Peter's Pan - Modern American Restaurant and Steakhouse at Milli Malle Sukhumvit 20, Bangkok
ปีเตอร์ แพน ร้านอาหารอเมริกัน สเต็กเฮาส์ สเต็ก มิลลิมอลลี่ สุขุมวิท 20
Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 4.5/5
Service 4/5
Value 2/5
Peter's Pan - Steakhouse and American Restaurant on BumRes.com (For more pictures and menu)
มื้อนี้ก็เป็นอีกหนึ่งมื้อ "กินตามดีล" สำหรับผมล่ะครับ กับร้าน Peter's Pan ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวละครในเทพนิยายตะวันตก แต่เป็นชื่อเจ้าของร้าน และจากที่ร้านเน้นพวกอาหาร grill ๆ , ทอด ๆ ก็เลยนำมาซึ่งชื่อร้านที่เป็นว่ากระทะของปีเตอร์นั่นเอง ร้านนี้ตอนแรกผมก็นึกว่าเป็นร้านใหม่ แต่เปล่าเลยครับ ร้านนี้เปิดทำการมาได้ 20 ปีแล้ว (ตั้งแต่ปี 1993) โดยตอนแรกสุดนั้นอยู่ที่แจ้งวัฒนะ แล้วก็ย้ายไปที่อุดมสุข แล้วสุดท้ายก็มาจบลงที่ตำแหน่ง ณ ปัจจุบัน ที่ชั้น 2 ของห้างเปิดใหม่ (รึเปล่า หลายเดือนล่ะ) นามว่า Milli Malle กลางซอยสุขุมวิท 20 แห่งนี้นี่เอง
ร้านนี้เพียงแว่บแรกที่เข้าไปบอกตรง ๆ ว่าผมประทับใจในความสวยงามของการตกแต่งร้านมาก ๆ ครับ ร้านขนาดไม่ใหญ่เท่าไร ขนาดกำลังดี จุลูกค้าได้สัก 60 - 80 คน แต่แบบรายละเอียดทุกอย่างพิถีพิถันมาก ไม่รู้จะว่ายังไงดี ลองดูรูปบรรยากาศร้านประกอบครับ ร้านเค้าสวยจริง ๆ ร้านที่สวยพอ ๆ กันในช่วงหลังที่ได้ไปกินมาก็คงเป็นร้าน In The Mood For Love One ร้านเดียวล่ะครับ และยิ่งตอนผมไปนั้นเป็นเที่ยงวันอาทิตย์ ไม่มีลูกค้าโต๊ะอื่น ๆ มาเลยสักโต๊ะก็เลยยิ่งทำให้มื้อนี้ยิ่งมีความเป็น private ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก ชอบมาก ๆ ครับบรรยากาศร้านนี้ ส่วนพนักงานของทางร้าน ไม่รู้ว่าเพราะร้านนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าอยู่แล้วรึเปล่าก็ไม่ทราบ พนักงานก็เลยมีกันอยู่แค่ 2 คน แต่แค่ 2 คนก็เรียกได้ว่าเกินพอสำหรับลูกค้าโต๊ะเดียวครับ มื้อนี้ก็เลยได้การบริการที่ค่อนข้างดีมาก ตามติดมาพร้อมกับบรรยากาศดี ๆ อีกเช่นกัน
อาหารของร้านนี้นั้นบอกตรง ๆ ผมคงนิยามแบบเป๊ะ ๆ ไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าคร่าว ๆ คือจะเป็นอาหารอเมริกันครับ จะเน้นพวก Steak กับ Main dish แบบเนื้อ ๆ และ seafood เป็นหลัก แต่ก็มีพวก appetizer, salad และ soup ให้เลือกกินเคียงคู่กับ Main Course ตามไป แต่ที่บอกว่าไม่รู้จะนิยามแบบไหนนั้นสาเหตุเป็นเพราะอาหารของร้านนี้บางอย่างมันก็เป็นอาหารยุโรป บางอย่างมันก็เป็นอาหารไทย fusion ก็ถ้าจะให้นิยามก็เป็น American - European Restaurant ละกัน สิ่งนึงที่ตกใจเมื่อเห็นเมนูของทางร้านก็คือตัวราคาอาหารครับ ราคาอาหารทุกอย่างนั้นแพงมาก แพงระดับเดียวกับโรงแรม 5 ดาว หรือร้านอาหารยุโรปหรู ๆ ชื่อดังในกรุงเทพเลย Main Course 1000++ , Appetizer 300++, Soup 200 ++ อะไรแบบนี้ คือถ้ามากินแบบไม่มีดีลนี่คงโดนกันไปคนละประมาณ 2000 ครับ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าราคาอาหารของร้านนี้เป็นราคาเท่านี้มาตั้งแต่ร้านในทำเลก่อนหน้าแล้วรึเปล่า หรือว่ามาตั้งราคาเอาใหม่ เอาตอนที่ย้ายร้านมาอยู่ที่สุขุมวิท 20 นี้ คือกับร้านที่ผมไม่เคยรู้จัก, ร้านที่ชื่อไม่ดัง มันก็ดูเป็นราคาที่แพงโอเว่อร์ไปนะครับ แต่เมื่อพิจารณาถึง ตัววัตถุดิบของเมนู (ที่ทางร้านถึงกับเขียนโฆษณาไว้เลยว่าใช้ของดีจริง) , บรรยากาศ และการบริการของทางร้านแล้ว ก็พอจะถือว่าสมน้ำสมเนื้อขึ้นมาหน่อย แต่ก็นั่นแหละครับ ขาดชื่อเสียงกับเกียรติยศมาเติมเต็มราคาให้มันแพงขนาดนี้ก็แค่นั้น
รายละเอียดของดีลที่พวกผมซื้อมากันนั้นคือเป็น Set Menu สำหรับ 4 คน มูลค่า 9720 บาท แต่ซื้อมาในราคา 3,299 บาท ประกอบด้วย Appetizer 4 อย่าง, Soup 4 อย่าง, Salad 2 อย่าง และ Main Course 4 อย่างครับ อาหารในมื้อนี้ก็มีเพิ่มเติมจากในดีลไปอีกอย่างนั่นก็คือ Steak จานนึง เนื่องจากว่าอยากจะลอง Steak ของร้านที่ประกาศตัวเองว่าเป็น Steakhouse จ๋าขนาดนี้ดูสักหน่อยครับว่ามันเด็ดจริงอะไรจริงรึเปล่า ก็มาไล่เรียงอาหารกันไปเลยละกัน
Appetizer
Baked Escargot 1/2 Dozen (400 บาท) จานนี้เห็นแว่บแรกผมนึกว่าเป็นหอยหวาน ซึ่งเอาจริง ๆ ผมก็ไม่ค่อยเห็นร้านไหนเสิร์ฟหอยทากมาแบบมาทั้งเปลือกแบบนี้เหมือนกัน ก็เลยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วหอยทากฝรั่งเศส, หอยทากอเมริกัน นั้นตัวเปลือกมันเป็นอย่างไร แต่จากที่ google ดูตะกี้ ตัวรูปร่างเปลือกได้ครับ แต่ลวดลายมันไม่ใช่ หรือว่านี่มันจะคือหอยหวานจริง ๆ แล้วแบบขอแค่ให้เป็นหอยเปลือกรูปทรงอย่างนี้ เราก็สามารถเหมาว่าเป็น Escargot ได้หมด? จานนี้ก็โอเคครับ อร่อยพอประมาณ อบหอยมาสุกดี และเนย กับซอสก็เข้าไปในตัวหอยดี กินเพลิน ๆ เปิดประเดิมกระเพาะ
Foie Gras, Pan-fried with mango (350 บาท) จานนี้ตอนแรกก็นึกว่าจะเป็น Foie Gras ชิ้นเล็ก ๆ ครับ แต่เปล่าเลย ฟัวกราส์ชิ้นใหญ่มาก เลยทำให้จานนี้น่าจะเป็นจานเดียวในมื้อนี้ที่ผมรู้สึกว่าคุ้มค่าคุ้มราคาดี เพราะส่วนใหญ่ ฟัวกราส์ 350++ บาทตามร้านอื่น ๆ นั้นจะได้มาเป็นชิ้นเล็ก ๆ ง่อย ๆ ซะมากกว่า จานนี้ก็ทำได้ดีอีกเช่นกันครับ เพิ่งเคยกินเหมือนกันกับการเอา ตับห่านมากินกับมะม่วงสุก ๆ ซึ่งตับห่านมันก็เข้ากันได้ดีกับผลไม้ เปรี้ยวหวาน ๆ อยู่แล้ว ก็เลยไม่มีปัญหาอะไร ทางร้านยังมีแถม red cabbage ที่ผมชื่นชอบเพิ่มเติมมาให้อีกด้วย ก็เป็นการกินตัดรส ล้างลิ้นในแต่ละคำที่กินตับห่านเข้าไปได้เป็นอย่างดีครับ จานนี้เสียดายที่ตับห่านยังใช้ของไม่ค่อยดีเท่าไร และก็ทางร้าน Overcook ไปนิดนึงด้วย ตับเลยแข็งไปนิด และก็มันไม่ค่อยเยิ้มเท่าไร
Baked Imported Scallops with Cheese (390 บาท) - เป็นหอย Scallop จากอเมริกาแน่นอน เพราะว่าตัวใหญ่ผิดหอยนุษย์หอยนาแถวเอเชียนี้ (พยายามเล่นคำว่ามนุษย์มนาครับ) จานนี้ ทำมาได้ค่อนข้างดีเลย ทางร้านเอาหอยไปอบกับชีสจนแบบแข็งปั๋ง ชีสยึดหอยมาติดกับจานเลย พอเอามีดค่อย ๆ แล่เอาเนื้อหอยที่อวบอูม เป่งปั่ง ออกมากินก็ ว้าว อร่อยดีครับ ชีสกับหอยเข้ากันดี เพิ่งจะเคยกินอะไรแบบนี้เหมือนกัน
Smoked Norwegian Salmon (320 บาท) จานนี้ชอบที่สุดใน Appetizer ล่ะครับ ไม่รู้ว่าเจ้าแซลมอนรมควันนี้เป็นการซื้อแบบสำเร็จรูปมารึเปล่า ซึ่งถ้าใช่ก็อยากจะไปถามเชฟจริง ๆ ว่าซื้อมาจากเจ้าไหนเหรอ? อยากซื้อบ้าง แต่ถ้าทางร้านทำเองก็ต้องขอปรบมือให้เพราะว่ามันอร่อยจริง ๆ ตัวแซลมอนกินเปล่า ๆ ก็อร่อยอยู่แล้ว แต่ทางเชฟมีใส่ซอสที่คล้าย ๆ มายองเนส บวกกับเม็ด caper เข้าไปอีก ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะไม่เข้ากัน แต่เข้ากันดีครับ รสชาติเค็มจากปลา , หวาน ๆ ขม ๆ จากซอส , และ texture แข็ง ๆ จากเม็ดนี้ พอม้วนกินแต่ละคำแล้ว โอย ฟิน แฟง ฟัง เลยครับ
Soup
New England Clam Chowder (250 บาท) ซุปจานนี้อร่อยครับ ผมเองไม่ค่อยได้กินเท่าไร หรือว่ากันจริง ๆ ก็คือไม่เคยกินตามร้านอาหารด้วยซ้ำ เคยซื้อแต่แบบเป็นกระป๋อง ๆ ของ Campbell มากิน อร่อยครับ รสชาติกลมกล่อมดีมาก
Mediterranean Lobster Bisque (280 บาท) จานนี้ไม่ผ่านครับรสชาติ lame ๆ แปลก ๆ พิกลพิการ ได้ว่าเป็น Lobster Bisque อย่างเดียวก็ตรงหน้าตาแค่นั้นครับ
French Onion soup (220 บาท) จานนี้ทำมาได้ค่อนข้างดี ซุปไม่เค็มปี๋ไปแบบหลาย ๆ ร้านที่กินช่วงหลัง, ชีสก็ไม่ได้อบมาจนแข็งโป๊ก แต่จะแบบนุ่ม ๆ ยืด ๆ น่ากิน และก็ตัวน้ำซุปก็ไม่ได้ทำมาจนข้นคลักจนไม่ใช่ซุปแต่น่าจะเรียกว่าสตูว์มากกว่าแบบบางร้าน ถือว่าทำได้ดีครับ ใช้ได้เลย
Cream of Crabmeat (270 บาท) ซุปจานนี้เป็นอีกอันที่ lame ๆ นิดหน่อย ทางร้าน Peter's Pan ให้เนื้อปูมาพอสมควรสมกับราคาที่ตั้งไว้แสนแพง แต่รสชาตินั้นมัน เปรี้ยว ๆ ปะแล่ม ๆ แปลก ๆ ยังไงไม่รู้ครับ ผมและเพื่อน ๆ ไม่ค่อยชอบกันสักเท่าไร
Salad
Spicy Beef Salad (210 บาท) จานนี้ เห็นหน้าตาแว่บแรก มันคือยำเนื้อลายของไทยชัด ๆ ครับ! ทั้งสะระแหน่, แตงกวา, พริก และเนื้อ แต่มีสตรอเบอรี่มาเพิ่มความเป็นฝรั่งเล็กน้อย จานนี้ไม่อร่อยครับ เหมือนกับเชฟพยายามจะทำให้ยำแบบไทย ๆ นั้นมันมีความเป็นอเมริกัน ความเป็นตะวันตก รสชาติที่กินมันเลยประหลาด ๆ จะยำก็ไม่ใช่ จะสลัดก็ไม่เชิง เสียดายเนื้อดี ๆ นุ่ม ๆ ที่ให้มาค่อนข้างเยอะในจานครับ
Spicy Crabmeat Salad (210 บาท) เป็นสลัดจานที่ 2 จานนี้ก็ไม่ค่อยอร่อยอีกเช่นกันครับ รสชาติจะออกเปรี้ยวนำมากไป และแบบ lettuce ที่ให้มา ผมไม่รู้สึกว่ามันเข้ากับเนื้อปูตรงไหนเลย (ควรจะเป็นเนื้อประเภทอื่นมากกว่า) จานนี้ไม่ค่อยผ่านครับ แต่ก็กิน ๆ ไป เพราะจะได้มี fiber เข้ากระเพาะบ้าง
Main Course
Maryland Crab Cake (served with tarragon and butter sauce - 900 บาท) - Main Course จานแรกเป็นอะไรที่เรียกว่าทอดมันปูสไตล์ฝรั่งก็ไม่ผิดนักครับ จานนี้บอกตรง ๆ ว่าเห็นราคาแล้วแอบงง เอาจริงดิ? Crab Cake 900 บาท ตอนก่อนจะเห็นจานก็แอบคิดว่ามันจะก้อนใหญ่แค่ไหนให้เยอะแค่ไหน เพราะว่า 900 บาทนี่ถ้าเอาเนื้อปูม้ามาทำก็ได้ร่วม ๆ 2 กิโลแบบมีเปลือกเลยนะเนี่ย แต่พอพนักงานยกมาก็ต้องผิดหวังกับปริมาณครับ เพราะมันเป็นทอดมันปูชิ้นไม่ใหญ่นัก 2 ชิ้นนัก และยิ่งได้กินคำแรกแล้ว ก็ยิ่งเซ็งเพราะไม่ค่อยเจอความเป็นเนื้อปูซักเท่าไร เป็นแป้งกับเนื้อปูซักครึ่งนึง (แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นส่วนผสมที่เหมาะสม) แต่ก็นะ ตั้งราคาแพงไป ยังดีครับ ที่รสชาติทำออกมาได้ดี ใช่ครับ อร่อยแบบประมาณทอดมันกุ้งร้านดี ๆ แบบไทย ๆ ในบ้านเรา แต่อันนี้เป็นทอดมันปูไม่ชุบเกล็ดขนมปังแค่นั้น period
Fillet of Lamb (Imported fillet of lamb from Australia. served with sauteed mushroom and zucchini - 900 บาท) จานนี้เป็นอีกจานที่จะตั้งราคาแพงไปไหน 900 บาทได้เนื้อแกะเล็ก ๆ มา 2 ชิ้น หลาย ๆ ร้านนี่ 900 บาทได้เนื้อแกะมาทั้งขา หรือถ้าเป็นซี่โครงก็ได้มา 3-4 อัน เฮ้อ แต่ก็อีกแล้วครับ รสชาติถือว่าทำได้ค่อนข้างดี แต่เนื้อมัน Overcook ไปหน่อย หรืออาจจะไม่หน่อยเพราะมัน Well-done ไปแล้ว เพราะจริง ๆ ถ้าทำมาแบบ medium-rare กำลังดี มันก็จะอร่อยกว่านี้มากเลย เพราะซอสที่ราดมา, ผิวที่หมักเนื้อมา และ garnish ที่ให้มาในจาน ทุกอย่างทำมาได้ดีหมดเลย
Lamb Curry (Frenched rack ribs cooked in mild curry sauce with sweet potato served with brown rice - 950 บาท) จานนี้เป็นจานแรกใน Main Course ที่ผมรู้สึกว่า เออค่อยคุ้มราคาหน่อย เพราะทางร้านให้ซี่โครงแกะอันใหญ่มาถึง 3 ซีก และก็ให้ข้าวเปล่ามากินด้วยอีก 1 จาน จานนี้นอกจากจะคุ้มแล้วรสชาติก็ยังทำได้ดีมากอีกด้วยครับ ตัวรสแกงกะหรี่นั้นจะเป็นแนวไทย ๆ ไม่ใช่แนวอินเดีย แบบที่ตอนแรกที่คิดว่าจะเป็น คือกลิ่นเครื่องเทศมันไม่แรงเท่า แล้วก็มาหวานนิด ๆ และก็มีแอบเผ็ดหน่อย ๆ และกินแต่ละคำกับเนื้อแกะที่ตุ๋นมาจนเปื่อยยุ่ยนุ่ม ๆ แล้วแบบ โอเคเลยครับ เป็นจานที่ทั้งคุ้มและอร่อยเลย
Pan-fried US Cod Loin in Rich Cream (Cheese sauce served with white asparagus - 800 บาท) เป็น Main Course ในดีลจานสุดท้าย จานนี้ไม่ไหวครับ ปลาค็อด ไม่รู้ว่าไม่สด หรือว่าปรุงรสมาไม่ดี กินเข้าไปคำแรกนี่แหยะมาก และก็ไม่รู้ว่าทางร้านต้องการจะทอดให้ออกมากรอบนอก นุ่มใน หรือว่าจะทอดให้พอสุกหรือว่าอะไร เพราะว่า texture มันไม่ชัดเจนมาก ๆ คนละเรื่องกับหลาย ๆ ร้านที่ช่วงหลังกินมา และมีเมนูปลาค็อด ซึ่งแบบแทบทุกร้านจะทำอร่อยหมดเลย และตัว sidedish ที่ให้มาด้วยกัน - White Asparagus ก็แบบต้นใหญ่ดีนะครับ แต่กินไปแล้วก็แหยะอีกเช่นกัน รสชาติประหลาดมาก fail มากครับจานนี้
New York Steak (Grain - fed imported steak from the US Black Angus Choice Grade 180 Days weight 330 gram served over a charcoal grill - 1300 บาท) เป็นอาหารที่สั่งเพิ่มเติมไปจากในดีล หน้าตาตอนยกมานั้นน่ากินมาก ๆ ครับ grill มาแบบผิวนอกดูสวยงามหมดจดจริง ๆ แต่พอแล่ไปดูความสุกข้างในแค่นั้นล่ะครับ OMG มัน Well-done ไปแล้วครับ พวกผมก็เลยบอกให้พนักงานไปทำมาใหม่ ซึ่งร้านนี้ก็ดีครับ เอาเนื้อชิ้นใหม่ทอดมาให้เลย ซึ่งชิ้นที่ 2 มันก็ไม่ Medium-rare สักเท่าไรอีกเช่นกันแต่เป็น medium ซะมากกว่า แต่ก็แบบขี้เกียจรอ + สงสัยทางร้านแล้วก็เอาวะ กิน ๆ ก็ได้ ตัวเสต็กรสชาติดีครับ คือเป็นรสชาติแบบที่ควรจะคาดหวังกับเสต็กที่ไปกินตามร้านอาหารอ่ะครับ แต่ถ้าถามว่าดีขนาดแบบจะเอาไปโม้ว่านี่คือเสต็กจากร้าน Steakhouse มั้ยก็คงตอบได้ง่าย ๆ ว่าไม่ครับ ตัวผมเองเพิ่งไปไล่ล่ากินเสต็กที่อเมริกามาเยอะ ร้านที่นุ่นทุกร้านทำได้ดีกว่าเนื้อชิ้นนี้ที่วัตถุดิบใช้อย่างเดียวกันหมด ตัวซอส, การปรุงเนื้อนั้นดูไม่ใช่ปัญหาเท่าไร น่าจะเป็นปัญหาที่การ grill ที่เทคนิคอาจจะยังไม่เทพพอแค่นั้นล่ะมั้งครับ (ร้าน Steakhouse แพง ๆ ในไทยชื่อดังทำได้ดีกว่าแบบชัดเจนครับ) ส่วนตัว Garnish ที่ให้มาด้วยกัน ผมว่ามันดูไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไรนะ เมล็ดข้าวโพด กับมันฝรั่งทอดเนี่ย ฮ่า ๆ แต่ก็โอเคครับ แปลกดี
มื้อนี้ ไปกัน 5 คนหาร ๆ กันแล้วก็ตกอยู่ที่คนละ 900 บาทครับ ก็ถ้าไม่ได้ดีลมาช่วยลด มื้อนี้ก็คงโดนกันสัก 2000 บาทได้ ซึ่ง 900 บาทผมโอเค พร้อมที่จะจ่าย แต่ถ้า 2000 บาทแน่นอนว่าผมไม่ยอมจ่ายแน่ ร้าน Peter's Pan นี้องค์ประกอบทุกอย่างของร้านอาหารดี ๆ นั้นผมว่าก็ทำมาได้ดีหมด จะขาดก็แต่เรื่องรสชาติอาหารนี่แหละครับ ที่แบบ ตัวเองกล้าตั้งราคาแพงขนาดนี้แล้ว รสชาติมันก็ควรจะ stellar ตามราคาที่ตั้งไว้ด้วย ไม่มีใครหรอกครับจะมายอมจ่ายเงินแพง ๆ แล้วได้อาหารที่รสชาติแบบหากินได้ตามร้านที่จ่ายได้ถูกกว่าครึ่งนึงแบบนี้ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะร้านย้ายมาใหม่ เชฟอาจจะมาใหม่ ฝีมือยังไม่นิ่ง ยังเรียนรู้สูตรของคุณ Peter ได้ไม่ดีพอรึเปล่า อันนี้ก็ต้องรอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ล่ะครับ
ปล. ร้าน Steakhouse ที่ไม่ค่อยชื่อดังเท่าไรในไทยนี่รู้สึกจะชอบ Overcook ตัว steak กันเหลือเกินนะครับ ไม่รู้ว่าเพราะคนไทยติดชอบกินอะไรสุก ๆ รึเปล่าจนพ่อครัวชาชินกับการทำเนื้อสุก ๆ ไปแล้ว ผมล่ะอยากวิงวอนคนที่เป็น Beef Lover แต่ยังสั่ง well-done มากินจริง ๆ ว่าเลิกเหอะครับ มาลอง Medium Rare เถอะ มันคือความสุกแบบที่เชฟทั่วโลก, นักชิมทั่วโลกพิสูจน์มาหมดแล้วว่ามันอร่อยที่สุด เพราะถ้าคนไทยสั่งแบบนี้กันเยอะ ๆ เค้า เดี๋ยวพ่อครัวเสต็กบ้านเราก็จะได้ทำ medium rare ออกมาได้ดีตาม
ปล. 2 ผมอ่าน Kitchen Confidential ที่เป็นหนังสือของเชฟชื่อดัง เค้าบอกว่าเวลาลูกค้าสั่งเนื้อแบบ well-done นี่เค้าจะดีใจมาก เพราะจะได้กำจัดเนื้อเน่า ๆ เนื้อไม่ดีใน stock ทิ้ง เพราะมันเป็นการย่าง, การปรุงในแบบที่จะไปทำลาย protein ของเนื้อจนหมด จนกินแล้วไม่รู้เลยว่าเนื้อดีกับเนื้อไม่ดีมันแตกต่างกันยังไง อืม เค้าบอกว่าไม่เชื่อก็ลองดูก็ได้ เอาเนื้อห่วย ๆ กับเนื้อเทพ ๆ มาทำ well-done แล้วลอง blind test กินดู นี่ล่ะครับ อีกหนึ่งเหตุผลของการหยุดกิน well-done
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment