Saturday, December 28, 2013

Kaguya - Japanese Gastro Bar at Thonglor Soi 10 Review

Kaguya - Japanese Gastro Bar at Thonglor Soi 10 Review

คากุยะ - ร้านอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ฟิวชั่น สาเก เบียร์สด ทองหล่อ ซอย 10



Overall Score  9.5/10
Taste   5/5
Ambiance  5/5
Service  5/5
Value   4/5

Kaguya - Japanese Gastro Bar on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



คากุยะ เป็นชื่อตัวเอก(นางเอก) ของนิทานปรัมปราที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น (มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10) หลาย ๆ ท่านคงน่าจะเคยได้ยินนิทานเกี่ยวกับเจ้าหญิงไม้ไผ่ผู้เลอโฉมกันอยู่บ้าง ซึ่งเจ้าหญิงนางนั้นก็มีนามว่า Kaguya-hime หรือแปลตรงตัวว่า เจ้าหญิงไม้ไผ่จรัสแสงนั่นเอง ซึ่งถ้าจะให้เล่าเรื่องนี้กันแบบเต็ม ๆ มันก็คงจะยาวเกินไป และก็คงจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการรีวิวร้านอาหารในครั้งนี้ แต่เอาเป็นว่าสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับนิทานเรื่องนี้ก็คือ ชื่อภูเขาไฟฟูจินั้น เค้าเชื่อกันว่าถูกตั้งมาจากนิทานเรื่องนี้กันเลยทีเดียวล่ะ

ส่วนสาเหตุที่ทางเรื่อง Kaguya Japanese Gastro Bar ได้นำชื่อของเจ้าหญิงไม้ไผ่นางนี้มาตั้งเป็นชื่อร้านนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากครับแค่เพราะว่าทางเจ้าของชื่นชอบนิยายเรื่องนี้ก็แค่นั้นเอง (-*-) ร้านนี้ตั้งอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ 10 จากปากซอยเข้าไปประมาณสัก 10 เมตรก็จะเห็นร้านนี้แล้ว ตัวร้านนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 zone คือส่วน al fresco dining ที่มีม่านบังแดด เปิด-ปิด(แบบ auto) ได้ คอยกำบังแดดหรือฝนให้ลูกค้าที่นั่งด้านนอก และส่วนด้านในห้องแอร์ที่มีที่นั่งหลายโซนอีกเช่นกัน ทั้งโซน บาร์น้ำ, โต๊ะเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ , โซนเกือบ ๆ จะเป็นห้องส่วนตัวที่มี wallpaper เป็นลวดลายเจ้าหญิงคากุยะอันแสนจะงดงาม และบรรยากาศภายในร้านทั้งหมดนี้ก็จะมีการนำไม้ไผ่มาตกแต่ง, มีของตกแต่งที่รูปร่างคล้าย ๆ เมล็ดข้าวญี่ปุ่น ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับบรรยากาศร้านส่วนอื่น ๆ ที่จะเป็นแนว modern contemporary เล็กน้อย กลายเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่สวยงาม เก๋ไก๋ โดดเด่นไม่เหมือนใครได้อย่างลงตัว






ตอนก่อนที่ผมจะมาร้านนี้นั้น ตอนแรกผมก็นึกว่าร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar แห่งนี้ก็คงเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นในย่านทองหล่อ ไม่ได้มีอาหารแตกต่างหรือพิเศษกว่าร้านอื่น ๆ แต่อย่างใดหรอก แต่ความคิดนั้นเป็นความคิดที่ค่อนข้างจะไม่ตรงกับ concept อาหารของทางร้านเลย ไม่เฉียดเลยก็ว่าได้ โอเค อาหารญี่ปุ่นแบบ Sushi, Sashimi แน่นอนว่าคงไม่มีใครสามารถไปปรับเปลี่ยนหรือทำอะไรให้มันพิเศษไปกว่าแบบต้นตำรับได้สักเท่าไร (ซึ่งร้าน Kaguya แห่งนี้ก็เป็นแบบนั้น) แต่อาหารอย่างอื่น ๆ ในเมนูนั้นบอกตรง ๆ ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะโดดเด่น แตกต่างและไม่เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นร้านไหนจริง ๆ ซึ่งสาเหตุนั้นก็คงจะมาจากตัวเชฟใหญ่ประจำร้าน "เชฟก้อง" เชฟหนุ่มไฟแรงผู้เรียนจบการทำอาหารจาก Le Cordon Bleu ออสเตรเลีย และเป็นเชฟใหญ่ประจำร้าน Fire & Dine ณ Asiatique มาก่อน และด้วยประสบการณ์, แนวคิด และความมุ่งมั่นที่ต้องการจะทำให้อาหารญี่ปุ่นของทางร้านนี้ไม่เหมือนใคร, มีการนำเทคนิคการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศสมาประยุกต์ใช้, การเลือกใช้วัตถุดิบ ๆ ตั้งแต่วัตถุดิบหลักไปจนถึงวัตถุดิบรอง เช่น เนย, ซีอิ๊ว, โชยุ ก็เลยทำอาหารของร้านนี้กลายเป็นอาหารญี่ปุ่นที่น่าจเรียกว่าเป็นอาหารแนว contemporary Japanese cuisine ก็ว่าได้ แต่คือเอาจริง ๆ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเราควรจะนิยามอาหารของร้านนี้ว่าอย่างไรดี เพราะไม่เคยพบเจอการผสมผสานอาหารญี่ปุ่นกับอาหารฝรั่งเศสได้อย่างลงตัวแบบนี้เลย ยังไงก็ลอง ๆ อ่าน ๆ ดูต่อและช่วยผมวิเคราะห์หน่อยละกันว่าเราควรจะนิยามอาหารของร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar แห่งนี้ว่าเป็นอาหารแนวไหนดี








ก่อนจะเข้าถึงตัวอาหาร ก็คงจะไม่ได้เลยถ้าจะไม่พูดถึงบาร์น้ำ หรือ เครื่องดื่มของทางร้านนี้ เพราะว่าทางร้านนี้ค่อนข้างจะให้ความสำคัญกับตัวเครื่องดื่มไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตัวอาหารเลยล่ะ เริ่มกันที่ตัว bartender ที่ทางร้านมีกันถึง 3 คนและแต่ละคนนั้นล้วนแต่เป็นบาร์เทนเดอร์มากฝีมือที่เคยไปแข่งขันบาร์เทอนเดอร์และได้รางวัลกันมาหมดแล้ว และเมื่อบวกกับเครื่องดื่มของทางร้านที่มีอยู่มากมายก็เลยทำให้บาร์เทนเดอร์สามารถแสดงฝีมือออกมากันได้อย่างเต็มที่ ไม่มีข้อจำกัดด้านความหลากหลายของเครื่องดื่ม ขาดื่มทั้งหลายถ้ามาที่ร้านนี้ไม่น่าจะผิดหวังกับ drink list ของทางร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar แห่งนี้ล่ะครับ เครื่องดื่มประเภทนึงที่ผมรู้สึกว่าร้านนี้โดดเด่นมากเลยก็คือพวก whiskey ที่ทางร้านมี whiskey หลากหลายแบบมาก ตั้งแต่ whiskey premium ของญี่ปุ่นแบบ single malt, super premium whisky - single grain ของ Scotland คือพวกผมได้มีโอกาสชิม whiskey ขั้นเทพพวกนี้บ้างหลายชนิด บอกตรง ๆ ว่ามันเป็นประสบการณ์ความเลิศรส (หรือเมามายหว่า) ที่ "คนละเรื่อง" กับการดื่มวิสกี้แบบบ้านเราเลยก็ว่าได้ ผมเพิ่งจะเข้าใจว่าทำไมในหนังฝรั่ง, การ์ตูนญี่ปุ่น พวกตัวละครในเรื่องถึงชอบมานั่งดื่ม whiskey กันแบบ on the rock กัน เพราะว่า premium whiskey นี่มันเป็นอะไรที่ อร่อย หอมหวาน ดื่มแล้วไม่ร้อนผ่าว เหมือน whiskey บ้าน ๆ ของบ้านเราเลยแมแต่นิดเดียว อืม

Signature cocktail ของทางร้าน Kaguya Japaense Gastro Bar แห่งนี้ค่อนข้างจะมีให้เลือกพอสมควรเหมือนกัน ซึ่งในมื้อนี้เราก็มีทั้งหมด 4 แก้วมาไล่เรียงกันไปเลยละกันครับ

Kumo Mizu (vodka mixed with french white chocolate liqueur and peach. With homemade tangy passionfruit foam - 280 บาท): แก้วนี้เก๋ไก๋ด้วยการที่จะแบ่งเครื่องดื่มออกเป็น 2 ชั้น ชั้นบนที่เป็นเหมือนโฟม เหมือนปุยเมฆ (kumo แปลว่าเมฆ) ส่วนชั้นล่างที่จะเป็นน้ำธรรมดา (mizu แปลว่าน้ำ) เวลาดื่มก็ต้องดื่มพร้อมกันให้ได้ทั้งเมฆและน้ำ และพอดื่มพร้อมกันเท่านั้นปุ๊บ ทั้งรสชาติ ผิวสัมผัส ทุกอย่างมันผสมผสานกันออกมาเป็น cocktail ที่ไม่เหมือนใครเลยจริง ๆ






Caribbean Navy Smash (Tiki style cocktail with Venezuelan light rum, Tropical & seasonal fruits, citrus and homemade cardamom ginger syrup - 280 บาท): เครื่องดื่มที่ให้บรรยากาศเหมือนเครื่องดื่มชิล ๆ ริมทะเล รสชาติจะไม่แรง ไม่หนักสักเท่าไร จะมาแนว หวาน เปรี้ยว ระคนกันแบบลงตัว สาว ๆ น่าจะชอบครับแก้วนี้

The Way of Samurai (Japanese single malt, yuzu, brown sugar shaken up and serve in iced cold cobbler shaker which represent Samurai's armor - 280 บาท): แก้วนี้ concept คือต้องการจำลองวิถีซามูไรมาอยู่ในเครื่องดื่มแก้วนึง ไล่กันไปตั้งแต่ตัวแก้วที่เปรียบเสมือนเกราะของซามูไร, ตัว bitter ที่เปรียบเหมือนเลือด และรสชาติหลังจากดื่มแล้วจะแบบ พลุ่งพล่าน ห้าวหาญเหมือนกับจิตวิญญาณของซามูไรก็ไม่ปาน  รสชาติแก้วนี้จะแรง ๆ นิดหน่อย แต่ก็มีความหอมของเปลือกส้มที่วางแปะลงมา และก็รสขม ๆ ของ bitter มาช่วยทำให้รสละมุนขึ้นเล็กน้อย





Kola Tora (Concoction of Bourbon gently stir with a big chunk of ice. Serving on the rock in a handcrafed German crystal glass. With drunken cherry and cola essence. Fit a bill as an afterwork - gentleman drink - 280 บาท): ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มที่มองผิวเผินอาจจะไม่ค่อยเหมือน cocktail สักเท่าไร เหมือนเป็นเครื่องดื่ม on the rock เปล่า ๆ มากกว่า แต่จริง ๆ แล้วแก้วนี้นี่คือมีการใส่กลิ่นโคล่า, ใส่เชอรี่, เนื้อส้มมาด้วย ก็เลยทำให้รสชาตินั้นไม่ได้เป็น bourbon เพียว ๆ สักเท่าไร มีความหอม, มีกลิ่นที่แตกต่างออกไป ก็เหมาะกับคุณผู้ชายที่อยากได้ cocktail แรง ๆ ล่ะครับแก้วนี้

อาหารในมื้อนี้ก็มี 4 อย่างเท่ากันกับตัวเครื่องดื่มครับมาไล่เรียงกันไปเลย

เริ่มกันที่อย่างแรกเป็น a la carte sushi ที่จัดรวมกันมาในจานเดียวกลายเป็น Sushi Platter งาม ๆ น่ากินจานนึง ในจานนี้ก็จะประกอบด้วย Aji (Spanish Mackerel - 120 บาท), Akami (Lean tuna - 250 บาท),Hokkigai (Surf clam - 200 บาท), Hamachi (Young yellow tail tuna - 280 บาท), Otoro (Fatty tuna - 400 บาท), Kampachi (Amber Jack - 300 บาท) ทั้งหมดนี้จะมาในลักษณะ modern sushi คือจะมีการบากเนื้อปลา, การตกแต่งหน้าด้วยทองคำเปลว, เงินเปลว, มีการโรย topping ด้วย tobiko เล็กน้อยอะไรแบบนี้ ซึ่งก็เป็นอะไรที่เข้ากันดีกับ concept อาหารของร้านนี้เหมือนกันครับ ตัวซูชิแน่นอนว่าปราณีตมาขนาดนี้รสชาติไม่ผิดหวังอยู่แล้วล่ะครับ อร่อย เนื้อนุ่ม สด อร่อยในทุก ๆ คำที่กินเข้าไป











 
Salmon Belly (Salmon roe, micro green and white truffle oil and lemon foam - ท้องปลาแซลมอนย่างเกลือและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลขาวเสิร์ฟพร้อมเลม่อนโฟม - 450 บาท): เนื้อปลาแซลมอนที่ถูกเลือกมาเฉพาะช่วงท้อง นำไปทอดมาจนกรอบกำลังดี ผิวกรอบเกรียม แต่ว่าเนื้อยังนุ่มอร่อยอยู่ และเพิ่มความมันความร่อยด้วยเห็ดทรัฟเฟิลขาวที่ทำมาคล้าย ๆ เมล็ดโฟม และเพิ่มความเปรี้ยวแบบละมุนกว่าปกติด้วย lemon foam ที่ราดลงมา (หรือจะบีบมะนาวเพิ่มด้วยก็ได้) แต่ละคำที่กินเข้าไปคือได้ครบหมดเลย ทั้งผิวสัมผัสอันหลากหลาย จาก โฟม, ฟอง, หนังปลา และเนื้อปลา และรสชาติอันหลากหลายเช่นเดียวกัน

Spring Roll (Steamed with tiger prwn, french butter, chinese chives and sesame broth - ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้กุ้งและกุยช่ายนึ่งน้ำจิ้มงาและเนยจากฝรั่งเศส - 380 บาท): จานนี้ถ้าไม่ได้อยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นเราก็อาจจะคิดว่านี่มันอาหารจีนชัด ๆ แต่คือจริง ๆ แล้วก๋วยเตี๋ยวหลอดแบบจีน ๆ จานนี้มีการผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นอยู่พอสมควร ด้วยตัวน้ำซอสที่ราดมานั้นจะมีรสชาติและกลิ่นคล้าย ๆ โชยุแบบญี่ปุ่นมาก และเป็นรสชาติหลักของจานก็ว่าได้ ส่วนตัวก๋วยเตี่ยวหลอดนั้นก็แบบสมบูรณ์แบบ แป้งนุ่ม, เนื้อกุ้งให้มาเยอะ แต่ละคำที่กินนี่คือจะแบบนุ่มละมุน หอมเนย เปรี้ยวแบบเฝื่อน ๆ กำลังดีจากตัวโชยุผสมน้ำส้ม ฟินครับจานนี้ฟินมาก ๆ เลย พวกผมไปกัน 3 คนในมื้อนี้พูดเหมือนกันว่า "เป็นก๋วยเตี๋ยวหลอดที่อร่อยที่สุดในชีวิต" (จานนี้ทางเชฟก้องนำไปใช้แข่งในเชฟกระทะเหล็กด้วยครับ แต่มีการดัดแปลงเปลี่ยนไส้ในเป็นปูขนแทนกุ้งลายเสือ)









Bisque (Scallop, catch of the day fish, tiger prawn, and mix vegetables - ซุปกุ้งล็อบสเตอร์เสิร์ฟในกระบะหินร้อนสไตล์สุกี้ยากี้ - 900 บาท): ปิดท้ายกันด้วยจานที่ผมว่าอลังการที่สุดในมื้อนี้ด้วยการนำ Japanese cuisine และ French cuisine มาผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยทางฝั่งฝรั่งเศสนั้นจะเป็นตัวซุป lobster bisque รสชาติเข้มข้น เค็มนำ แต่ก็ยังถือว่ากำลังดี กินแต่ซุปเปล่า ๆ ก็อร่อยฟินแล้ว แต่นี่เพิ่มความอร่อยเพิ่มเติมด้วยอาหารจากฝั่งญี่ปุ่นที่จะเป็นผักและ seafood สไตล์สุกี้ยากี้แบบญี่ปุ่นให้เราเอามาลวกกิน, หรือต้มกินใน lobster bisque กันเอง ซึ่งตัววัตถุดิบก็ให้มาแบบครบครันลงตัวดี มีเห็ด, ผัก และเนื้อ seafood มาอย่างละประมาณ 3 อย่างลงตัวดี และอาหารจานนี้จะไม่ฟินเลยถ้าไม่มีหินภูเขาไฟร้อน ๆ ที่เราสามารถเติมลงไปในถ้วยได้ตลอดเวลา ทำให้ได้ซุปที่ร้อนอยู่เสมอและก็ไม่ต้องมีเตามาอุ่นหม้อให้เสียอารมณ์

สรุป ร้าน Kaguya Japanese Gastro Bar - ร้านอาหารญี่ปุ่นน้องใหม่และแนวใหม่ในย่างทองหล่อแห่งนี้ก็น่าจะเรียกได้ว่าแหวกแนวได้อย่างลงตัว ไม่เหมือนกับบางร้านที่แหวก ๆ ออกมาแล้วกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ character ไม่ชัดเจน concept lame ๆ อะไรแบบนั้น ใครที่เบื่ออาหารญี่ปุ่นแบบ traditional เอะอะก็ซูชิ, เอะอะก็ shabu shabu หรืออะไรแบบธรรมดา ๆ แต่อยากหาอาหารญี่ปุ่นแนวใหม่ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยวัตถุดิบคุณภาพดี, เครื่องดื่มให้เลือกดื่มเข้าคู่กับอาหารกันอย่างหลากหลาย ร้าน เจ้าหญิงไม้ไผ่แห่งนี้ น่าจะเป็นอะไรที่จะช่วยเปิดประสบการณ์แห่งความเลิศรสแบบใหม่ ๆ ให้กับคุณได้ไม่ยากเลยล่ะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment