เอราวัณ ที รูม - ร้านอาหารไทย ร้านชา เอราวัณ พลาซ่า กรุงเทพ รีวิว
Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 4.5/5
Erawan Tea Room - Thai Restaurant and Afternoon Tea Shop on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ถ้าได้ยินชื่อร้านว่า Erawan Tea Room ผมคนนึงล่ะที่คิดว่าร้านนี้เป็นร้านชา, ร้านอาหารทานเล่น, ของหวาน หาใช่ร้านอาหารไทยแบบเต็มรูปแบบไม่ แต่อย่าได้ให้ชื่อร้านนี้มาทำให้เราเข้าใจผิดได้ครับ เพราะจริง ๆ แล้วร้านนี้/ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารไทยเก่าแก่ อายุอานามร่วม ๆ 30 ปีของโรงแรม Erawan ที่แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งอยู่ในโรงแรมแต่ก็อยู่ในการดูแลและบริหารโดยตรงจากทางโรงแรม Erawan ร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณห้าง Erawan Plaza ชั้น 2 ตอนแรกที่ผมมาที่โรงแรมก็แอบงงเหมือนกันว่าร้านอยู่ไหนว่า
ร้าน Erawan Tea Rom นี้ผมสารภาพว่าไม่เคยได้ยินชื่อร้านมาก่อนเลยจนเมื่อไม่นานมานี้ที่หา ๆ ร้านที่โด่งดังเรื่อง Afternoon Tea ถึงได้มารู้จักร้านนี้ได้ บรรยากาศของร้านนี้ถ้าหลงเดินเข้ามาก็คงจะไม่คิดว่าเป็นร้านอาหารไทยสักเท่าไรเพราะว่าจะตกแต่งแนว contemporary อารมณ์ประมาณร้านชาหรู ๆ ส่วนใหญ่ที่ผมเคยไปนั่งดื่มมา มีความเป็นไทยผสมผสานอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้โดดเด่นแบบไทยจ๋าอะไรขนาดนั้น โดยรวม ๆ แล้วบรรยากาสก็สวยงามสมกับที่อยู่ภายใต้การดูแลของโรงแรม Erawan เค้าล่ะครับ
ร้าน Erawan Tea Room แห่งนี้ จากถ้อยคำของพนักงานนั้นก็ได้ความว่าเป็นร้านที่ขายดีมาก ๆ ร้านจะเริ่มเต็มกันตั้งแต่เที่ยง ๆ และก็ลากยาวกันไปจนถึงดึกดื่น เนื่องด้วยอาหารของทางร้านมีให้เลือกหลากหลายหมวดหมู่ตามช่วงเวลา ช่วงเช้าถึงเที่ยงเราจะสามารถสั่ง a la carte menu ทั้งอาหารคาวและของทานเล่นได้ พอตกบ่ายก็จะเป็นช่วงเวลาของ Afternoon Tea และพอช่วงเย็นก็จะเป็นช่วงเวลาของอาหาร a la carte + Thai buffet (หัวละ 720 THB สามารถสั่งอาหารได้ร่วม ๆ 30 อย่าง รวมถึงเครื่องดื่มชาประเภทต่าง ๆ ด้วย) ความหลากหลายของ package อาหารของทางห้องนี้น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้มีลูกค้ามาใช้บริการกันเยอะ แต่กระนั้นสาเหตุหลัก ๆ แล้วผมว่าน่าจะเป็นรสชาติอาหารและความเป็นไทยของอาหารซะมากกว่านะ (ไว้อ่านต่อด้านล่างครับ) ส่วน การบริการของทางร้านนี้ก็สมกับที่เป็นร้านอาหารที่บริหารโดยโรงแรม 5 ดาวชื่อดังบ้านเรา บริการได้ไร้ที่ติมาก ๆ ทั้งความรอบรู้เรื่องเมนูอาหารของทางร้าน, มารยาท, ความเอาใจใส่ลูกค้าเอาไป 5 กะโหลกได้อย่างไม่ยากเย็น
วันนี้ก็ขอแบ่งรีวิวเป็น 2 part ละกันครับ part แรกเป็นอาหารคาวในมื้อนี้ส่วน part 2 เป็นชุด Afternoon Tea อันโด่งดังของทางร้านนี้เค้า
ข้าวเกรียบปากหม้อ (Steamed rice crepes filled with minced pork and peanut - 160 บาท) : นุ่มอร่อย เป็นข้าวเกรียบปากหม้อสไตล์ภาคกลาง ไม่ใช่แบบภาคอีสานที่จะเละ ๆ กว่านี้และก็จะต้องจิ้มน้ำจิ้ม จานนี้สามารถกินเปล่า ๆ ได้เลยหรือจะกินกับพริกสดและผักสดที่ให้มาด้วยก็ฟินไปอีกแบบ ทีเด็ดของจานนี้อยู่ที่ไส้ในที่ใส่หมูสับมาจริง ๆ ไม่ได้ใส่แต่ไชวโป้วมาเหมือนร้านส่วนใหญ่ หรือพูดง่าย ๆ คือ ไส้หมูสับในปัจจุบันแทบจะหากินไม่ได้แล้วนั้นเอง อร่อยครับ
ฉู่ฉี่กุ้ง (River prawns in red curry sauce and coconut cream - 540 บาท) : กุ้งตัวใหญ่บ๊ะเบิ้ม (เบ้อเริ่ม) 3 ตัวเป็นกุ้งแม่น้ำที่ถ้าไปซื้อตาม supermarket ก็คงโลละประมาณ 600 - 700 บาทประมาณนั้น เอาไปทอดมาจนกรอบ ๆ เกรียม ๆ เนื้อกุ้งหดตัวกระดกหางขึ้นมาน่ากินสวยงาม และก็ร้านมาด้วยน้ำฉู่ฉี่รสชาติเยี่ยม หวาน ๆ นัว ๆ ลงตัวเป็นอย่างดี ช่วงหลัง ๆ กินฉู่ฉี่มาหลายร้าน ผมรู้สึกว่าเค้ามักจะทำรสชาติสับสนระหว่างพะแนงกับฉู่ฉี่กันอยู่เหมือนกัน หรือไม่ก็ทำเผ็ดเกินไป แต่ของ Erawan Tea Room แห่งนี้นี่คือลงตัวไร้ที่ติจริง ๆ ครับ
ข้าวผัดเอราวัณ (Fried rice with crabmeat, crab roe and chilli paste - 250 บาท) : จานนี้บอกตรง ๆ ว่าเห็นหน้าตาตอนแรกนี่แอบดูแคลนรสชาติไว้พอสมควรครับ เพราะมันดูเป็นข้าวผัดที่หน้าตาไม่อร่อยอย่างยิ่ง แต่พอได้กินคำแรกแล้ว โอววว เหนือกว่าที่จินตนาการไว้มากเลยครับ รสชาติแบบ เผ็ดนิด ๆ มันหน่อย ๆ ข้าวผัดมาแห้ง ร่วนดีมาก คือทุกทีนี่ไม่ว่าจะข้าวผัดเทพขนาดไหนผมก็จะต้องขอพริกน้ำปลามากินคู่ด้วย แต่กับจานนี้นี่คือมไม่ต้องเลยครับ กินเปล่า ๆ (+ กินกับกับข้าวในมื้อ) ได้จนเกลี้ยงเลย!
ไข่เจียวเนื้อปู (Thai Omelette with Crabmeat - 200 บาท) : ไข่เจียวมาแบบไม่ฟูมาก แต่ทอดมันเจ๋งดีทีเดียวครับ ไม่มีน้ำมันเยิ้ม ๆ มาแบบร้านสมัครเล่นทั่ว ๆ ไป และแม้ว่าไข่เจียวจะไม่ได้ฟูมาก แต่เนื้อสัมผัสแต่ละคำก็นุ่มอร่อยประทับใจดีมากเลย เนื้อปูแอบให้มาน้อยไปหน่อย แต่ก็ไม่เป็นปัญหาครับ เพราะเหมือนรสชาติหลักนั้นทางเชฟต้องการให้กินไข่เจียวเป็นหลัก
สรุปแล้วอาหารคาวของร้าน Erawan Tea Room แห่งนี้ทำได้น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ ครับ ผมไม่ได้กินอาหารไทยที่เป็นไทยแท้ ๆ และรสชาติเยี่ยมแบบนี้มานานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย
Part 2 - Afternoon Tea ตัวชายามบ่ายของร้านนี้จะเปิดให้บริการช่วง 14.30 - 18.00 น. ของทุกวันและสนนราคาจะอยู่ที่ THB 320 net per person เท่านั้น ถูกจนน่าตกใจครับ Afternoon Tea ที่ผมไปเก็บข้อมูลช่วงหลัง ๆ มานี่ส่วนใหญ่หารออกมาแล้วจะอยู่ที่คนละ 500 บาทเป็นอย่างต่ำ และหลาย ๆ ร้านก็ไม่ได้หรูเท่านี้ บริการดีเท่านี้ด้วย ก็แอบประหลาดใจเหมือนกันว่าทางร้านตั้งราคาเท่านี้อยู่ได้อย่างไร อ้อ Afternoon Tea ของ Erawan Tea Room นี่ผมเคยอ่านเจอว่า Lonly Planet เค้าจัดอันดับให้ว่าเป็นหนึ่งใน 7 หรือ หนึ่งใน 10 Afternoon Tea ที่ดีที่สุดในโลกเลยนะครับทำเป็นเล่นไป
ตัวชุดชายามบ่ายของที่นี่จะโดดเด่นตรงที่พวกของหวานและของคาวในชุด หลาย ๆ อย่างจะเป็นอาหารไทยแบบไทยจ๋าเลย ซึ่งเท่าที่ผมเคยกินมาก็เพิ่งจะมีร้านนี้ร้านแรกล่ะมั้งที่ใส่ความเป็นไทยแบบนี้ลงไปในวัฒนธรรมอาหารตะวันตกได้อย่างลงตัวเลย อาหารในชุดก็สามารถแบ่งได้เป็นของคาวและของหวานและก็ชา มาไล่เรียงกันไปเลยละกันครับ
Savouries (ของคาว)
ลาบไก่ทอด (Deep-fried minced chicken with chilli and mint leaves) : เป็นลาบแบบไปทอดมาจนเป็นก้อนกลม ๆ ให้ดูกินง่าย ๆ และคนต่างชาติกินได้ง่ายขึ้น รสชาติลาบดี กรอบนอกนุ่มในดีครับ
หมูปิ้ง (Grilled marinated pork skewer) : หมูปิ้งเป็นส่วนเนื้อติดมัน ไม่มันมาก แต่ก็มีความนุ่มแทรกอยู่ในแต่ละคำที่กินเข้าไป ทางร้านเสิร์ฟน้ำจิ้มแจ่วรสแซ่บมาให้ด้วยก็เลยอร่อยลงตัวดีมาก
ช่อม่วงไส้ปู (Steamed flower-shaped dumpling filled with crabmeat) : ใส่เนื้อปูมาจริง ๆ อร่อย หากินยาก อยากได้อีกสัก 4-5 ก้อนมากเลย
เมี่ยงกระทงทอง (Roasted coconut, lime, chilli and ginger with betel leaves in crispy basket) : ทุกทีกินกระทงทองจะมีแต่แบบเป็นแป้งทอด อันนี้มาเป็นใบพลูทอด เจ๋งและแนวดี ส่วนไส้กระทงทอง ก็อร่อยโอเคดีครับ
ม้าฮ่อ (Minced pork and peanuts on fresh pineapple) : อาหารโบราณหากินยากอีกอย่าง ผมไม่ค่อยคุ้นเคยสักเท่าไร แอบรู้สึกว่ามันน่าจะเป็นของหวานมากกว่า กินแล้วไม่ได้ติดใจอะไรมากครับ
กะหรี่พัฟไส้ไก่ (Thai style chicken curry puff) : กะหรี่พัฟมาตรฐาน ไส้ไม่เยิ้มมาก แป้งกรอบกำลังดี ลงตัวครับ
Desserts (ของหวาน)
ผลไม้รวม (Seasonal fresh fruit skewer) : มาเป็นแบบหั่นเป็นลูกเต๋าเสียบไม้มา อร่อย หวาน กินง่าย สวยงาม
ข้าวเหนียวมะม่วง (Mango with sticky rice) : อร่อย ลงตัว ไม่รู้จะติยังไง มะม่วงหวานฉ่ำ ข้าวเหนียวนุ่ม น้ำกะทิหอม เสียดายให้มาน้อยไปหน่อย
ขนมครก (Crispy rice pudding with taro, corn, pumpkin or spring onion) : อันนี้ผมชอบมาก ๆ ครับ ไม่ได้กินขนมครกอร่อยแบบนี้มานานมากแล้ว (ตอนแรกเห็นที่วางทับกันมานึกว่าเป็น Scone ฮ่า ๆ)
ลูกชุบ (Sweet bean paste fruit shapes) : อันนี้มาตรฐาน
ทองม้วน (Crispy sesame roll) : อร่อยโดดเด่นกว่าที่อื่น ๆ อีกเช่นกันครับ หรือพูดง่าย ๆ คือน่าจะเป็นหนึ่งในทองม้วนที่อร่อยที่สุดที่ผมเคยกินมาเลย
Mini soft chocolate cake : Chocolate dark ดีมาก ตัวเค้กก็นุ่มสมชื่อ โชคดีที่ผมแบบกัดคำเล็ก ๆ ไม่ได้เอาเข้าไปรวดเดียวเลยได้ความนุ่มของแต่ละคำที่กัดเข้าไปดี
Mini passion fruit tart : อันนี้ค่อนข้างธรรมดา เสาวรสยังไม่เด่นมาก แป้ง tart ก็แข็งไปหน่อยน่าจะนุ่มกว่านี้
Scones with whipped cream and Chiang Mai strawberry Jam : ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ กับสโคนใน Afternoon Tea ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากครับกับของหวานฝรั่งชิ้นนี้ ไม่รู้ว่าเพราะว่าของหวานไทย ๆ ทำได้อร่อยกว่าโดดเด่นกว่ารึเปล่าก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ กินแล้วรู้สึกหงอย ๆ ไปเลย
Selection of coffee or tea
ชาดอกอัญชัน (Thai Butterfly Pea Flowers - 140 บาท) : หอม หวาน อร่อยดี ไม่ได้หวานมาก เหมือนจะให้เน้นดื่มด่ำความหอมมากกว่า
ชากระเจี๊ยบ (Roselle Fruit Tea - 140 บาท) : เป็นชาที่เจ๋งมากครับ ทุกทีนี่ผมเคยกินแต่น้ำกระเจี๊ยบแบบเย็น ๆ แต่อันนี้คือมาร้อน ๆ สีแดงเลือดนก และรสชาติเปรี้ยว ๆ สวยงามและอร่อยลงตัวในแก้วเดียวกัน
สรุป มื้อนี้ประทับใจมากครับ เสียดายจริง ๆ ที่เพิ่งมารู้จักร้านนี้เมื่อไม่นานมานี่เอง (ก็นะตั้งชื่อร้านซะแบบผมไม่นึกว่าเป็นร้านอาหารไทยซะขนาดนี้) ร้าน Erawan Tea Room แห่งนี้ถ้าใครจะมาลิ้มลองก็แนะนำให้จองโต๊ะกันก่อนนะครับ เพราะว่าทางร้านบอกว่าคนเต็มแทบทุกวัน โดยเฉพาะช่วง Afternoon Tea ที่ลูกค้าต่อคิวกันยาวไปถึง skywalk กันเลยทีเดียว ใครอยากจะมาลองอาหารไทยแท้ ๆ รสชาติเยี่ยม ท่ามกลางการบริกาแบบดีเลิศไร้ที่ติ ในราคาที่คุ้มซะเหลือเกินขนาดนี้ มาลองกันได้เลยครับ ผมเองก็จะมาอีกหลาย ๆ รอบเลย ผมรักอาหารไทย (อร่อย ๆ)
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment