Gold Curry - Japanese Curry Rice Shop at Sukhumvit 39, BTS Phrompong, Bangkok
โกลด์ เคอรี่ - ร้านอาหารญี่ปุ่น ข้าวแกงกะหรี่ เบียร์สด สุขุมวิท 39 พร้อมพงษ์ BTS
Overall Score 7/10
Taste 3.5/5
Ambiance 3.5/5
Service 4/5
Value 4.5/5
Gold Curry - Japanese Curry Shop on BumRes.com (For more pictures and menu)
ร้านข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบเฉพาะทาง , specialized in curry rice แบบทั้งร้านขายแต่ข้าวแกงกะหรี่ และแกงกะหรี่ นั้น .. ในเมืองไทยตอนนี้ผมนึกออกอยู่แค่ 3 ร้านคือร้าน CoCo Ichibanya , ร้านป้ายเขียว ๆ ตรงตึกธนิยะ (ที่ผมเคยรีวิวไว้แต่จำชื่อไม่ได้ -*-) และร้าน Gold Curry - พร้อมพงษ์ ในรีวิวฉบับนี้เท่านั้น ตรงกันข้ามกับที่ญี่ปุ่น ที่จะมีร้านข้าวแกงกะหรี่โดยเฉพาะอยู่หลายร้าน ทั้งร้าน franchise และไม่ franchise เพราะข้าวแกงกะหรี่กับคนญี่ปุ่น มันก็เปรียบได้ดั่ง ข้าวแกงกับคนไทยนั่นเองครับ คือสามารถเปรียบได้ในทุกแง่มุมจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารราคาถูกที่สุดในลำดับขั้นความแพงของอาหารญี่ปุ่น (จานละ 400 - 500 yen โดยเฉลี่ย สูสีกับข้าวหน้าเนื้อ) , ความรวดเร็วในการได้อาหารเพราะแค่ตักราด ๆ ก็ได้กินแล้ว และความ ubiquitous ของมันที่นึกอยากจะกินเมื่อไรก็สามารถหากินได้ง่าย ๆ (เผลอ ๆ ง่ายกว่าเราเพราะร้าน CoCo ที่ญี่ปุ่นเปิด 24 ชั่วโมง) รวมถึงเป็นอาหารอย่างเดียวที่คนญี่ปุ่นจะกินจากช้อนกันด้วย
ร้าน Gold Curry แห่งนี้ หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยิน หรือรู้จักกัน เพราะทางร้านมี campaign การเปิดตัวที่เรียกได้ว่า แหวกแนวกว่าชาวบ้านคือจัดให้มีการแข่งกินข้าวแกงกะหรี่ชิงรางวัล, กินฟรี กันตั้งแต่วันเปิดร้านเลย (ผมเองก็รู้จักร้านนี้จาก campaign นี้) ตัวร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 หรือซอยพร้อมพงษ์ จากปากซอยเข้าไปสัก 200 เมตรร้านจะอยู่ขวามือ ส่วนที่จอดรถ ก็พอจะมีให้จอดอยู่บ้าง คือจะมีซอยข้าง ๆ ร้านซึ่งจะเป็นที่ตั้งของร้าน My Porch อยู่ และเราสามารถไปจอดตรงนั้นได้เลย (ตอนนี้ทางร้านเพิ่งเปิดสาขา 2 เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ซอยธนิยะ ครับ)
ตัวร้านนั้นเป็นห้องแถวห้องเดียว แบ่งเป็น 2 zone โซนนั่งโต๊ะและโซนเคาน์เตอร์ ตามสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่จะ utilize พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อาหารของทางร้านนี้ ก็ตามที่มาจะกล่าวบทไปตอนต้น ว่าจะเป็นข้าวแกงกะหรี่ แกงกะหรี่ และกะหรี่ เป็นหลัก มีพวกของกินเล่น ๆ อีกนิดหน่อย ตัวข้าวแกงกะหรี่ของร้านนี้เราสามารถเลือกปริมาณข้าวได้ โดยจะมี 5 ระดับ SS ไปจนถึง LL ซึ่งราคาก็จะต่างกัน 40 ไปจนถึง 100 บาทโดยประมาณแล้วแต่หน้าแกงกะหรี่ ซึ่งตอนจะสั่งผมก็ถามพนักงานว่า size ที่ต่างกันนี่แค่ปริมาณข้าวอย่างเดียวหรือว่าตัว topping ก็ให้เยอะน้อยต่างกันด้วย ก็ได้ความว่าต่างกันแค่ปริมาณข้าวจริง ๆ topping เหมือนกันหมด ซึ่งถ้าถามผม ผมก็ว่ามันประหลาดดีนะ แค่เพิ่มข้าว แบบข้าวอย่างเดียว ต้องจ่ายตังค์เป็น 100 บาทเลยเหรอเนี่ย! (ผมก็เลยสั่ง size SS มาหมดจะได้กินได้หลาย ๆ หน้าแทน)
สิ่งนึงที่ผมคาใจคือ topping ของร้านนี้จะถูกมาก และมีให้เลือกครบทุกหน้าที่เอาไปใส่แกงกะหรี่ เอ็นวัว, หมูทอด, ไก่ทอด, ไส้กรอก อะไรมีหมด และราคาจะอยู่ที่ 40 - 60 บาทเท่านั้น ผมเลยคิดว่าถ้าสั่งข้าวมาจานนึง และเลือก size SS แล้วก็สั่ง topping มาหลาย ๆ หน้าน่าจะถูกกว่าสั่งแบบ SS แล้วกินหลาย ๆ ชามเอานะเนี่ย (มาวิเคราะห์ได้ตอนหลัง -*-) อีก 3 อย่างที่ร้านนี้แบบโดดเด่นเหนือร้านคู่แข่งมาก ๆ คือ ทางร้านมีน้ำเปล่าบริการให้ฟรี , มีซุปมิโซะพร้อมหัวหอมซอยให้เติมฟรี และไม่มี vat + service charge เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว จากเดิมที่ผมเกลียดร้านอาหารในเครือภูเขาไฟอยู่แล้ว (ร้าน คู่แข่งเป็นร้านในเครือ) ตอนนี้ก็ยิ่งไม่ชอบเข้าไปอีกครับ คือแบบเอาร้านอาหารญี่ปุ่นมาทำลายวัฒนธรรมร้านอาหารญี่ปุ่น แล้วก็คิดราคาแพง ๆ เอากำไรสุด ๆ เซ็งครับ (เข้า coco ไป ก่อนอื่นเจอน้ำเปล่าก่อนเลย 20 - 30 บาท, ซุปสั่งก็เสียตังค์ ถ้าไม่สั่งก็ไม่มีให้, มี vat + service charge มาเพิ่มความแพงให้อีก)
ข้าวราดแกงกะหรี่เอ็นวัว (Beef tendon stew curry rice - SS Size - 160 บาท) (การผสมผสานกันของเอ็นวัวตุ๋นและแกงกะหรี่จากคานาซาว่าซึ่งทำให้ได้รสชาติที่เข้มข้น) อ้อ ทางร้านมีน้ำแกงกะหรี่ให้เลือกได้ทั้งวัว หรือ หมู นะครับ แตกต่างจากร้านคู่แข่งที่มีแต่น้ำวัวแต่ไม่ยอมแจ้งลูกค้า จนหลาย ๆ คนที่มารู้ตอนหลังว่าใช่น้ำซุปวัวก็ถึงกับเลิกกินกันไปเลย (ไม่รู้ว่าตอนนี้มีรึยังนะครับ ไม่ได้ไปนาน) และตัวน้ำแกงกะหรี่ของที่นี่จะเป็นสไตล์ Kanazawa ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันต่างจาก แกงกะหรี่ทั่วไปยังไง แต่เท่าที่เห็นคือน้ำมันจะสีข้น ๆ กว่าปกติ แล้วก็มีกะหล่ำปลีซอยมาให้ (แค่นั้น ล่ะมั้ง? -*-) ตัวข้าวแกงกะหรี่เอ็นวัวอันนี้ อร่อยสุดในมื้อนี้ล่ะครับ เอ็นวัวนุ่ม ๆ ไม่เหนียว (น่าจะตุ๋นมานาน) มาพร้อมกับ คอนยัค หรือบุก เข้ากันเป็นอย่างดีครับ กินไม่ถึง 1 นาทีก็หมดแล้วจานนี้ อ้อ อีกอย่าง ร้านนี้เลือกความเผ็ดของน้ำแกงกะหรี่ไม่ได้ครับ เสียดายเหมือนกัน ผมชอบกินเผ็ด ๆ
อาหารจานที่ 2 นั้นเป็น ข้าวราดแกงกะหรี่โกลด์คัตสึ (Gold Katsu Curry Rice - SS Size - 160 บาท) (อาหารยอดนิยมของร้าน เราใช้เกล็ดขนมปังสดใหม่เพื่อทำให้หมูชุบแป้งทอดนั้นกรอบเป็นพิเศษ) อาหารที่น่าจะอร่อยที่สุดของร้าน, น่าจะภูมิใจที่สุดเพราะเอาชื่อร้านไปตั้ง และน่าจะขายดีที่สุด แต่พอผมกินแล้ว.. กลับชอบตัวเอ็นวัวมากกว่านะครับ โอเคน้ำกะหรี่, ข้าว, กะหล่ำปลีซอย เหมือนกันทุกประการ แต่จานนี้มันมาด้อยกว่าตรงหมูทอด ที่กินแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นหมูทอดหรือ tonkatsu ที่ทำมาให้เหมาะกับข้าวแกงกะหรี่รึเปล่า กินแล้วรู้สึกว่ามันด้อยกว่า katsu ของร้าน tonkatsu แท้ ๆ ครับ หมูชิ้นไม่หนาเท่าไร, แป้งที่ทางร้านโม้ว่ากรอบก็ไม่ค่อยกรอบเท่าไร ประมาณนั้น
จานที่ 3 เป็น ข้าวห่อไข่ราดแกงกะหรี่ (Omelette curry rice - SS size 150 บาท) (อาหารยอดนิยมอีกอย่างของร้านนอกเหนือจากหมูชุบแป้งทอดออมเล็ตที่ฟูนุ่มจนกินได้ไม่รู้เบื่อ) จานนี้ก็เป็นอีกสไตล์นึง คือเอาไข่ห่อกับข้าวที่ราดแกงกะหรี่มาแล้วอีกที จานนี้อร่อยดีครับ ผมค่อนข้างชอบเลย ไข่มาแบบนุ่ม ๆ อร่อย ๆ และก็เข้ากับแกงกะหรี่และข้าวเป็นอย่างดี แม้ว่าจะดูเป็นอาหารเด็ก (แต่ไม่ถึงกับเด็กอ่อน) แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันครับ กินไปแต่ละครับแล้ว อ๊าง ๆ ดีแท้
ส่วนข้าวอีกจานนั้นเป็น ข้าวราดแกงกะหรี่ฮันตัน (Hunton curry rice - M Size - 220 บาท) (ปรับเปลี่ยนข้าวฮันตันซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของคานาซาว่าให้เป็นแกงกะหรี่) จานนี้เป็นของเพื่อนฝรั่งผมที่ไปด้วยกัน ก็แบบเป็นจานที่เรียกได้ว่ามาครบครันครับ มีทั้งไข่ห่อข้าว, กุ้งชุบแป้งทอด และหมูชุบแป้งทอด จานนี้มาสุดท้าย และพอผมเห็นแค่นั้นแหละ รู้สึกเสียดายที่สั่ง ๆ จานแรก ๆ ไปทันที เพราะสั่งจานนี้จานเดียว (แม่ง) ได้ครบเกือบทุกอย่างเลย ผมไม่ได้ชิมของเพื่อนผม เนื่องจากฝรั่งเค้าไม่แชร์อาหารกัน แต่ก็ถาม ๆ เค้าก็ได้คำตอบว่า "อร่อยดี กินได้เรื่อย ๆ ให้เยอะดี กุ้งกับหมูชุบแป้งทอดน่าจะทำได้มากกว่านี้นะ น้ำแกงกะหรี่ไม่ค่อยเผ็ดเลย ผมชอบเผ็ดกว่านี้นิดนึง" ประมาณนี้ครับ
เนื่องจากผมติดใจ เอ็นวัว (Beef tendon stew - 60 บาท) ก็เลยสั่งเป็น topping มาอีกอย่าง ก็ตามที่พิมพ์ไปข้างต้นครับ topping ให้เยอะมาก และถูกกว่าสั่งเป็นข้าวซะอีก topping เอ็นวัวนี้ก็เหมือนกับที่ให้มาในข้าวทุกประการครับ (แหงสิ) อร่อยดี เค็ม นุ่ม อร่อย กินเพลิน ย้าฮู อ้อทางร้านนี้เจ๋งกว่าร้านคู่แข่ง ราคาแพง(กว่า) ด้วยตรงที่มีเบียร์สด Asahi Draft Beer - 100 บาท ไว้บริการด้วย พวกผมก็เลยสั่งกันไปคนละแก้ว แหม่ เบียร์นี่มันเข้าได้กับอาหารทุกอย่างจริง ๆ
สรุป มื้อนี้ค่าเสียหาย 1,050 บาท กับข้าว 4 จาน และเบียร์ 3 แก้ว ก็เรียกได้ว่าไม่แพงเลย อะไรเลย เพราะถ้าไปกินร้านคู่แข่ง ผมว่าเผลอ ๆ มื้อนี้น่าจะมี 1,500 ได้ (แหม่ กัดบ่อยเกินไปมั้ยเนี่ยครับ ฮ่า ๆ) ร้าน Gold Curry นี้แม้ว่ารสชาติข้าวแกงกะหรี่อาจจะไม่ได้โดนใจอะไรผมมาก (อยู่ในระดับเดียวกันกับร้าน CoCo Ichibanya ที่ว่า แต่จะเป็นคนละสไตล์กันเล็กน้อย) แต่ด้วย offers อะไรหลาย ๆ อย่างที่ร้านนี้มีมอบให้เหนือคู่แข่ง ผมก็เลยรู้สึกว่าถ้าอยากกินข้าวแกงกะหรี่ ก็อยากจะมากินร้านนี้มากว่าอีกร้านที่มีหลายสาขาล่ะครับ มาคราวหน้า จะมาลองทำตาม tactic ที่ผมเขียน ๆ ไว้ดูสักหน่อย น่าจะ work นะเนี่ย!
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment