amaebi + Foie Gras (150 บาท) : ปิดท้ายกันด้วย Sushi แนวใหม่ ก็เป็นการนำกุ้งหวาน size มาตรฐานมาโปะด้วย foie gras ที่ sear มาแต่พอสุกนิดหน่อย (คือความสุกสมบูรณ์แบบสำหรับตับห่านน่ะครับ) ตัวกุ้งสดมากกินแล้วใช่เลย เนื้อหวาน นุ่ม อร่อย และได้ความมันความนุ่มเพิ่มเติมจากตับห่านอีก ปิดท้ายได้อย่างฟิน ๆ ดีครับคำนี้
สรุป ร้าน Sushi Hiro นี่พอกินจนจบมื้อก็ถึงเข้าใจครับว่าทำไมถึงกล้าหาญชาญชัยเปิดร้านแนว Sushi Bar นี้ในย่านรามอินทราแบบนี้ ตัววัตถุดิบสดและหลากหลาย , เชฟมากประสบการณ์และทำอาหารรวดเร็วดี, พนักงานของทางร้านก็ถูกเทรนมาดีมาก, รสชาติอาหารแต่ละจานพิถีพิถันอร่อยดี และเมื่อบวกรวมทั้งหมดนี้เข้าไปกับราคาที่ถ้าเอาจริง ๆ หน้าเมนูอาจจะเท่ากับร้านในเมือง แต่ถ้าตัด vat + service charge ออก 17% บวกกับส่วนลดเงินสดอีก 20% ก็เหมือนกับว่าราคาของร้านนี้ถูกกว่าร้านในเมืองไป 30-40% โดยปริยาย นี่ก็เป็นข้อดีอย่างนึงของการที่เราไม่ต้องช่วยเจ้าของร้านจ่ายค่าที่แพง ๆ ในย่านกลางเมืองล่ะครับ ใครสนใจแวะกันไปได้เลย ร้านเปิดทั้งวัน 11.00 - 22.00 ทุกวัน
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment