Guru Gyu Japanese Yakiniku Buffet at Phahonyothin Soi 5 Review
กูรู กิว - ร้านอาหารเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น ราชครู สนามเป้า
Overall Score 9.5/10
Taste 4.5/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 4.5/5
Guru Gyuu - Japanese Yakiniku Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
Guru Gyu หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อในรีวิวนี้ แม้ว่าชื่อร้านจะฟังดูเป็นร้านเนื้อย่างธรรมดาทั่วไป แต่จริง ๆ เบื้องในนั้นมีอะไรมากกว่าร้านเนื้อย่างทั่วไปมากครับ ซึ่งผมสามารถสรุปออกมาได้เป็นประโยคหนึ่งประโยคว่า ร้าน Guru Gyu แห่งนี้น่าจะเป็นหนึ่งในร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างที่ไม่ได้ขายวิญญาณการเป็นร้านเนื้อย่าง ก็ว่าได้ครับ เพราะว่าร้านนี้เค้าสถาปนาตัวเองว่าเป็นกูรูด้านเนื้อแล้ว เค้าก็เลยทำเมนูอาหารของเค้าให้สมกับเป็นกูรูจริง ๆ ส่วนตัวร้านนั้นตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน อยู่ก่อนจะถึงซอยราชครู หรือ พหลโยธินซอย 5 เล็กน้อย ถ้ามาจากรถไฟฟ้าก็ลงป้ายอารีย์หรือสนามเป้าแล้วเดินมาก็ได้ หรือว่าถ้าขับรถมาก็สามารถมาจอดรถได้ที่อพาร์ทเม้นท์ด้านหลังร้านได้เช่นกัน เดินทางสะดวกสบาย (จ่ายเงินค่าจอดไปก่อนแล้วทางร้านจะให้เงินค่าจอดคืน)
บรรยากาศของร้าน Guru Gyu แห่งนี้ก็เป็นอารมณ์คล้าย ๆ กับร้านเนื้อย่างทั่วไป ร้านขนาดไม่ใหญ่มากนัก (เพราะเป็นการนำห้องแถวขนาด 2 คูหามาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร) มีทั้งโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งและ 6 ที่นั่ง ซึ่งถ้ามากันเยอะ ๆ ก็น่าจะต่อโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งให้ยาว ๆ ได้ครับ ส่วนการบริการของร้านนี้ ก็ทำได้ดีเหนือมาตรฐานร้านเนื้อย่างส่วนใหญ่ที่ผมกินมาพอสมควรครับ แม้ว่าน้อง ๆ พนักงานจะเป็นชาวต่างชาติบ้าง (บ้านใกล้เรือนเคียง) แต่ก็เหมือนกับจะถูกเทรนมาค่อนข้างดีมากเลย (น่าจะเป็นเพราะมีเจ้าของร้านประจำอยู่ที่ร้านตลอดเวลาด้วย)
อาหารของร้านนี้ก็ตามที่เขียนไปก่อนหน้านี้ครับจะเน้นที่เนื้อเป็นหลัก และตัวบุฟเฟ่ต์ของทางร้านก็จะมี 2 ราคา
แบบแรกนั้นคือราคา 444 บาท ให้เวลา 2 ชั่วโมง มีอาหารให้เลือกประมาณ 35 อย่าง มีเนื้อวัวให้เลือก 6 ชนิด และก็อย่างอื่นผสมผสานกันไป เช่น กุ้งแม่น้ำ, ปลาไข่, ไส้กรอกหมูญี่ปุ่น, เกี๊ยวซ่า อะไรประมาณนี้ และอีกราคานึง 555 บาทก็จะเพิ่มเนื้อวัวมาให้เลือกอีก 6 ชนิดพร้อมอาหารอื่น ๆ ให้เลือกเพิ่มจากราคา 444 บาทอีกประมาณ 24 อย่าง ที่เพิ่มเติมนอกจากเนื้อวัว 6 ประเภทก็จะมี หมูลูกเต๋า, ปลาแซลมอน, กุ้งขาวตัวใหญ่, ไอศครีมชาเขียวประมาณนี้ อืม บอกตรง ๆ ว่าเห็นเมนูของร้าน Guru Gyu แห่งนี้เข้าไปทีแรกนี่แอบอึ้งครับ ไม่คิดว่ากับราคาเท่านี้จะมีอาหารให้เลือกมากมายขนาดนี้ อ้อ ตัวราคานี้ไม่รวมเครื่องดื่มนะครับ เครื่องดื่มถ้าอยากได้แบบ refill ก็จะต้องเพิ่มอีก 55 บาท ก็จะได้พวกน้ำอัดลม, ชาเขียว, ชามะนาว อะไรพวกนี้มาดื่มได้ตลอด 2 ชั่วโมงเลย
อาหารในมื้อนี้พวกผมก็ได้ลองกันค่อนข้างจะครบครันอยู่ อาจจะไม่ได้ครบทุกเมนูแต่ก็ได้ซัดไปเกินครึ่งล่ะครับ ก็ขอไล่เรียงกันไปตามจานที่พวกผมรู้สึกถูกใจกันหน่อยละกัน อ้อ เนื้อหลาย ๆ อย่างของทางร้าน Guru Gyu แห่งนี้มีการตั้งชื่อให้ดูแบบน่ารักน่าชัง น่าสั่งมากินกว่าการตั้งชื่อแบบปกติหลายเมนูเลยล่ะครับ ยังไงก็ลองดูชื่อภาษาอังกฤษประกอบด้วยละกัน
อ้ออีกอย่างก่อนจะเข้าเรื่องอาหารของทางร้าน ร้านนี้เค้ามีความพิเศษเหนือร้านอื่นในด้านเตาย่างครับ ตะแกรงปิ้งย่างของร้านจะใช้เป็นแบบกระทะ Teflon ก็เลยทำให้ไม่ต้องมีการเปลี่ยนตะแกรงกันเลยตลอด 2 ชั่วโมงที่นั่งกินกัน ส่วนพวกรอยไหม้ นั้นเพียงแค่ใช้ทิชชู่มาถู ๆ ก็ออกหมดแล้ว ซึ่งเตาแบบนี้นอกจากจะทำให้เนื้อ lot หลัง ๆ สะอาดไม่มีคราบไหม้ติดมากับที่เรากินแล้ว เตา Teflon นี้ยังทำให้เราสามารถกินปลาไข่ หรือพวกเนื้อที่ sensitive ต่อคราบไหม้ได้ดีกว่าเตาปกติอีกด้วยครับ ชอบ ๆ
น้ำจิ้ม
ทางร้านมีน้ำจิ้มมาให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกัน คือ น้ำจิ้มเนื้อย่างทั่วไป, น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว, น้ำพริกเผา และน้ำจิ้มซีฟู้ด ซึ่งแต่ละตัวก็รสชาติดีด้วยตัวเองอยู่แล้ว แต่ถ้าจะลองเอามาผสม Mix & Match กันดู ก็อร่อยไปอีกแบบนะครับผมว่า
หมวดเนื้อวัว
เนื้อมาราธอน (Shank) : หรือเนื้อส่วนขาวัวนั่นเอง เนื้อส่วนนี้จะไม่ค่อยติดมันสักเท่าไร เหมาะสำหรับคนชอบเนื้อ lean ๆ ตัวเนื้อชิ้นใหญ่ และก็หนาดีครับ ก็โอเคอยู่
เนื้อหินอ่อน (Sirloin Tip) : เนื้อส่วนสันนอก ที่มีลายหินอ่อนแทรกค่อนข้างสวยงาม อร่อยดีครับ กินกันไปหลายจานเลย
เนื้อติดมันส์ (Brisket) : หรือเนื้อส่วนผ้าหน้าอกของวัว (บริเวณส่วนด้านหน้าตัวของวัว ระหว่างหัวกับขาหน้า ก็หน้าอกน่ะแหละเนอะ ลองนึกภาพจับวัวยืนขึ้นมาเหมือนคนดูครับ) เนื้อส่วนนี้จะติดมันแบบติดมันเป็นแผง ๆ ไม่ได้แทรกมาเป็นหลายหินอ่อน ความอร่อย ความมันจะต่างจากเนื้อหินอ่อน ก็อร่อยไปอีกแบบดี (จะคล้าย ๆ เนื้อเบคอนหมูกลาย ๆ ครับ)
เนื้อจำแลง (Hump) : หรือเนื้อส่วนหนอก เนื้อส่วนนี้เป็นเนื้อส่วนโปรดของผมมานานล่ะ ถ้าร้านไหนมีเมนูนี้สั่งมาทีไรก็ไม่เคยผิดหวังทุกที ซึ่งของร้าน Guru Gyu แห่งนี้ก็ทำมาได้ไม่ผิดหวังครับ ดีกว่าหลาย ๆ ร้านที่กินมาด้วยซ้ำ เนื้อส่วนนี้ลักษณะเด่นคือเนื้อจะสีอ่อน ๆ หน่อยและก็จะมีไขมันแทรกเยอะกว่าส่วนอื่น (เนื่องจากเป็นส่วนที่วัวไม่ค่อยได้ใช้งาน) อร่อยครับ แทบจะละลายในปากกันเลยทีเดียว
เนื้อสามศอก (Chuck Tender) : หรือเนื้อส่วนหลังด้านบนของวัวนั่นเอง เนื้อส่วนนี้จะนุ่ม ๆ หน่อย ไม่ค่อยมีไขมันแทรก แต่จะได้ความนุ่มในการกินแต่ละคำแทน
เนื้อบูลโกกิ (Bulkoki chuck) (มีเฉพาะใน package 555 บาท) : เนื้อส่วนนี้จริง ๆ ก็น่าจะเป็นส่วนหลังด้านบนของวัวนี่แหละครับ แต่เหมือนทางร้านจะคัดมาพิเศษเพิ่มเติมจากส่วน Chuck ปกติ คือจะมีลายไขมันแทรกเยอะกว่า ทำให้เนื้อนุ่มกว่าละลายในปากมากกว่า เนื้อจานนี้เป็นหนึ่งในจานที่พวกผมชอบที่สุดในมื้อนี้เลยล่ะครับ
เนื้อลายมัน (Finger rib) (มีเฉพาะใน package 555 บาท) : เนื้อส่วน Rib หรือส่วนสันแหลม หรือส่วนหลังตอนกลางของวัว ที่มักจะเป็นส่วนที่เอาไปทำเนื้อเสต็กกัน เนื่องจากเป็นเนื้อส่วนที่เค้าว่ากันว่าอร่อยที่สุด คือจะมีไขมันแทรกกำลังดี พร้อมความนุ่มที่เหนือกว่าเนื้อส่วนอื่น ๆ เนื้อจานนี้ก็อร่อยเช่นเดียวกันครับ กินไป 2-3 จานเช่นเดียวกัน
เนื้อใบบัว (Flank) (มีเฉพาะใน package 555 บาท): หรือเนื้อส่วนท้องด้านล่างของวัว จานนี้ผมค่อนข้างเฉย ๆ นะ โอเคก็อร่อยดีแต่ว่ากินเนื้อส่วนอื่น ที่เป็นส่วนหลังของวัวมันอร่อยกว่าแบบค่อนข้างชัดเจนเลย
เนื้อลูกเต๋า (Bevette) (มีเฉพาะใน package 555 บาท) : หรือเนื้อส่วนท้องด้านล่างของวัวที่นำมาหั่นเป็นลูกเต๋าขนาดพอดีคำกิน หลาย ๆ ท่านที่เคยกินเนื้อลูกเต๋ามา ก็น่าจะคุ้นเคยกันดีว่าเวลาเนื้อหั่นเป็นลูกเต๋านั้น แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการปิ้งย่างนานกว่าแบบแล่เป็นแผ่นบาง ๆ ตามปกติ แต่ตัว texture ที่ได้นั้นมันจะแตกต่างกันแบบค่อนข้างชัดเจน มันจะได้ความเด้งดึ๋งของเนื้อในแต่ละคำที่กินเข้าไป มากกว่า เนื้อลูกเต๋านี่พวกผมก็ชอบกันครับ
ลิ้นวัว (Beef tongue) (มีเฉพาะใน package 555 บาท) : ลิ้นวัวของร้าน Guru Gyu นี่ทำมาได้ดีเกินกว่าจะมาอยู่ในบุฟเฟ่ต์จริง ๆ ครับ กินลิ้นวัวของหลาย ๆ ร้านมาส่วนใหญ่จะแล่มาบางเกินไป และก็ไม่ได้ปรุงรสอะไรกันมา กินแล้วเหมือนไม่ค่อยมีรสชาติเท่าไร แต่ของร้านนี้เค้าพิถีพิถันครับ แล่มาหนากำลังดี ปรุงรสโดยการเหมือนจะหมักเกลือมาเล็กน้อย และก็มีน้ำจิ้มที่เข้าคู่กันกับการกินลิ้นวัวมาด้วยโดยเฉพาะให้มาด้วย (จะเป็นน้ำจิ้มมะนาวเปรี้ยว ๆ ใส ๆ) อร่อยครับ กินกันเพลินเลยลิ้นวัวของร้านนี้
หมวดเนื้อสัตว์บกที่ไม่ใช่เนื้อวัว
เบคอน (Bacon) : ค่อนข้างมาตรฐานครับ
หมูลูกเต๋า (Pork cubes) : อร่อย แต่ยังไม่เท่าเนื้อลูกเต๋า เนื้อนุ่มกว่าหน่อย แต่เหมือน texture มันจะไม่เด้งดึ๋งระคนหยุ่น ๆ เท่าครับ พวกผมชอบเนื้อวัวลูกเต๋ากันมากกว่า
ไส้กรอกหมูญี่ปุ่น (Pork hot dog) : ไส้กรอกทำมาได้ค่อนข้างดีมากครับ อารมณ์ประมาณพวกไส้กรอก arabica ตามร้านเนื้อย่าง premium ญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ขายกันจานละ 200 - 300 บาทแต่ของร้าน Guru Gyu แห่งนี้ให้มากินกันแบบบุฟเฟ่ต์! อร่อยครับ
อกเป็ดกูรู (Duck breast) : อกเป็ดไม่เหม็นเลย เนื้อนุ่มกำลังดี แต่เนื่องจากเป็นเนื้อส่วนที่ lean ไร้ไขมัน กินไปคำหลัง ๆ ก็รู้สึกว่าอยากกลับไปกินพวกเนื้อวัวติดมันมากกว่าครับ ฮ่า ๆ
หมวดอาหารทะเล
หมึกกระดองสองใจ (Solf cuttlefish) : ร้านส่วนใหญ่เค้ามักจะมีหมึกกล้วยมาให้กินกัน แต่ของร้าน Guru Gyu นี่พิเศษกว่าครับมีหมึกกระดองมาด้วย หมึกกระดองเนื้อมันจะแข็ง ๆ กว่าหมึกกล้วยหน่อย กินแล้วก็ให้ความกรุบกรอบ อร่อยไปอีกแบบดีครับ
ปลาหมึกไข่ (Squid) : ปลาหมึกมาตรฐานตามร้านบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างทั่วไป แต่เหมือนของร้านนี้จะพิเศษกว่าหน่อยเพราะปลาหมึกมีไข่แทรกมาด้วย ทำให้อร่อยกว่าร้านอื่น ๆ ครับ
ปลาไข่ย่างเกลือ (Shishamo fish) : ตามที่เขียนไปตอนแรก ๆ เนื่องจากเตาของร้านนี้เค้าใช้เตา Teflon ก็เลยทำให้ย่างปลาไข่ได้ดีมาก ปลาไข่แบบเนื้อเนียน ไม่แตก ไข่ไม่หลุดออกมา และปลาไข่ของร้านนี้ก็เลือกมาแต่ตัวโต ๆ ก็เลยยิ่งฟินเข้าไปใหญ่ ผมขอเสนอเมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของร้านนี้เลยล่ะครับ
กุ้งขาว (White prawn) : กุ้งตัวใหญ่ดี แกะเปลือกมาเรียบร้อย ปิ้งกันสบาย ๆ ไม่ต้องมานั่งแกะเปลือกให้เมื่อยตุ้ม และกุ้งก็สุกง่ายกว่าพวกมีเปลือกด้วย (โอเค แม้จะต้องแลกกับการที่กุ้งจะแห้งกว่าปกติสักหน่อยก็ตาม)
หนวดปลาหมึก (squid tentacles) : อันนี้อีกหนึ่งจานทีเด็ดเช่นเดียวกันครับ ส่วนใหญ่ผมจะเป็นพวกชอบหนวดปลาหมึกมากกว่าลำตัวของมันอยู่แล้ว แต่หลาย ๆ ร้านมักจะไม่ยอมให้สั่งแต่หนวดปลาหมึก ก็เลยได้กินหนวดกันไม่ค่อยสะใจเท่าไร แต่ของร้านนี้มีให้สั่งแยกแบบนี้ก็ฟินล่ะครับ หนวดปลาหมึก กรุบกรอบ อร่อย และก็มาแบบเป็นหนวดใหญ่ ๆ ดีด้วย
หมวดอาหารอื่น ๆ และของหวาน
ไข่ตุ๋นญี่ปุ่น (Chawanmushi) : อันนี้ค่อนข้างมาตรฐานไม่มีอะไรมาก
ผลไม้รวม (60 บาท) : เป็น แตงโม, สับปะรด และก็แอปเปิ้ล ก็มาตรฐานล่ะครับ
เกี๊ยวซ่า (gyoza) : เกี๊ยวซ่าของร้านนี้เป็นเกี๊ยวซ่าที่สั่งทำมาพิเศษ ทำให้ได้เป็นชิ้นที่ค่อนข้างใหญ่ และแป้งจะย่างแล้วไม่ขาดง่าย ไส้หมูสับก็อัดแน่นมาเต็ม ๆ กินแล้วประหนึ่งเหมือนกินเกี๊ยวซ่าของพวกร้านราเมนญี่ปุ่นดี ๆ เลยครับ โอเคอาจจะย่างไม่ได้เกรียมเท่า เพราะไม่ได้ใช้อุปกรณ์เฉพาะทางขนาดนั้น แต่ก็ถือว่าอร่อยพอตัวเลยล่ะ
ถั่วแดงเย็นเกล็ดหิมะ (Ice red bean) : อันนี้ค่อนข้างมาตรฐานครับ คล้าย ๆ ตามร้านปิ้งย่างหลายร้าน ถั่วแดงกวนใส่มาบนน้ำแข็งใสราดน้ำแดงและนมข้นหวาน
มื้อนี้มีอาหาร a la carte หนึ่งจาน คือ ยำเนื้อย่างญี่ปุ่น (seared beef 200 บาท) เป็นอารมณ์ประมาณเนื้อแล่มาไม่บางมาก ไม่ถึงขนาดพวก beef carpaccio แต่ก็ไม่ถึงขนาดเป็น fillet อะไรงั้น และก็เสิร์ฟมาแบบให้เรากินกันดิบ ๆ เลยโดยมีแปะมาให้ในแต่ละชิ้น และก็มีมะนาวให้บีบกินด้วย จานนี้อร่อยครับ ที่สำคัญคือให้เยอะมาก คือแบบเห็นปริมาณกับราคาของร้านนี้แล้ว รู้สึกว่าพวกร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นที่ให้เมนูคล้าย ๆ กันนี้มาขยุมนึงแล้วคิดเรา 200 บาทเท่ากันนี่มันคืออะไรกันนี่
จริง ๆ เมนู a la carte ของร้าน guru gyu แห่งนี้ยังมีอีกหลายอย่างครับ เช่นพวกยำสาหร่าย, หมูชุบแป้งทอด, ไก่คาราเกะ อะไรพวกนี้ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เค้าสั่งกันรึเปล่า เพราะว่าแค่เมนูในบุฟเฟ่ต์นี่ก็น่าจะกินกันไม่หวาดไม่ไหวแล้วล่ะครับ
สรุป ร้าน Guru Gyu แห่งนี้ก็สมควรที่เค้าจะสถาปนาตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อวัวจริง ๆ ล่ะครับ ถ้านับเนื้อวัวทั้งหมดคร่าว ๆ ทางร้านมีให้เลือกร่วม ๆ 10 กว่าชนิด เหนือกว่าร้านอื่น ๆ อย่างชัดเจน แต่ว่าเนื้อสัตว์ประเภทอื่น หรืออาหารอย่างอื่นของร้านนี้ก็หาได้ด้อยกว่าเนื้อวัวไม่ มีให้เลือกกันแบบอลังการยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน อืม เมื่อบวกกับการพิถัพิถันในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะการที่เราสามารถสั่งให้แล่เนื้อ หนาบางได้ตามใจเรา + การบริการของพนักงานที่ผมว่าทำได้ดีกว่าหลาย ๆ ร้านในระดับราคาเท่านี้ + เตา Teflon ที่หากินที่ไหนไม่ได้ โอว ต่อไปถ้ามีใครถามว่า "เฮ้ย ไปกินบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างราคาประมาณ 500 - 600 บาทที่ไหนดี?" ผมก็คงจะตอบไม่ยากล่ะครับ ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าช่วงหลัง ๆ นี่ตอบยากเหลือเกินกับคำถามนี้ เพราะหลาย ๆ ร้านมันเหมือนกันไปซะหมด
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment