Sunday Brunch at Trader Vic's Anantara Bangkok Riverside Hotel Review
ซันเดย์ บรันช์ เทรดเดอร์ วิคส์ โรงแรม อนันตรา ริเวอร์ไซด์ เจริญนคร รีวิว
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4/5
Sunday Brunch at Trader Vic's on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
โรงแรม 5 ดาวในบ้านเรานั้นก็อย่างที่รู้ ๆ กันว่าจะมีการจัด Sunday Brunch ในตอนเที่ยงวันอาทิตย์กันแทบจะทุกโรงแรม (หรือทุกโรงแรมก็ว่าได้) ซึ่งรีวิวในฉบับนี้เราก็จะไปกันที่โรงแรม Anantara Bangkok Riverside Resort (โรงแรม Marriott เดิม) หนึ่งในไม่กี่โรงแรมในย่านฝั่งธนของกรุงเทพมหานครของเรา โดย Sunday Brunch ของโรงแรมนี้จะเป็นการแปลงเอาห้องอาหาร Trader Vic's มาเป็นที่จัดมื้อสุดอลังการในยามเที่ยงวันอาทิตย์ของโรงแรม ซึ่งปกติแล้วห้องอาหาร Trader Vic's นั้นจะนำเสนออาหารตะวันตก แนว Pacific (ไม่ rim) ๆ หน่อย แบบ a la carte เฉพาะตอนเย็น เพื่อให้สอดคล้องกับบรรยากาศของทางห้องอาหารเค้า แต่ว่าตัว Sunday Brunch นั้นจะเป็นการฉีกแนวออกไปเลย โดยจะเป็นการนำอาหารจากทุก ๆ ห้องอาหารมาสังคายนาอยู่ที่ห้องนี้ห้องเดียว และเนื่องด้วยทางโรงแรม Anantara Bangkok Riverside Resort แห่งนี้เป็นโรงแรมขนาดใหญ่เก่าแก่ มีห้องอาหารประจำโรงแรมค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว และจากประสบการณ์ของผมที่กิน Sunday Brunch มาหลายที่ก็คือ ถ้าโรงแรมไหนมีห้องอาหารเยอะ ส่วนใหญ่มักจะทำตัว Sunday Brunch ได้ดี อาหารจะครบกว่า อลังการกว่า มีให้เลือกเยอะกว่า จะพร้อมกว่าโรงแรม 5 ดาวหน้าใหม่ส่วนใหญ่ที่จะมีห้องอาหารน้อย ๆ พอจัด Sunday Brunch ก็จะมีการสั่งอาหารที่ทางโรงแรมไม่ได้ทำ (เช่น อาหารญี่ปุ่น ในโรงแรมส่วนใหญ่) เข้ามาร่วมอยู่ในไลน์ อะไรแบบนี้
รายละเอียดของ Sunday Brunch @ Trader Vic's แห่งนี้ก็มีตามนี้ครับ
- เริ่มบรรเลงกันได้ตั้งแต่ 11.30 - 15.00 ของทุกวันอาทิตย์
- สนนราคาอยู่ที่ท่านละ 1,400++ บาท พร้อมเครื่องดื่มสมุนไพร
- สนนราคาท่านละ 2,199++ บาท ถ้าต้องการเพิ่มความกลมกล่อมด้วย น้ำอัดลม cocktail เบียร์สด ไวน์ และ sparkling wine
บรรยากาศของห้อง Trader Vic's นี้จะแบ่งได้เป็น 2 zone ครับ โซนแรกคือโซน open air ที่จะมีที่นั่งแบบ al fresco dining เคียงคู่ไปกับไลน์อาหารบางส่วน ส่วนด้านในก็จะเป็นส่วนรับประทานอาหารหลักมีโต๊ะอาหารอยู่เยอะ และก็จะเป็นการนั่งดื่มด่ำกับอาหารในบรรยากาศแบบ Pacific ที่ผมยังไม่เคยเจอร้านไหนแต่งแบบนี้เลยเหมือนกันนะ สวยและเก๋ดี โดยอีกครึ่งนึงของด้านในนี้จะเป็นที่ของตัวไลน์อาหารอีกประมาณ 2 ใน 3 ของไลน์อาหารทั้งหมด การบริการนั้น พนักงานในวันที่ผมไปค่อนข้างเหลือเฟือครับ ดูแลดีมาก เหมือนจะมีการแบ่งหน้าที่ไว้ค่อนข้างชัดเจน ฝ่ายบริการเครื่องดื่ม, ฝ่ายเก็บจาน, ฝ่ายต้อนรับลูกค้า เหมือนจะแบ่งงานกันได้ชัดเจนดี (ไม่เหมือนบางที่ที่คนนึงทำหลายอย่าง)
ส่วนไลน์อาหารของที่นี่จะว่าไงดี.. เยอะและอลังการตามที่คิดไว้จริง ๆ ครับ มาไล่เรียงกันไปตามตำแหน่งที่ซุ้ม, ไลน์อาหารประจำการอยู่กันดีกว่า
- บริเวณทางเข้าด้านนอกจะเป็นอาหารเอเชีย โดยเริ่มกันที่ซุ้มอาหารจีน จะมีหมูหัน, เป็ดปักกิ่ง และก็ติ่มซำตั้งไว้อยู่ ถัดเข้ามาอีกนิดก็จะเป็นอาหารอินเดีย ที่มีอาหารให้เลือกอยู่ 3 อย่าง + Nan อีกอย่างนึง (ผมจำชื่อ 3 อย่างนี่ไม่ได้ซะที คือกินมาหลายที่ หลาย Sunday Brunch แล้วล่ะครับ แต่ส่วนใหญ๋มักจะไม่มีป้ายแปะชื่อบอก หรือถ้ามีก็มักจะไม่ได้สังเกตอยู่ร่ำไป) และข้าง ๆ กันก็จะมี Kebab แขวนยั่วยวนลูกค้าอยู่
- ซุ้มถัดมาจะเป็น Foie gras โดยเฉพาะเลย มีพนักงานคนนึงคอยยืดทอดให้อยู่ และมีซอสผลไม้ที่ไว้ทานคู่กับฟัวกราส์หลายแบบให้เลือกมาก
- ถัดเข้ามาอีกนิดก็จะเป็นโซน Pasta ครับ อันนี้ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเค้ามี pasta รูปแบบไหนให้สั่งบ้าง เพราะว่าผมไม่ได้สั่ง (เนื่องจากมีอาหารที่น่าสนใจกว่าอีกเยอะ) แต่จากที่ดูในรูปก็จะมีเส้นให้เลือก 3 แบบ angel hair, penne, fusili หลากสี และซอสก็เหมือนจะมีซอสมาตรฐานเหมือนที่อื่น ๆ carbonara, bolognese sauce ประมาณนี้
- โซนสุดท้ายของด้านนอกนี้ก็จะมี 2 ซุ้มตั้งประจัญหน้ากันอยู่ โดยฝั่งนึงจะเป็นซุ้ม grill ที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในซุ้ม grill ที่อลังการที่สุดที่ผมเคยเจอเลยครับ มี เนื้อแกะ, ไส้กรอกสีขาวอันใหญ่ (ไม่รู้เรียกชื่อว่าอะไร) , เนื้อเสต็กวัว, หมูสะเต๊ะ, ไก่เสต๊ะ, กุ้งเสียบไม้ ฯลฯ คือแบบ สมกับที่เป็นห้องอาหารสไตล์ Pacific ที่เค้านิยมปิ้งย่างรอบกองไฟกันจริง ๆ (รึเปล่า ผมมั่วนะ ฮ่า ๆ) ส่วนฝั่งตรงข้ามของโซนนี้ก็จะเป็นอาหารญี่ปุ่นครับ แน่นอนว่าที่โรงแรม Anantara แห่งนี้เค้ามีห้องอาหารญี่ปุ่นแนว Teppanyaki ชื่อดังนามว่า Benihana อยู่ ในซุ้มนี้ก็เลยจะเป็นซุ้ม Teppanyaki ที่นำเอาพ่อครัวจากที่ Benihana มาทำให้
ถัดเข้ามาด้านในเราก็สามารถแบ่งได้เป็น 5 zone โดยประมาณครับ ไล่เรียงกันไปเลยละกัน
- โซน seafood โดยโซนนี้จะมีอยู่ 2 ซุ้มครับ ซุ้มแรกจะเป็นพวก cold seafood ให้หยิบ ให้ตักกันตามสะดวก ก็จะมีก้ามปูอลาสก้า, กุ้ง, หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ประมาณนี้ และข้าง ๆ กันนี่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของตัว Sunday Brunch แห่งนี้เลยครับ นั่นก็คือ ซุ้มหอยนางรมจากทั่วทุกสารทิศของโลก คือมีทั้งหอยนางรมไทย, ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส, เกาหลี และหอยแต่ละตัวจะสดมาก ๆ เพราะว่าจะมีคนยืนประจำการคอยแกะเปลือกให้ตาม order กันเลย อืม เท่าที่กิน ๆ มาซุ้มหอยนางรมของที่นี่น่าจะเป็นซุ้มหอยนางรมที่เจ๋งที่สุดในกรุงเทพแล้วล่ะครับ
- โซนอาหารญี่ปุ่นแบบครัวเย็น โซนนี้ก็จะมี Sushi, Sashimi, Roll ให้หยิบให้ตัก ให้เลือกสั่งกันตามสะดวก ปลาไม่ได้มีอะไรอลังการมากนักครับ ปลาก็จะมีปลาทั่ว ๆ ไป เช่น แซลมอน, ซาบะ, ทูน่า (Yellow Fin) , Hamachi อะไรประมาณนี้ ทีเด็ดนั้นคงเป็นตัวปลาไหลน้ำจืดหรือ Unagi ที่หลาย ๆ ที่ไม่มีให้สั่งกันแต่ว่าที่นี่นี่สามารถสั่งกันได้แบบบุฟเฟ่ต์เลยล่ะครับ
- โซนอาหารไทย โซนนี้บอกตรง ๆ ว่าผมไม่ค่อยได้ดูได้สังเกตเท่าไร แต่เท่าที่ดูจากรูปคร่าว ๆ ก็จะเป็นอาหารไทยทั่ว ๆ ไปตามมาตรฐานที่ควรจะมีครับ
- โซนอาหารอิตาเลียน มีให้เลือกเยอะพอประมาณแต่ก็เช่นกัน ไม่ได้มีอะไรหวือวานัก
- โซนสุดท้ายนั้นก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของตัว Sunday Brunch ที่นี่เลยล่ะครับกับโซนของหวานที่จะเป็นการนำเอาของหวาน, ขนม, ขนมปัง จากร้าน Cafe ชื่อดังประจำโรงแรม Numero Uno มา ขนมและของหวานมีให้เลือกเยอะมาก ๆ หลากหลาย อลังการ ครบครัน จนไม่รู้จะเขียนบรรยายยังไงดี รบกวนดูรูปประกอบเอาจะดีกว่าครับ
ครับ คร่าว ๆ สำหรับไลน์อาหารของที่นี่ก็ประมาณนี้ล่ะ จากการเดินสำรวจไลน์ก่อนเริ่มลงมือบรรเลงนั้น ผมว่าที่นี่เรียกได้ว่าอลังการมากและเมื่อเทียบกับราคาที่แบบรวมเครื่องดื่ม alcohol แล้วแค่ 2,100++ บาทนี่ก็เรียกได้ว่าคุ้มจริงอะไรจริง อ่ะคิดง่าย ๆ สมมติกินหอยนางรมสัก 4 ตัว , sparkling wine สัก 2 แก้ว, grill รวมมิตรสักจานนึง, sashimi รวมมิตรสักจานนึง, seafood อีกสักจานนึง และก็ตบท้ายด้วยของหวานอีกนิดหน่อย แค่เท่านี้ ราคาที่หากินได้ทั่วไปตามภัตตาคารดี ๆ ก็ 2,100++ บาทได้แล้วล่ะครับ อืม ตามนั้น
ส่วนอาหารในมื้อนี้ผมก็ได้ลองไปค่อนข้างเยอะแต่เท่าที่รู้สึก คือมันดูจะไม่ถึงครึ่งนึงของที่ไลน์ที่นี่มีเลยล่ะครับ ก็ขอเขียนถึงที่ผมชอบ ๆ หน่อยละกัน
- อาหารอินเดีย : อร่อยครับ ไก่นุ่ม ๆ มัน ๆ เพราะเป็นส่วนสะโพก, แป้ง nan กรอบ, เนื้อปลาหมักผงกะหรี่ก็สดและอร่อยดี กลิ่นกะหรี่ไม่แรงนักแต่ก็พอมีกลิ่นและรสชาติอยู่
- หอยนางรม : ตามที่พิมพ์ไปตอนต้นครับ เทพจริง ๆ สด ตัวใหญ่ หลากหลาย ใครเป็นคอหอยนางรม (เกือบพิมพ์คอหอยพอกแล้ว) มากินที่นี่รับรองคุ้มครับ คือคุณภาพระดับนี้นี่คือพวกร้านอาหารฝรั่งเศสขายกันตัวละ 110 - 140++ บาทโดยประมาณได้อ่ะครับ
- อาหาร Grill - โซนนี้ก็ทีเด็ดครับ กุ้งลายเสือตัวใหญ่, ไส้กรอกชิ้นบิ๊กเบิ้ม, เนื้อแกะที่นุ่มละมุน ไม่มีความเหม็น, พุงปลาแซลมอนเสียบไม้ที่แทบจะละลายในปาก ฯลฯ เป็นอีกหมวดหมู่นึงที่อยากให้ลองมาจัดหนักกัน
- Sashimi - Hamachi สดอร่อย เนื้อหวาน, แซลมอนก็ลายสวย เนื้ออร่อย, Unagi ที่หาที่ไหนเป็นบุฟเฟ่ต์ไม่ค่อยได้ และก็คุณภาพทัดเทียมร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นดีทั่วไป แค่ 3 อย่างนี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผมกินปลาดิบไปหลายจานแล้วล่ะครับ
อืมที่ผมชอบ ๆ ในมื้อนี้ก็ประมาณนี้แหละครับ อาจจะดูไม่เยอะ แต่คือจริง ๆ ผมก็กินเยอะนะ แต่ว่าอย่างอื่นนั้นไม่ได้โดดเด่นเท่า 4 อย่างนี้แค่นั้นเอง ก็ใครที่กำลังมองหา Sunday Brunch ที่ได้บรรยากาศริมแม่น้ำท่ามกลางต้นไม้ร่มรื่น ๆ หรือบรรยากาศร้านที่เก๋ไม่เหมือนใคร พร้อมการบริการดี ๆ และความคุ้มค่ากับราคา 2,100++ บาทแต่ได้อาหารและเครื่องดื่มขนาดนี้แล้วล่ะก็ มาจัดหนักจัดเต็มกันได้เลยที่ Sunday Brunch at Trader Vic's - Anantara Bangkok Riverside แห่งนี้นี่เองงงงง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment