Overall Score 10/10
Taste 5/5
Ambiance 5/5
Service 5/5
Value 5/5
Favola Italian Restaurant at Le Meridien Chaing Mai on BuMRes.com
Favola เป็นภาษาอิตาเลียนแปลว่าเรื่องราว ก็ไม่รู้ว่าทำไมร้านอิตาเลียนขั้นเทพประจำโรงแรม Le Meridien Chaing Mai แห่งนี้ถึงตั้งชื่อร้านตัวเองว่าแบบนี้ ผมรู้อยากเดียวว่าร้านนี้เป็นร้านแรกและร้านเดียวในขณะนี้ที่ให้ผมคะแนนทุกด้านเต็ม! (จาก 600 กว่าร้านที่เริ่มเขียนรีวิวมา) ร้านนี้ทำไมถึงสุดยอดขนาดนั้น? ก็ต้องรบกวนให้ท่านผู้อ่านอ่าน Favola ของผมที่ได้สัมผัสมากับร้าน Favola แห่งนี้ก่อนล่ะครับ
ร้าน ฟาโวล่า นี่ก็กลายเป็นร้านลำดับที่ 6 ของ ตระเวณกินถิ่นเชียงใหม่ Spring 2012 ของผม ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรม เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ และเป็นหนึ่งใน 2 ห้องอาหารที่เป็นห้องอาหารจริง ๆ ของโรงแรม (อีกห้องคือ Latest Recipe ที่บริการอาหารนานาชาติแบบบุฟเฟ่ท์ , อาหารเช้า อะไรพวกนั้น) ร้านนี้ตอนแรกที่วางแผนไว้ในทริป ผมไม่ได้กะจะมาหรอกครับ แต่เนื่องด้วยในห้องพักโรงแรมที่ผมพัก มีโบรชัวร์โฆษณาโปรโมชั่นประจำเดือนของห้องอาหารนี้อยู่ ซึ่งมันน่าสนใจ ผมก็เลยชวนแม่ผมลงมากินกัน แต่ก่อนจะไปก็มีการ research เล็กน้อยเกี่ยวกับข้อมูลร้าน ซึ่งปรากฎว่าร้านนี้ได้รีวิวที่ค่อนข้างจะดีมากจากฝรั่ง (แต่รีวิวคนไทยไม่เห็นเลย) ผมก็เลยยิ่งแน่ใจเข้าไปใหญ่
ผมใส่ชุดกึ่ง ๆ ชุดนอน (ขาสั้น เสื้อยืด) ลงไปที่ร้านเนื่องจากขี้เกียจเปลี่ยนชุด ดีที่พนักงานไม่ได้ไล่ให้กลับไปเปลี่ยน (จริง ๆ ชุดก็ไม่ได้แย่มากหรอกครับ แต่แบบขาสั้น ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับร้านแบบนี้) ตลอดเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงที่อยู่ในร้าน Favola @ Le Meridien แห่งนี้ ผมได้รับการบริการที่ดีมาก ๆ จากพนักงานของทางร้าน สมกับเป็นโรงแรม 5 ดาว และนอกจากการบริการแล้ว บรรยากาศของห้องอาหารนี้ก็ดีสวยงามหรูหราไฮโซสมระดับด้วยเช่นกัน (เพียงแต่ว่าร้านใหญ่เกินไปหน่อย ตอนผมไปมีลูกค้าอยู่แค่ 2 โต๊ะคือผมกับอีกโต๊ะ และอ่านรีวิวคนอื่น ๆ ก็บอกว่ามื้อที่พวกเค้าไปกินก็มีประมาณนี้ตลอด) ส่วนอาหารของร้านนี้ก็มีให้เลือกไม่ค่อยเยอะตามสไตล์อาหารอิตาเลียนในโรงแรม สนนราคาก็มาตรฐาน ๆ รายละเอียดเมนูของทางร้าน Favola ก็ดูได้ที่ tab menu เลยนะครับ
อาหารในมื้อนี้ผมสั่ง Set โปรโมชั่นประจำเดือน Fasta Set Menu 1200 Baht ที่ประกอบด้วยอาหาร 5 Course ซึ่งมันเป็นอะไรที่คุ้มมาก ๆ เพราะแค่เจ้า Main Course ที่เป็น Grilled Lamb Cutlet นี่ราคาปกติก็ 1,150 บาทได้แล้ว ส่วนอาหารอีกจานที่เป็นอาหารของแม่ผม ผมก็บังคับสั่ง Caprase Salad (Insalata Caprese - 350 บาท) ให้คุณเธอไป ระหว่างรออาหารพนักงานก็ยกขนมปังมาเสิร์ฟก่อน ผมอยากจะบอกว่าหลาย ๆ ร้านที่ไปกินมาไม่ว่าจะฝรั่งเศสหรืออิตาเลียน แค่ได้กินขนมปังเรียกน้ำย่อยในมื้อนั้น ๆ 80% ผมก็พอจะคาดได้แล้วว่าอาหารในมื้อนั้นจะเป็นเช่นไร และแน่นอนขนมปังของร้าน Favola @ Le Meridien แห่งนี้ยอดเยี่ยมครับ ทั้งอร่อย สวยงาม และแปลกไม่เหมือนร้านอื่น คือมีซอส 3 รสให้ทากิน แทนที่จะเป็นเนย หรือน้ำมันมะกอกเหมือนร้านอื่น ๆ
อาหารจานแรกในมื้อนี้เป็น Red Tuna Carpaccio Crusted with Fennel Seed and Pan Fried Hokkaido Scallop, Frisee Lettuce, Mango Dressing อาหารจานนี้เห็นหน้าตาตอนแรกก็กรี๊ดล่ะครับ สวยงาม น่ากิน เหมาะกับเป็น appetizer สุด ๆ และผมใช้เวลาไม่นานในการกินจานนี้ ประมาณไม่เกิน 30 วินาทีก็กินหมด เพราะว่ามันอร่อย! แซลมอนดิบ ๆ กับหอย Hotate ย่างมาสุกกำลังดี กับผัก Frisee Lettuce นี่มันช่างเข้ากันเหลือเกิน โอย ชอบ
ส่วนจานที่ 2 คือ Deep Fried Prawn with Wasabi Aioli Set on Mango Salsa, Crispy Parmesan Chip and Eatable Flowers จานนี้ก็สวยงามไม่แพ้กันและเจ๋งตรงที่มีดอกไม้กินได้วางโปรย ๆ มาในจาน เจ้าแผ่นที่วางแหมะมาด้านบนตอนแรกผมก็ไม่รู้หรอกว่าอะไร พอกัดถึงได้รู้ว่ามันคือชีส (Parmesan Cheese) และอาหารอีก 2 อย่างในจาน กุ้งทอด, เม็ดข้าวโพด พอกินสลับกันไปสลับกันมามันก็แบบช่างสุดยอดจริง ๆ เหมือนมันเปิดประสาทสัมผัสครบทุกด้านเลย เฮ้อ ชอบ
จานที่ 3 เป็น Creamy Risotto with Fresh Mango, Accompanied with Pan Fried Duck Liver and a Drizzle of 15-Year-Old Balsamic เริ่มเข้าสู่จานหลัก อาหารเริ่มหนักขึ้นมาหน่อย จานนี้แน่นอน หน้าตาสวยงามอีกแล้ว และคล้าย ๆ จานที่ 2 พอสมควรแค่เปลี่ยนจากเม็ดข้าวโพดเป็นเมล็ดข้าว ตับเป็ดหรือฟัวกราส์ทำมาได้ดีครับ นุ่ม ๆ มัน ๆ กินเข้ากับข้าวที่แม้จะดูแห้ง ๆ ไม่น่ากินแต่แต่ละคำนี่ทำไมมันฉ่ำ อร่อยก็ไม่ทราบ จานนี้สุดยอดอีกแล้ว
Main Course หรือจานที่ 4 ในมื้อเป็น Grilled Lamb Cutlet with Caramelized Mango, Needle Beans, Cratin Potato with Parma Ham and Red Wine Jus หรือ ซี่โครงแกะกับผักนานาชนิดนั่นเอง จานนี้แม้ว่าผมจะคาดหวังให้มันเจ๋งที่สุดในมื้อ แต่พอได้กินแล้วก็แอบผิดหวังครับเพราะว่า 3 จานก่อนหน้าทำมาได้ดีกว่าแต่ก็ไม่มากเท่าไร และถ้าเอาจานนี้ไปเทียบกับของร้านอื่น ๆ ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วล่ะครับ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผมชอบจานนี้เป็นพิเศษนั้นไม่ใช่เนื้อแกะแต่เป็น Cratin Potato with Parma Ham ที่แบบมันเป็น side dish ที่เกิดมาก็เพิ่งเคยกินนะครับ ซึ่งมันอร่อยมากกก
จานที่ 5 จริง ๆ เป็นอาหารของแม่ผม Caprase Salad ร้าน Favola @ Le Meridien Chaing Mai นี่ presentation มาได้ประทับใจสุด ๆ คือจานมันใหญ่มาก ใหญ่จนแบบไม่เคยเห็นสลัดบ้าอะไรจานใหญ่ขนาดนี้ และแน่นอน จานใหญ่ portion อาหารก็ต้องเยอะ (350 บาทแต่ให้ขนาดนี้นี่คุ้มมาก) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด รสชาติ พอได้กินแล้ว ผมบอกได้คำเดียวว่ามันคือ one of the best insalata caprase ที่ผมเคยกินมาเลย (มีที่สูสี ๆ หรือดีกว่าที่ผมนึกออกแค่ 2 ร้าน) ชอบอีกแล้วจานนี้ ฮือ ๆ (ร้องไห้เพราะร้านดันอยู่เชียงใหม่ไปกินลำบาก)
ส่วนของหวานในมื้อนี้เป็น Cold Mango Cheese Cake, Strawberry Coulis หรือข้าวเหนียวมะม่วงสไตล์อิตาเลียน โดยส่วนตัวผมค่อนข้างเฉย ๆ กับเจ้าของหวานจานนี้ เพราะมันแห้ง ๆ แข็ง ๆ ไปหน่อย แต่แม่ผมก็ชอบและกินจนเกลี้ยงไม่เหลือ ผมก็เลยไม่รู้จะให้คะแนนมันยังไงดี
เบ็ดเสร็จ มื้อจัดหนักของผม กับร้าน Favola @ Le Meridien Chaing Mai นี่ก็เป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ ครับ อาหารอร่อยล้ำ หน้าตาอาหารสวยงามดุจดั่งอาหารในเทพนิยาย พนักงานบริการดีเลิศประเสริฐศรี และที่สำคัญ ราคาโค ตะ ระ คุ้ม (คือนี่ขนาดใช้บัตร Le Club ลดไม่ได้นะครับผมยังรู้สึกคุ้มขนาดนี้) ร้าน Favola นี่ก็เลยเบียดแซงทุกร้านอิตาเลียนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในใจผมเรียบร้อย เสียดายที่ร้านอยู่ตั้งเชียงใหม่ แต่ถ้าผมมีโอกาสไปเชียงใหม่อีกเมื่อไร ผมจะต้องไปร้านนี้ให้ได้ ทุกครั้ง!
ปล. เขียนยาวไปหน่อย แบบว่าพอดีมันชอบมากอ่ะครับ ฮ่า ๆ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment