The Dining Room - All Day Dining and International Restaurant at Veranda Hua Hin Review
เดอะ ไดนิ่ง รูม - ห้องอาหารนานาชาติ อาหารเช้า วีรันดา หัวหิน
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
The Dining Room - International Restaurant on BumRes.com (for more pictures, menu and info)
โรงแรม Veranda หัวหิน - รีสอร์ท 5 ดาวที่เปิดมานานที่ตั้งอยู่ระหว่างหัวหินกับชะอำนั้นหลาย ๆ ท่านน่าจะรู้จักกันดี เพราะว่าที่นี่นั้นเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างจะมีชื่อเสียงและเปิดมานาน แต่ผมเชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงจะไม่เคยรู้ว่าจริง ๆ แล้วที่โรงแรมแห่งนี้นั้นเค้ามีห้องอาหารเจ๋ง ๆ อยู่ 2 ห้องอาหารเลยทีเดียว ซึ่งผมก็จะขอพาไปรีวิว 2 ห้องนี้แบบต่อเนื่องกันโดยเริ่มที่ห้องแรกก่อนนั่นก็คือ dining room - all day dining restaurant นั่นเอง ห้องอาหารนี้จะตั้งอยู่ด้านหน้าของโรงแรม มีทั้งส่วนที่แบบเปิดโล่งสุด ๆ และตั้งอยู่ริมน้ำ และส่วน indoor dining ขนาดใหญ่ โดยทั้งหมดนี้ ณ วันที่ผมไปจะเป็นที่นั่งแบบ al fresco dining หมดเนื่องจากว่าอากาศค่อนข้างชิล ๆ (ไปตอนปลายปี) แต่เอาจริง ๆ แล้วเหมือนที่นั่งด้านใน ๆ หน่อยจะมีเปิดแอร์อยู่บ้างเหมือนกันนะครับไม่แน่ใจเหมือนกัน
ห้องอาหาร dining room - Veranda หัวหินนี้ตอนเช้าก็จะประพฤติตัวเองเป็นห้องอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์สำหรับแขกที่มาพักโรงแรม และพอเสร็จจากมื้อเช้าทางร้านก็จะเสิร์ฟอาหารแบบจริงจังขึ้นมาโดยจะเป็นอาหารแบบอาหารไทยและอาหารฝรั่งปน ๆ กัน มีให้เลือกเยอะพอสมควร โดยอาหารฝรั่งนั้นก็จะมี appetizer, soup, pasta, main course ให้เลือกส่วนอาหารไทยก็จะมีพวกของกินเล่นแบบไทย, แกง, ก๋วยเตี๋ยวและยำ อาหารโดยรวม ๆ แล้วก็จะเป็นอาหารที่ไม่ได้วิริศมาหราหรือหากินที่อื่นไม่ได้อะไรแบบนั้น จะเป็นอาหารที่เราคุ้นเคยพบเจอได้ทั่วไป ออกแนวว่าแขกชาติไหนมา (แขกต่างชาติเยอะครับที่นี่) ก็สามารถสั่งกันได้อย่างสบายใจเลย
มื้อนี้มีเครื่องดื่ม 2 อย่าง กับอาหารคาว 4 อย่างและของคาว 1 อย่างครับมาไล่เรียงกันไปเลย
Colada Veranda Style (220 บาท) (Havana club, midori, malibu, cream mix, pineapple, sugar syrup): แก้วนี้คล้าย ๆ น้ำสับปะรดปั่น แต่จะมีรสแแอลกอฮอล์หน่อย ๆ และก็มีน้ำเชื่อมมาช่วยเพิ่มความหวานอีกนิดนึง ก็เหมาะกับเป็นเครื่องดื่มริมทะเลดีครับ
Deep Sea Muffin (170 บาท) (Horlic powder, cream mix, fresh milk, strawberry syrup, chocolate powder, milo powder): แก้วนี้เป็นอารมณ์ประมาณ chocolate ปั่นแต่รสชาติจะไม่ได้ช็อคโกแลตปั่น pure ขนาดนั้นจะมีการใส่อย่างอื่นปนมาด้วยทำให้ได้รสที่ไม่ค่อยเหมือนกับช็อคโกแลตปั่นแท้ ๆ สักเท่าไรครับ ก็เป็นเครื่องดื่มก่อนอาหารที่ดื่มกันได้เพลิน ๆ ดีอีกแก้วนึง
Caesar Salad with Smoked Salmon (220 บาท): ซีซาร์สลัดจานนี้ให้ความเด่นของผักและของเนื้อปลาแซลมอนในแบบเท่า ๆ กันแตกต่างจากที่เคย ๆ กินมาที่ถ้าจานไหนตั้งชื่อว่าเป็น caesar salad ก็มักจะแบบให้ความเด่นไปอยู่ที่ผักหมด จานนี้วัตถุดิบประกอบด้วย ผักสลัดคอส, ไข่ต้ม, เบค่อน, ชีสพาร์เมซาน, ขนมปังทอด, ต้นหอมซอย, smoked salmon ก็เป็นอะไรที่ค่อนข้างมาตรฐานดีล่ะครับ ตัวเนื้อปลาแซลมอนรมควันก็นุ่ม ๆ หอม ๆ ดี ส่วนตัวผักก็มาแบบครบเครื่องความเป็นซีซาร์ดี
Greek Salad in Pita Bread (French spinach leaves, green leaves salad - cucumber cottage cheese, feta cheese, virgin olive oil, lemon, cherry tomato, black olive, green olive, salt & pepper, pitta bread - 230 บาท): สลัดสไตล์ เมดิเตอร์เรเนียนที่หน้าตานั้นแสนจะเมดิเตอร์เรเนียนจ๋าจริง ๆ เพราะมีการนำตัว pita bread ไปยัดไส้ด้วยผักต่าง ๆ นา ๆ และทำมารสชาติแบบกรีก ๆ ด้วยการใส่ feta cheese เป็นลูกเต๋ามาหลายลูกเลย จานนี้เป็นสลัดที่พวกผมไม่ค่อยคุ้นเคยกับรสชาติสักเท่าไร และมันออกแนวแห้ง ๆ ไม่ค่อยมีน้ำสลัดด้วยก็เลยกลายเป็นว่ากินกันแล้วไม่ค่อยถูกปากสักเท่าไรนักครับ แต่ผมเชื่อว่าฝรั่งน่าจะชอบจานนี้กันเพราะว่าอาหารเมดิเตอร์เรเนียนนี่เป็นอะไรที่เค้าชอบกันอยู่แล้ว (แต่คนไทยเราจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันสักเท่าไร)
Lasagna (lasagna noodle, tomato sauce, meat sauce, parmaesan cheese, white wine, whipping cream - 240 บาท): จานนี้ถ้าดูในรูปอาจจะนึกว่าจานเล็กแต่จริง ๆ แล้วจานใหญ่มาก ๆ เลยล่ะครับ ตัว lasagna จานนี้ตัวผิวด้านบนไม่ค่อยเหมือนกับร้านในกรุงเทพฯที่ผมเคยกินมาสักเท่าไร เพราะไม่ได้อบมาแบบให้ผิวเกรียม ๆ crusty ๆ สักเท่าไร แต่แบบอบมาพอให้ผิว firm ๆ แค่นั้น lasagna จานนี้อบมาร้อนดีมากครับ ร้อนจนแบบร้อนจนหยดสุดท้ายเลย ตัวไส้ในก็อร่อยดีเป็นเนื้อสับ, ผสมซอสมะเขือเทศและเส้นลาซานญ่าและพาร์มีซานชีสอย่างลงตัวเลย
Cannelloni (Lasagna noodle, sliced ham, mushroom, milk, whipping cream, salt & pepper, tomato sauce, mozzarella cheese - 240 บาท): พาสต้าอีกหนึ่งจานในมื้อนี้กับพาสต้าที่ไม่ค่อยจะพบเจอสักเท่าไรโดยจะเป็นลักษณะคล้าย ๆ ปอเปี๊ยะเป็นการนำแป้งมาห่อไส้ อะไรแบบนั้น ตัวไส้ในของจานนี้ถ้าเอาจริง ๆ ก็จะคล้าย ๆ กับตัว lasagna จานก่อนหน้านะครับแค่เปลี่ยนเป็นแฮมและก็ใส่เห็ดมาแทน ส่วนอย่างอื่นนี่คือแทบจะเหมือนกันเลย แต่แปลกดีครับ พวกผมกับชอบจานนี้มากกว่า lasagna ไม่รู้เพราะว่าเป็นพาสต้าแบบที่ไม่ค่อยเคยกินกันเลยทำให้ได้ความแปลกความอร่อยมากกว่าอะไรที่กินกันบ่อย ๆ หรือเพราะไว้ไส้ในที่มันผสมผสานลงตัวมากกว่าก็ไม่รู้เหมือนกันครับ
Tiramisu (icing sugar, rum, gelatins, whipping cream cream cheese - 220 บาท): ทีรามิสุที่เสิร์ฟมาแบบหน้าตาค่อนข้างจะ traditional เล็กน้อย mascarpone cheese หอมดี และตัวเนื้อ tiramisu ก็มาแบบนุ่มนวลสม่ำเสมอทั้งก้อนดีครับ ทางร้าน dining room มีความพิเศษหน่อยโดยราดซอส raspberry มาให้ด้วยก็ช่วยให้เป็นรสเปรี้ยวที่มาตัดกับรสหวานได้อย่างลงตัวดี
สรุป ร้าน dining room ณ Veranda Resort หัวหินแห่งนี้ ก็เป็นร้านบรรยากาศดี ๆ ของทางโรงแรมที่ค่อนข้างจะครบเครื่องในตัวความหลากหลายของอาหารพอตัวเลย อาหารมีให้เลือกแบบครบครัน พร้อม portion ที่เยอะคุ้มค่าเกินราคาอาหารมาตรฐานของอาหารโรงแรม (จานละ 200 - 300 บาท) ใครอยากจะหาร้านนั่งกินแบบชิลล์ ๆ ได้ service และคุณภาพของโรงแรม 5 ดาวในราคาที่เท่า ๆ กับหลาย ๆ ร้านอาหารฝรั่งในหัวหิน, ชะอำ แล้วละก็ ก็ลองแวะเวียนมาร้านนี้กันได้เลยครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment