บูโอโน่ บิสโทร - ร้านอาหารอิตาเลียน เดอะ พรอมมานาด รามอินทรา พิซซ่า พาสต้า
Overall Score 7.5/10
Taste 3.5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 3.5/5
Buono Bistro - Italian Restaurant on BumRes (For more pictures and menu)
ร้าน Buono Bistro แห่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารไร้ Franchise ณ ห้าง The Promenade - รามอินทรา แม้ว่าร้านจะตั้งชื่อว่า Bistro ซึ่งจริง ๆ แล้วความหมายของมันคือร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารง่าย ๆ ราคาจับต้องได้ และบรรยากาศร้านไม่ได้หรูหราอะไรมากนัก แต่เอาจริง ๆ แล้วร้านนี้ควรจะตั้งตัวเองว่า Restaurant หรือ Fine Dining น่าจะเหมาะสมกว่า จากความใหญ่โตของร้านและความสวยงามและอลังการจากการตกแต่งร้านที่จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วน My Lady Hall ที่จะตกแต่งแนวเอาใจคุณผู้หญิง (และเป็นโซนที่ผมได้นั่งกินในมื้อนี้) และส่วน My Lord Hall ที่จะตกแต่งแนวเอาใจคุณผู้ชายด้วยโทนสีเทาดำ และมีขวดไวน์ตกแต่งเรียงรายให้คุณผู้ชายไปเลือกดู เลือกสั่งได้ตามสบาย
ตัวร้าน Buono Bistro @ The Promenade นั้นนอกจากจะตกแต่งหรูหราเกินคำว่า Bistro แล้ว (ร้าน Bistro ส่วนใหญ่ในบ้านเราก็เป็นประมาณนี้ครับ หรูเกิน Bistro แต่ไม่รู้ทำไมถึงตั้งชื่อแบบนี้กัน หรือว่าการที่มากินอาหารมื้อละประมาณ 500 - 1000 บาทสำหรับคนไทยมันเป็นอาหารแบบจ่ายง่าย ๆ สบายมือกันนี่?) พนักงานของทางร้านก็แต่งตัวและบริการเกินคำว่า Bistro อีกเช่นกัน พนักงานของทางร้านนั้นเนี้ยบและดูดี บริการดีใส่ใจลูกค้าเป็นที่สุด และนอกจากความครบครันของทางร้านที่มี Wine Cellar ขนาดใหญ่ยักษ์แล้วทางร้านยังมีเตาอบพิซซ่าของทางร้านเองไว้อบพิซซ่ากันจริง ๆ ไม่อิงนิยาย ไม่ได้อุ่นไม่โครเวฟ หรืออบเตาบ้าน ๆ เหมือนร้านอาหารอิตาเลียนที่เป็น Restaurant บางร้านด้วยซ้ำไป
อาหารของทางร้าน Buono Bistro แห่งนี้ก็ตามชื่อเลยคือเป็นอาหารอิตาเลียน สิ่งนึงที่ทำให้ผมแอบประหลาดใจเมื่อพลิกดูเมนูเล่มหนาของทางร้านคือ "รายการอาหารจะมีเยอะไปไหน?" อาหารของทางร้านนี้มีเยอะจริง ๆ ครับ เยอะแบบเกินความคาดหมาย หรืออาจจะเรียกได้ว่าเยอะที่สุดในร้านอาหารอิตาเลียนระดับนี้ที่เคยเจอมาเลยก็ได้อย่าง Pasta ก็มีซัดไป 30 กว่าแบบ (ทางร้านทำเส้นเองหมด Homemade เองหมดเส้นก็เลยจะสดหน่อย) , พิซซ่าอีก 30 กว่าแบบ ยังไม่รวม Salad, Appetizer และ Main Course อีกอย่างละ 10 กว่ารายการ โอวพระเจ้า อาหารรวม ๆ กันของร้านนี้มีให้เลือกร่วม ๆ 100 กว่าชนิดเลยก็ว่าได้ครับ (มีท่านไหนเคยเจอร้านอิตาเลียนที่รายการอาหารเยอะขนาดนี้มั้ยครับ?) ส่วนราคาอาหารนั้นก็อยู่ในระดับมาตรฐานทั่ว ๆ ไปคือพวก Pizza, Pasta, Appetizer ก็ 200 - 300 บาท ส่วน Main Course ก็ 500 - 1000 บาทโดยประมาณ ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกันนะครับว่าอาหารอิตาเลียนในบ้านเราต้องตั้งราคากันโหด ๆ แบบนี้ ไม่ว่าจะร้านในเมือง, นอกเมือง, บ้าน ๆ ส่วนใหญ่ก็จะตั้งราคาเท่า ๆ นี้กันทั้งนั้น ราคามันเป็นมาตรฐานซะจน ถ้าเข้าร้านอาหารอิตาเลียนแล้วเจอพาสต้าจานละ 100 กว่าบาทนี่ก็กลายเป็นอาหารโคตรถูกไปเลย
มื้อนี้เริ่มต้นด้วย ซุปผักโขม (Spinach soup - 150 บาท) ซุปที่ไม่ค่อยพบเจอและมีขายเท่าไร หน้าตาของซุปนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นโคตรผักโขมจริง ๆ ครับเพราะแบบเขียวอื๋อ เขียวแบบเขียวจริง ๆ และก็มีใส่โฟมอะไรขาว ๆ มาด้วยเพิ่มความน่ากินขึ้นมาหน่อยไม่ให้เขียวเกินไป ส่วนรสชาตินั้นก็เป็นรสชาติแบบผัก ๆ จริง ๆ ครับ กินแล้วมาเต็มทั้งกลิ่นและรสของผัก ก็เป็นซุปที่แปลกและหากินไม่ค่อยได้ เปลี่ยนบรรยากาศจากซุปทั่ว ๆ ไปดีครับ
อาหารอย่างที่ 2 เป็น สลัดผักย่าง (Grilled vegetable salad - 180 บาท) จานนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจานที่แปลกกว่าร้านอื่น ๆ คือส่วนใหญ่จะไม่ค่อยเห็นมีเอาผักย่างมาทำเป็นสลัดแบบเอาผักย่างเป็นตัวชูโรงกันสักเท่าไร ซึ่งจานนี้ก็มาแบบ ผั๊ก ผักอีกแล้วครับ มีพริกหยวก, Zucchini และก็แครอท, เห็ดและหน่อไม้ฝรั่ง และก็ย่างมาแบบกำลังเกือบสุก ไม่ได้ย่างมาจนไหม้ พอดีผมเป็นคนชอบกินผักอยู่แล้วจานนี้ก็เลยกินได้สบาย ๆ ผักสดและหวานดี ไม่ต้องมีน้ำสลัด ใช้แค่ balsamic ที่ราด ๆ มาเล็กน้อยเป็นสิ่งแต่งรสก็พอ (จานนี้เพื่อนผมที่ไปด้วยอีก 2 คนไม่ค่อยชอบกัน สงสัยเป็นน้องเนย รักษ์โลกกัน)
Buono cheese deep-fried (Pecorino cheese, mozzarella cheese - 180 บาท) เป็นอาหารจานที่ 3 และเป็นอาหารอีก 1 จานที่แบบโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์มาก บอกตรง ๆ ว่าผมไม่เคยเห็นหรือเคยกินอะไรแบบนี้ หรือแม้แต่ใกล้เคียงอะไรแบบนี้มาก่อนเลย จานนี้มันคือชีสเอาไปยัดไส้ในแป้งทำหน้าตามาเหมือนกะหรี่ปั๊ฟยักษ์ ซึ่งการกินแต่ละคำก็คือการเล่นยางยืดกับชีสเหนียว ๆ ข้น ๆ ยืด ๆ ที่เป็นไส้ในแป้ง จานนี้เจ๋งดีครับเมื่อกินคำแรก ๆ แปลกและอร่อยดี แต่เนื่องจากมันมาแบบชิ้นใหญ่ และมีแต่ชีสกับแป้งเป็นองค์ประกอบ กิน ๆ ไป กิน ๆ มาคำหลัง ๆ ก็เลยเริ่มเลี่ยนขึ้นมา จานนี้เหมาะแก่การไปกินการหลาย ๆ คนและกินกันคนละไม่กี่คำครับจะเจ๋งมาก ๆ เลย
อาหารอย่างที่ 4 เป็น เส้นสปาเก็ตตี้กับซอสมะเขือเทศเนื้อสับ (Spaghetti with minced mixed meat & tomato sauce - 240 บาท) จานนี้ก็เป็นพาสต้า basic ที่มีให้กินกันแทบจะทุกร้าน ทั้งร้านอาหารอิตาเลียน หรือไลน์บุฟเฟ่ต์นานาชาติก็ตาม (จะยกเว้นกับพวกร้านที่ creative จ๋า ไม่มีพาสต้าเบสิค ๆ แบบนี้เท่านั้นล่ะมั้งที่ไม่มีขาย) จานนี้ก็รสชาติมาตรฐานครับ แต่เป็นมาตรฐานแบบอร่อย แบบที่ควรจะคาดหวังกับสปาเก็ตตี้เนื้อสับสักจานนึง ไม่ใช่แบบพาสต้าเนื้อสับเฮงซวยตามไลน์บุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่ หรือตามร้านอาหารไทยแต่อยากมีพาสต้าประดับเมนูและมีเมนูนี้ขายอะไรพวกนั้น
อาหารอย่างที่ 5 เป็น เส้นฟูซิลี่กับเนื้อปูซอสไวน์ขาวและมะเขือเทศสด (Fusilli pasta with crab meat white wine sauce & fresh tomato - 280 บาท) เจ้าเส้น Fusilli นี่ปกติผมก็ไม่ค่อยจะเห็นร้านไหนมีขายกันสักเท่าไร ไม่รู้เพราะเป็นเส้นที่ไม่มี supplier ส่งหรือว่าอย่างไร แต่เนื้อจากทางร้าน Buono Bistro - The Promenade แห่งนี้มีเครื่องทำเส้นเอง เส้นอะไรแปลก ๆ แนว ๆ ร้านนี้ก็เลยค่อนข้างจะมีครบรวมถึงเส้นประเภทนี้ด้วย จานนี้ผมกินแล้วมันไม่ค่อยโดนเท่าไร เหมือนกับแบบมันมาแห้งไป และรสชาติก็ไม่มีอะไรเด่นเลย มันแบบ ผัก ๆ แป้ง ๆ และก็มีเนื้อปูมาให้ รสชาติในจานมันไม่ผสมผสาน ชูรสกันไปมาให้อร่อยสักเท่าไรครับ
อาหารอย่างที่ 6 เป็น เนื้อแก้มลูกวัวกับซอสไวน์แดงเสิร์ฟกับเส้นพาสต้า (Braised beef cheek in red wine sauce served with homemade fettuccine pasta - 750 บาท) Main Course 1 เดียวในมื้อนี้ จานนี้ก็อร่อยดีครับ ตัวเนื้อตุ๋นมาจนนุ่ม ยุ่ย อร่อย และซอสที่ปรุงรสมาก็ไม่ได้เค็มไปแบบร้านส่วนใหญ่ที่มักจะทำเค็มเกินไปมากัน และเมื่อกินกับเส้น fettuccine แบบ homemade ที่เสิร์ฟมาด้วยกัน มันก็เหมือนกับการกินก๋วยเตี๋ยวแห้ง, พาสต้าแห้ง ๆ เป็นอีก 1 feel สำหรับจานนี้ คือกินเปล่า ๆ เนื้ออย่างเดียวก็ได้ หรือกินเป็น combo เนื้อกับเส้นก็ได้ เจ๋งดีครับ
อาหารจานสุดท้ายเป็น พิซซ่า ซอสโหระพาอิตาเลียน มอสซาเรลล่าชีสและกุ้ง (Pesto sauce, mozzarella cheese, prawns pizza - 320 บาท) จานนี้เป็นพิซซ่าที่ดูหน้าตาบ้าน ๆ ไม่ได้เน้นตกแต่งหน้าตาให้อลังการหรือดูน่ากินอะไรมาก กับราคา 320 บาท ได้พิซซ๋าถาดประมาณ 8" (ประมาณถาดกลางของพิซซ่าที่มีส่งตามบ้าน) ก็เรียกได้ว่าเป็นราคาที่ค่อนข้างจะคุ้ม เพราะบางร้านราคา 300++ บาทเท่านี้แต่มาถาดเล็กกว่านี้ซะอีก และยิ่งมีกุ้งแบบกุ้งจริง ๆ กุ้งเป็นตัว ๆ วางเรียงรายมาบนหน้าพิซซ่าแล้วอีก ราคาเท่านี้ก็เลยยิ่งคุ้มขึ้นไปอีก (สำหรับผม) เพราะส่วนใหญ่ กุ้งบนพิซซ่ามักจะเป็นกุ้งแห้งยักษ์ หรือกุ้งไซส์เล็ก ๆ แค่นั้น รสชาติจานนี้อร่อยมากครับ พิซซ่ามาแบบบางกรอบ กรอบไปหมดทั้งแผ่น ตัวหน้าพิซซ่าก็รสชาติลงตัวดี และกุ้งก็สดดีด้วยครับ เพื่อนผม 2 คนที่ไปด้วยกันก็ค่อนข้างชอบกันมากเลยเช่นกัน
ร้าน Buono Bistro แห่งนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าร้านเค้าเลือกทำเลผิดรึเปล่าที่มาตั้งอยู่ที่ห้าง The Promenade - รามอินทราแห่งนี้ เพราะว่าจากบรรยากาศร้านและอาหารของทางร้านแล้ว ร้านน่าจะไปตั้งแบบ Standalone หรือไม่ก็ตามห้างในเมืองมากกว่านี้น่าจะเหมาะสมกว่า เพราะแบบผมเห็นแต่ละร้านที่อยู่ในห้างนี้แล้ว มีแต่ร้านระดับต่ำกว่าร้านนี้ทั้งนั้น ร้านนี้ก็เลยกลายเป็นร้านแพง ร้านเกินจับต้องได้ประจำห้างนี้ไปโดยปริยาย แต่สำหรับในย่านรามอินทราแล้ว ถ้าจะหาร้าน Italian fine-dining ก็คงจะไม่ค่อยมีกันสักเท่าไร ถ้าถามผม ผมก็นึกไม่ออกสักกะร้าน ซึ่งถ้าใครบ้านอยู่แถวนี้ อยากกินอาหารอิตาเลียนดี ๆ และไม่ต้องเดินทางไกลก็มาจัดร้านนี้กันได้ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment