Hanako Kappo - Japanese Restaurant at Thonglor Soi 13 Review
ฮานาโกะ คัปโปะ - ร้านอาหารญี่ปุ่น ทองหล่อ ซอย 13
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 3.5/5
Hanako Kappo - Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
คำว่า Kappo นั้นเป็นคำที่ใช้บ่งบอกถึงร้านลักษณะนึงของร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งนิยามของร้านนี้แบบคร่าว ๆ ก็คือ 1) จะเป็นร้านที่เสิร์ฟอาหารหลากหลายประเภท และจะเสิร์ฟอาหารโดยอิงกับฤดูกาลเป็นหลัก เปลี่ยนอาหารไปเรื่อย ๆ ไม่ซ้ำกันในตลอดปี 2) อาหารจะมีการตกแต่งจานให้สวย ๆ กึ่ง ๆ งานศิลปะ ใช้แรงงานในการทำแต่ละจานค่อนข้างมาก แต่คือจะไม่เป็นทางการขนาด Kaiseki เท่าไรและไม่ได้เสิร์ฟเป็นอาหารชุดเหมือนกับ Kaiseki 3) ลูกค้าจะสามารถมองดูเชฟทำอาหารให้เรากินกันได้แบบสด ๆ คล้าย ๆ กับ Sushi Bar แต่ว่าอาหารจะหลากหลายกว่าทำให้ได้เห็นลีลาของเชฟเยอะกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นร้าน Kappo ช่วงหลัง ๆ จะเป็นร้านที่ใหญ่ ไม่ได้มีแค่เฉพาะส่วนบาร์อย่างเดียว ข้อนี้ก็เลยอาจจะไม่ชัดเจนเท่าไร (ส่วนคำว่า Hanako แปลว่า สาวดอกไม้)
ร้าน Kappo ในนบ้านเรานั้นเท่าที่ผมรู้ก็ยังมีไม่ค่อยเยอะเท่าไร (รู้จักอยู่แค่ 2 ร้าน) ซึ่งในรีวิวนี้เราจะไปรีวิวกันที่ร้าน rare item ประเภทนี้กันกับร้าน Hanako Kappo - ร้านอาหารญี่ปุ่นแบบคัปโปะในซอยทองหล่อ 13 นั่นเอง ร้านนี้แม้ว่าจะอยู่ในทำเลที่เรียกได้ว่าน่าจะค่อนข้าง prime มากที่สุดของทองหล่อก็ตาม คืออยู่ในซอยกลางของทองหล่อที่เชื่อมกับทุก ๆ ซอยเลย แต่ว่าทำเลของร้านนี้นั้นดันไปตั้งอยู่ในซอยย่อยของซอยทองหล่อ 13 อีกทีและเป็นซอยที่ไม่ค่อยมีคนขับรถผ่านสักเท่าไร ตัวผมเองแม้ว่าจะขับรถผ่านซอยนี้บ่อยก็เลยไม่ค่อยจะได้เห็นร้าน Hanako Kappo แห่งนี้สักเท่าไรนัก แม้ว่าร้านจะเปิดมาได้เนิ่นนานแล้ว (8 ปี)
คำว่า Hanako นั้นถ้าแปลตรงตัวเลยก็จะแปลได้ว่า เด็กดอกไม้ แต่ถ้าเอาจริง ๆ แล้วคำ ๆ นี้จะเป็นชื่อคนแบบโบราณ ๆ ของญี่ปุ่นอารมณ์ประมาณสมศรี, สมชาย ของบ้านเรา นั่นเอง บรรยากาศของร้านนี้มีความเป็นญี่ปุ่นแบบทุกกระเบียดนิ้วไล่กันไปตั้งแต่ทางเข้าที่เป็นสวนญี่ปุ่นขนาดย่อม ๆ ภายในร้านที่จะตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นแบบขรึม ๆ มืด ๆ และแบ่งเป็นคอก เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน โดยจะมีทั้งที่นั่งส่วนโต๊ะธรรมที่แบ่งเป็นคอกเล็ก ๆ และที่แบบไม่ได้อยู่ในคอก, ส่วน sushi bar, teppanyaki bar และไม่ได้มีแค่โต๊ะแบบธรรมดาเท่านั้นครับสำหรับร้านนี้ มีห้องส่วนตัวสไตล์ญี่ปุ่นบนเสื่อทาทามิ พร้อมของตกแต่งที่ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่นเหลือเกินอีก 4 ห้องด้วย (ค่าใช้บริการคืนละ 400 บาท) เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นไม่กี่ร้านในกรุงเทพฯที่ผมเคยไปมาแล้วแบบมีห้องพร้อมสรรพ สวยงาม เป็นญี่ปุ่นจ๋าขนาดนี้เลยก็ว่าได้
อาหารของร้านนี้ก็ตามที่เกริ่น ๆ ไปจะเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบครบวงจร หลากหลาย ครบครัน มีให้เลือกกันจนแบบไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรดี appetizer, sushi, sashimi, yakimono (ของย่าง), ของต้ม และอื่น ๆ สุดแต่ที่เราจะนึกถึงอาหารญี่ปุ่นในร้านอาหารญี่ปุ่นสักร้าน ที่นี้เค้ามีหมดเลยล่ะครับ และนอกจากอาหารแล้วแน่นอนว่าเครื่องดื่มของร้านนี้ก็ต้องไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันแน่นอน เพราะว่าเอาจริง ๆ แล้วร้านแนว kappo นี่ก็จะเรียกว่าเป็น izakaya แบบมีระดับก็คงจะไม่ผิดนัก ก็เลยทำให้ลูกค้าญี่ปุ่นมักจะใช้ร้านประเภทนี้มาเป็นร้านไว้รับรองลูกค้า, รับรองแขกด้วยนั่นเอง เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ก็เลยต้งมีให้เลือกกันแบบครบครันตามประสา ราคาอาหารของร้านนี้ ผมว่าอยู่ในระดับกลาง ๆ ถ้ามากินกันจริง ๆ จัง ๆ ก็น่าจะอยู่ที่คนละ 600 - 1,000 บาทโดยประมาณ เท่า ๆ กับร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่ทั้งในย่านทองหล่อแห่งนี้และในย่านอื่น ๆ ไม่หนีกันมาก แต่ว่าร้านนี้จะได้ความขลังแบบญี่ปุ่นคลาสสิคมาทดแทน
มื้อนี้เริ่มต้นกันด้วย "ข้าวปั้นรวมเชฟจัดให้ (Omakase Nigiri - 2,200 บาท)" ชุด Sushi ที่หรูหราอลังการที่สุดของทางร้านประกอบด้วย Otoro (เนื้อขาวเนียน มันอร่อย), Agami (เนื้อเกือบ ๆ หวาน เนียน ๆ), Kohada (อร่อยได้มาตรฐาน), Hotate (หวานนุ่มกำลังดี), Botan Ebi (กุ้งตัวเล็กไปหน่อย แต่ก็เนื้อนุ่ม ๆ หวาน ๆ), Tai (หรือกระพงแดง อันนี้ก็ธรรมดา ๆ ครับ), Uni (หวานดี แต่ยังหวานไม่มากเท่าไรและก็เนื้อเละไปหน่อย), Ikura (เค็ม มัน อร่อยลงตัว), Spicy maguro roll (เผ็ดนิด ๆ มัน ๆ หน่อย กำลังดี), Hamachi (เป็นส่วนท้องครับ เนื้อจะเด้ง ๆ หยุ่น ๆ กว่าปกติ), Unagi (มาตรฐานครับ เนื้อเด้ง ๆ มัน ๆ)
สลัดผักปวยเล้ง (Horenesou Salad - 220 บาท): จานนี้โดดเด่นด้วยความแปลก กับการนำผักปวยเล้งมาทำเป็นสลัดหน้าตาดูดี สไตล์ ญี่ปุ่นผสมผสานกับตะวันตก และก็โรยด้านบนมาด้วยเบคอนและปลา shirao ตอนแรกผมก็นึกว่าตัวเบคอนกับชิราโอะจะเป็นตัวที่ทำให้จานนี้มีรสชาติโดดเด่นขึ้นมา แต่จริง ๆ แล้วแค่ผักปวยเล้งกับน้ำสลัดรสชาติกลมกล่อมในจานนี้ มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำเป็นสลัดชั้นดีจานนึง ผมชอบมากเลยครับไม่รู้ทำไม ผักปวยเล้งมันแบบนุ่มดี นุ่มกว่าคะน้า และน้ำสลัดก็ดึงรสชาติโดยรวมของจานออกมาได้ดีแท้
ปลากินดาระต้มซีอิ๊ว (GIndara Nitsuke - 600 บาท): ปลาจินดาระที่นึ่งมาจนเนื้อนุ่ม และชิ้นใหญ่คุ้มค่าคุ้มราคา มาพร้อมกับผักนึ่งในสไตล์ที่ผมไม่ค่อยพบเจอที่ร้านอื่นสักเท่าไร ไม่ว่าจะร้านจีน, ร้านญี่ปุ่นอื่น ๆ กับเม็ดแปะก๊วย, เต้าหู้, กระเจี๊ยบ และเห็ดนางฟ้า ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ถือนึ่งมาจนนุ่มและซอสซีอิ๊วเข้าเนื้อดี จานนี้ก็กินกันได้เพลิน ๆ ครับ ร้อนดี โชยุหอมดี และเนื้อทุกอย่างก็นุ่มดี
ครีมไส้กุ้งชุบแป้งขนมปังทอด (Ebi Cream Age - 300 บาท): จานนี้เอาจริง ๆ ก็คือ โคร็อคเกะ นั่นแหละครับ แต่เปลี่ยนจากก้อนกลม ๆ ที่มีไส้ในเป็นครีมปูมาเป็นทำทั้งก้อนมาแบบมีตัวกุ้งติดมาด้วยเลยและก็ใช้ไส้ในเป็นครีมกุ้งแทน และก็ตกแต่งจานมาสวยงาม จานนี้ถ้าผู้หญิงเห็นนี่คงจะกรี๊ดในความน่ารักกันล่ะครับ ส่วนตัวผมนั้นก็กรี๊ดในความน่ากินแทน ไส้ในนั้น ร้อน ๆ มัน ๆ เละ ๆ ตามสไตล์โคร็อคเกะดี แต่ว่าไม่ค่อยต่างจากไส้ปูสักเท่าไร
มะเขือม่วงย่างราดซอสมิโซะ (Nasu Dengaku - 200 บาท): นุ่ม หวาน มันอร่อย และโดดเด่นที่เป็นการนำมะเขือม่วงลูกใหญ่บิ๊กเบิ้มทำมาแบบทั้งคำเลย โดยฝั่งนึงจะเป็นซอสมิโซะ ส่วนอีกฝั่งเหมือนจะเป็นซีอิ๊ว ใครที่ชื่นชอบมะเขือม่วง (ผมคนนึงล่ะ) ไม่น่าพลาดจานนี้เลยล่ะครับ
หอยเชลล์กับตับห่านสเต็ก (hotate Foie Gras Steak - 750 บาท): จานนี้เป็นอีกหนึ่งจานที่หน้าตาเก๋ไก๋ ออกแนวเป็น modern Japanese cuisine มาก ๆ เลย เป็ฯการประกอบร่างกันระหว่าง foie gras + hotate + แครอทแกะสลัก + ไข่กุ้ง + พริกหวานซอย รสชาติของแต่ละคำที่กินเข้าไปก็คือจะนุ่ม มัน กำลังดี ไม่ค่อยมีรสจัดจ้านสักเท่าไร และผมว่าถ้าตัว ตับห่านนั้นนุ่มมันกว่านี้ก็น่าจะทำให้จานนี้อรอ่ยกว่านี้ และก็ตัวแครอทถ้าต้มมานานกว่านี้ให้มันนุ่ม ๆ หน่อยก็คงจะดีกว่านี้ เพราะที่กินไปนั้นแครอทค่อนข้างแข็งมากเลย มันไปทำลายผิวสัมผัสนุ่ม ๆ โดยรวมของแต่ละคำไป
น้ำแข็งไสใส่ถั่วแดงราดชาเขียว (Uji Kintoki - 180 บาท): ปิดท้ายด้วยของหวานสไตล์ญี่ปุ่น จานนี้ให้มาเยอะมากครับ แบ่งกันกิน 2-3 คนได้สบาย ๆ เสียดายที่ตัวน้ำแข็งใสไม่ได้มาเป็นแบบปุยเมฆ ปุยนุ่น เหมือนที่ญี่ปุ่นที่ผมเคยกินมาเพราะแบบนั้นมันจะแบบให้ feeling ในการกินดีกว่าแบบชัดเจนเลย ดีกว่าแบบแข็ง ๆ แบบไทย ๆ นี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จานนี้ก็อร่อยดีครับ หวานเย็นกำลังดี
สรุป ร้าน Hanako Kappo - ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์คัปโปะ แห่งนี้ก็สมกับเป็นร้านที่เปิดมายาวนาน 8 ปีล่ะครับ บรรยากาศร้านดีมาก เป็นญี่ปุ่นสุด ๆ (โดยเฉพาะห้องส่วนตัว) , อาหารของทางร้านก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย หน้าตาสวยงามสมกับฐานะของการเป็นร้าน Kappo, พนักงานของทางร้านก็บริการได้ดีมาก รสชาติอาหารก็อร่อยใช้ได้ กินกันได้เพลิน ๆ ไม่มีจานไหนทำให้ผิดหวัง ใครกำลังมองหาร้านญี่ปุ่นบรรยากาศญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น พร้อมอาหารมากหน้าหลายตา ร้าน ฮานาโก คัปโปะ แห่งนี้ น่าจะเป็นอะไรที่ใช่เลยล่ะครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment