BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Saturday, December 21, 2013

Kakurega

Kakurega - Japanese Restaurant and Izakaya at Sukhumvit 51, Bangkok Review

คาคุเรกะ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น สุขุมวิท 51 รีวิว



Overall Score  8/10
Taste   4/5
Ambiance  4/5
Service  4.5/5
Value   3.5/5

Kakurega - Japanese Restaurant and Izakaya on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



ผมรู้จักร้าน Kakurega แห่งนี้จากนิตยสาร Wise (อีกแล้ว) เหตุผลที่ตั้งใจมากินร้านนี้ก็เพราะว่าทางร้านโฆษณาเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นร้านราเมน หน้าตาราเมนในโฆษณาก็ดูแปลก ๆ ดีเป็นราเมนน้ำดำ ๆ ที่ดูไม่เหมือนร้านอื่น ซึ่งแน่นอนครับคอราเมนแบบผมพอเห็นร้านราเมนใหม่ ๆ หรือร้านราเมนที่ยังไม่เคยลองแล้วมีอันจะต้องดั้นดนไปลองอยู่ร่ำไป ร้านนี้ตั้งอยู่ที่สุดซอยสุขุมวิท 49 และสุขุมวิท 51 ขับรถเข้าไปจนสุดแล้วก็เลี้ยวขวาตรงเข้าไปจนสุดก็จะเจอร้านนี้เลย ร้านเป็นเหมือนบ้านมาดัดแปลงเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น เห็นแว่บแรกอาจจะไม่ค่อยชัวร์เท่าไร เพราะว่าหน้าร้านเองก็ตกแต่งเป็นเหมือนสวนญี่ปุ่นด้วย คือแบบถ้าไม่มีป้ายร้านตั้งอยู่นี่ผมคงจะหาไม่เจออยู่เหมือนกัน

บรรยากาศภายในร้านนี้พอผมไปถึง ผมก็ชักเริ่มจะไม่ชัวร์แล้วว่าร้านนี้มันคือร้านราเมนรึเปล่า เพราะบรรยากาศมันคือร้าน Izakaya ชัด ๆ เพราะมีการแบ่งห้องหับเป็นห้องเล็ก ๆ ห้องส่วนตัวตามสไตล์ร้าน Izakaya แท้ ๆ ของญี่ปุ่น ไม่มีเค้าของความเป็นร้านราเมนเลยสักนิดเดียว พอถามพนักงานถึงได้รู้ว่าราเมนนั้นเหมือนจะเป็นร้านเสริมของร้านนี้โดยตัวร้านราเมนนั้นมีชื่อว่า Ramen Iroha และตัวร้านจริง ๆ นั้นยังสร้างไม่เสร็จดี (ตอนผมไปเหมือนจะมีสร้าง counter ramen อยู่ด้านหน้าร้าน) ตอนนี้เลยเป็นแบบเมนูเสริมให้คนสั่งราเมนไปนั่งกินในห้องส่วนตัวสไตล์ Izakaya แบบนี้กันไปก่อน




แต่คือตอนแรกที่ตั้งใจจะมารีวิวราเมน พอมาเจอเมนู izakaya ของร้าน Kakurega เข้าผมก็เปลี่ยนใจไม่กินราเมนล่ะ เพราะเมนูแนวแกล้มเหล้าของร้านนี้นี่มีหลาย ๆ อย่างน่ากินเหลือเกิน และบางอย่างราคาถูกอย่างเหลือเชื่ออีกต่างหากด้วย (ราเมนไว้ค่อยมารีวิวอีกครั้งตอนตัว ramen counter สร้างเสร็จก็ยังไม่สายเนอะ) อาหารของร้านนี้มีให้เลือกเยอะเป็น 100 รายการตามสไตล์ร้าน Izakaya ทั่วไป เครื่องดื่มของทางร้านก็มีให้เลือกสรรมากมาย เบียร์, whisky, high ball, sake, shoju มีครบหมดแต่ทีเด็ดของเครื่องดื่มนั้นอยู่ที่รายการแรกที่ทางร้านเขียนไว้ นั่นก็คือ Asahi Draft Beer - 39 baht ต่อแก้ว ใช่แล้วครับ ไม่ได้อ่านกันผิดหรอกแก้วละ 39 บาทเท่านั้นจริง ๆ! คือตอนแรกผมก็นึกว่าจะเป็นเบียร์ปลอม เบียร์ผสมรึเปล่า แต่ก็ไม่คิดหรอกว่าร้านญี่ปุ่นแท้ ๆ แบบนี้จะมาย้อมแมวขาย (ร้านคนไทยก็ว่าไปอย่าง เห็นช่วงหลังมีย้อมแมวเยอะเนอะ) ซึ่งความคิดดังกล่าวก็เหมือนกับกลับตาลปัตรเมื่อได้ดื่มเบียร์จิบแรก เพราะแบบมันนุ่มละมุนเป็น Asahi แท้แน่นอน และทางร้าน Kakurega ยังพิถีพิถันเสิร์ฟมาในแก้วเย็น ๆ อีกด้วย โอย คอเบียร์ไม่น่าพลาดทีจะมาดื่มเบียร์ร้านนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ

อีกเรื่องที่ต้องพูดถึงหน่อยก็คือเรื่องการบริการพนักงานร้านนี้บริการดีมากครับ คือแม้ว่าเราจะนั่งอยู่ในห้องส่วนตัวตัดขาดจากโลกภายนอก แต่ที่โต๊ะก็จะมีกริ่งอยู่ พอกดปุ๊บไม่เกิน 10 วินาทีพนักงานก็จะเข้ามาถามว่าเราต้องการอะไร (ผมกดไป 4-5 รอบได้ ไม่เกิน 10 วิหมด) และพนักงานรู้เรื่องอาหารดีมาก ผมต้องถามค่อนข้างเยอะเกี่ยวกับตัวอาหารเพราะว่าเมนูเป็นภาษาอังกฤษแบบคนญี่ปุ่นแปลมา อ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ดูรูปแล้วก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง และอย่างสุดท้ายคืออาหารเร็วดีมากเลยครับ ซึ่งผมว่าร้าน Izakaya นี่ความเร็วของอาหารมันควรจะไว ๆ แบบนี้แหละ แต่กลายเป็นว่าร้าน Izakaya ส่วนใหญ่ในกรุงเทพที่เคย ๆ กินมาอาหารมักจะช้าซะแทน

มื้อนี้แม้ว่าผมจะไปกันแค่ 2 คนแต่ว่าอาหารที่สั่งมีค่อนข้างเยอะมากครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าอาหารจานค่อนข้างเล็ก และก็แบบอาหารของเค้าแปลกดีน่าลองหลายอย่าง และพอกินเบียร์กันลื่น ๆ แล้วอาหารมันก็ลื่นตามไปด้วยน่ะสิครับ แหม่

Ika Shiokara (Hokkaido) (150 บาท): จานนี้แปลตรง ๆ โท่ง ๆ ได้ว่า "ปลาหมึกเค็ม" ซึ่งรสชาติก็เค็มจริง ๆ แฟนผมกินไม่ได้บอกว่าเค็มเกินไป ส่วนผมผู้ซึ่งกินเบียร์หมดไปแล้วแก้วนึงระหว่างรอจานแรกก็กลายเป็นว่าจานนี้มันเค็มกำลังดี ปลาหมึกหนึบดี อร่อยดีครับ เข้าคู่กับเบียร์ดีมากเลย






Stewed cow line meat - 99 บาท: อาหารคู่บุญร้าน izakaya เลยสำหรับจานนี้ สั่งมากี่ร้าน ๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ค่อยจะผิดหวังอยู่ร่ำไป กับร้าน Kakurega แห่งนี้ก็เช่นกัน น้ำพะโล้เข้มข้นดี, ไข่พะโล้ก็ไข่พะโล้ดี (เหมือนแบบไทย ๆ นี่แหละครับไม่ต่างกันเลย), ตัวเครื่องในวัว (ลำไส้) ที่ให้มาก็นุ่มดี แต่จานนี้เหมือนจะยังไม่สุดนะครับ เคยกินมาส่วนใหญ่จะทำได้ดีกว่านี้กัน

Raw oysters (from Hiroshima - 99 บาท): จานนี้คือที่สุดของแจ้ในมื้อนี้ล่ะครับ หอยนางรมสด ๆ จากฮิโรชิมา ตัวละ 50 บาท! จานนี้เห็นความเต่ง ความอวบของหอยตอนก่อนจะกินก็พอเดาได้แล้วว่าต้องอร่อย ซึ่งพอได้กินแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ หอย ฉ่ำ สด อร่อย ไม่เหม็นคาวเลย และตัวน้ำจิ้ม ponzu ที่ทางร้านให้มาด้วยก็เป็นอะไรที่ช่วยเพิ่มความอร่อยได้ดีแท้ (จานนี้อร่อยจนผมต้องสั่งอีก 2 คู่เลยล่ะครับ ฮ่า ๆ)






Broiled conger eels - 220 บาท): จานนี้ก็คือปลาไหลทะเล (anago) ไปต้มและก็ราดซีอิ๊วมานั่นเอง จานนี้เอาจริง ๆ ก็เหมือนซูชิหน้าปลาไหลทะเลทั่ว ๆ ไปแค่ไม่มีข้าวมาให้ ตัวปลาไหลก็เนื้อนุ่มอร่อยดี แต่เนื้อบางไปหน่อย เหมือนกับว่าจะเอาปลาไหลตัวเล็กไปหน่อยมาทำ ตัวน้ำซีอิ๊วอร่อยดี และก็ทางร้านเสิร์ฟมาแบบไม่ค่อยร้อนเลย ความอร่อยเลยแอบลดลงไปพอสมควร

Marinated on the pot squids (Hotaru Ika) (199 บาท): อีกหนึ่งจานแนวปลาหมึกดอง จานนี้เป็นปลาหมึก octopus หรือหมึกยักษ์เอามาดอง (จานแรกเป็นหมึกกระดอง) รสชาติก็คล้าย ๆ กับจานแรกครับต่างกันตรงที่ปลาหมึกจะเนื้อนุ่ม ๆ กว่า ไม่ได้เด้ง ๆ เหมือนจานแรก ถ้าเทียบกับ 2 จานแล้วผมชอบอันนี้มากกว่านะให้รสสัมผัสที่ไม่ค่อยเหมือนที่เคย ๆ กินมาดี






Chicken heart with mayonnase (99 บาท): จานผักจานเดียวในมื้อนี้ ผักไม่ได้สดมากเท่าไร หัวใจไก่เอาไปชุบแป้งทอดมาก็แบบเอ้อ แปลกดีแฮะ เครื่องในชุบแป้งทอดไม่เคยกินมาก่อน ส่วนตัวน้ำมายองเนสที่ราดมาก็รสชาติดี ทั้งช่วยกลบกลิ่นคาวและช่วยทำให้เกิดรสชาติที่ดีขึ้นดี รวม ๆ จานนี้ค่อนข้างโอเคเลยครับ

Stewed beef tongue (199 บาท): สตูว์ลิ้นวัวจานนี้ ลิ้นวัวนุ่มดี บางไปหน่อย ซอส demi-glace รสชาติอ่อนไปนิดไม่ได้ช่วยเพิ่มความอร่อยให้ลิ้นวัวแต่อย่างใด แต่รวม ๆ ก็โอเคนะครับ ยิ่งถ้ามีข้าวสวยญี่ปุ่นกินด้วยนี่คงจะฟินไม่หยอกเลยล่ะ







Mentaiko Dashi Chazuke (150 บาท): ข้าวต้มสไตล์ญี่ปุ่น จานนี้คุณแฟผมสั่ง เพราะว่าไม่เคยกินและอยากลองกินมาก รสชาติดีครับ น้ำซุปอร่อย ให้ไข่ปลาค็อดมาค่อนข้างเยอะ ข้าวก็แบบข้าวญี่ปุ่นดี nori ก็ให้มาเยอะ สรุปแล้วเป็น chazuke จานแรกในชีวิตของนาง และก็ฟินไปกับจานแรกเลย

Grilled Eggplants with meat, cheese (150 บาท): จานนี้ผมชอบเป็นอันดับ 2 ในมื้อรองจากหอยนางรมล่ะครับเป็นมะเขือยาวเอาไปเผาและก็อบมากับเนื้อและชีส อารมณ์เวลากินจะประมาณพวกอูกราแตง, ลาซานญ่าอะไรพวกนั้น แต่แบบพอด้านล่างเป็นมะเขือยาวของโปรดผมแล้ว ผมว่ามันเข้ากันดีกว่าพวกเส้นลานซานญ่าอีกนะ อร่อยดีมากเลยครับ







Matcha Pudding (120 บาท): ของหวานปิดท้ายในมื้อ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารสชาติเป็นยังไงเพราะว่าไม่ได้กินเลย แต่คุณแฟนผมผู้ซึ่งเป็นคนสั่งนั้นกินจนเกลี้ยงเลยแม้ว่าจะบ่นว่าอิ่มแล้ว ๆ ก็ตาม ก็น่าจะอร่อยอยู่เหมือนกันล่ะครับ

สรุป ค่าเสียหายมื้อนี้ 2,000 บาทโดยประมาณกับ 2 คนกับมื้อที่กะว่าจะมากินราเมนแต่ดันมาลงเอยด้วยอาหารญี่ปุ่น style izakaya แบบจัดหนักแทนมื้อนี้ก็เป็นมื้อที่ผมค่อนข้างจะประทับใจเลยนะครับ อาหารราคาไม่ค่อยแพง (บางจานถูกเว่อร์), เบียร์สดนี่แน่นอนถูกที่สุดใน 3 โลกแน่นอน, การบริการของพนักงานก็ดี อาหารก็รวดเร็วฉับไว โอย นี่มันคือร้าน izakaya ในฝันชัด ๆ แน่นอนว่าต้องมีมาซ้ำแน่นอนครับ เพราะเพื่อน ๆ ผมทุกคนล้วนเป็นคอเบียร์กันทั้งนั้น และเบียรืกับอาหารแนวแกล้มเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นแบบนี้นี่มันคือ...สวรรค์รำไรเลยล่ะ หุหุ


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...