Olive Tree Bangkok Restaurant Review

Olive Tree - European Restaurant by the River Review

โอลีฟ ทรี - ร้านอาหารอิตาเลียน อาหารยุโรป ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

Overall Score  7/10
Taste   3/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   3.5/5

Olive Tree Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)

For more yummy review of Bangkok restaurants please Click Here!

ร้าน Olive Tree ในรีวิวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่หลายคนอาจจะไม่รู้จักกัน เพราะว่าทำเลของร้านเป็นทำเลที่ไม่ได้ขับรถผ่านแล้วจะเห็น รวมถึงตัวร้านเองก็เป็นร้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรม บ้านวังหลัง ริเวอร์ไซต์ โรงแรมเล็ก ๆ ในย่านวังหลังศิริราช อีกทีนึง การเดินทางมาร้านนี้ถ้าสำหรับคนฝั่งพระนคร หรือคนที่บ้านอยู่ไกล ๆ ย่านวังหลัง - ศิริราชแล้วก็อาจจะไม่คุ้นเคยนัก แต่เอาจริง ๆ ก็เดินทางมาไม่ยากเลยครับ วิ่งเส้นอรุณอัมรินทร์มา แล้วก็เลี้ยวรถเข้าไปจอดในวัดระฆัง ซึ่งในวัดจะมีอาคารจอดรถหลายชั้นไว้รองรับคนที่เดินทางมาวัดอยู่แล้ว และค่าจอดก็แสนถูก จอดกันได้สบาย ๆ ไม่ต้องกังวลอะไร หรือว่าท่าจะนั่งเรือมาผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต้องลงท่าเรือไหน น่าจะเป็นท่าเรือวังหลังนี่แหละแล้วก็เดิน ๆ มาอีกนิดเดียวก็จะเจอร้านแล้ว

ร้าน Olive Tree แห่งนี้เป็นร้านที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยบรรยากาศแบบ al fresco dining หรือ open-air ที่ขนาดผมไปตอนกลางวันแดดเปรี้ยง ๆ ก็ไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนแต่อย่างใดเพราะว่าลมโกรกดีมาก ๆ และร้านก็เปิดหน้าต่างรับลมทุกด้านทำให้แม้ว่าร้านจะไม่ได้เปิดแอร์ ก็หาได้มีปัญหาเรื่องความร้อนแต่อย่างใด นั่งมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวย ๆ ที่มองเห็นวัดอรุณ, วัดพระแก้ว กันได้แบบเย็น ๆ สบายใจกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครที่มาตอนกลางคืนผมเชื่อว่าบรรยากาศน่าจะดีกว่าที่ผมมาตอนกลางวันขึ้นไปอีก และบรรยากาศร้านก็เหมาะแก่การมาเป็นร้านไว้นั่งสวีทกับคนรู้ใจพอสมควรเหมือนกัน เรื่องบรรยากาศนี่กินขาดจริง ๆ เลยครับสำหรับร้านนี้

อาหารของทางร้าน Olive Tree แห่งนี้ก็มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะเท่าไรโดยจะเน้นหนักไปที่อาหารยุโรปแบบฟิวชั่นเล็กน้อย มีให้เลือกครบครันทุกหมวดหมู่ ตามสไตล์อาหารตะวันตก และนอกจากอาหารตะวันตกแล้วก็ยังมีอาหารไทย ให้เลือกสั่งเพิ่มเติมอีกหลายอย่างอยู่เหมือนกัน ก็เรียกได้ว่าเป็นอาหารสไตล์ร้านอาหารสมัยใหม่ในปัจจุบันนี้ก็คงไม่ผิดนัก ราคาอาหารของร้านนี้ก็อยู่ในระดับมาตรฐานร้านอาหารแนวนี้ทั่ว ๆ ไป ถ้ามากินกันจริงจังก็น่าจะตกอยู่ที่คนละประมาณ 600 - 1,000 บาทโดยประมาณครับ

ส่วนที่มาของชื่อร้านนั้นมาจากการที่อาหารตะวันตกจะมีการใช้น้ำมันมะกอกหรือ olive oil เป็นองค์ประกอบค่อนข้างมาก ซึ่งก็สอดคล้องกับอาหารของร้าน Olive Tree แห่งนี้ที่จะเน้นไปที่อาหารตะวันตกเป็นหลัก ก็เลยนำมาตั้งเป็นชื่อร้านซะเลย ซึ่งผมว่าก็เป็นชื่อร้านที่เหมาะสมดีนะ เพราะว่าด้วยความร่มรื่นย์ ความเย็นสบายระหว่างนั่งดื่มด่ำกับอาหารตะวันตกของร้านนี้ท่ามกลางแดดจ้า ๆ มันก็เหมือนกับนั่งอยู่ใต้ต้นมะกอก ใหญ่ ๆ รื่นรื่นย์เย็นสบายก็ไม่ปานเลย

อาหารในมื้อนี้มีทั้งหมด 3 อย่างครับ มาไล่เรียงกันไปเลยละกัน

ยำทะเล (Spicy seafood salad - 240 บาท): อาหารไทยหนึ่งเดียวในมื้อนี้เป็นการรวมเอา seafood หลาย ๆ อย่างมาไว้ในจานเดียว ประกอบด้วย New Zealand Mussels หรือหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ + กุ้งขาว + ปลาหมึก และเอาทั้งหมดนี้มายำแบบไทย ๆ โดยมีการเสิร์ฟเคียงคู่มากับผักแบบตะวันตก ก็เลยกลายเป็นยำลูกผสมที่ลงตัวดีเหมือนกัน รสชาติยำนั้นยำมาค่อนข้างเปรี้ยวและเผ็ดกำลังดี ความสดของ seafood ก็หายห่วง เป็นยำที่ฝรั่งหรือคนไทยมากินก็น่าจะชอบกันหมดล่ะครับ

Beef Stroganoff (เนื้อสันในผัดกับบรั่นดี หัวหอมและเห็ด สไตล์รัสเซีย - 750 บาท) : จานนี้หน้าตาสวยงามตัวเนื้อสันในชิ้นค่อนข้างต และก็ให้ผักฝรั่งมาค่อนข้างเยอะและหลากหลายทำให้กินกันได้แบบไม่ค่อยเบื่อ จิ้มอันโน้นกินทีอันนี้กินที ตัวซอสที่ราดมาก็อร่อยดีครับ มัน ๆ เค็ม ๆ กำลังดี น่าเสียดายที่จานนี้ตัวเนื้อนั้น overcook ไปหน่อยกลายเป็น well-done ไปแล้ว ทำให้เนื้อแห้งและแข็งกว่าแบบ medium rare ที่เป็นความสุกที่กำลังดีที่สุดของเนื้อวัว (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทางเชฟกลัวพวกผมกินเนื้อแบบ medium rare ไม่ได้รึเปล่า เพราะส่วนใหญ่คนไทยจะชอบกินแบบ well-done กัน)

Salmon fillet with Beurre Blanc sauce (ปลาแซลมอนนึ่ง ราดซอส เบอร์บล็องค์ (เนยขาว) - 380 บาท): ซอสชนิดนี้ผมไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยได้ยินเหมือนกันเป็นซอสที่อารมณ์ประมาณลูกครึ่งระหว่างซอส pesto (ซอสผักบด) กับ pepper sauce อยู่เหมือนกันนะถ้าถาม ซอสอร่อยดีครับ แปลกดีอร่อยดี ส่วนตัวการจัดจานก็จัดมาได้สวยงามน่ากิน และให้ผักต่างชาติมาค่อนข้างหลากหลาย มีกะหล่ำปลีม่วง,พริกหวานสีต่าง ๆ, oregano มาแบบครบครันเลย (ผักอร่อยดีครับ) ส่วนตัวเนื้อปลาแซลมอนก็เป็น fillet ขนาดใหญ่กำลังดี ทอดมาได้แบบหนังเกรียมแต่เนื้อยังนุ่มอยู่ จานนี้อร่อยอีกเช่นกัน

Creme Brulee: ของหวานปิดท้าย ผิวแข็งตามมาตรฐาน เนื้อด้านในนุ่มอารมณ์ custard และก็หวานกำลังดี เป็น creme brulee ที่กินกันได้เรื่อย ๆ หลายถ้วยเลย น่าเสียดายที่ได้มาเป็นถ้วยเล็กถ้วยเดียวเลยกินกันยังไม่ค่อยจุใจสักเท่าไรครับ

สรุป ร้าน Olive Tree ณ วัดระฆัง วังหลัง ศิริราช ร้านนี้ ก็เป็นร้านอาหารตะวันตก + อาหารไทยที่โดดเด่นในเรื่องบรรยากาศมาก ๆ ตัวอาหารแม้ว่าจะมีให้เลือกไม่ค่อยเยอะเท่าไรแต่ก็เป็นอาหารที่ผ่านการคัดสรรและกลั่นกรองมาแล้ว ราคาอาหารก็ไม่ค่อยแพงนักเมื่อเทียบกับร้านริมน้ำแบบเดียวกันร้านอื่น ๆ ในละแวกนี้ ใครกำลังมองหาร้านไว้สำหรับสวีทกับคนรู้ใจ หรืออยากหาร้านริมน้ำมาจิบไวน์รับลมยามเย็น ร้านนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจดีนะครับ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร