Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 3.5/5
The Australian Pub and BBQ - Pub & Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ในซอยสุขุมวิท 11 ซอยอันแสนจะครึกครื้น สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านอาหารมากมาย และสองข้างถนนเต็มไปด้วยผู้คนทั้งชาวไทย, ชาวต่างชาติ, นักท่องเที่ยว, ตุ๊ก ๆ, วินมอเตอร์ไซด์ ซอยนี้ ก็เรียกได้ว่าน่าจะเป็นหนึ่งในซอยที่ครึกครื้นที่สุดในกรุงเทพก็ว่าได้ครับ ร้านอาหารที่เรียงรายอยู่สองข้างทางนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งสัญชาติและประเภทไม่แพ้กับความหลากหลายทางด้านเชื้อชาติของผู้คนในซอยนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งร้านที่เราจะรีวิวในครั้งนี้ก็มีนามว่า The Australian Pub and Restaurant ร้านแนวผับแท้ ๆ จากออสเตรเลีย
ถ้าใครที่คุ้นเคยกับ Pub & Restaurant ของชาว Irish หรือของชาวอเมริกันในบ้านเรา ก็ไม่น่าจะยากที่จะนึกภาพบรรยากาศของร้าน The Australian แห่งนี้ได้ ร้านนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่ง typical pub & restaurant ของชาวต่างชาติก็คงไม่ผิดนัก ด้วยตัวร้านขนาดใหญ่ และที่นั่งทั้งแบบ open-air พร้อมบาร์ขนาดใหญ่ที่ลากยาวไปจนถึงที่นั่งติดแอร์ด้านใน , เด็กเสิร์ฟที่ใส่ชุดฟอร์มสีเหลืองเขียวซึ่งเป็นสีประจำชาติของประเทศออสเตรเลียพร้อมชุดฟอร์มที่คล้าย ๆ เชียร์ลีดเดอร์ฝรั่งที่น่ารักเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร, ลูกค้าของร้านที่ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติมานั่งทอดอารมณ์กันในยามบ่ายอันแสนจะยุ่งเหยิงของวันทำงาน หรือจัดเต็มกันกับอาหารมื้อหนักๆ สักมื้อนึง ใช่ครับ คือแบบเดินเข้าร้านนี้มาแล้วบรรยากาศ, feeling ของ pub & restaurant ต่างชาตินี่มันเป็นอะไรที่ใช่เลยจริง ๆ
ร้าน The Australian แห่งนี้เปิดทำการกันตั้งแต่เช้ากันไปจนถึงดึกดื่น ทำให้อาหารของทางร้านนี้มีค่อนข้างจะครอบคลุมและหลากหลายมาก มีทั้งอาหารเช้าแบบฝรั่ง, อาหารคาวแบบฝรั่ง, ของกินเล่นแบบฝรั่ง หรือแม้แต่อาหารไทยก็มี ซึ่งจุดนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมนูอาหารในร้านแนว ๆ นี้ที่จะมีให้เราเลือกสั่งกันแบบหลากหลาย แล้วแต่วาระโอกาสกันจริง ๆ เครื่องดื่มของร้านนี้ก็แน่นอนว่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มีให้เลือกแบบครบครันสมกับการเป็น pub & restaurant จริง ๆ เบียร์สด, วิสกี้, วอดก้า, cocktail หรือ you-name-it alochol drinks ที่ร้านนี้มีหมด และทั้งอาหารและเครื่องดื่มนั้นก็มาพร้อมกับราคาที่ไม่ค่อยแพงเท่าไร เรียกได้ว่าเป็นราคามาตรฐานก็ว่าได้ 200 - 300 บาทต่อจานและต่อเครื่องดื่มแก้วใหญ่ ๆ 1 แก้วโดยประมาณ แต่คือตัวอาหารนี่ผมไม่อยากให้ตัวเลขราคามาตรฐานนี่มาทำให้เข้าใจผิดเลย เพราะกับราคาเท่านี้ เราจะได้ปริมาณอาหารที่ "เยอะ" กว่าร้าน แนวนั่งดื่มทั้งสัญชาติไทย, ลูกครึ่งเทศ อื่น ๆ ในไทยแบบค่อนข้างชัดเจนเลย ครับนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของร้านแนว pub & restaurant ต่างชาติแท้ ๆ ในเมืองไทยเราอีกเช่นกัน
และถ้าปริมาณอาหารเทียบกับราคาที่แสนจะคุ้มนี้ยังไม่ทำให้คุณรู้สึกคุ้มพอ ทางร้าน The Australian แห่งนี้ก็ยังมี Happy Hours ที่สลับสับเปลี่ยนหมุนวันกันไปแต่ละวันไว้รอรับคุณด้วย โดยรายละเอียดตัว Happy Hour ก็ประมาณนี้ครับ
- Mondays to Fridays - Heineken, Tiger & Singha Schooners, Chang Schooners - 85 baht+
- Keppiers Irish Cider 568ml Big Bottle 199 Baht+ all day
- บาร์บีคิวกุ้ง (Shrimps on the Barbie! - 295 บาท) (Char grilled tiger prawns served on a fresh baked baguette with a lemon & mayo dressing) : จานนี้ทางเชฟแมต เชฟใหญ่ประจำร้านบอกว่าเป็นแซนด์วิชสไตล์ออสเตรเลียแท้ ๆ ตอนแรกที่พวกผมเห็นนี่ก็แอบงงเหมือนกันว่ามันต้องกินยังไง ก็ลองผิดลองถูกกันไป เอากุ้งมากินก่อนแล้วกินขนมปังกับผักกินตามบ้าง จนสุดท้ายต้องถามเชฟ ถึงวิธีการกินที่ถูกต้อง ซึ่งก็คือเราต้องเอาขนมปังประกอบตัวไม้ที่เสียบกุ้งมาจากนั้นก็รูดดดดดด ไม้ออกก็จะได้เป็นแซนด์วิชหน้าตาเก๋ไก๋น่ากินขึ้นมา รสชาติจานนี้อร่อยดีครับ กุ้งมันแบบย่างมากำลังดี และปรุงรสมาแบบ..จะเรียกว่าไงดี Mexican ดีมาก ผักก็ให้มาเยอะ ตัวแป้งขนมปังก็กรอบ ๆ ให้ความรู้สึกไม่เหมือนแบบพวกฮอทดอกที่จะเป็นขนมปังสไตล์นี้สักเท่าไร
- เบอร์เกอร์ไก่พาร์มิซาน่า (Chicken Parmigiana Burger - 375 บาท) : จานนี้ขอพูดถึงสิ่งที่ fail ก่อนละกันนั่นก็คือตัวเฟรนช์ฟรายด์นั่นเอง french fries มาแบบไม่ค่อยกรอบเท่าไหร่ แต่ถ้าตัดสิ่งนี้ไปและสนใจแต่เบอร์เกอร์ จานนี้ก็จะถือว่าฟินมาก ๆ ครับเพราะว่าเบอร์เกอร์นั้นอร่อยจริง ๆ ทั้งตัว patty ที่หนาและนุ่มและถูกเคลือบผิวด้านบนมาด้วยชีสที่อบมาจนสมานเป็นเนื้อเดียวกัน และเมื่อประกอบร่างทั้งหมดเป็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ ๆ ที่ต้องใช้ความพยายามในการกิน ต้องอ้าปากกว้าง ๆ แล้วง่ำลงไปแล้ว โอว texture อันหลากหลาย, รสชาติอันซับซ้อนก็พรั่งพรูออกมา อร่อยจริง ๆ ครับ เพื่อนตัวอ้วน และแฟนผมชอบกันหมด
- Ham Cheese & Tomato Sandwich (แซนวิช แฮมชีส - 275) : หน้าตาแซนด์วิชอันนี้ดูค่อนข้างธรรมดามาตรฐานมาก ๆ แต่พอกินเข้าไปคำแรกปุ๊บ พวกผมก็รู้สึกเหมือนถูกหลอกครับ เพราะมันเป็นแซนด์วิชที่ทำมาได้ดีมากจริง ๆ ทั้งตัวขนมปังที่ toast มาพอดีเป๊ะ กรอบกำลังดี ไส้ที่แบบไม่ได้ใส่อะไรมาเยอะ แค่เนื้อสับและชีส แต่แค่องค์ประกอบ 3 อย่างแค่นี้นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้แซนด์วิชก้อนนี้เป็นแซนด์วิชที่ perfect แล้วล่ะครับ
- ข้าวพะแนงจระเข้ (Crocodile Penang Curry - 195 บาท) (Crocodile filets stir-fried in a mild coconut curry sauce served with rice) : ใช่ครับอ่านไม่ผิดหรอก จานนี้มันคือเนื้อจระเข้! อืม เนื้อจระเข้ผมเคยกินมาตอนเด็ก ๆ ทีนึงและก็จำไม่ได้อีกแล้วว่าเป็นยังไง พอมากินงวดนี้ก็ถือซะว่าเป็นการกินครั้งแรกละกัน เคยได้ยินมาว่ามันจะคล้าย ๆ เนื้อไก่ แต่พอกินเข้าจริง ๆ แล้วมันก็ไม่คล้ายซะทีเดียวครับ มันมีความเด้ง ๆ กรอบ ๆ มากกว่าเนื้อไก่พอสมควรเลยอร่อยดี แต่ความอร่อยของจานนี้จริง ๆ นั้นน่าจะมาจากตัวน้ำพะแนงครับ ไม่น่าเชื่อว่าจานนี้จะเป็นฝีมือจากปลายจวักของเชฟแมต เชฟขาวต่างชาติคนนี้ เป็นพะแนงที่อร่อยแบบคนไทยหลายคนต้องอายน่ะครับ
- T-Bone steak (ทีโบนสเต็ก - 995 บาท) (Aussie T-Bone Steak (450g) char-grilled & served with sauteed vegetables, butter roasted corn on the cob, mash potato & your choice of gravy or sauce) : จานนี้จริง ๆ น่าจะเจ๋งที่สุดแต่กลับกลายเป็นว่า อร่อยน้อยที่สุดครับ โอเคเนื้อชิ้นใหญ่สะใจดี (น่าจะสัก 400g) ย่างมาได้ medium-rare ดี แต่แบบกินเนื้อแต่ละคำแล้วแอบรู้สึกว่ามันขาดความ juicy ไปสักหน่อย แต่คือความรู้สึกของผมกับเสต็กแบบนี้นั้นก็มักจะเกิดเวลากินเนื้อ grass fed ในทุก ๆ ที ซึ่งหลายคนก็บอกว่าเนื้อวัวแบบ grass fed นี่คือดีที่สุดแล้วดีกว่า grain fed แต่ไม่รู้นะกินทีไรก็ไม่เคยชอบเลย สู้กินแบบ grain fed 120 days, 300 days อะไรก็ว่าไปดีกว่า แต่ตัวซอสเกรวี่ที่ให้มาทานด้วยกันก็พอใช้ได้ครับ
มื้อนี้ยังมีเครื่องดื่มอีก 3 ชนิด
- Kilkenny (250 Baht) : เบียร์ดำมาตรฐานที่มีขายกันค่อนข้างจะหลายร้านแล้วในบ้านเรา ก็อร่อยดีครับ เข้ม ๆ เหมือนจะเข้มกว่า Guiness อีก ก็อร่อยดีครับ กินเข้าคู่กับอาหารฝรั่งในมื้อนี้ได้อย่างลงตัว
- Pure Blonde (190 baht) : เบียร์ lager สัญชาติ Australia สีสวย ฟองละมุน ดื่มเพลิน (ยี่ห้อนี้ ขวดนี้ เชฟแมตแนะนำมาเองเลยครับว่าเจ๋ง ซึ่งก็เจ๋งจริง ๆ น่ะแหละ)
- Magners's Pear Cider 568 ml Bottle (280 baht) : เบียร์ cider กลิ่นแอปเปิ้ลค่อนข้างชัดเจน ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ดีไม่เหมือนกับเบียร์ส่วนใหญ่ที่กิน ๆ มา ผู้หญิงน่าจะชอบนะครับ
อืม ตัวผมเองแม้ว่าจะเคยไปกินพวกแนว Irish Pub , Western pub อะไรพวกนี้ในไทยไม่ค่อยมาก แต่ว่าเวลาไปทีไรก็รู้สึกประทับใจทุกที เพราะส่วนใหญ่บรรยากาศร้านมันจะแบบครึกครื้น ๆ แต่ก็มีความเป็นส่วนตัว มีความเป็นกันเอง ไม่เหมือนไปร้านแบบไทย ๆ ยังไงก็ไม่รู้, อาหารของร้านพวกนี้ก็มักจะทำมารสชาติดีและจานใหญ่กินได้สะใจ ๆ , เครื่องดื่มของร้านก็มักจะตั้งราคาไม่ค่อยแพงเท่าไร อาจจะเพราะพวกฝรั่งดื่มกันเยอะ ไปฟันกำไรที่ปริมาณดีกว่าอะไรงี้ อืม ถ้าใครเบื่อ ๆ Pub & Restaurant แบบไทย ๆ ก็มาลอง The Australian pub แห่งนี้กันบ้างได้ครับ บางทีอาจจะติดอกติดใจกันไปเลยก็ได้ครับ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment