Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 2
วันที่ 2 ของผมกับการมาเยือนถิ่นคันไซ ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2011 ก็ตื่นมาพร้อมกับความสดใสและกระปี้กระเปร่า เนื่องจากเมื่อคืนหลังจากซัดเบียร์ไปประมาณ 3 กระป๋อง และแช่น้ำอุ่น ๆ จนสบายตัวสุด ๆ ก็ลงไปล้มตัวลงนอนตั้งแต่ 4-5 ทุ่มและตื่นมาอีกทีก็ 7 โมงเลย ภารกิจในวันนี้ (วันเสาร์) คือไปยังดินแดนที่เป็นเมืองหลวงแห่งแรกของญี่ปุ่น เมือง Nara นาระ นั่นเอง การเดินทางจาก Osaka ก็ไม่ยากเย็นครับ ไปขึ้นรถไฟที่สถานี JR Osaka แล้วก็ไปลงสถานี JR Nara ก็จะถึงแหล่งท่องเที่ยวของเมืองนาระเลย ใช้เวลาเดินทางแค่ประมาณ 45 นาทีเท่านั้น ก็เลยทำให้คนมักจะไปเที่ยวนาระแบบเช้าเย็นกลับกัน ไม่ค่อยมีใครค้างที่นั่น (ส่วนนึงเพราะโรงแรมที่นาระไม่ค่อยมีด้วย)
|
วิวอันสดใสยามเช้าจากห้องพักของผม แม่น้ำนั่นคือแม่น้ำ อลูมิโร้ ครับ ใหญ่ดีทีเดียว |
|
อันนี้ย่าน Umeda ตึกไม่ค่อยสูงนะครับเมืองนี้ |
|
มองเห็นรางรถไฟด้วย รถไฟหลายรางมาก วิ่งสวนกันสนุกดีครับ |
|
รางรถไฟทอดยาวผ่านแม่น้ำไปเลยล่ะครับ |
|
ถึง นาระ ใช้เวลาไม่นาน |
เมือง Nara ตามที่กล่าวไปตอนต้นครับว่าเป็นเมืองหลวงแรกของโตเกียว สถาปนาตั้งแต่ปีคศ. 710 ซึ่งเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมาก็เพิ่งฉลองครบรอบ 1300 ปีไปเอง เมืองนี้ก็ไม่มีอะไรครับ ทั้งเมืองก็จะมีวัดวาอารามเต็มไปหมด วัดเยอะมาก เยอะจริง ๆ นอกจากวัดก็จะมีสวนสาธารณะ, พระราชวัง และก็กวาง! จำนวนประชากรกวางของที่เมืองนาระมีประมาณ 1,200 ตัว กวางที่นี่จะวิ่งกันให้ขวักไขว่มากบริเวณย่านท่องเที่ยว และสวนสาธารณะที่คนชอบไป Hangout กัน เหตุที่เมืองนี้กวางเยอะก็เพราะว่า คนที่นี่เค้าเชื่อกันว่ากวางเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ โดยเทพ Takemikazuchi ที่มาจุติยังเมือง Nara แห่งนี้เดินทางมาโดยกวางสีขาว กวางของเมืองนี้ก็เลยถูกถือว่าเป็นสัตว์แห่งสวรรค์ คอยปกป้องเมือง
กวางของที่เมือง Nara นี่เป็นอะไรที่ผมชอบจริง ๆ ครับกวางเยอะดีมาก และกวางแต่ละตัวก็น่ารัก ไม่กลัวผู้คนเลย และก็เหมือนกวางที่นี่จะถูกตัดเขาออกหมดแล้ว (ผมไม่เจอตัวมีเขาเลย) ก็เลยทำให้ปลอดภัยต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง แต่แม่ผมเคยมาที่นาระนี่ตอนหน้าร้อนเมื่อปี 2010 แม่บอกว่า มาตอนนั้นแทบจะไม่มีกวางเลย เห็นกวางอยู่แค่ 2-3 ตัวตลอดทั้งวันที่อยู่ในเมือง ประหนึ่งว่ากวางแอบหนีไปพักร้อน แต่วันที่ผมไปนี่กวางเยอะจริง ๆ ครับ กวางเต็มบ้านเต็มเมืองเลย ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะอากาศดีมาก (20 - 25 องศา) ก็ใครที่อยากมาเล่นกับกวางก็แนะนำมาช่วงนี้ก็ดีครับ
ผมไม่รู้นะว่าคนที่มา Nara ไปที่ไหนกันบ้าง แต่ให้เดาว่าทุกคนจะต้องมาที่วัด Todaiji โดยระหว่างทางที่เดินผ่านวัดนี้ก็จะเจอกับวัดและเจดีย์อื่น ๆ อีกพอสมควร ก็เป็นอะไรที่ชิลและฟินดีครับ ผมก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียด, ประวัติ ของวัดและเจดีย์อะไรมากหรอกนะครับ เอาแต่ดูกับถ่ายรูปมาอย่างเดียว
|
เจดีย์ Kofukuji มั้งครับไม่แน่ใจ |
|
บ้านเรามีศิลาจารึก ที่ญี่ปุ่นเค้าก็มีเหมือนกัน |
|
เมืองโบราณก็มาคู่กับรถเข็นแบบโบราณ ราคาน่าจะโหดมากครับ ผมไม่กล้าขึ้น รวมถึง เค้าบรรยายเป็นญี่ปุ่นด้วยฟังไม่ออก |
|
อ้าว กวางมีเขา ข้างบนผมเขียนมั่วล่ะ แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีครับ เด็ก ๆ ไม่กลัวกวางกันเลยล่ะครับ |
|
เดิน ๆ ๆ ครับ ระหว่างทางก็เป็นสวนเขียว ๆ มีน้องกวางมาเล่นกับเรา |
|
กวางเชื่องมากครับ |
|
กินไอศครีมจากมือพ่อผมตุ้ย ๆ กันเลยทีเดียว |
หลังจากที่เดินกันได้สักพัก พวกเราก็แวะกันไปกินข้าวกัน โดย แวะกินที่โซน Naramachi เป็นโซน shopping กับร้านอาหารขนาดย่อม ๆ ประจำเมืองเค้าครับ ขนาดของย่านนี้ถือว่าย่อมจริง ๆ คือแบบเทียบเมืองอื่น ๆ ที่ผมไปมาแล้วไม่ได้เลย โดยร้านที่เราฝากท้องมื้อนี้เป็นร้านสไตล์อาหารชุดญี่ปุ่นครับ เมนูอ่านไม่ออกอีกเช่นเคย แต่พนักงานร้านนี้พูดอังกฤษได้ดีมากครับ ดีที่สุดในชีวิตผมที่เคยเจอเลย ก็เลยทำให้การสั่งอาหารสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีอาหารในมื้อนี้ก็อร่อยปานกลางครับ อาหารจะออกแนวญี่ปุ่นจ๋ามาก ๆ คือจะจืด ๆ ไม่ค่อยจัดจ้าน
|
ทุกร้านจะต้องมีส่วนบาร์ กับ โต๊ะ ผมล่ะอยากให้เมืองไทยมีงี้จัง เพราะหลัง ๆ ผมไปกินข้าวคนเดียวบ่อย |
|
ชุดโซบะกับข้าวหน้าเทมปุระครับ |
|
รสชาติกลาง ๆ |
|
เช่นกัน |
|
เบียร์สดอร่อยเทพเช่นเคย เฮ้อ เห็นแล้วอยากไปกินอีก |
|
โซบะอีกเช่นกัน |
|
แบบน้ำก็มีครับ |
|
อันนี้ผักรวมทอด อร่อยกว่าที่ไทยครับ ร้อนและกรอบ (เมืองไทยจะเย็น ๆ เหนียว ๆ ) |
|
ชุดข้าวหน้าไก่ทอด |
|
อร่อยสุดในมื้อนี้ล่ะครับ ไก่นุ่มมาก |
หลังจากที่อิ่มกันแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าไปวัด Todaji Highlight ประจำวันต่อ วัดนี้แปลว่า วัด ตะวันออกอันยิ่งใหญ่ (โท = ตะวันออก, ได = ใหญ่) ซึ่งตอนแรกที่ผมเห็นรูปในไกด์ก็ไม่คิดว่ามันจะยิ่งใหญ่อะไรหรอกครับ แต่พอไปถึงวัดแล้ว โอ้โหมันยิ่งใหญ่จริงอะไรจริง ใหญ่แบบตื่นตะลึงกันเลยทีเดียว ที่วัดโทไดจินี่จะมีพระพุทธรูปทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นด้วย ชื่อว่า Daibutsu (คือที่คามาคูระก็ชื่อนี้ คือมันแปลได้ว่าพระพุทธรูปองค์ใหญ่น่ะครับ) นอกจากตัวพระพุทธรูปจะใหญ่สุดแล้ว ตัววัดยังเป็นอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่น่าภูมิใจของชาวญี่ปุ่นเค้าสุด ๆ เลยล่ะครับ วัดนี้ ใครมา Nara ยังไงก็อยากให้แวะมาครับ ถือว่าคุ้มค่าจริง ๆ
|
แบบสามล้อบ้านเราน่าจะ work กว่านะครับตัวสารถีจะได้ไม่เหนื่อยมาก |
|
กวางอ้วนถ้วนสมบูรณ์เชื่องกับคนสุด ๆ |
|
คนไหนมีอาหาร กวางจะพยายามไปรุมตลอดครับ |
|
เป็น World Heritage กันเลยทีเดียว วัด Todaiji |
|
กวางเรียงรายตลอด 2 ข้างทาง |
|
อันนี้แค่ประตูทางเข้าวัดอันแรกสุดครับ ตอนแรกผมเห็นก็นึกว่าเป็นทางเข้าหลักล่ะ ใหญ่โตมาก |
|
ประตูทางเข้าวัดอันที่ 2 อันนี้ดูเหมือนจะเพิ่งบูรณะ สวยกว่าอันแรก |
|
พ่อแม่พาลูกมาเยอะมากครับ คนญี่ปุ่นดูจะชอบพาลูก ๆ เที่ยวกัน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะถ้าปล่อยอยู่บ้านจะไม่มีคนเลี้ยงก็เป็นได้ (ว่าแต่จอดรถไม่กลัวหายกันเลยใช่มั้ยเนี่ย รถแต่ละคันดูไม่ใช่ถูก ๆ เลยนะครับ) |
|
ถึงล่ะครับวัด Todaiji @ Nara |
|
ตั๋วครับ มีบอกขนาดวัดว่ากว้างเท่าไร ยาวเท่าไร ค่าเข้ารู้สึกจะ 500 yen มั้ง |
|
วันที่ผมไปคนเยอะมาก พอดีเป็นวันเสาร์ เห็นเพื่อน ๆ ผมไปกันวันธรรมดา ไม่ค่อยมีคน ประมาณว่าตรงนี้โล่งเลย |
|
โบกควันเข้าใส่ตัวเอาฤกษ์เอาชัย ตามสไตล์พี่ยุ่นเค้าครับ |
|
Daibutsu พระพุทธรูปทองแดงที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น |
|
ตัวจริงใหญ่มากครับ นี่ปางห้ามญาติรึเปล่าใครรู้บอกผมด้วย |
|
ในวัดมีรูปปั้นสวย ๆ อีกเต็มเลย |
|
อันนี้เทพอะไรสักอย่างของญี่ปุ่น เห็นบ่อย |
|
อีก 1 องค์ครับ |
นอกจากวัดวา อาราม แล้วที่นาราก็จะมีสวนสาธารณะกวาง หรือ Nara Park (Deer Park) กระจายอยู่รอบ ๆ บริเวณแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งก็ตามชื่อครับที่นี่จะเป็นสวนเขียวขจี มีบึงสวย ๆ บ้างในบางพื้นที่และทุกสวนก็จะมี กวางตัวน้อยตัวใหญ่น่ารัก ๆ ให้เราให้อาหารหรือเล่นกับมันอยู่แทบทุกที่ครับ และนอกจากวัดสไตล์พุทธแล้ว ที่นาระก็จะมีวัดสไตล์ ชินโต หรืออะไรสักอย่างซึ่งเป็นนิกายนึงของคนญี่ปุ่นเค้าอ่ะครับ กระจายตัวอยู่เช่นกัน ก็วัดพวกนี้ก็จะต่างจากวัดศาสนาพุทธพอสมควร ก็ถ้าเบื่อ ๆ เดินวัดพุทธก็มาเดินวัดชินโตกันก็ได้ครับ นาระมีวัดให้คุณเดินได้ไม่รู้เบื่อเลย
|
มีน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่หน้าทางเข้าวัดแทบทุกวัดครับ เอามากิน, ล้างหน้า หรือทำอะไรก็ได้ที่คิดว่าตัวเองจะได้บุญ |
|
ประตูทางเข้าวัด(ศาลเจ้า)นิกาย..ของญี่ปุ่นเค้าครับ |
|
อันนี้ไม่รู้คือไร |
|
ตามข้างทาง |
|
เหล้าญี่ปุ่น เบียร์ญี่ปุ่นเต็มโรงนี่เลยครับ สงสัยเก็บไว้เลี้ยงฉลอง |
|
ส่วนใหญ่จะสีแดง |
|
มีบึง, ทะเลสาบให้พายเรือกันโรแมนติค ๆ ด้วย |
|
น้องกวางไปที่ไหนก็มี กลุ่มนี้ดูเนือย ๆ หรืออิ่มอืดมาแล้วก็ไม่รู้ |
|
สวนเค้าสวยครับ สะอาด หญ้าเนียน |
|
ทางขึ้นอีกวัดนึง แต่ไม่ไหวล่ะครับวันนี้เดินเยอะแล้ว |
|
ของฝาก, ของชำร่วยเยอะเหมือนกัน |
|
อันนี้เป็นรูปปั้นหน้าสถานี Kintetsu Nara อีกหนึ่งสถานีใกล้แหล่งท่องเที่ยว |
|
ตึกสถานีครับ รูปเอียงหน่อยนะครับ พอดีเลนไวด์มันเอียงง่าย |
หลังจากที่อิ่มหนำกับวัดวาอารามที่นาระแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับไปโอซาก้ากัน โดยคราวนี้ตั้งใจจะไปกินร้านเนื้อย่างที่มีแนะนำในหนังสือไกด์ (อีกแล้ว) ซึ่งอยู่แถว ๆ Namba พวกผมก็เลยนั่งกลับทางสถานี Kintetsu Nara Station กันแทน ร้านเนื้อย่างเป้าหมายคราวนี้ พวกผมหากันเจอนะครับ (เนื่องจากค่อนข้างหาง่าย) แต่พอดีว่าวันนี้วันเสาร์ ลูกค้าก็เลยเยอะ ไปถึงไม่มีโต๊ะ และทางเจ้าของร้านบอกต้องรอ 40 นาที พวกผมก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายกลับกันไปกินแถวสถานี Umeda บ้านเกิด (ชั่วคราว) กันแทน
ทีนี้ผมขอบรรยายถึงสถานีรถไฟ Umeda ซักหน่อย เนื่องจากมีอะไรให้เขียนเยอะเหมือนกันเจ้าสถานีรถไฟที่มีเมืองใต้ดินใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้คือที่สถานี Umeda จะประกอบด้วยสถานีรถไฟ 3 สถานีครับมี Subway Umeda Station , Subway Nishi-Umeda Station และ Subway Higashi-Umeda Station ซึ่งทั้ง 3 สถานีนี้จะจะโอบอุ้ม ห่อล้อม เมืองใต้ดิน Umeda เอาไว้ และนอกจาก 3 สถานีรถไฟใต้ดินนี่แล้ว ก็จะมีสถานี JR Osaka , Hankyu ที่อยู่ใกล้ ๆ กันอีกด้วย คือจุดนี้เป็นประมาณหัวลำโพงของภาคคันไซอะไรประมาณนั้นก็ว่าได้ ซึ่งเจ้าเมืองใต้ดินนี้ก็จะประกอบด้วยร้านรวงต่าง ๆ มากมาย รวมถึงห้างขนาดใหญ่ที่สร้างเผื่อลงมาเชื่อมกับเมืองใต้ดินนี่ คือเมืองใต้ดินนี่นอกจากจะช่วยเรื่องการใช้ทรัพยากรพื้นที่ให้คุ้มค่าแล้ว ยังเป็นที่หลบฝน, หลบความหนาว, หลบหิมะ ได้เป็นอย่างดี คือผมชอบเจ้าเมืองใต้ดินนี่มากจริง ๆ อยากให้เมืองไทยมีบ้าง เห็นรถไฟใต้ดินเราแต่ละที่ โล่งโจ้ง ๆ ไงไม่รู้
เนื่องจากความใหญ่โตของเมืองใต้ดิน Umeda ทำให้ผมเดินหลงทางอยู่หลายวันมากจนวันสุดท้าย (วันที่ 4 ) ที่อยู่อยู่ละแวกนี้เริ่มคุ้นเคยเส้นทางขึ้นมาหน่อยก็เป็นอันต้องย้ายย่านซะงั้น พวกเราละลานตาไปกับร้านอาหารมากมาย ที่จัดมาครบทุกประเภทอาหาร แค่อาหารญี่ปุ่นอย่างเดียวก็มีไม่รู้กี่ร้อยร้าน ไม่รวมร้านอิตาเลียน, fast food และอื่น ๆ อีกมากมายสุดท้าย พวกเราไปลงเอยกันที่ร้านคล้าย ๆ ร้านอาหารจีนผสมญี่ปุ่นครับ คือเจ้าร้านนี้จะขายอาหารประมาณข้าวเสิร์ฟกับหมูหรือไก่แบบต่าง ๆ ซึ่งร้านนี้เลือกจากการที่เห็นราคาไม่ค่อยแพงและลูกค้าเต็มร้านครับ ซึ่งเรื่องลูกค้าเต็มร้านสำหรับคนญี่ปุ่นนี่ถือว่าเป็นดัชนีชี้วัดความอร่อยที่ค่อนข้างแม่นยำ (ไม่เหมือนบ้านเรา ไม่รู้จะต่อคิวอะไรกันมากมาย Oishi, MK อะไรพวกนี้ไม่เห็นจะอร่อย) เพราะอาหารมื้อนี้อร่อยประทับใจมากครับ รายละเอียดอาหารรบกวนดูที่คำบรรยายใต้รูปเลยดีกว่า
|
ปรึกษากันว่าจะไปกินไหนต่อดี |
|
มาลงเอยที่ร้านนี้ครับ ไม่รู้อ่านว่าไร ขายประมาณพวกข้าวคู่กับเนื้อ, หมู อะไรพวกนั้น ไม่เคยกินหรือเห็นมาก่อนครับร้านสไตล์นี้ |
|
รายการอาหารของทางร้านครับ ผมไม่รู้เรียกว่าเป็นอาหารสไตล์ไหนเหมือนกัน ราคาไม่ค่อยแพง |
|
ลูกค้าเต็มร้าน |
|
แก้วเบียร์เหมือนเกาหลียังไงไม่ทราบ แก้วเล็ก ๆ หรือว่านี่เป็นร้านสไตล์เกาหลี? |
|
ทุกอย่างพร้อมอยู่บนโต๊ะ ไม่ต้องเรียกพนักงานให้วุ่นวาย |
|
เซ็ทของพี่ผมครับ แฮมเบิร์กหมู โรยด้วยหัวไชเท้าฝอย |
|
อร่อยเยี่ยมครับ |
|
ส่วนอันนี้ของผม ข้าวกับหมูอบราดซอส อารมณ์ประมาณข้าวหมูแดงบ้านเรา แต่หมูจะนุ่ม ๆ กว่าชิ้นใหญ่กว่า |
|
อร่อยมากครับ |
|
เนื่องจากผมไม่อิ่มก็เลยสั่งเจ้านี่มาเพิ่ม เป็นประมาณหมูแผ่นผัดซีอิ๊วกับไข่ดาว อร่อยเยี่ยมอีกเช่นกัน |
สรุปวันที่ 2 ของผมกับซีรีย์ตะลุยกินถิ่นอาทิตย์อุทัยปี 2011 ก็จบลงไปด้วยดีอีกวันครับ วันนี้ค่อนข้างเหนื่อย แต่มาได้อาหารมื้อเย็นนี่ช่วยฟื้นพลังเหมือนกันถั่ววิเศษในเรื่อง dragon ball ยังไงยังนั้น วันที่ 3 พวกเราจะไปไหนและไปกินอะไรต่อก็รบกวนตามไปอ่านที่ลิงค์นี้เลยครับ
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 1
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 2
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 3
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 4
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 5
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 6
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 7 & 8 Part 1
Japan Autumn Trip 2011 by BumRes.com - Day 7 & 8 Part 2
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment