Ramen King - Japanese Ramen Restaurant A-Square Sukhumvit 26 Review
ราเมน คิง - ร้านอาหารญี่ปุ่น เอ-สแควร์ สุขุมวิท 26 รีวิว
Overall Score /10
Taste /5
Ambiance /5
Service /5
Value /5
Ramen King Bangkok - Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ร้านแนวที่แบบรวบรวม ๆ ร้านหลาย ๆ ร้านไว้ในที่เดียวและตั้งชื่อร้านเป็นร้านเดียวในบ้านเราเท่าที่ผมนึกออกในตอนนี้ก็มีแค่ร้าน Ramen Champion ของตันอยู่ที่เดียว (แต่เอาจริง ๆ ก็เหมือนจะเคยได้ยินชื่อร้านอื่น ๆ มาบ้างนะครับแต่นึกตอนนี้นึกไม่ออกแฮะ) ซึ่งร้านแนวนี้ที่ญี่ปุ่นเองก็มีกันค่อนข้างเยอะที่ผมเคยเจอก็จะมีรวบรวมร้าน Takoyaki, ร้าน Ramen อะไรประมาณนี้ โดยร้านราเมนนี่จะเยอะหน่อยเคยเจอมาหลายที่มากเลย (Ramen Museum ในหลาย ๆ เมืองก็เป็นลักษณะนี้) ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วร้าน Ramen Champion ในบ้านเราก็ไม่ได้เป็นเหมือนกับที่ญี่ปุ่นซะทีเดียวเพราะแบบจะแยกย่อยเป็นร้านย่อยอีกทีนึงในขณะที่ที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นเหมือน food court บ้านเรามากกว่าที่จะรวม ๆ ร้านพวกนี้ไว้เป็น counter ในเวิ้งเดียว
เมื่อช่วงปลาย ๆ เดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมา ในกรุงเทพเราก็ได้มีร้านแนว Ramen Museum หรือร้านแนวรวบรวมร้านราเมนหลาย ๆ ร้านมาเปิดอยู่ที่โครงการ A Square สุขุมวิท 26 กับร้าน "Ramen King - ราเมน คิง" ร้านนี้ก็จะเป็นร้านที่ประกอบไปด้วย 6 ร้านย่อยในร้านเดียว โดยแต่ละร้านก็จะมีลักษณะเป็น counter ให้ลูกค้าเดินไป order อาหารและก็จะรับตัวแจ้งเตือนมาซึ่งมันจะดังเมื่ออาหารของเราเสร็จแล้ว ซึ่งระเบียบวิธีนี้เรียกได้ว่าเหมือนกับที่ญี่ปุ่นเป๊ะ ๆ เลยก็ว่าได้ครับ (ซึ่งผมว่ามันสะดวกดีนะ ไม่ต้องไปยืนรอหน้าร้าน)
ณ วันที่ผมไปเป็นงาน Grand Opening ของทางร้าน Ramen King อะไรต่าง ๆ ก็เลยค่อนข้างจะไม่เหมือนมื้อปกติอยู่พอสมวร อย่างแรกเลยคือพื้นที่ชั้น 2 ของทางร้านยังสร้างไม่เสร็จดีทำให้ที่นั่งในวันที่ผมไปค่อนข้างจำกัดจำเขี่ยอยู่พอสมควร แต่ถ้าสร้างเสร็จแล้วผมว่าที่นั่งของร้านนี้ก็ค่อนข้างจะเยอะพอตัวและแบบที่นั่งมีหลากหลายโซนหลากหลายแบบดีเลือกนั่งกันได้ตามสะดวก, อย่างที่สองราเมน ณ วันที่ผมไปไม่สามารถสั่งอะไรได้เลยนอกจากราเมนพื้นฐาน อย่างที่สาม รู้สึกว่าระบบอะไรต่าง ๆ ของร้านยังไม่ค่อยลงตัวดีนักมีอะไรตกหล่นอยู่พอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมื้อของผมก็ผ่านไปด้วยดีได้ลองราเมนครบทุกร้านตามที่ตั้งใจเอาไว้ล่ะครับ
ร้านราเมนร้านต่าง ๆ ที่นำมารวมกันไว้อยู่ในเวิ้ง Ramen King แห่งนี้ก็จะเป็นร้านที่ใช้ชื่อเดียวกันกับร้านที่ญี่ปุ่นและตัวเชฟเจ้าของร้านที่ญี่ปุ่นเองเป็นคนคุมสูตรและคุณภาพของราเมนเอง ตอนแรกผมก็นึกว่าราเมนของที่นี่จะเหมือนกับที่ญี่ปุ่นทุกประการอารมณ์แบบยกร้านที่ญี่ปุ่นมาไว้ที่ไทยเลยอะไรแบบนั้นแต่ว่าเท่าที่ผมดู ๆ คือตัวราเมนจะไม่ได้เหมือนกับที่ญี่ปุ่นซะทีเดียวทั้งตัวหน้าตาหรือชนิดของราเมนเองก็ตาม (อย่างร้าน Tonkotsu Itto ที่ญี่ปุ่นมี Tsukemen ด้วยแต่ที่ไทยไม่มี) แต่คืออันนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดครับ เจ้าของร้านราเมนที่ญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของหลายร้านบางทีเค้าก็อยากจะให้ทุกร้านเหมือนกับร้านต้นฉบับทุกประการ บางคนก็อยากให้ร้านสาขาแตกต่างออกไปคิดราเมนสูตรใหม่ ๆ ขึ้นมาอะไรแบบนี้ ซึ่งจากที่ผมไปค้น ๆ ประวัติร้านเหล่านี้ที่ญี่ปุ่นดู แทบทุกร้านนี่คือเป็นร้านที่โด่งดังมาก ได้คะแนนรีวิวสูงมาก บางร้านได้รีวิวใน tabelog เกิน 4 คะแนนเลยทีเดียว (website tabelog เป็นเว็บรีวิวร้านอาหารอันดับ 1 ของญี่ปุ่น ร้านไหนที่ได้คะแนนเกิน 4 นี่ถือว่าเป็นร้านระดับเทพของประเทศเลย มีร้านที่ได้คะแนนเกิน 4 น้อยมาก ๆ แค่ไม่กี่พันร้านจากหลายแสนร้านที่มีอยู่ในระบบ) สรุปง่าย ๆ ก็คือ Ramen King แห่งนี้เค้าเชิญมาแต่ร้านดัง ๆ นั่นเอง
ร้านย่อย 6 ร้านในเวิ้ง Ramen King แห่งนี้ก็จะประกอบไปด้วย (เรียงตามลำดับร้านที่เจอเมื่อเดินเข้ามานะครับ หรือตามเข็มนาฬิกานั่นเองจะได้เดินหาเจอกันได้ง่าย ๆ)
1. Tonkotsu Itto โดย Chef Yukihiko Sakamoto โดยร้านนี้เค้านิยามตัวเองเอาไว้แบบนี้ "เพื่อการไปสู่สุดยอดราเมงซุปกระดูกหมู เราเสนอราเม็งซุปกระดูกหมูของจ.ฮะคะตะ!! เป็นราเมงซุปกระดูกหมูอีกหนึ่งชามที่รวมเอาความอร่อยและกลมกล่อมเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ทำให้คนที่ชอบราเมงประเภทนี้ผิดหวังแน่นอน เริ่มจากการต้มกระดูกหมูในส่วนขาและศีรษะก่อน หลังจากที่รสชาติเริ่มออกแล้ว ก็เพิ่มกระดูกในส่วนหลังเข้าไป เพื่อเพิ่มความกลมกล่อมของน้ำซุปให้มีมากยิ่งขึ้น เชิญลิ้มลองน้ำซุปที่เคี่ยวนานกว่า 12 ชม. ที่เข้ากับเส้นราเมงแบบเส้นเล็กมากได้เป็นอย่างดี" ส่วนราเมนที่มีให้ชิมคือ
ราเมนซุปกระดูกหมู (Tonkotsu Ramen - 180 บาท): สิ่งแรกที่โดดเด่นสำหรับราเมนชามนี้เลยคือตัวน้ำซุปครับ น้ำซุปเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่แบบรสชาติอร่อย เข้มข้นโดนจนมาก ๆ ซดเข้าไปคำแรกก็ชอบแล้วและยิ่งซดก็ยิ่งอร่อยขึ้นเรื่อย ๆ น่าจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่อร่อยที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และอีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นก็คือเส้นราเมนครับเส้นเป็นเส้นเรียวเล็กสไตล์ฮากาตะราเมนที่เท่าที่กิน ๆ มาผมว่าเป็นอะไรที่เข้ากันดีกับน้ำซุปกระดูกหมูมาก ๆ เข้าที่สุดแล้วล่ะ ส่วนหมูชาชูก็เป็นแผ่นบาง ๆ ใหญ่ ๆ เป็นส่วนเนื้อติดมันมาทั้งแผ่นก็เข้ากันดีและทำให้ราเมนอร่อยขึ้นจริง ๆ ชามนี้พวกผม 3 คน vote ให้เป็นอันดับ 1 ในมื้อนี้เลย
2. Miyamoto โดย Chef Ryutaro Miyamoto โดยร้านนี้เค้านิยามตัวเองเอาไว้แบบนี้ "หน้าตาอาจจะดูเหมือนรสชาติเข้มข้นเกินไปหรือเปล่า แต่พอได้ลองทานแล้วจะรู้ว่าน้ำซุปรสชาติกำลังพอดี ทานง่าย ผักในปริมาณที่เพียงพอบวกกับหมูชาชูที่นุ่ม ทำให้คุณสามารถอร่อยได้จนถึงคำสุดท้าย สิ่งที่แตกต่างจากราเมงร้านอื่นก็คือ “ใจรัก” เป็นราเมงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกและความรัก" ส่วนราเมนที่มีให้ชิมคือ
กระเทียมและผัดราเมนซุปกระดูกหมู (Garlic & Vegetable Tonkotsu Rmaen -190 บาท): เป็นราเมนที่ค่อนข้างโดดเด่นดีครับนหน้าตาของมันก็ตามที่ทางร้านเคลมตัวเองเอาไว้จริง ๆ คือ "มันดูเข้มข้นมาก" รเมนชามนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างจะโดดเด่น ฉีกหนีความจารีตประเพณีของราเมนที่ผมเคยกินมาพอสมควร อย่างแรกเลยคือตัวเนื้อหมูที่ให้มาไม่ได้เป็นเนื้อหมูชาชูสไลด์เหมือนกับร้านอื่น ๆ แต่จะเป็นแบบคล้าย ๆ หมูชิ้นบ้านเรา อารมณ์ประมาณคอหมูย่างอะไรแบบนั้นมากกว่า เนื้อหมูเลือกเป็นส่วนติดมันมา และก็หมักมาแบบเค็ม ๆ หน่อยจะกินเปล่า ๆ แบบไม่โดนน้ำซุปมากก็ได้หรือว่าถ้าอยากจะได้รสกระเทียม, ความจัดจ้านของกระเทียมเพิ่มก็จุ่มลงไปในน้ำซุปเพิ่มเติมก็จะได้รสชาติที่ต่างออกไป ตัวน้ำซุปของที่นี่กลิ่นระเทียมค่อนข้างจัด ใครที่ไม่ชอบกระเทียมนี่คงจะส่ายหน้าแต่ผมนี่ค่อนข้างชอบกระเทียมก็เลยกินกันเพลิน ๆ เลย ส่วนเส้นราเมนเป็นเส้นปกติ และก็ให้ถั่วงอกมาค่อนข้างเยอะครับชามนี้ รวม ๆ แล้วชามนี้พวกผม 3 คน vote ให้เป็นอันดับ 3 ในมื้อนี้
3. Misobancho โดย Chef Masakatsu Chiyoda โดยร้านนี้เค้านิยามตัวเองเอาไว้แบบนี้ "ราเมงซุปกระดูกหมูมิโซะรสกลมกล่อม ซึ่งกำเนิดจากจ.ฮอกไกโด ที่เป็นที่คุ้นเคยกันดีที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งชามที่สามารถปรุงแต่งรสชาติให้ออกมาได้กลิ่นหอมของมิโซะที่กำลังพอดีเลย" ส่วนราเมนที่มีให้ชิมคือ
มิโซะราเมน (Miso Ramen - 190 บาท): ชามนี้คำแรกที่กินเข้าไปคือ โอว เปรี้ยวจังเลยคือแบบไม่ค่อยจะเจอ miso soup ที่เปรี้ยวแบบนี้สักเท่าไรครับ ส่วนรสชาติอื่นนอกจากความเปรี้ยวก็จะมีเค็มนิด ๆ ปน ๆ มารวม ๆ แล้วน้ำซุปก็เป็นอะไรที่โดดเด่นดีติดอยู่อย่างเดียวคือเปรี้ยวเกินไปหน่อยลดลงมาอีกนิดนึงน่าจะกลมกล่อมลงตัวกว่านี้ องค์ประกอบอย่างอื่นในชามนี้ เส้นราเมน, หมูชาชู, หน่อไม้ดอง, ถั่วงอก ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษมากนัก ชามนี้พวกผม 3 คน vote ให้เป็นอันดับ 4 ในมื้อนี้
4. Butaou โดย Chef oshikazu Yoneda โดยร้านนี้เค้านิยามตัวเองเอาไว้แบบนี้ "ถ้าเป็นราเมงทั่วไปจะรู้สึกออก “รสเค็ม” แต่ถ้าเป็นสุกี้ยากี้ราเมงจะออก “รสหวาน” ลองมาสนุกกับการเปลี่ยนรสชาติของความหวานโดยการเพิ่มไข่ลวกหรือลองเพิ่มความเผ็ดลงไปดู" ส่วนราเมนที่มีให้ชิมคือ
สุกี้ยากี้ราเมน (Sukiyaki Ramen - 180 บาท): เป็นราเมนที่แปลกดีครับไม่เคยกินมาก่อนเลยกับรสแบบที่รสหวานจะเป็นรสนำแบบนี้ ความหวานนั้นจะมาจากน้ำซุปที่เป็นอารมณ์ประมาณน้ำซุปใส ๆ หน่อยไม่ค่อยข้น และรสเกือบ ๆ จะหวานเท่า ๆ น้ำสุกี้เลย บอกตรง ๆ ว่ากินเข้าไปคำแรกแล้วแอบกระตุกอยู่เหมือนกันแต่พอซดน้ำซุปไปซดมาแล้วก็แบบเอ้อ อร่อยดีนะ ซึ่งทางร้านก็ให้เนื้อหมูลวกแบบสไลด์บาง ๆ มาด้วย อารมณ์ประมาณเนื้อที่กินในสุกี้ยากี้เลยจริง ๆ เข้ากันดีกับน้ำซุปเป็นอย่างยิ่ง ส่วนตัวเส้นราเมน, หน่อไม้ดอง อะไรอย่างอื่นก็ค่อนข้างมาตรฐานครับไม่มีอะไรโดดเด่นสักเท่าไร รวม ๆ แล้วชามนี้พวกผม 3 คนให้เป็นอันดับ 2 ในมื้อนี้เลย
5. Jyoshoken โดย Chef Koichi Horikawa โดยร้านนี้เค้านิยามตัวเองเอาไว้แบบนี้ "จุดเด่นของเราอยู่ที่น้ำซุป เป็นน้ำซุปที่ทำจากกระดูกหมูและสัตว์ทะเล เราทุ่มเทอย่างมากโดยใช้เวลาเคี่ยวถึง 3 วันเลยทีเดียว และจานที่คุณต้องชิมเลย นั่นคือเมนูที่ชื่อว่า TSUKEMEN (สึเคะเมง)!! เส้นราเมงแบบใหญ่มากที่เต็มไปด้วยกลิ่มหอมของข้าวสาลีก็เข้ากับน้ำซุปได้เป็นอย่างดี" ส่วนราเมนที่มีให้ชิมคือ
สึเคะเมง (Tsukemen - 180 บาท): เป็นชามเดียวที่ได้กินราเมนแยกน้ำซุป (ไม่แน่ใจร้านอื่นมีให้สั่งด้วยรึเปล่านะครับ) หน้าตาภายนอกที่เห็นในตอนแรกคือไม่มีอะไรแตกต่างจาก tsukemen ปกติสักเท่าไรเลย เป็น tsukemen แบบ classic ก็ว่าได้ ตัวน้ำซุปเข้มข้นดีมากครับ สมกับที่ทางร้านเคลมเอาไว้ว่าเคี่ยวมา 3 วันแต่น่าเสียดายที่ให้มาไม่ค่อยร้อนนัก ส่วนตัวเส้นลวกมาแบบหนึบ ๆ กำลังดีแต่เหมือนยังขาดอะไรไปผมไม่แน่ใจเหมือนกัน รวม ๆ แล้วเป็น tsukemen ที่ดีกว่ามาตรฐาน ดีกว่าส่วนใหญ่ที่ผมเคยกินมาเล็กน้อยแค่นั้นวม ๆ แล้วชามนี้พวกผม 3 คนให้เป็นอันดับ 5 ในมื้อนี้
6. Uomasa เป็นอีกหนึ่งร้านใน Ramen King และเป็นร้านเดียวที่ไม่ใช่ร้านราเมน ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่น่าจะค่อนข้างคุ้นหูคนกรุงเทพฯมาสักพักล่ะเพราะว่าเปิดทำการมานานหลายปีแล้วที่ซอยทองหล่อ 13 (และตอนนี้มี 2 สาขาแล้วด้วยอีกสาขานึงอยู่ที่ 39 Boulevard) ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมทาง Ramen King ถึงให้ร้านนี้มาอยู่ในโครงการนี้ด้วย แต่เท่าที่ดูแล้วอาหารที่ร้านนี้ขายจะเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบทั่ว ๆ ไปและก็จะเป็นจานเล็ก ๆ กินง่าย ๆ มากกว่า เหมือนกับตั้งใจให้ลูกค้ามาสั่อาหารร้านนี้เหมือนเป็นของกินเล่น, ของเติมเต็มกระเพาะอะไรแบบนั้น - มื้อนี้ไม่ได้ชิมร้านนี้ครับไม่มีให้ชิม
สรุป มื้อ Grand Opening ของพวกผมที่ร้าน Ramen Kin - A Square สุขุมวิท 26 แห่งนี้ก็เป็นมื้อที่ค่อนข้างประทับใจนะครับ จำได้ว่าตอนที่ Ramen Champion ของตันเปิดใหม่ ๆ ผมไปตระเวณชิมมารวดเดียว 5 ร้านเหมือนกัน ตอนนั้นจำได้ว่าไม่ค่อยอร่อยเลย fail แทบทุกร้าน แต่คือของร้านนี้ทั้ง 5 ชามที่ได้กินในวันนี้ถือได้ว่าอร่อยหมดเลย อร่อยมากอร่อยน้อยต่างกันแค่นั้น คือแบบอันดับ 5 ของมื้อนี้นี่คือจริง ๆ แล้วดีกว่าร้านราเมนส่วนใหญ่ในกรุงเทพซะด้วยซ้ำนะครับ อืม ราเมนโดยรวมที่ Ramen King แห่งนี้ยังมีให้ลองกันอีกเอะมากครับ ผมว่าจะไปลองอีกหลาย ๆ ครั้งจะพยายามปลองจนกว่าจะกินจนครบ ก็นะ แต่ละร้านนี่ก็เหมือนกับยกร้านดังที่ญี่ปุ่นมาให้โดยที่เราไม่ต้องถ่อไปกินที่ที่โน่น โอกาสดี ๆ อย่างนี้จะพลาดได้อย่างไรล่ะครับว่ามั้ย
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment