BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย

BumRes iOS App แอพค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุดในไทย
BumRes App V2

Saturday, September 21, 2013

Tsuki Sushi and Suki Review

Tsuki - Sushi and Suki - Japanese Restaurant Review

ซึกิ - ซูชิ แอนด์ สุกี้ยากี้ - ร้านอาหารญี่ปุ่น ทองหล่อ ปลาดิบ ซาซิมิ รีวิว




Overall Score  9/10
Taste   5/5
Ambiance  4/5
Service  4/5
Value   4/5

Tsuki - Sushi and Suki - Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)



แม้ว่าร้านซูชิทั้งแบบ sushi bar หรือ premium or non-premium Japanese restaurant ในทองหล่อจะมีกันค่อนข้างเยอะร้านจนถ้าให้มานั่งนับ นั่งไล่กันก็คงจะไล่กันได้ไม่หมดแล้วก็ตาม แต่ร้านซูชิที่มีการนำ Sukiyaki มาขายพ่วงด้วย และทำให้ทั้งสองอย่างเด่นเท่า ๆ กัน นั้นเท่าที่ผมนึกออก ยังไม่มีร้านแบบที่ว่านี้ที่ไหนเลย ไม่ว่าจะทองหล่อ, กรุงเทพ หรือที่ญี่ปุ่นเองก็ตาม (โอเคที่ญี่ปุ่นอาจจะมีแหละ แต่เท่าที่เคยรู้จักหรือเดินผ่านแค่ยังไม่เคยเห็นน่ะครับ) ร้านที่ว่านั้นก็คือร้าน Tsuki - Sushi and Suki ที่ตั้งตัวเองอยู่บริเวณปากซอยทองหล่อ 17 ใกล้ ๆ กันกับร้านห้องแถวแต่ตกแต่งร้านได้ดูดี ๆ หลาย ๆ ร้านในเวิ้งนี้ ซึ่งร้าน Tsuki แห่งนี้ก็เป็นร้านห้องแถวที่มีการดัดแปลงตัวเองเป็นร้าน Sushi and Sukiyaki ที่ดูดีมาก ๆ โดยร้านจะมีอยู่ 2 ชั้น ชั้นล่างจะเป็น Sushi Bar ขนาดกลาง ๆ มีที่นั่งประมาณ 6 ที่นั่ง ส่วนชั้นบนนั้นจะเป็นส่วนที่นั่งหลักของทางร้าน ซึ่งจะมีโต๊ะประมาณ 8 โต๊ะ รองรับลูกค้าได้ประมาณ 30 คน และถ้าอยากจะกินซูชิและสุกี้ยากี้พร้อมกันนั้น ก็ต้องเลือกนั่งได้แค่ที่ชั้น 2 แห่งนี้เท่านั้นครับเพราะจะมีโต๊ะที่มีเตาไฟฟ้าอยู่ แต่ที่ชั้น 1 เนื่องจากเป็นครัวเย็นด้วยเป็น Sushi Bar ด้วยก็เลยไม่มีเตาไฟฟ้านั่นเอง

คำว่า Tsuki นั้นย่อมาจากคำว่า Thonglor Suki ซึ่งสาเหตุที่มีการนำคำว่า Suki มาตั้งให้โดดเด่นกว่าซูชินั้น ผมไม่แน่ใจว่าเพราะตัวเจ้าของร้านนั้นเคยเป็นร้านสุกี้หม้อไฟสไตล์ไต้หวันนามว่า Zuki Zuki มาก่อนรึเปล่า ก็เลยแบบอยากให้มีการคล้องเสียงกันแบบกลาย ๆ ซึ่งจากประสบการณ์การเปิดร้านหม้อไฟมาก่อน เราก็สามารถเชื่อขนมกินได้ว่าอาหารหม้อไฟ หรือ ชาบู ๆ ของที่นี่ต้องอร่อยไม่ผิดหวังแน่นอน แต่คือ ตัว Sushi นั้นทางร้านก็หาได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันไม่ครับ เท่าที่ได้กินในมื้อนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าถ้าจะมาร้านนี้อีกรอบนี่คงรักพี่เสียดายน้องเลยล่ะ






ปลาของทางร้านนี้จะนำเข้าแทบทุกวัน และใช้ supplier เดียวกันกับร้านอาหารญี่ปุ่น premium หลาย ๆ ร้านในย่านทองหล่อ ทำให้ไม่ต้องกังวลเลยว่าปลาจะไม่สด, ของแพง ๆ , ของหายากนั้นร้านนี้จะหามาไม่ได้ เพราะว่าร้านนี้ถ้าเอาจริง ๆ คือเหมือนยก Sushi Bar ร้านแพง ๆ ในทองหล่อนี้มาทั้งกระบิเลยล่ะครับ Otoro, Uni, Akagai, Botan Ebi ฯลฯ มีให้สั่งมีให้ลิ้มลองกันครบหมด และตัวเชฟของที่ร้านนี้นี่ก็ใช่ย่อยครับ เพราะเคยเป็นมือขวาของเชฟที่เคยเป็นอาจารย์ของเชฟบุญธรรม เชฟกระทะเหล็กเจ้าของร้าน Honmono Sushi มาก่อน ตัวอาหารของร้านนี้ตามเมนูก็จะแบ่งได้เป็น Sushi & Sashimi กับ Sukiyaki อย่างละครึ่งนึง และถ้ามารับประทานร้านนี้ตอนเที่ยงเราก็สามารถสั่ง set lunch ที่จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าให้เราได้อีกพอสมควรเลย

อาหารในมื้อนี้ก็จะมี 2 หมวดครับ ตามสไตล์อาหารของร้านนี้เลย ก็ไล่เรียงกันไปละกันนะครับ

- Set lunch seafood (ชุดทะเล - อาหารทะเลสดประจำวัน, ผักรวม, วุ้นเส้น, ของหวาน, ชาเขียวร้อน-เย็น - 550 บาท) - เนื้อวัว, ผักรวม, วุ้นเส้น, ของหวาน, ชาเขียวร้อน-เย็น - 300 บาท) : ตัว set lunch sukiyaki (จริง ๆ น่าจะเรียกว่า shabu shabu น่าจะเหมาะสมกว่า แต่เหมือนกับว่าทางร้านนี้จะเรียกตามแบบไต้หวันเพราะว่าหม้อไฟของที่นี่เป็นสไตล์ไต้หวันครับ) นั้นจะประกอบด้วย ตัวอาหารเนื้อหนังมังสา เคียงคู่กันไปกับผักชุดนึง ตัวผักนั้นก็ให้มาแบบสวยงาม และหลากหลาย น่ากินดีครับ มีทั้ง ปวยเล้ง, เห็ดออรินจิ, แครอท, มะเขือเทศ, เห็ดเอรินงิ, ผักกาดขาว ฯลฯ คือเหมือนเป็นชุดผักชุดใหญ่ตามพวกร้านสุกี้ยากี้บ้านเราเลย ส่วนตัวเนื้อนั้นก็จะแล้วแต่เราเลือก ส่วนตัว set seafood นี้ก็เรียกได้ว่าเป็น premium seafood มากเลยครับ ประกอบด้วย กุ้งแชบ๊วยตัวกลาง ๆ , ปลาหมึกกล้วยตัวใหญ่เบ้อเริ่ม และหอยเชลล์, หอยตลับ คือแบบเป็น set seafood แบบ premium จริง ๆ ไม่เหมือนพวกร้านสุกี้ส่วนใหญ่ที่เคยเจอที่จะมีพวกอาหารทะเลตัวค่อนข้างเล็ก






ตัวน้ำซุปของร้าน Tsuki - Sushi and Suki ร้านนี้จะออกแนวเป็นน้ำซุปไต้หวันครับ รสชาติจะเบา ๆ หรือคือไม่ค่อยมีรสชาติสักเท่าไรนั่นเองเพราะว่าสุกี้สไตล์นี้จะเน้นให้เราไปปรุงน้ำจิ้มกันเองและเอารสชาติจากน้ำจิ้มแทน ตัวน้ำจิ้มนั้นก็จะมีกระเทียม, พริกสับ, หัวหอมซอย, พริกเผา ให้เติมกันจนกว่าเราจะได้รสที่ถูกใจ พร้อมกันนั้นยังมีน้ำจิ้มธรรมดากับน้ำจิ้มงาด้วย คือแบบ กินกันได้หลากหลายรสชาติครับ เพลิน ๆ เลย

ตัว seafood ใน set นี้คือแบบสดอร่อยหมดครับ กินแล้วประทับใจเลยล่ะโดยเฉพาะปลาหมึกนี่ผมชอบเป็นพิเศษเลย

- Set lunch beef (ชุดเนื้อ - เนื้อวัว, ผักรวม, วุ้นเส้น, ของหวาน, ชาเขียวร้อน-เย็น - 300 บาท) : ตัวเนื้อของทางร้านผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใช้เนื้อของที่ไหนแต่ เนื้อที่ได้นี่คือมาลายสวยงามมาก ไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อนสวยงามเลย ตัวเนื้อแล่มาบาง ๆ ตามสไตล์ให้กินแบบ shabu shabu , sukiyaki แต่ก็ไม่ได้บางจ๋อยจนเกินไป เนื้อเอาไปโบก ๆ ในหม้อประมาณสัก 4-5 วินาทีพอให้สุกแล้วก็เอาไปจิ้มน้ำจิ้มอันแสนจะหลากหลาย สับเปลี่ยนรสชาติไปเรื่อย ๆ ก็ ฟิน แฟง ฟัง กันได้สบาย ๆ ครับ







- เนื้อแกะ (250 บาท) : เนื่องจากเห็นว่าทางร้านมีเนื้อแกะก็เลยสั่งมาลองกันเพิ่มครับ เนื้อแกะมาสไตล์คล้าย ๆ เนื้อวัว แล่มาบางพอ ๆ กัน, เนื้อชิ้นใหญ่พอ ๆ กัน แต่ลายไขมันไม่ได้สวยงามเท่า ความอร่อยนี่บอกไม่ถูกเหมือนกันครับว่าทำไมมันถึงอร่อยพอ ๆ กับเนื้อวัวเลย เนื้อไม่เหม็น กินกันได้เพลิน ๆ เลย





- ลูกชิ้นต่าง ๆ (ลูกชิ้นกุ้ง, ลูกชิ้นหมูเด้ง, ลูกชิ้นปลาหมึก จานละ 55 บาท) : ลูกชิ้นของร้านนี้มีให้เลือกค่อนข้างเยอะครับทั้ง ลูกชิ้นปลาหมึก, ลูกชิ้นกุ้ง, ลูกชิ้นปลา ซึ่งทั้งหมดก็อร่อยได้มาตรฐานหมดเลย

ส่วน Sushi กับ roll  ในมื้อนี้ก็มีประมาณ 8 อย่างครับ





- Salmon Avocado Roll (400 บาท) : อร่อยดีครับ นุ่มไปทั้งคำทั้ง salmon, avocado และไส้ในที่เป็นปลาทูน่าผสมมากับ avocado และซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน

- Foie Gras (ตับห่าน - 350 บาท): ชิ้นโต คำใหญ่มาก อร่อย กินเข้าไปนี่คือละลายในปาก ทางเชฟ sear มากำลังดีมากครับ โอย ฟิน

- Aburi Salmon (แซลมอน - 90 บาท) : หรือ แซลมอนย่าง อร่อยได้มาตรฐาน

- Hamachi (ปลาฮามาจิ - 160 บาท): ทางร้านเลือกเอาส่วนท้องมาให้ครับ ซึ่งท้องฮามาจินี่มันจะเนื้อเด้ง ๆ มัน ๆ ไม่เหมือนท้องปลาอื่น ๆ ที่มันจะนุ่ม ๆ ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ไม่เหมือนกับกินท้องปลาชนิดอื่นดีครับ (ผมเคยกินมา 3-4 ครั้งมั้งชีวิตนี้)

- Botan Ebi (300 บาท): กุ้งโบตั๋นตัวใหญ่ เนื้อเหนียว ๆ หนึบ ๆ หวาน ๆ ตามสไตล์ ตัวหัวกุ้งนี่ผมก็เอามาดูดมันกุ้งอร่อยเพลินเลย






- Hotate (80 บาท) :  คำนี้ไม่ถึงกับ aburi หรือเผาไฟมามากเท่าไร เหมือนจะเผามานิด ๆ ให้พอเกรียม ๆ ซึ่งเจ้า hotate เวลาที่ทำอะไรมาพอดี ๆ แบบนี้แล้วมันจะอร่อยเป็นพิเศษครับ คำนี้ก็ไม่แตกต่างกันเช่นกัน

- Hokkigai (หอยปีกนก 90 บาท) : หอยปีกนก มาตรฐานไม่มีอะไรมาก

- Toro Tekka Maki (ข้าวห่อสาหร่ายไส้ทูน่าชั้นดี - 600 บาท) : ข้าวปั้นไส้ทูน่านี่ผมไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าเป็น tekka maki ได้รึเปล่า เพราะตัวเนื้อปลาทูน่ามันใหญ่มาก และงอกเงยออกมาจากไส้ในไม่เหมือน tekka maki ทั่ว ๆ ไป ผม กับเพื่อนตัวอ้วน นี่บอกตรง ๆ เป็นคนที่ไม่ค่อยพิศมัยพวก maki สักเท่าไร แต่หลัง ๆ ก็รู้สึกว่าได้กิน maki ที่อร่อยดีบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ ครับ คำนี้ก็เช่นเดียวกัน อร่อยดีเลยล่ะ

อืม สรุป มื้อจัดค่อนข้างหนักทั้ง Sushi และ Sukiyaki (shabu shabu) ณ ร้าน Tsuki - Sushi and Suki บริเวณปากซอยทองหล่อ 17 แห่งนี้นี่ค่อนข้างประทับใจมากเลยครับ อาหารทั้ง 2 หมวดนี้เรียกได้ว่าทำมาได้อยู่ในระดับต้น ๆ ของทั้งร้าน sushi หรือร้าน shabu shabu ที่ผมเคยกินมาเลย อืม ต่อไปถ้ารู้สึกรักพี่เสียดายน้องอยากกินอาหารประเภทนี้ทั้ง 2 อย่างในมื้อนึงผมก็คงจะนึกถึงร้านนี้ล่ะครับ หรือบางที แม้แค่อยากจะกินซูชิ หรือสุกี้ยากี้ ดี ๆ อย่างใดอย่างนึงเผลอ ๆ ก็อาจจะนึกถึงร้านนี้ด้วยซ้ำล่ะครับ




--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร

No comments:

Post a Comment

LinkWithin

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...