BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Friday, June 15, 2012

The Seafood Bar - American & European Seafood Restaurant at Somerset Lake Point, Bangkok

The Seafood Bar - American & European Seafood Restaurant at Somerset Lake Point, Bangkok 




Overall Score  9/10
Taste   4.5/5
Ambiance  4.5/5
Service  4/5
Value   4/5


The Seafood Bar - American Seafood Restaurant on BumRes.com



ถ้าพูดถึง Wine Bar หรือ Bar เหล้า หรือ Braserrie (เกี่ยวมั้ย? เห็นบราเหมือนกัน) หลาย ๆ ท่านคงพอจะนึกร้านเหล่านั้นขึ้นมาได้ในหัวแต่กับร้านที่ตั้งชื่อตัวเองว่า Seafood Bar ถ้าฟังแต่ชื่อก็คงพอจะเดา ๆ ได้ว่าร้านนี้เน้นขายอาหารทะเล แต่ทำไมต้องมีคำว่า Bar? ก็เพราะว่าทางร้านมีบาร์ให้นั่งกินอาหารทะเลแบบสด ๆ พ่อครัวแกะหอยนางรมให้กินทีละตัวสด ๆ อะไรประมาณนั้น ร้าน The Seafood Bar ตั้งอยู่ที่ใต้ตึก Somerset Lake Point - Serviced Residence ที่มีสาขาหลายแห่งในกรุงเทพ บริเวณซอยสุขุมวิท 16 ตัวร้านตกแต่งสวยงาม ใหญ่โต กว้างขวาง มีทั้งส่วน Bar, ส่วนโต๊ะธรรมดา และห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ ทางร้านเปิดบริการเฉพาะมื้อเย็น และช่วย 18.00 - 19.00 ที่ร้านเพิ่งเปิด จะเป็นช่วง Happy Hour ทั้งเครื่องดื่มและอาหาร เช่น จะมี Main Course ราคาพิเศษจากราคาปกติ 600 ก็จะเหลือ 300 บาท (เปลี่ยนไปแต่ละวัน) และก็หอยนางรมสด ๆ ตัวละ 50 บาท (จากราคา 95 บาทมั้ง) และก็เบียร์สดแก้วละ 50 บาท (จาก 120 บาท) โชคดีที่ผมไปตอน 18.50 น. พอดีก็เลยทำให้ได้จัดเต็มคุ้มค่าคุ้มราคากับเจ้า Happy Hour นี่เหลือเกิน อ้อ ผมเห็นทางร้านเค้าบอกว่าเค้าหยุดวันจันทร์ เพราะว่าไปตกปลา ผมก็เลยเลือกไปวันอังคารซะเลยเผื่อว่าจะได้ปลาทีสดที่สุด ^_^

อาหารของทางร้าน The Seafood Bar @ Sukhumvit 16 นี่ก็มีให้เลือกไม่เยอะเลยครับ มีประมาณ 20 อย่างเท่านั้น เป็น appetizer, main course, salad, soup ปน ๆ กันไม่มีแบ่งแยกเป็นหมวดหมู่ จะมีแบ่งก็ตรง Dessert  ผมว่าอาหารของทางร้านนี้น่าจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เดือนละครั้ง 2 เดือนครั้งอะไรก็ว่าไป ตามแต่ช่วงฤดูที่หน้าไหนมีสัตว์ทะเลอะไรเยอะ สัตว์ทะเลอะไรสด (เอ เรียกว่า seafood น่าจะดีกว่านะว่ามั้ยครับ ฮ่า ๆ) ราคาก็..ผมว่าราคาค่อนข้างกลาง ๆ นะ ของที่ไม่แพง มันก็ไม่แพง ส่วนของที่แพงมันก็แพง งงป่ะครับ? ก็อย่างพวก pasta, seafood ราคาไม่แพงก็ 300 - 400 บาท แต่ถ้าเป็นปูอลาสก้าก็จัดไปโลละ 4500 บาทอะไรแบบนี้ อืม อาหารน้อยครับ เลยไม่ต้องปวดหัวในการเลือก








จานแรกเป็น Main Course ที่จัด Happy Hour ประจำวันกับ ปลาฮามาจิย่างกับมันบดและซอสมัสตาร์ด (Grilled hamachi, mashed potato, asparagus, grained mustard sauce 550 บาท ลดเหลือ 300 บาท) ตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเป็นปลาฮามาจิ เห็นตอนแรกนึกว่าเนื้อไก่ (พอดีเพื่อนผมสั่งเอาไว้) แต่แบบพอกินแล้ว "เฮ้ย ทำไมมันนุ่มจัง อร่อยดีด้วย" ก็เลยถามไปว่านี่เนื้อสัตว์บกอะไรทำไมอร่อยงี้ (ปล่อยไก่เต็ม ๆ) จานนี้เป็นจานประเดิมที่อร่อยดีทีเดียวครับ ปลาชิ้นโต เนื้อนุ่ม อร่อย เข้ากับหน่อไม้ฝรั่งที่ให้มาเป็นอย่างดี ส่วนจานที่ 2 เป็น Oyster Happy hour ตัวละ 50 บาท ที่จัดมาทั้งหมด 6 ตัว 6 พันธุ์ กินกันคนละ 2 ตัวครับ จริง ๆ พนักงานบอกพวกผมได้หมดเลยนะว่าตัวไหนมาจากแหล่งไหน, ย่านไหน แต่แบบผมจำไม่ได้ -*- เอาเป็นว่า หอยนางรมร้านนี้อร่อยเยี่ยมครับ สด เว่อร์ สดกว่าทุก ๆ ร้านที่ผมเคยกินมาในชีวิตเลยล่ะ เอ้า ไปร้านนี้ใครที่ไม่ชอบกินหอยนางรมสด ๆ ของฝรั่งลองสั่งดู เผลอ ๆ จะติดใจแบบผม







จานที่เหลือในมื้อนี้มี Lobster bisque (180 บาท) ที่แบบในถ้วยจิ๋วเหลือเกิน (ซดคำเดียวหมด) แล้วก็ไม่ค่อยอร่อยเท่าไร , ซีฟู้ดพาสต้า (Seafood linguini pasta, tomato sauce 350 บาท) จานนี้เป็นพาสต้าที่อร่อยเยี่ยมเลยทีเดียว ทำดีกว่าร้านอิตาเลียนแท้ ๆ หลายร้านเลยล่ะครับ เส้นนุ่ม al dante มากำลังดี ซอสมะเขือเทศรสชาติดี และเครื่อง seafood ที่ใส่มาก็สด เยี่ยมจอร์จ , ปลากระพงอบ ถั่วเลนทิว ซอสเนยไวน์แดง (Grouper, lentil, red wine butter sauce - 550 บาท) จานนี้ชื่อไทยเขียนกระพง ชื่ออังกฤษแปลว่าปลาเก๋า พนักงานที่ยกมาก็บอกว่าเป็นปลาเก๋า ผมกินก็รู้สึกว่าเป็นปลาเก๋า สรุปมันก็น่าจะเป็นปลาเก๋า ที่รสชาติเก๋าดีแท้ อร่อยครับ ทั้งตัวเนื้อปลาก้อนโต ๆ อูม ๆ เป็น fillet เนื้อปลาที่ชิ้นใหญ่ดีมาก กับถั่วเลนทิลกับซอสไวน์แดงที่แบบ โอ้ย อร่อย






3 จานสุดท้าย จานแรกเป็น หอยนางรมทอดกรอบ ซอสวาซาบิมายองเนส (Fried oyster with wasabi mayonnaise - 180 บาท) คือราคา 180 บาทนี่จะมาแค่ 2 ตัว ก็เลยสั่งไปกลายเป็น 360 บาทได้มา 4 ตัว พนักงานบอกเอามาให้ 4 แบบเลย (คือจาก 4 ย่าน) อันนี้หลังจากที่กินแบบสด ๆ แล้วมากินแบบกรอบ ๆ ก็อร่อยไปอีกแบบนะครับ (จะว่าไปก็เพิ่งเคยกินหอยนางรมทอดนี่แหละ) ส่วนของคาวอีกจานเป็น สลัดกุ้งราดซอสค็อกเทล (Baby shrimp cocktail, horseradish cocktail sauce - 180 บาท) จานที่ควรจะเป็น appetizer แต่ดันมาอยู่เป็นจานสุดท้าย ก็เป็นอีกจานที่อร่อยใช้ได้อีกเช่นกัน ให้กุ้งมาเยอะดี น้ำสลัดก็รสชาติดี แต่เจ้าผักนี่แบบ..ไม่รู้สิมันแหม่ง ๆ อ่ะครับ ส่วนของหวาน ก็ขำ ๆ เป็น lemon mango tart with lemon grass milk (120 บาท) ที่ก็ไม่มีอะไร รสชาติบ้าน ๆ หากินได้ทั่วไปครับ






สรุปร้าน The Seafood Bar @ สุขุมวิท 16 นี่จัดได้ว่าเป็นร้านอาหารทะแลแนวแปลกแหวกแนวในกรุงเทพ คือไม่ใช่แบบ ไทย, จีน หรือญี่ปุ่น แต่เป็นแนวอเมริกัน ที่ถ้าไม่มั่นใจก็คงไม่เข็นตัวเองออกมาสู่ตลาด ซึ่งทางร้านเค้าก็ทำได้ดีจริง อาหารอร่อยหมดทุกอย่าง มากน้อยต่างกันไปตามลิ้นของแต่ละคนเท่านั้น เสียดายที่อาหารน้อยไปหน่อย ถ้ามาอีกครั้งนึงก็คงสั่งจนหมดเมนูแล้ว แต่เอ๊ะ ทางร้านน่าจะเปลี่ยนเมนูทุกเดือนนี่เนอะ ก็ไว้อีกสักพักผมจะมาลองอีกละกันครับ ชอบเหลือเกิน หอยนางรมสดเนี่ย อู้ววววว


--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...