Jok One Table - Chinese Restaurant at Jaroenkrung Rd., Bangkok
จกโต๊ะเดียว - ร้านอาหารจีน อาหารทะเล โต๊ะจีน ตรอกอิสรานุภาพ (เจริญกรุง 21) เยาวราช
Overall Score 8/10
Taste 4/5
Ambiance 3.5/5
Service 5/5
Value 4/5
จกโต๊ะเดียว - ร้านอาหารจีน on BumRes.com (For more pictures and menu)
ร้านอาหารแบบเชฟจัดให้เราเลือกอะไรไม่ได้, Chef's Table, Omakase หรืออะไรประมาณนี้ที่เรามีหน้าที่แค่ไปที่ร้านแล้วนั่งกินเฉย ๆ นั้น ในบ้านเรายังไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายสักเท่าไร เมื่อเทียบกับประเทศพัฒนาแล้วหลาย ๆ ประเทศที่มีความเป็น Gourmet ในตัวคนทั่วไปมากกว่า (เขียนอะไรวะเนี่ยงง) สำหรับในประเทศไทย ร้านสไตล์นี้ในสมัยก่อนนั้นจะไม่มีเลย ไอ้ประเภทปิดหูปิดตาลูกค้า คุณมานั่งกินอย่างเดียวพอนะ จบนะ อะไรแบบนี้ คือไม่ถึงกับไม่มีเลย แต่จะมีในรูปแบบของ set menu ในวันพิเศษต่าง ๆ เช่น วันวาเลนไทน์, วันปีใหม่, อะไรพวกนี้ซะมากกว่า (แต่บางเจ้าก็ยังพอเลือก main course ได้อีกนิดหน่อย) แต่ ณ ปี พ.ศ. นี้ ร้านแนว ๆ นี้ก็เริ่มมีมาเยอะขึ้น เช่นร้าน Water Library - Thonglor ที่จองโต๊ะไปอย่างเดียว แล้วก็ไปเลือกเอาว่าจะดื่มไวน์แพง ๆ ด้วยรึเปล่าแค่นั้น เลือกอะไรอย่างอื่นไม่ได้, ร้าน Sushi ของเครือ Tenyuu ที่กำลังจะเปิดเป็น Omakase Sushi Restaurant ในเร็ว ๆ นี้ (รู้สึกจะเดือนหน้า) และก็... นึกไม่ออกล่ะครับนึกออกแค่นี้ แต่กับร้านที่จะรีวิวในฉบับนี้ก็เป็นร้านที่เป็นแนวเชฟจัดให้ที่โด่งดังมาหลายปีแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าตัวร้านนั้นทำมาแล้วกี่ปี แต่ผมเคยได้ยินชื่อมาอย่างต่ำ ๆ ก็สัก 3 ปีมาแล้ว กับร้านที่มีนามว่า จกโต๊ะเดียว แห่งนี้
ร้าน จกโต๊ะเดียว แห่งนี้ เริ่มต้นความโด่งดังมาจาก บก.ของพลอยแกมเพชรที่ได้มากินที่ร้านแล้วชอบมาก ตอนนั้นที่ร้านยังไม่มีชื่อร้าน และตัวพ่อครัวใหญ่ชื่อเฮียจก ทางบก.ก็เลยตั้งชื่อร้านให้ว่า จกโต๊ะเดียว มาตั้งแต่บัดนั้น พอร้านเริ่มไปโปรโมทในหนังสือพลอยแกมเพชร ก็เริ่มโด่งดังขึ้นไปเรื่อย ๆ และไปโด่งดังที่สุดตอนที่ได้ลงใน 101 Best Restaurant You Must Eat Before You Die อะไรประมาณนี้ใน Newsweek และหลังจากนั้นมา ผมไม่รู้ว่าทางร้านได้ down ลงไปอะไรอย่างไรรึเปล่า เพราะไม่ค่อยได้เห็นรีวิว ไม่ค่อยเห็นมีคนพูดถึงสักเท่าไร นอกซะจากว่าตอนนี้ร้านไม่ใช่โต๊ะเดียวแล้วแต่เป็น จกหลายโต๊ะ แทน (พนักงานบอกว่ารับลูกค้าพร้อมกันได้สูงสุด 5 โต๊ะตอนนี้) (เคย turnover ในมื้อเดียวมากสุด 7 โต๊ะ)
ร้าน จกโต๊ะเดียว แห่งนี้ เป็นร้านห้องแถวเล็ก ๆ (เล็กมาก เพราะมีโต๊ะเดียวตรงด้านหน้า) ตั้งอยู่ในตรอก อิสรานุภาพ (เจริญกรุง 21) ตรอกเล็ก ๆ ที่ถ้าขับรถผ่านอาจจะเลยได้, ตรอกเล็ก ๆ ที่แม้ว่าเข้ามาถูกตรอกแล้วก็อาจจะยังหาร้านไม่เจอก็เป็นได้ ที่จอดรถของทางร้านนั้นไม่ต้องพูดถึง ไม่มีแน่นอน ตัวผมเองผมขับรถไปจอดที่ลานจอดรถตรงแถว ๆ สี่แยกเฉลิมบุรี, เยาวราช แล้วก็เดินมาที่ร้าน เดินประมาณสัก 5 - 10 นาทีจากที่จอดรถก็จะถึงร้านแล้วล่ะครับ ร้านนี้เปิดทำการทุกวัน และก็มีบริการมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น ก็แน่นอนครับ ร้านโต๊ะไม่เยอะ และก็รู้สึกยังพอขายดีอยู่ จะไปกินก็โทรไปจองโต๊ะกันก่อนละกัน อย่างของผม เพื่อนผมโทรจองให้ 2 สัปดาห์ก่อนไป จากเมื่อก่อนที่ได้ยินว่าต้องจองกัน 2 เดือน ก็ไม่รู้ว่าตกลงร้านนี้มัน down ลงไป หรือว่าคนเลิกเห่อ หรือว่าอะไรครับ ลองอ่านต่อไปละกัน
อาหารของทางร้านนี้จะเป็นอาหารแนวโต๊ะจีน 9 Course ซึ่งเมนูก็จะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล, ตามวัตถุดิบ แต่ก็จะมีเมนูหลัก ๆ ที่จะมีอยู่เสมอเช่น ปูนึ่ง อะไรพวกนี้อยู่ และถ้าใครกิน 8 Course ยังไม่อิ่ม ก็สามารถสั่งอาหารเพิ่มได้ อย่างเช่นในมื้อของผม ไปกัน 7 คน ก็สั่งเพิ่มไปอย่างนึง กิน ๆ ไปกิน ๆ มาก็อิ่มกำลังดีกันครับ ซึ่งเท่าที่ทราบมา ถ้าจะไปกินร้านนี้ก็ควรไปกันประมาณ 8 - 10 คนก็จะกำลังดีครับ แต่จะไปกันกี่คน ราคาอาหารก็จะออกมาที่คนละ 1,500 - 2,000 บาทโดยประมาณต่อคน เพราะว่าพวกอาหารแพง ๆ นั้นทางร้านจะจัดมาให้พอดีหัวมันก็เลยแบบดึงราคาขึ้นมาให้เท่า ๆ กันประมาณนี้อยู่เสมอ อย่างมื้อนี้ของผมก็ค่าเสียหาย 10,300 บาททั้งโต๊ะ ก็คนละ 1,500 บาทโดยประมาณครับ
มื้อนี้เริ่มต้นด้วย แปะก๊วยคั่ว 200 บาท เป็นอาหารที่ถือว่าเริ่มต้นได้ดีครับ เพราะแบบเบา ๆ กินเล่น ๆ และเป็นอาหารแบบกินรอชาวบ้านได้ ซึ่งเหตุผลหลังนี่ผมว่าสำคัญมาก เพราะว่า อาหารของทางร้านนั้นเป็นโต๊ะจีนกว่าคนจะมากันครบ และยิ่งตัวร้านหาเจอยาก ๆ แบบนี้อีก (ของผมนัดกันเที่ยงกว่าจะครบก็เที่ยงครึ่ง) ก็เลยแบบเป็นอาหารที่ใครหิวก็คีบกินทีละเม็ดสองเม็ด ไปเรื่อย ๆ รอคนอื่นได้ อะไรแบบนี้ ตัวแปะก๊วยนั้นเม็ดโต เป่ง ๆ ดี และก็คั่วมาแบบหวานกำลังดี อร่อยดีครับ คืออร่อยขนาดไหนไม่รู้ เอาเป็นว่าผมและเพื่อนกินกันเพลินมาก กว่าเพื่อนจะมากันครบ จานนี้ก็พร่องไปมากพอตัวเลย
พอคนมาครบ ทางเฮียจก (รึเปล่า? ไม่ได้เข้าไปดูที่ครัว) ก็เริ่มทำอาหารอย่างที่ 2 มาเป็น เกี๊ยวกุ้ง 200 บาท เกี๊ยวกุ้งนี่ก็มาแบบกุ้งตัวใหญ่ ๆ เนื้อแน่น ๆ ความใหญ่ความแน่นก็ประมาณเกี๊ยวกุ้ง CP ที่มีขายกันอยู่ทั่วไปพวกนั้นล่ะครับ ตัวใหญ่จริง ๆ และก็นึ่งมาแล้วก็โรยกระเทียมเจียวมาเยอะ ๆ เต็มชาม เกี๊ยวกุ้งนี่อร่อยมาก ๆ ครับ ของ CP ที่ผมว่าอร่อยแล้ว สู้ไม่ได้เลย อร่อยจริง ๆ อร่อยจนแบบพอมาเห็นราคาตอนหลังแล้วอยากสั่งเพิ่มอีกสัก 5 จานเลย
อาหารอย่างที่ 3 เป็น เป๋าฮื้อซาซิมิ 600 บาท จานนี้เคยเห็นในเมนูร้านอาหารจีนเหลา ๆ หลายร้านแล้ว แต่แบบส่วนใหญ่จะแพงจนไม่กล้าสั่งซะเป็นส่วนใหญ่ จริง ๆ แล้วราคาอาหารของร้าน จกโต๊ะเดียว นี่เค้าจะไม่บอกตอนแรก แต่จะมาบอกตอนเรียกเก็บเงิน ตอนแรกก็คิดว่าจานนี้ประมาณ 1,500 เพราะว่าให้เป๋าฮื้อมาเยอะดี แต่พอเห็นราคา 600 แล้วก็อยากจะสั่งมากินอีกสักจานครับ จานนี้เป็น Sashimi สไตล์จีน ๆ หรือสไตล์อะไรไม่รู้ แต่ไม่ใช่สไตล์ญี่ปุ่นอ่ะครับ ตัวเป๋าฮื้อต้ม หรือ นึ่งมาสุกกำลังดี และแล่มาบาง ๆ กินแล้วไม่เหนียวกินเพลิน จิ้มกับน้ำจิ้มวาซาบิที่ละลายมาเป็นน้ำให้จิ้มได้เลย และกินคู่กับหัวไชเท้าและแครอทและผักชี อืม ก็อร่อยดีนะครับ เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่ดีเลยล่ะ (อร่อยกว่ากิน Awabi Sushi ตามร้านญี่ปุ่นหลาย ๆ ร้านเลย)
อาหารอย่างที่ 4 เป็น หมูรมควัน 300 บาท จานนี้หน้าตาน่ากินดีครับ แต่พอกินแล้วรสชาติไม่ค่อยโดนสักเท่าไร ส่วนนึงเพราะทางเฮียจกเหมือนจะเลือกเอาเนื้อหมูส่วนไม่ติดมันมาซะเยอะ คือเนื้อมัน lean มากครับ lean จริง ๆ กินแล้วมันไม่ค่อยอร่อยเท่าไร (และไม่น่าใช่เนื้อหมูดำ คุโรบูตะ ที่มันจะมันส ๆ หน่อยด้วย) ส่วนรสชาติก็กลาง ๆ ครับ เค็มนิดหน่อย อะไรงี้ ที่ผมบอกว่าถ้าเป็นเนื้อติดมันน่าจะอร่อยกว่านี้ เพราะมันจะมีบางชิ้นที่ติดมันมา และพอกินแล้วมันอร่อยกว่าเนื้อ lean ๆ เยอะจริง ๆ
อาหารอย่างที่ 5 เป็น ปลาหิมะทอด - นึ่งซีอิ๊วกับผักกาดแก้ว (2,000 บาท) ก็มี fillet ปลาหิมะ มาให้ 2 ชิ้นใหญ่ ๆ ซึ่งเจ้า 2 ชิ้นนี้ถ้าไปซื้อตาม supermarket ก็น่าจะราคาชิ้นละ 1000 บาทโดยประมาณแล้ว พอแบบเห็นราคาของจานนี้แล้วก็เลยแอบค่อนข้างคุ้มค่าเหมือนกันนะเนี่ย ตัวปลาหิมะจานนี้ เฮียจก ทำมาต่างจากร้านอื่นหน่อยตรงที่ไม่ได้นึ่งมาเปล่า ๆ ในน้ำซีอิ๊ว แล้วก็ใส่ขิงโรย ๆ มา แต่จะแบบเอาปลาไปทอดจนเนื้อด้านนอกพอกรอบ แล้วก็น่าจะเอาไปนึ่งเพิ่มเติม หรือไม่นึ่งไม่รู้ กับน้ำซีอิ๊ว แล้วก็เสิร์ฟมาพร้อมผักกาดแก้วดิบ ๆ จานนี้ก็อร่อยดีนะครับ เสียงบนโต๊ะแบ่งออกเป็น 2 สาย สายนึงชอบกว่าแบบ traditional นึ่งซีอิ๊วเฉย ๆ ส่วนอีกสาย (ที่ผมอยู่ด้วย) ชอบแบบนึ่งซีอิ๊ว traditional มากกว่า คือส่วนแล้ว ปลาหิมะมันเป็นปลาที่เนื้อจะนุ่ม อร่อย มี texture เป็นของตัวเอง พอเอามาทอด แบบนี้แล้วมันก็เหมือนเป็นปลาธรรมดา ๆ ทั่วไปที่สูญเสียความนุ่มไปอ่ะครับ
อาหารอย่างที่ 6 เป็น ปูนึ่ง 4 ตัว 4000 บาท จานนี้ก็เป็นอีกจานที่ค่อนข้างคุ้มค่า เพราะได้ปูมาถึง 4 ตัว (ทางร้านคิดราคามาตัวละ 1,000 บาท) และแบบแกะเนื้อมาให้เรียบร้อยหมดแล้ว ซึ่งดูจากขนาดก้ามปูแล้ว ปูตัวนึงน่าจะประมาณตัวละเกือบ ๆ โล และถ้าเกือบ ๆ 4 โลราคา 4,000 นี่ถือว่าถูกเลยครับ ไปซื้อ supermarket ก็โลละ 1,000 แล้ว หรือถ้ากินร้านเหลา ๆ ส่วนใหญ่ก็จะโลละ 1,300 - 1,800 กันแล้วเดี๋ยวนี้ จานนี้ไม่มีอะไรให้ต้องติครับ เพราะเนื้อปูน่าจะฆ่าแล้วเอาไปนึ่งกันสด ๆ ก่อนยกมา และก็นึ่งมาได้ perfect มาก เนื้อปู หอม หวาน อร่อย ในทุก ๆ คำที่กินลงไปเลย (จานนี้เป็นจานที่ Newsweek ให้เป็นจานสุดยอดของทางร้าน)
อาหารอย่างที่ 7 เป็น กุ้งแม่น้ำ XO 1,500 บาท จานนี้ผมไม่ค่อยชอบเท่าไร ทั้งตัวรสชาติ และความแพง ไม่คุ้มค่าของมัน คือแบบ 1,500 ได้กุ้งแม่น้ำตัวไม่ใหญ่มากมาอยู่ 3 ตัว คือแบบ .. ราคามันแพงโอเว่อร์ไปอ่ะครับ ส่วนรสชาติก็ธรรมดา ๆ มาก ๆ ประมาณกุ้งทอดกระเทียมทั่ว ๆ ไป ไม่ได้แสดงความเทพของซอส XO ออกมาแต่อย่างใดเลย เพื่อนผมส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยตรงกันว่าจานนี้ไม่ค่อยโดน
อาหารอย่างที่ 8 เป็น ผัดหน่อไม้ทะเล 600 บาท จานนี้ก็ธรรมดา ๆ ครับ หากินได้ตามร้านอาหารจีนในเยาวราชทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผมกินมาก็รสชาติประมาณนี้ หอยเส้น (หน่อไม้ทะเล) นุ่มประมาณนี้ตัวใหญ่ประมาณนี้ (น่าจะเอามาจากกระป๋องแบบเดียวกับร้านอื่น) ผักคะน้าที่ให้มาก็นุ่มประมาณเดียวกัน ไม่ได้มีรสชาติที่โดดเด่นเหนือร้านอื่นแต่อย่างใดครับ แต่ไม่ใช่ไม่อร่อยนะครับ แค่ร้านอื่นก็ทำอร่อยในระดับนี้แค่นั้น และส่วนใหญ่ที่กิน ๆ มาจะราคา 400 บาทด้วยซ้ำครับ จานนี้ก็เลยเหมือนแพงไปโดยปริยาย
อาหารอย่างที่ 9 เป็นอาหารที่พวกผมสั่งกันเพิ่มไปตอนแรกพอกินหมดยอ่างที่ 8 พนักงานของทางร้านมาถามว่าอิ่มกันรึยัง อยากสั่งอะไรเพิ่มมั้ยแล้วก็ offer ตัวข้าวผัดหมูรมควัน กับ ซุปปลาเก๋าต้มบ๊วยมาให้ เนื่องจากว่าในมื้อนี้ไม่มีอะไรเป็นซุป ๆ เลยบวกกับหมูรมควันที่ได้มาก่อนหน้าไม่ค่อยโดนเท่าไรก็เลยสั่งไปแค่ ซุปปลาเก๋าต้มบ๊วย - 400 บาท ซุปอันนี้ความอร่อยก็ไม่ได้มากมายอะไรครับ แต่ก็ถือว่าทำมาได้ดีในระดับนึง แต่จุดเด่นนั้นน่าจะเป็นที่ความคุ้มค่าครับ เพราะกับราคา 400 บาทที่จ่ายไป แล้วได้เนื้อปลาเก๋ามาแบบเต็ม ๆ ถ้วยแบบนี้ และเนื้อปลาเก๋าก็อร่อยดี สดดี เด้งดีด้วยครับ แต่ตัวน้ำซุปนั้นยังไม่ค่อยเทพเท่าไร ทำให้รสชาติมัน down ลงไปนิดนึง
มื้อนี้ตบท้ายด้วยอาหารอย่างที่ 10 และเป็นของหวาน กับ โอวนี่แปะก๊วย - 300 บาท ก่อนหน้านี้ผมกินมากี่ทีกี่ทีกับเจ้าของหวานสไตล์จีน ๆ จานนี้ก็ไม่เคยอร่อยซะที ตอนแรกก็คาดหวังว่า จกโต๊ะเดียว จะทำมาได้อร่อยกว่าร้านอื่น แต่ก็เปล่าครับ อยู่ในระดับเดียวกันเลย กินแล้วไม่มีความประทับใจ กินแล้วเหมือนกับว่ากิน ๆ ไปให้มันหมด ๆ กิน ๆ ไปเพราะมันเป็นของหวานซะมากกว่าอะไรแบบนี้ครับ (แปะก๊วยคั่ว ตอนแรกยังอร่อยกว่า และเหมาะมาเป็นของหวานมากกว่าด้วยซ้ำ ฮ่า ๆ)
สรุป มื้อนี้ นั่งกินกัน 2 ชั่วโมง กับอาหาร 10 อย่าง และค่าโต๊ะ 10,300 บาท กับร้านที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนานมาในช่วงหลาย ๆ ปีหลังนี้ ก็ถือว่าราคาไม่ค่อยแพงสักเท่าไร | การบริการของร้านนี้ดีมากครับ จะมีน้องพนักงานคนนึงคอยยืนดูแลเราเป็นประจำอยู่เสมอ เติมน้ำ, เปลี่ยนจาน ให้แทบจะตลอดเวลา ตัวรสชาติอาหารนั้น โอเค อร่อยครับ แต่ถามว่าอร่อยขนาดแบบต้องมาจองล่วงหน้านาน ๆ , เดินมากินลำบาก ๆ , ต้องนัดเพื่อนมากินเป็นโต๊ะจีนแบบนี้รึเปล่า ก็ตอบได้สั้น ๆ ว่า "ไม่" ครับ ร้านอาหารจีนแถว ๆ เยาวราชหลาย ๆ ร้าน ก็ทำรสชาติออกมาได้ประมาณนี้กันทั้งนั้น ส่วนนึงที่ร้านนี้อาจจะมีความขลัง ความพิเศษมากกว่าชาวบ้านหน่อยก็คงเป็นเรื่องการ "จะได้กิน" นั้นมันทำได้ยากกว่าร้านอื่น ทั้งเรื่องจำนวนโต๊ะที่น้อย, การเดินทางที่ไปลำบากอะไรพวกนี้ และถ้าถามว่าชาตินี้ควรมากินซักทีมั้ย ก็ตอบได้ง่าย ๆ อีกเช่นกันว่า "ควรมา" แต่ถ้าถามผมว่า ผมอยากจะไปซ้ำรอบ 2 มั้ย อันนี้ต้องคิดดูก่อนครับ เพราะมัน.. ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมต้องลำบากลำบน จองโต๊ะ, เดินไกล ๆ ไปกินเลยถ้าถาม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment