Casa Pasta ร้านอาหารอิตาเลียน สุขุมวิท 101/1 (วชิรธรรมสาธิต) รีวิว
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 3/5
Service 3.5/5
Value 3.5/5
Casa Pasta - Italian Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ร้าน Casa Pasta (บ้านพาสต้า) ในรีวิวนี้เป็นร้านที่ผมว่าจะมากิน ๆ นานมากล่ะ อย่างต่ำ ๆ ก็ครึ่งปีได้ เพราะอ่านเจอรีวิวจากหลาย ๆ ที่มีแต่ชมร้านนี้กันทั้งนั้นว่า "อร่อย ถูก คุ้มค่า ฯลฯ" แต่เนื่องด้วยทำเลของร้านที่ตั้งอยู่ที่ปากซอยวชิรธรรมสาธิต 9 (สุขุมวิท 101/1) ย่านที่ค่อนข้างจะไกลบ้านผมเหลือเกิน เวลาจะมา ๆ ก่อนหน้านี้ทีไรก็จะแบบขี้เกียจมาทุกทีเพราะว่ามันไกล แต่วันนี้ที่มาได้ก็เนื่องจากว่าอยากกินพาสต้ามาก ๆ เลย ไม่ได้กินพาสต้ามานานล่ะก็เลยชวนคุณแฟนไปจัดกันสักหน่อย ในบ่ายวันอาทิตย์แบบนี้
ร้านนี้หาไม่ยากเลยครับอยู๋ปากซอยวชิรธรรมสาธิต 9 พอดี เป็นร้านห้องแถวเล็ก ๆ ขนาด 1 คูหา แต่ว่าตั้งอยู่ตรงมุมพอดีผมก็เลยรู้สึกว่าขนาดของร้าน Casa Pasta แห่งนี้แอบใหญ่กว่าห้องแถวขนาด 1 คูหาอยู่พอสมควรเหมือนกันนะเนี่ย ตอนที่ไปถึงที่ร้าน ร้านชั้นล่างเหมือนจะมีครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงเค้ามาปิดร้านฉลองอะไรกันสักอย่าง พวกผมเลยต้องระเห็จไปนั่งชั้นบนแทน ซึ่งจะว่าดีก็ว่าดีมั้งเพราะชั้นบนมีแค่โต๊ะผมอยู่โต๊ะเดียว เงียบ เป็นส่วนตัวดี และก็ทำให้รู้ว่าร้านมี 2 ชั้นด้วย (ไม่งั้นคงไม่รู้)
พนักงานของร้านนี้ดูบริการงง ๆ เหมือนกันครับ พูดจาดี แต่แนะนำอาหารไม่ค่อยได้ และก็เหมือนจะคอยยืนดูแลเรา แต่เหมือนก็ไม่ได้ดู คือมีเศษพิซซ่าหก ๆ เต็มโต๊ะแต่ก็ปล่อยอยู่ตั้งนานไม่มาเช็ด, แก้วน้ำก็แบบน้ำมันซึมออกก้นแก้วเปื้อนโต๊ะก็ไม่เช็ด จานก็มีปล่อยไว้นาน ๆ แต่แบบก็ยืนดูอยู่ตลอดเวลา ก็แอบบงง ๆ เหมือนกันว่ายืนดูอะไร
ส่วนอาหารของร้าน Casa Pasta แห่งนี้ตอนแรกผมก็นึกว่าจะเน้นไปที่ Pasta อย่างเดียว แต่เปล่าเลยครับเป็นอาหารอิตาเลียนแบบเต็มรูปแบบ มีให้เลือกบครันครันทั้ง pizza, salad, soup, main course และของหวาน ซึ่งผมก็เพิ่งมารู้เมื่อตอนที่มาร้านที่นี่แหละว่าร้านนี้เค้ามีเชฟอยู่ 3 คน (ไม่รู้จะเรียกว่าเชฟหรือพ่อครัวดี เพราะเชฟมันควรมีแค่คนเดียวในร้าน ๆ นึงเนอะ) และ 3 คนนี้เคยทำงานอยู่ที่ร้านอิตาเลียนชื่อดังย่านสีลมนามว่า Zanotti มาก่อน และเมื่อประมาณสักเกือบ ๆ ปีที่ผ่านมา สามสหายครัวอิตาเลียนแห่งนี้ก็มาเปิดร้านเล็ก ๆ ของตัวเองกัน ซึ่งจากที่ฟัง ๆ ดูแล้วพอรู้ว่าเคยอยู่ Zanotti ก็พอจะเดาอาหารได้อย่างคืออาหารจะเป็นแนวแบบ traditional หน่อย ไม่ได้แบบ molecular หรือสวยงามอะไรเว่อร์นัก และก็ฝีมือก็น่าจะพอเชื่อขนมกินได้อยู่ไม่งั้นทางร้าน Zanotti คงไม่รับเข้าไปทำ
อาหารของร้าน Casa Pasta นี้ตอนแรกผมคิดเอาไว้ว่าจะถูกกว่านี้พอสมควรครับเพราะเห็นว่าตั้งอยู่ชานเมืองเหลือเกิน แต่ผมก็ลืมไปว่าร้านอิตาเลียนในบ้านเรา (กรุงเทพ หรือจังหวัดไหนก็ตาม) ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนราคาก็มักจะตั้งมาให้ดูแพง ๆ โอเว่อร์ ๆ อยู่แล้วซึ่งร้าน Casa Pasta แห่งนี้ก็ไม่ต่างกัน คือไม่ถึงกับแพงขนาดร้านในใจกลางเมือง แต่ก็ไม่ได้ถูก มากินกันแบบไม่คิดอะไรมากก็คงเท่า ๆ กับผมในมื้อนี้คือคนละ 500 - 1,000 บาทโดยประมาณ (พาสต้าจานละ 200 - 400 , main 300 - 600 ประมาณนี้)
มื้อนี้มีอาหาร 5 อย่างครับ ไม่ได้สั่ง main course เหมือนทุก ๆ ทีเพราะรู้สึกว่า..ไม่ได้เตรียมใจมากินอะไรแพง ๆ (lol)
Chef Salad (220 บาท) : จานนี้ไม่มีอยู่ในเมนูครับ พนักงานแนะนำมา (เพราะดู ๆ แล้วสลัดในเมนูยังไม่ค่อยโดนเท่าไร) จานนี้กินเข้าไปคำแรกแอบตกใจเพราะมาแบบร้อน ๆ เลย เป็นสลัดแบบร้อน ๆ หนึ่งในไม่กี่จานที่ผมเคยกินมาเลยมั้ง อร่อยดีครับ ผักสดอร่อยมีหลากหลายดีทั้ง green oak, rocket, cherry tomato และผักกาดม่วง ทั้งหมดนี้วางโปะมาด้วยเบคอน, ไส้กรอกและเห็ดแบบร้อน ๆ และก็โรยน้ำสลัดเปรี้ยว ๆ มาอีกเล็กน้อย อร่อยครับ ชอบจานนี้
Tagliolini with cheap mushroom and black summer truffle cream sauce
(เส้นตาโยลินี่ผัดกับเห็ดหอมและซอสเห็ดทรัฟเฟิลครีมซอส - 250 บาท :
พาสต้าแบบครีมมี่ ๆ หน่อย ไม่ได้ใส่เนื้อสัตว์มาเลยมีแต่เห็ดอย่างเดียว
ไม่รู้ว่าแพงอะไร อาจจะเพราะตัวทรัฟเฟิลที่ขูดมาให้ค่อนข้างเยอะ แน่นอนครับ
จานนี้โดดเด่นที่ความหอมของทรัฟเฟิล ตัวเส้น tagliolini ก็เส้นเรียว ๆ
เล็ก ๆ เข้ากันดีกับซอสแบบครีมมี่ ตัวเห็ดก็ให้มาเยอะดี รวม ๆ
ก็เป็นพาสต้าที่อร่อยใช้ได้นะครับ
Dry Pasta Angel Hair (Salsiccia e Funghi (Italian suasage, mushroom, chili, garlic, cherry tomato ซอสผัดแบบแห้ง ๆ ใส่ไส้กรอกอิตาเลียน, เห็ด, พริก, กระเทียม, มะเขือเทศเชอร์รี่ - 210 บาท : จานนี้เป็นจานเดียวที่ผมรู้สึกว่า fail ในมื้อนี้ ตัว topping, เครื่อง pasta ผมว่าทำมาค่อนข้างอร่อยดีนะครับ ไส้กรอกอิตาเลียนให้มาเยอะและอร่อยดี ตัวเห็ด, ผักต่าง ๆ ที่ให้มาก็แบบรสชาติจัดจ้าน ส่งเสริมรสชาติโดยรวมของจานดี แต่มันมาตกม้าตายเอาตรงเส้นนี่แหละครับ เส้นผัดมาแบบแห้ง ๆ และติดกันเป็นตังเม ผมพยายามจะกินเส้นให้พอดีคำ กินพร้อมกับเครื่องแต่ทำไม่ค่อยได้เท่าไร อืม แค่นี้จริง ๆ ล่ะครับ ไม่งั้นจานนี้คงอร่อยไปแล้ว
Pizza Spicy Salami (Mozzarella, Tomato พิซซ่าซาลามีแบบเผ็ด - 300 บาท : Pizza อร่อย แป้งบางกรอบ โรย Salami มาเต็ม ๆ ถาด ชีสก็มาแบบเยิ้ม ๆ คือทางร้านบอกว่าจานนี้เป็นพิซซ่าแบบเผ็ด แต่ผมกินแล้วหาความเผ็ดไม่เจอเลย ไม่แน่ใจว่าทำสลับกันอีกอันที่เป็น salami ธรรมดา ๆ รึเปล่า แต่ถึงจะไม่เผ็ดก็ไม่เป็นไรครับเพราะว่าอร่อยดี ราคาไม่แพงด้วยนะถาดนี้ทำเป็นเล่นไป
Traditional Italian Tiramisu espresso with mascarpone cheese and coffee (อิตาเลียนคอฟฟี่เค้ก ทิรามิสุ ใส่ชีสมาสคาโพนเน่กับกาแฟ - 130 บาท : จานนี้ราคาไม่ค่อยแพง tiramisu ดูจะทำมาให้มีรูปร่างเหมือนผีเสื้อ ก็น่ารักน่ากินดี จานนี้อร่อยได้มาตรฐานดีครับ ระดับเดียวกับพวกร้านอิตาเลียนหรู ๆ ใจกลางเมืองประมาณนั้น
มื้อนี้ค่าเสียหายประมาณ 1,400 บาท ทางร้าน Casa Pasta มี service charge ให้ด้วย 10% (อืมคือให้มาด้วยแต่ไม่อยากได้น่ะครับ ฮ่า ๆ) เอาจริง ๆ แล้วร้านนี้ผมค่อนข้างชอบนะ อาหารถือว่ารสชาติดีกว่าร้านอิตาเลียนชานเมืองหลาย ๆ ร้านเลย แต่คือราคามันแอบแรงกว่าที่ผมคิดไปพอสมควร, พนักงานแอบมีบริการงง ๆ บ้างบางจังหวะ แต่รวม ๆ แล้วร้านนี้ผมก็อยากมาอีกรอบนะครับ อืมก็ไว้ถ้ามีอารมณ์อยากจะกินอาหารอิตาเลียนดี ๆ อีกก็คงจะมาใหม่ล่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Monday, March 31, 2014
Sunday, March 30, 2014
The Rock - Fusion Restaurant at Cape Nidhra Hua Hin Review
Rock Restaurant - International & Fusion Restaurant at Cape Nidhra Hotel Review
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 4.5/5
Value 4.5/5
Rock Restaurant - Asian Fusion Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ณ โรงแรม Capd Nidhra หัวหินจะมีห้องอาหารชื่อดังประจำโรงแรมอยู่ห้องนึงนามว่า Rocks Restaurant ชื่อร้านนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนักมวยปล้ำชื่อดังที่ผันตัวเองมาเล่นหนัง, ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนังเรื่องดังเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชื่อร้านนั้นมีที่มาจากอะไร (คือเขียนเหมือนจะรู้) เพราะว่าบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งเป็นแนว modern ริมทะเลนั้นไม่ได้มีอะไรที่มีความเป็นหินหรือเกี่ยวข้องอะไรกับหินเลย (เท่าที่สังเกต) ร้านนี้เป็นห้องอาหารหนึ่งเดียวของโรงแรม เสิร์ฟอาหารทั้งมื้อเช้า, เที่ยง และเย็นให้กับแขกเหรื่อและคนทั่วไป
ห้องอาหาร Rocks Restaurant แห่งนี้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ริมทะเลแบบติดทะเลเลย แต่ก็ยังพอเห็นวิวเป็นทะเลอยู่บ้าง ให้ไม่เสียเที่ยวกับห้องอาหารของโรงแรมริมทะเลแบบนี้ ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน จะมีส่วน al fresco dining อยู่เล็กน้อยมีโต๊ะอยู่ 4-5 โต๊ะซึ่งโต๊ะบริเวณนี้ถามาตอนกลางคืนนี่จะโรแมนติคมากเลเพราะจะเห็นวิวสระน้ำ, ทะเล และแสงจันทร์(นวลผ่อง) ส่วนถ้ามาตอนกลางวันก็อาจจะไม่ดีเท่าเพราะร้อนด้วยและไม่โรแมนติคเท่าไรด้วย ส่วนที่นั่งด้านในนั้นจะมีจำนวนโต๊ะอยู่ค่อนข้างเยอะ มีทั้งโต๊ะใหญ่และโต๊ะเล็ก ๆ รองรับลูกค้าหลากหลายรูปแบบ บรรยากาศด้านในนั้นตกแต่งสวยงามดีครับ สมกับเป็นห้องอาหารของโรงแรม 5 ดาว เช่นเดียวกันกับการบริการของที่นี่ พนักงานดูแลดีมาก มืออาชีพ และใส่ใจกับลูกค้าสุด ๆ
อาหารของห้องอาหาร Rocks Restaurant - Cape Nidhra Hua Hin นั้นจะเป็นอาหารแนวผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก แต่ว่าจะแบ่งหมวดหมู่อาหารเป็นแบบตะวันตกคือจะมี soup, pasta, appetzier, salad, main course, dessert อะไรพวกนี้ แต่คือก็ไม่ได้มีแต่อาหารตะวันตกจะมีอาหารไทย, อาหารตะวันออกแทรก ๆ เข้าไปอยู่ในเมนูด้วย ตัวอาหารมื้อเที่ยงกับมื้อเย็นนั้นก็จะแตกต่างกันบ้างพอสมควรมีอาหารบางตัวที่มีทั้ง 2 มื้อและมีบางตัวที่มีแค่มื้อใดมื้อหนึ่งก็เลยทำให้เกิดความหลากหลายในด้านอาหารเพิ่มเติม ลูกค้าสามารถมารับประทานได้ 2 มื้อติดต่อกันได้แบบสบาย ๆ
อาหารของทางร้านจะเป็นอาหารที่เน้นแนว fusion หน่อย มีการใส่ความเป็น seafood, ความเป็นไทย ลงไปในอาหารตะวันตก , มีการ twist อาหารไทยแบบบ้าน ๆ ให้หน้าตาออกมาดูดีเหมือนกับของตะวันตก จนสุดท้ายแล้วอาหารของร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้จึงเป็นแต่ละจานที่ creative และไม่ซ้ำแบบกับใครเลยจริง ๆ เพราะเป็นจานที่คิดขึ้นมาใหม่เองทั้งหมด ส่วนราคาอาหารนั้นก็อยู่ในระดับกลาง ๆ เทียบได้กับร้านอาหารตะวันตกมีระดับหน่อยในกรุงเทพมากินกันเต็มที่ก็คงจะคนละ 600 - 1,000 บาทโดยประมาณอะไรประมาณนั้น เครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกเยอะครบครัน เท่าที่ดู ๆ แล้วอยากจะดื่มอะไร อยากจะซดอะไรที่ร้านน้เค้ามีให้เลือกสั่งหมดครับ (ยกเว้นเบียร์สดนะ)
Cape Nidhra Coffee (Single malt whisky, baileys, whipped cream, lavazza coffee, Cinnamon - 260 บาท) : กาแฟที่เอาชื่อโรงแรมมาเป็นชื่อเมนู เห็นแบบนี้ปุ๊บอดที่จะไม่สั่งไม่ได้จริง ๆ ล่ะครับเป็นกาแฟเข้มข้นที่ผสมวิสกี้มาด้วย ใส่วิปครีมนิด, ซินนามอนหน่อยเพื่อความมันความอร่อย แก้วนี้ให้วิสกี้ค่อนข้างเยอะกินเข้าไปอึกแรกแอบสะอึกอยู่เหมือนกัน แต่กินไปกินมาหลัง ๆ เริ่มลื่น รู้สึกว่าเอ้อมันก็เข้ากันดีนะเนี่ยวิสกี้กับกาแฟเนี่ย
Watermelon and Feta Cheese Salad with Pink Pepper - 340 บาท : สลัดไอเดียสุดบรรเจิด นำแตงโมมาหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วเอาไปคลุกกับ feta cheese และมีการยัดกลับลงไปในแตงโมลูกเล็ก ๆ และเสิร์ฟมาพร้อมกับใบร็อคเก็ตเล็ก ๆ หน้าตาตอนแรกนี่บอกตรง ๆ คือผมไม่คิดว่ามันจะเข้ากันเลย แต่คือพอได้กินแล้วมันกลับเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด แตงโมเพิ่มความหวานและฉ่ำ ส่วนชีสเพิ่มความมันและหอม ใบร็อคเก็ตเหมือนเป็นใบตัดเลี่ยน แอบมีรสเผ็ด ๆ ด้วยเล็กน้อย
Angel hair pasta with crabmeat, crab roe, white wine, olive oil, chili, garlic and rocket leaves - 370 บาท : จานนี้ทางร้านบอกว่าเป็น pasta ที่โด่งดังที่สุดของทางร้านล่ะ ลูกค้าที่มานี่แทบจะสั่งกันทุกคน เป็นเส้นแองเจิ้ลแฮร์นำไปผัดกับไวน์ขาว, ใบร็อคเก็ตและใส่พวกเครือ่งเทศเพิ่มรสจัดจ้านลงไป ส่วนที่สำคัญที่สุดคือเนื้อปูที่ให้มาเยอะมาก ตักขึ้นมาคำไหนก็เจอ และมีก้ามปูขนาดใหญ่แปะมาด้วย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเนื้อปูนั้นมาจากก้ามปูรึเปล่า ซึ่งถ้าใช่นี่จานนี้จะเป็นอะไรที่ถูกมากเลยนะเพราะก้ามปูนึ่งเปล่า ๆ อย่างเดียวในกรุงเทพส่วนใหญ่ก็ขายกันก้ามละ 400 บาทเข้าไปล่ะ จานนี้รสชาติจัดจ้าน, ไม่แห้ง, ไม่แฉะไป เนื้อปูสด อร่อยฟินครับ
Herb-crusted Australian rack of lamb with truffle-flavoured mashed potatoes and rosemary gravy - 750 บาท : เป็นซี่โครงแกะที่สวยงามและบรรเจิดที่สุดที่ผมเคยเจอมาแล้วล่ะมั้งครับ ตัวซี่โครงมีเอาไปชุบกับแป้ง, สมุนไพร เพิ่มความกรอบของผิวด้านนอก ส่วนผิวในก็นุ่มและ medium rare กำลงดี ติดมันมากำลังดี, จานนี้มีการพัน onion rings มาให้สวย ๆ พร้อมกับเป็น side dish ของจานด้วย ยังไม่พอมีใส่มันบดกลิ่นทรัฟเฟิลมาให้อีก โอย เป็นซี่โครงแกะที่พิถีพิถันและอร่อยจริง ๆ ครับ
ไข่เจียวปู (Crabmeat Omelette - 450 บาท) : อาหารไทย fusion ตะวันตกจานเดียวในมื้อนี้เป็นไข่เจียวที่ทำออกมาเป็นหลาย ๆ ชั้น ระหว่างแต่ละชั้นจะมีเนื้อปูปริมาณมากแทรกเอาไว้อยู่และก็เรียง ๆ มาลักษณะคล้าย ๆ .. เบอร์เกอร์, พุดดิ้ง อะไรประมาณนั้น เป็นไข่เจียวที่อร่อย เนื้อปูเยอะ และหน้าตาน่ากินสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ
Pavlova with Fresh Tropical Fruist - 190 บาท : เป็นเมอแรงค์ที่นำไปอบมา รสชาติของตัว pavlova จะหวาน ๆ กรอบ ๆ และได้ความหวาน ฉ่ำ อ่รยเพิ่มเติมจากผลไม้ที่วางประดับประดาด้านบนมาจนเต็ม เป็นของหวานที่ผมไม่เคยกินมาก่อน สวยงามและอร่อยในตัวเอง ยอดไปเลย
Fruit Platter - 130 บาท : รวมมิตรผลไม้จานใหญ่ยักษ์ แกะสลักมาสวย ๆ ผลไม้สดทุกอย่าง
สรุป ร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้ก็สมกับเป็นร้านดังในหัวหินล่ะครับ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ ไม่ว่าจะบรรยากาศ, การบริการและตัวอาหาร และองค์ประกอบคุณภาพเยี่ยมทั้งหมดนี้แลกมากับราคาที่ไม่ได้แพงมากนัก (ตามความรู้สึกผม) ผมเลยรู้สึกว่าร้านนี้นี่เหมาะจริง ๆ ถ้ามาหัวหินแล้วอยากจะกินอาหารดี ๆ หากินที่ไหนไม่ได้ บรรยากาศดี ๆ โรแมนติค ร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้นี่เป็นอะไรที่ใช่เลยจริง ๆ ล่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 4.5/5
Value 4.5/5
Rock Restaurant - Asian Fusion Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ณ โรงแรม Capd Nidhra หัวหินจะมีห้องอาหารชื่อดังประจำโรงแรมอยู่ห้องนึงนามว่า Rocks Restaurant ชื่อร้านนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับนักมวยปล้ำชื่อดังที่ผันตัวเองมาเล่นหนัง, ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนังเรื่องดังเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชื่อร้านนั้นมีที่มาจากอะไร (คือเขียนเหมือนจะรู้) เพราะว่าบรรยากาศของร้านที่ตกแต่งเป็นแนว modern ริมทะเลนั้นไม่ได้มีอะไรที่มีความเป็นหินหรือเกี่ยวข้องอะไรกับหินเลย (เท่าที่สังเกต) ร้านนี้เป็นห้องอาหารหนึ่งเดียวของโรงแรม เสิร์ฟอาหารทั้งมื้อเช้า, เที่ยง และเย็นให้กับแขกเหรื่อและคนทั่วไป
ห้องอาหาร Rocks Restaurant แห่งนี้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ริมทะเลแบบติดทะเลเลย แต่ก็ยังพอเห็นวิวเป็นทะเลอยู่บ้าง ให้ไม่เสียเที่ยวกับห้องอาหารของโรงแรมริมทะเลแบบนี้ ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน จะมีส่วน al fresco dining อยู่เล็กน้อยมีโต๊ะอยู่ 4-5 โต๊ะซึ่งโต๊ะบริเวณนี้ถามาตอนกลางคืนนี่จะโรแมนติคมากเลเพราะจะเห็นวิวสระน้ำ, ทะเล และแสงจันทร์(นวลผ่อง) ส่วนถ้ามาตอนกลางวันก็อาจจะไม่ดีเท่าเพราะร้อนด้วยและไม่โรแมนติคเท่าไรด้วย ส่วนที่นั่งด้านในนั้นจะมีจำนวนโต๊ะอยู่ค่อนข้างเยอะ มีทั้งโต๊ะใหญ่และโต๊ะเล็ก ๆ รองรับลูกค้าหลากหลายรูปแบบ บรรยากาศด้านในนั้นตกแต่งสวยงามดีครับ สมกับเป็นห้องอาหารของโรงแรม 5 ดาว เช่นเดียวกันกับการบริการของที่นี่ พนักงานดูแลดีมาก มืออาชีพ และใส่ใจกับลูกค้าสุด ๆ
อาหารของห้องอาหาร Rocks Restaurant - Cape Nidhra Hua Hin นั้นจะเป็นอาหารแนวผสมผสานระหว่างตะวันตกกับตะวันออก แต่ว่าจะแบ่งหมวดหมู่อาหารเป็นแบบตะวันตกคือจะมี soup, pasta, appetzier, salad, main course, dessert อะไรพวกนี้ แต่คือก็ไม่ได้มีแต่อาหารตะวันตกจะมีอาหารไทย, อาหารตะวันออกแทรก ๆ เข้าไปอยู่ในเมนูด้วย ตัวอาหารมื้อเที่ยงกับมื้อเย็นนั้นก็จะแตกต่างกันบ้างพอสมควรมีอาหารบางตัวที่มีทั้ง 2 มื้อและมีบางตัวที่มีแค่มื้อใดมื้อหนึ่งก็เลยทำให้เกิดความหลากหลายในด้านอาหารเพิ่มเติม ลูกค้าสามารถมารับประทานได้ 2 มื้อติดต่อกันได้แบบสบาย ๆ
อาหารของทางร้านจะเป็นอาหารที่เน้นแนว fusion หน่อย มีการใส่ความเป็น seafood, ความเป็นไทย ลงไปในอาหารตะวันตก , มีการ twist อาหารไทยแบบบ้าน ๆ ให้หน้าตาออกมาดูดีเหมือนกับของตะวันตก จนสุดท้ายแล้วอาหารของร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้จึงเป็นแต่ละจานที่ creative และไม่ซ้ำแบบกับใครเลยจริง ๆ เพราะเป็นจานที่คิดขึ้นมาใหม่เองทั้งหมด ส่วนราคาอาหารนั้นก็อยู่ในระดับกลาง ๆ เทียบได้กับร้านอาหารตะวันตกมีระดับหน่อยในกรุงเทพมากินกันเต็มที่ก็คงจะคนละ 600 - 1,000 บาทโดยประมาณอะไรประมาณนั้น เครื่องดื่มของทางร้านมีให้เลือกเยอะครบครัน เท่าที่ดู ๆ แล้วอยากจะดื่มอะไร อยากจะซดอะไรที่ร้านน้เค้ามีให้เลือกสั่งหมดครับ (ยกเว้นเบียร์สดนะ)
Cape Nidhra Coffee (Single malt whisky, baileys, whipped cream, lavazza coffee, Cinnamon - 260 บาท) : กาแฟที่เอาชื่อโรงแรมมาเป็นชื่อเมนู เห็นแบบนี้ปุ๊บอดที่จะไม่สั่งไม่ได้จริง ๆ ล่ะครับเป็นกาแฟเข้มข้นที่ผสมวิสกี้มาด้วย ใส่วิปครีมนิด, ซินนามอนหน่อยเพื่อความมันความอร่อย แก้วนี้ให้วิสกี้ค่อนข้างเยอะกินเข้าไปอึกแรกแอบสะอึกอยู่เหมือนกัน แต่กินไปกินมาหลัง ๆ เริ่มลื่น รู้สึกว่าเอ้อมันก็เข้ากันดีนะเนี่ยวิสกี้กับกาแฟเนี่ย
Watermelon and Feta Cheese Salad with Pink Pepper - 340 บาท : สลัดไอเดียสุดบรรเจิด นำแตงโมมาหั่นเป็นลูกเต๋าแล้วเอาไปคลุกกับ feta cheese และมีการยัดกลับลงไปในแตงโมลูกเล็ก ๆ และเสิร์ฟมาพร้อมกับใบร็อคเก็ตเล็ก ๆ หน้าตาตอนแรกนี่บอกตรง ๆ คือผมไม่คิดว่ามันจะเข้ากันเลย แต่คือพอได้กินแล้วมันกลับเข้ากันได้อย่างน่าประหลาด แตงโมเพิ่มความหวานและฉ่ำ ส่วนชีสเพิ่มความมันและหอม ใบร็อคเก็ตเหมือนเป็นใบตัดเลี่ยน แอบมีรสเผ็ด ๆ ด้วยเล็กน้อย
Angel hair pasta with crabmeat, crab roe, white wine, olive oil, chili, garlic and rocket leaves - 370 บาท : จานนี้ทางร้านบอกว่าเป็น pasta ที่โด่งดังที่สุดของทางร้านล่ะ ลูกค้าที่มานี่แทบจะสั่งกันทุกคน เป็นเส้นแองเจิ้ลแฮร์นำไปผัดกับไวน์ขาว, ใบร็อคเก็ตและใส่พวกเครือ่งเทศเพิ่มรสจัดจ้านลงไป ส่วนที่สำคัญที่สุดคือเนื้อปูที่ให้มาเยอะมาก ตักขึ้นมาคำไหนก็เจอ และมีก้ามปูขนาดใหญ่แปะมาด้วย ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเนื้อปูนั้นมาจากก้ามปูรึเปล่า ซึ่งถ้าใช่นี่จานนี้จะเป็นอะไรที่ถูกมากเลยนะเพราะก้ามปูนึ่งเปล่า ๆ อย่างเดียวในกรุงเทพส่วนใหญ่ก็ขายกันก้ามละ 400 บาทเข้าไปล่ะ จานนี้รสชาติจัดจ้าน, ไม่แห้ง, ไม่แฉะไป เนื้อปูสด อร่อยฟินครับ
Herb-crusted Australian rack of lamb with truffle-flavoured mashed potatoes and rosemary gravy - 750 บาท : เป็นซี่โครงแกะที่สวยงามและบรรเจิดที่สุดที่ผมเคยเจอมาแล้วล่ะมั้งครับ ตัวซี่โครงมีเอาไปชุบกับแป้ง, สมุนไพร เพิ่มความกรอบของผิวด้านนอก ส่วนผิวในก็นุ่มและ medium rare กำลงดี ติดมันมากำลังดี, จานนี้มีการพัน onion rings มาให้สวย ๆ พร้อมกับเป็น side dish ของจานด้วย ยังไม่พอมีใส่มันบดกลิ่นทรัฟเฟิลมาให้อีก โอย เป็นซี่โครงแกะที่พิถีพิถันและอร่อยจริง ๆ ครับ
ไข่เจียวปู (Crabmeat Omelette - 450 บาท) : อาหารไทย fusion ตะวันตกจานเดียวในมื้อนี้เป็นไข่เจียวที่ทำออกมาเป็นหลาย ๆ ชั้น ระหว่างแต่ละชั้นจะมีเนื้อปูปริมาณมากแทรกเอาไว้อยู่และก็เรียง ๆ มาลักษณะคล้าย ๆ .. เบอร์เกอร์, พุดดิ้ง อะไรประมาณนั้น เป็นไข่เจียวที่อร่อย เนื้อปูเยอะ และหน้าตาน่ากินสุด ๆ ไปเลยล่ะครับ
Pavlova with Fresh Tropical Fruist - 190 บาท : เป็นเมอแรงค์ที่นำไปอบมา รสชาติของตัว pavlova จะหวาน ๆ กรอบ ๆ และได้ความหวาน ฉ่ำ อ่รยเพิ่มเติมจากผลไม้ที่วางประดับประดาด้านบนมาจนเต็ม เป็นของหวานที่ผมไม่เคยกินมาก่อน สวยงามและอร่อยในตัวเอง ยอดไปเลย
Fruit Platter - 130 บาท : รวมมิตรผลไม้จานใหญ่ยักษ์ แกะสลักมาสวย ๆ ผลไม้สดทุกอย่าง
สรุป ร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้ก็สมกับเป็นร้านดังในหัวหินล่ะครับ ทุกอย่างสมบูรณ์แบบจริง ๆ ไม่ว่าจะบรรยากาศ, การบริการและตัวอาหาร และองค์ประกอบคุณภาพเยี่ยมทั้งหมดนี้แลกมากับราคาที่ไม่ได้แพงมากนัก (ตามความรู้สึกผม) ผมเลยรู้สึกว่าร้านนี้นี่เหมาะจริง ๆ ถ้ามาหัวหินแล้วอยากจะกินอาหารดี ๆ หากินที่ไหนไม่ได้ บรรยากาศดี ๆ โรแมนติค ร้าน Rocks Restaurant แห่งนี้นี่เป็นอะไรที่ใช่เลยจริง ๆ ล่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Subscribe to:
Posts (Atom)