ชิบะ แชมป์ ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านเหล้าญี่ปุ่น เบียร์สด ปิ้งย่าง ปลาดิบ สุขุมวิท 39
Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 3.5/5
Service 4/5
Value 3/5
Chiba Cham - Japanese Izakaya Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
ปี 2012 ที่ผ่านมาถ้าไม่มีคลื่นยักษ์ถล่มโลกตามที่ทำนายกัน สำหรับกรุงเทพเมืองฟ้าอมรของเรามันก็น่าจะเรียกว่าโดนคลื่นยักษ์ของร้าน Izakaya, Sushi เข้าถาโถมก็ไม่ผิดนักเพราะว่าร้าน 2 ประเภทนี้น่าจะเป็นร้านที่ผุดตัวกันขึ้นมาเยอะสุดในขวบปีที่ผ่านมานี้แล้ว กับร้านที่จะรีวิวในฉบับนี้ก็เช่นเดียวกันครับ เป็นอีกหนึ่งร้าน Izakaya เปิดใหม่ ที่ไปเบียดเอาร้านอาหารยุโรป, อาหารฝรั่งเศส เจ้าเดิมกระเด็นออกไปเหลือแค่ชั้น 2 (หรือชั้น 2 เจ๊งไปแล้วด้วยก็ไม่รู้ร้าน Wine XYZ) โดยตัวร้านตั้งอยู่ที่โครงการ The Manor กลาง ๆ ซอยสุขุมวิท 39 เวิ้งเดียวกันกับร้านราเมนชื่อดัง Bankara Ramen (ที่แม้จะเปิดมานานหลายปีแล้ว แต่ไปช่วงเย็น ๆ วันเสาร์อาทิตย์ที่แล้วก็คิวยาวเฟื้อยทุกที)
ร้าน Chiba Cham นี่ก็คล้าย ๆ ร้าน Izakaya ร้านอื่นในไทยแทบจะทุกอย่างครับ ร้านตกแต่งแนวไม้ ๆ แบ่งเป็นสัดเป็นส่วน เป็นคอก ๆ มีไม้กั้นตามโต๊ะ ๆ ไป | ลูกค้าญี่ปุ่นแน่นเต็มร้าน จนเหมือนกับว่าเราหรือเขากันแน่ที่เป็นเจ้าของประเทศ | พนักงานบริการดี กระฉับกระเฉง ทะมัดทะแมง ตามสไตล์การบริการของแดนซามูไร | บรรยากาศเฮฮา เพราะส่วนใหญ่คนจะมากินเหล้า คุยกับเพื่อนกัน ก็ตามนั้นเลยครับร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้าน Izakaya ในกรุงเทพจริง ๆ ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากพิมพ์นิยมที่ว่ามาเลยสักนิด สิ่งนึงที่น่าจะต่างไปจากร้านอื่นคือ อาหารของร้านนี้มีให้เลือกค่อนข้างน้อยครับ อาจจะไม่น้อยมาก แต่ก็น้อยกว่าร้าน Izakaya อื่น ๆ แบบชัดเจน ซึ่งสำหรับผมแล้ว ร้านแกล้มเหล้าพวกนี้ มีเมนูน้อย ๆ มันจะไม่ดีเอานะ เพราะว่าคนกินเหล้านั้นสั่งอาหารกันเยอะอยู่ล่ะ และส่วนใหญ่มากันหลายคนด้วย เผลอ ๆ จะสั่งหมดเมนูกันได้ถ้ามากันเยอะ ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่กลยุทธ์ของแต่ละร้านเค้าล่ะครับ
มื้อนี้เริ่มต้นด้วย กะหล่ำปลีซอยกับซอสเนื้อ Table Charge 5 คน 145 บาท คือร้าน Chaba Cham - สุขุมวิท 39 แห่งนี้น่าจะเป็นร้านแรกเลยมั้งที่ผมโดนค่าโต๊ะนี่ในกรุงเทพฯ คือที่ญี่ปุ่นมันจะมีธรรมเนียมในร้าน Izakaya แทบจะทุกร้านที่ทางร้านจะมัดมือชกเรา เอาอาหารมาให้อย่างนึงแล้วก็คิดราคาค่าหัวตามจำนวนคนที่มาไว้ก่อน ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมญี่ปุ่นถึงมีธรรมเนียมนี้ อาจจะเพราะว่าบางคนจะมาแต่กินเหล้าอย่างเดียวไม่สั่งอาหาร (ซึ่งเครื่องดื่มก็น่าจะได้กำไรเยอะกว่า?) หรือว่าหาเรื่องเก็บตังค์ลูกค้าก็ไม่รู้ ซึ่งอาหารมัดมือชกของร้านนี้ก็เป็น กะหล่ำปลีซอยกับซอสเนื้อ คล้าย ๆ ซอสหมูสับ, เนื้อสับ ของสปาเก็ตตี้เนื้อสับล่ะครับ ก็อร่อยดี ฉ่ำ ๆ เละ ๆ อร่อยดีครับ (แต่ก็นะ 145 บาท -*-)
อาหารจริง ๆ อย่างแรกที่ได้เป็น ลิ้นวัวย่างเผาไฟ Gyutan Aburi 159 บาท จานนี้ก็โอเคเลย ลิ้นวัวไม่ได้มาเปล่า ๆ โล่ง ๆ บนจานเหมือนบางร้าน แต่ว่ามีหัวหอมซอยให้มาด้วย ซึ่งมันก็เข้ากันดีกับลิ้นวัวที่ย่างมาบาง ๆ ทาเกลือมาให้เค็มหน่อย ๆ แล้วก็ย่างมาแค่ให้พอสุกเท่านั้น อร่อยดีครับ จานที่ 2 เป็น แตงกวาจิ้มบ๊วย Ume Kyu 79 บาท อืม จานนี้เห็นราคาแล้วก็ปวดใจครับเมื่อเห็นแตงกวาที่น่าจะเป็นแตงกวาลูกเดียวถูกฝานมาให้สวย ๆ กินง่าย ๆ แค่นั้น (ลูกละ 5 บาทได้มั้ง ฮ่า ๆ ) แต่ก็ไม่อะไรครับ แตงกวาฉ่ำดี จิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยเปรี้ยว ๆ เผ็ด ๆ ก็คล้าย ๆ กินพวกผักดอง แต่เป็นผักดองสไตล์ใหม่
อาหารอย่างที่ 3 เป็น สลัดชิบะแชมป์ Chiba Cham Salad 199 บาท เป็นสลัดที่มาแปลกแหวกแนวจากที่เคย ๆ กินมาเล็กน้อย เพราะมี คล้าย ๆ แป้งเส้นทอดโรยมาด้วย ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่าจะโรยมาทำบ้าอะไร ดูไม่เข้ากันกับสลัดเลย แต่ไป ๆ มา ๆ พอกินทุก ๆ อย่างในจานพร้อมกัน (ผัก, มะเขือเทศ, แป้งเส้นทอด) แล้วเออ มันอร่อยดีนะ เป็นสลัดที่อร่อย แปลกไม่เหมือนใครดีครับ สมแล้วที่เอามาตั้งชื่อร้าน ส่วนอาหารอย่างต่อมานั้นเป็น ไก่ทอดคาราเกะ Tori Karaage 89 บาท คือจริง ๆ แล้วร้าน Chiba Cham นี่เค้าจะพยายามสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองโดยการมีอาหารบางอย่างให้เลือกหลายไซส์ ซึ่งเจ้า ไก่คาราเกะนี่ก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมเคยเห็นเพื่อนผมสั่ง size ใหญ่สุด 300 กว่าบาท คือแบบมันมาเป็นภูเขาไฟ แบบอลังการจริง ๆ แต่กับมื้อนี้พวกผมสั่งจานเล็กไป ก็ได้ไก่ทอดมาจุ๋ม ๆ จิ๋ม ๆ เหมือนร้านอื่น ไก่ทอดนี่ก็ทำมาธรรมดา ๆ ครับ หลายร้านที่เคย ๆ กินมาทำได้ดีกว่า
จานต่อมาเป็น ยากิโซบะ Yakisoba 119 บาท จานนี้กก็ถือว่าทำมาได้ดีทั้งหน้าตาและรสชาติครับ เป็นยากิโซบะมาตรฐาน ๆ ที่กินเพลิน ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ ดูดเส้นซวบ ๆ อร่อยดีครับ จานต่อมาเป็น ปลาฮ็อคเกะย่าง Hokke 299 บาท จานนี้ถือว่าให้ปลาชิ้นใหญ่ดีครับ ใหญ่กว่าหลาย ๆ ร้านในระดับราคา 300 บาทนี่เลย และก็ทำมาได้มาตรฐานทุกอย่างไม่ว่าจะการแล่ผ่าครึ่งปลาแบบครึ่งจริง ๆ คือแล่ก้างเป็นครึ่งนึงไปด้วย , การย่างที่ย่างมาสมบูรณ์แบบไม่มีส่วนที่ไหม้มาให้เสียอารมณ์ และการทาเกลือมาพอดี ๆ กินแต่ละคำก็เค็มปะแล่ม ๆ กำลังดี ก็ไม่รู้จะไปหาฮอกเกะที่ย่างได้ดีกว่านี้ได้ที่ไหนในกรุงเทพล่ะครับผมว่า
จานรองสุดท้ายนั้นเป็น เสต็กเนื้อกระทะร้อน Harami Steak 169 บาท จานนี้ก็คือเนื้อเป็นชิ้น ๆ (ไม่ได้เป็นลูกเต๋า) ของเนื้อซี่โครงวัว เอาไปทอดกระทะร้อนมากับถั่วงอกนั่นเอง จานนี้ไม่ค่อยอร่อยไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ เนื้อเหนียวไป, แข็งไป กินแล้วไม่ค่อยชอบเลย, ตัวถั่วงอกที่มาด้วยกันก็มาแบบจืด ๆ แห้ง ๆ ไร้รสชาติ จานนี้ Fail ครับ เช่นเดียวกันกับอาหารอย่างสุดท้าย ปิ้งย่างรวมมิตรสิบไม้ 10 Pon Moriawase 269 บาท จานนี้นอกจากจะทำช้าเกินไป (ปิ้งย่างควรจะมาแรก ๆ) รสชาติโดยรวมผมก็ยังไม่ค่อยชอบอีกเช่นกัน คือแบบกินแล้วรู้สึกหลาย ๆ ร้านทำได้ดีกว่าอ่ะครับ กินแล้วมันเหมือนกับกินปิ้งย่างโง่ ๆ แบบยังไงดี ร้านหมูปิ้งโง่ ๆ ตามข้างทางที่คนทำทำไม่เป็นอะไรแบบนั้นอ่ะครับ (อาจจะแรงไป จริง ๆ ดีกว่านั้นหน่อย แต่ถ้าเทียบกับปิ้งย่างร้านอื่นก็ประมาณนี้) แต่เมื่อคิดถึงราคาที่เฉลี่ยแล้วไม้ละ 30 บาท ก็ถือว่าถูกดีครับ สั่งมากินเพลิน ๆ กับเบียร์ก็โอเคอยู่ (บางร้านขายไม้ละ 100 บาท ฮ่า ๆ)
มื้อนี้ค่าเสียหาย 2002 บาท ร้าน Chiba Cham - สุขุมวิท 39 นี่แปลกมาก มี Service Charge + Vat ด้วย ทั้ง ๆ ที่ร้าน Izakaya ส่วนใหญ่ที่ผมกินมาจะไม่ค่อยมีมาคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้สักเท่าไร คือแบบ คิดค่า Table Charge ไปแล้วไม่พอ ยังมีมาคิด vat + service charge อีกด้วย เฮ้อ เยอะไปมั้ยครับ แต่ก็นะ อาหารของเค้าราคานั้นไม่ค่อยแพงเท่าไร (แต่ก็แพงเมื่อเทียบกับร้าน izakaya ถูก ๆ จริง ๆ เช่น Imoya) ก็พอหยวน ๆ ให้ได้อยู่ครับ ใครที่มากิน Bankara Ramen แล้วแบบเจอคิวยาว ขี้เกียจต่อ แล้วแบบแค่อยากกินอาหารญี่ปุ่น ก็ลองมาร้านนี้กันดูได้ครับ อาหารถือว่าโอเค ราคารับได้ เลยล่ะร้านนี้
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment