Teien Sushi Bar - Sushi Bar & Japanese Restaurant at Piman 49, Sukhumvit 49, Bangkok
Overall Score 7.5/10
Taste 4/5
Ambiance 4/5
Service 4/5
Value 3.5/5
Teien Sushi Bar - Sushi Bar & Japanese Restaurant on BumRes.com (For more pictures, menu and info)
ใครบ้างครับที่คิดว่าร้าน Sushi Bar หรือร้านอาหารญี่ปุ่นแบบเน้นซูชิในกรุงเทพเราถึงจุดอิ่มตัวกันแล้ว? ผมคนนึงล่ะที่มีความคิดนี้มาสักพักนึงแล้ว แต่ความคิดนี้ก็ถูกทำลายลงเรื่อยมาจากร้าน Sushi ที่ค่อย ๆ ทยอยกันเปิดตัวขึ้นมาตามทำเลต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ซึ่งตอนนี้ผมรู้สึกว่าร้าน Sushi นั้นหาง่ายกว่าร้านอาหารแนวอื่น ๆ ไปแล้วก็คงจะไม่ผิดนักนะเนี่ย ในรีวิวนี้เราก็จะไปกันที่ร้าน Teien Sushi ร้าน ซูชิน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน ร้านนี้ก็เป็นร้าน Sushi ขนาดกลาง ๆ ค่อนไปทางเล็กที่ตั้งอยู่ที่พิมาน 49 - community มีระดับแห่งใหม่ในซอยสุขุมวิท 49 (จริง ๆ ก็ไม่ใหม่มากหรอกครับเปิดมาจะปีนึงล่ะที่นี่) ตัวร้านนั้นถ้าขับรถผ่าน หรือเดินผ่านอาจจะหายากสักหน่อยเนื่องจากว่าร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของตึก ๆ นึงในเวิ้งนี้ โดยการจะขึ้นไปร้านก็ต้องอาศัยลิฟท์ด้านหลังตึกขึ้นไป (หรือไม่ก็เดินขึ้นบันไดไป) อารมณ์คล้าย ๆ ร้าน Mugendai อะไรแบบนั้นล่ะครับ
ชื่อร้าน Teien Sushi นั้นแปลว่าสวนไผ่ ทางร้านก็เลยเน้นการตกแต่งตัวร้านด้วยไม้ให้ดูคล้าย ๆ เหมือนเป็นสวนไผ่ย่อม ๆ ทั้งโต๊ะ, เก้าอี้, ผนัง อะไรต่าง ๆ ล้วนทำจากไม้หมดเลย ก็บรรยากาศร้านอาจจะไม่ได้โดดเด่นแตกต่างจากร้านญี่ปุ่นระดับกึ่ง ๆ premium แบบนี้มากนัก คือมี ครัวเย็นขนาดใหญ่อยู่กลางร้าน และก็ห้อมล้อมเป็นรูปเกือกม้าไปด้วยโต๊ะอาหาร แต่ที่เด่นหน่อยก็คงจะเป็นตัวที่นั่งริมหน้าต่างของทางร้านที่เราสามารถมองวิวสวย ๆ ของพิมาน 49 กับซอยสุขุมวิท 49 ได้นี่แหละครับ ที่แตกต่างจากร้าน Sushi อื่น ๆ ที่มักจะอยู่ชั้น ground กัน
ร้าน Teien Sushi แห่งนี้นำปลาเข้าสัปดาห์ละสามวันคือ วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ ซึ่งเมื่อนับว่าเป็นร้านขนาดกลาง ๆ ที่ยอดขายยังไม่สูงเท่าร้านใหญ่ ๆ แล้ว การนำปลาเข้า 3 วันต่อสัปดาห์นี่ถือว่าค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ซึ่งสาเหตุส่วนนึงของเรื่องนี้ก็เป็น เพราะว่าหุ้นส่วน 4 คนของร้านนี้ค่อนข้างพิถีพิถันกับตัวคุณภาพอาหารและวัตถุดิบมาก บวกกับตัวเชฟชาวญี่ปุ่นมากประสบการณ์ของทางร้านเองก็ค่อนข้างจะใส่ใจในอาหารทุกจานที่ผ่านปลายนิ้วของเขา ผลลัพธ์ก็คือทางร้านเลยต้องใส่ใจในคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำเลย ตั้งแต่ การเลือก supplier, การเลือกชนิดของเนื้อ ชนิดของปลา (ทางร้าน Teien Sushi นี้จะใช้เนื้อ Premium ที่แตกต่างจากที่อื่นคือจะใช้เนื้อ Omi ซึ่งเป็นเนื้อวัวที่ได้รับรางวัลชนะเลิศที่ญี่ปุ่นมา 3 ปีซ้อนแล้ว โดยจะแตกต่างจากเนื้อ Premium ของเมืองอื่น ๆ คือวัวเมืองนี้จะเป็นการเลี้ยงแบบ free ranch หรือปล่อยให้เดินเป็นอิสระนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีผลการวิจัยออกมารับรองหลายงานแล้วว่าวัวที่เลี้ยงแบบนี้ ความเครียดจะน้อยกว่า และเนื้อก็จะอร่อยกว่า ถ้าวัวมีสายพันธุ์เดียวกัน เลี้ยง, นวด หรืออะไรอย่างอื่นเหมือน ๆ กันอะไรงี้) และการนำเอาวัตถุดิบมาแปลงเป็นอาหารสูตรเฉพาะของทางร้านโดยเน้นไปที่การทำให้ของราคาประหยัดนั้นมารวมร่างกันแล้วอร่อยยิ่งขึ้น เคียงคู่กันไปกับของราคาแพง ของ premium ที่พยายามนำเสนอตัววัตถุดิบที่อร่อยโดยตัวมันเองอยู่แล้ว อะไรแบบนี้
เมนูของร้าน Teien Sushi นี้อาจจะยังไม่ค่อยลงตัวนักเพราะว่าร้านเพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 2-3 เดือนแค่นั้น แต่วันที่ผมไป เมนูของร้านก็มีค่อนข้างเยอะแล้ว มีครบแทบจะทุกหมวดหมู่ที่ร้าน Sushi Bar เล็ก ๆ ควรจะมี คือ Sushi, Sashimi, Roll อาหารจากครัวร้อนเล็กน้อย อะไรแบบนี้ ราคาอาหารของร้านนี้ก็อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันกับร้าน Sushi อื่น ๆ ล่ะครับ ทางร้าน positioning ตัวเองไว้เป็นร้านระดับเกือบ ๆ premium ซึ่งจากที่ผมกะ ๆ เอาเองก็คือประมาณระดับร้าน Sankyodai, Shori Sushi, Seiryu Sushi อะไรพวกนี้ก็คงจะไม่ผิดนักล่ะครับ
อาหารในมื้อนี้มีทั้งหมด 5 + 1 อย่าง ก็ไล่เรียงกันไปเลยละกันนะครับ
Premium Aburi Set - 1,190 บาท : ใน set ก็ประกอบไปด้วย Hotate , Engawa , Hamachi, Otoro, Foie Gras , Madai, Tamago และ Omi Beef ตอนแรกที่ไม่รู้ราคา set นี้ก็คิดเอาไว้ว่าน่าจะราคาประมาณ 2,000 บาทเพราะมีเนื้อแพง ๆ อยู่ใน set เยอะเหมือนกันแต่แบบพอเห็นราคาแล้วก็แอบคุ้มเหมือนกันนะครับ set นี้ ซูชิทุกชิ้นใน set นี้อร่อยหมดไม่มีปัญหา ที่ผมว่าโดดเด่นเหนือคนอื่นสำหรับ Sushi ร้านนี้ก็คงเป็นเรื่องการปั้นซูชิที่ได้สัดส่วน ข้าว : เนื้อปลา ค่อนข้างสมดุลตามสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ปัจจุบันมักจะไม่ค่อยเจอกับ Sushi Bar ในประเทศไทยสักเท่าไรแล้ว set นี้กินแล้วรู้สึกถึงความใส่ใจ, พิถีพิถันเหนือกว่าร้าน Sushi หลาย ๆ ร้านที่กินมาช่วงหลังจริง ๆ ครับ (สีดำ ๆ ที่ใส่มาบน Hotate, Madai นั่นไม่ใช่ Caviar เหมือนที่หลาย ๆ ร้านมักจะใส่กันมาซึ่งผมว่ามันไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไร แต่ของร้าน Teien Sushi นี้เค้าใช้สาหร่ายญี่ปุ่นอะไรสักอย่างโปะมาแทน เพิ่มความมัน ความหนึบขึ้นต่อ Sushi แต่ละคำ)
Engawa Sakura Butera (ข้าวอัดเอ็นกาวะ - 450 บาท) : จานนี้เป็น Signature Dish ของทางร้านเลย และจากหน้าตาแล้วผมว่าก็ไม่น่าแปลกที่ทางร้านจะ proudly present ทางร้าน Teien Sushi ให้มาทั้งหมด 8 ชิ้นก็เฉลี่ยชิ้นละแค่ประมาณ 60 บาทแค่นั้น (นับว่าค่อนข้างถูกเพราะ Engawa ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่คำละ 100 บาทโดยประมาณ) ตัว Engawa ก็ไม่ได้อะไรมากครับ อร่อยได้มาตรฐานเดียวกันกับร้านอื่น ๆ ที่เจ๋งก็คือตัวข้าวด้านล่างที่เป็นแบบ 2 แบบ ข้าวคลุกกับซากุระอย่างนึง (เป็นสีชมพู) และก็ข้าวคลุกกับสาหร่ายสีม่วง ๆ ที่ทำให้รสชาติข้าวมันจะเค็ม ๆ หวาน ๆ หอม ๆ หน่อย และด้านบนท็อปด้วยโชยุเจลลี่ ทำให้รสชาติออกมากลมกล่อมลงตัวมาก แบบไม่ต้องจิ้มโชยุเพิ่มเลย
Selection of 3 Sashimi (ปลาดิบรวม 3 อย่าง - 400 บาท) : จานนี้ก็คุ้มอีกแล้วครับ เห็นหลายร้านจะมีปลาดิบรวม 3 อย่างนี่ขายกันและก็จะตั้งราคาเริ่มกันที่แพงกว่านี้ (บางร้านตั้ง 800 บาทเลยมั้ง ฮ่า ๆ) จานนี้ Salmon กับ Hamachi อร่อยค่อนข้างมากเลยล่ะครับ ส่วน Akami นั้นผมกับเพื่อนตัวอ้วนคิดว่ายังค่อนข้างธรรมดาไปนิดนึง กินแล้วยังไม่ได้มีความเนียน อร่อยเปล่งออกมาเหมือนกับ Akami ที่ผมเคยทานมาตามร้าน Premium กว่านี้ แต่ก็ถือว่าใช้ได้แหละครับ อืม (อ้อ จานนี้ตกแต่งสวยงามมากครับ มีเอาจานไปวางบนถาดที่โรยหินมา คล้าย ๆ พื้นกรวดของวัดที่ญี่ปุ่นอะไรงั้นเลย)
Botan Ebi Foie Gras (กุ้งโบตัน-ตับห่าน - 340 บาท) : จานนี้โดดเด่นที่การนำเสนอครับ ไม่ได้เป็นการแค่เอากุ้งโบตันมาวาง ๆ บนจานแบบธรรมดา ๆ ตัวกุ้งโบตันนั้นขนาดใหญ่ได้มาตรฐาน เนื้อสด ๆ นุ่ม ๆ ไม่เด้งเหมือนกุ้งชนิดอื่นตามประสากุ้งชนิดนี้และเพิ่มความมันเข้าไปด้วย foie gras ขนาดกำลังดีที่ sear (ไม่น่าจะทอดนะ) มากึ่งสุกกึ่งดิบพอดี จานนี้สามารถกินหัวกุ้งได้ด้วย เพราะทางร้านมีการเอาหัวกุ้งไปยัดไส้ด้วยข้าว แล้วก็ทอดมากรอบมาก ทำให้กินได้ทั้งหัวเลย อร่อยดีครับ
Spider Roll (โรลปูนิ่ม 320 บาท) : จานนี้โดดเด่นที่ความสวยงาม หน้าตามานี่แบบโดดเด่นกว่า Spider Roll ของที่ไหน ๆ เลยจริง ๆ และก็แปลกกว่าที่อื่นหน่อยตรงที่เหมือนจะไม่ได้เน้นปูนิ่มมากนัก เน้นที่ตัวข้าวปั้นซะมากกว่า แต่ตัวปูนิ่มก็ทอดมาได้ดี มีใส่เนื้อส้มเป็นกลีบมาด้วย เวลาทานคู่กันแล้วจะฉ่ำส้ม หอม สดชื่น ป้ายซอสรสชาติกลมกล่อมบนจานอีกสักหน่อย อร่อยไปอีกแบบครับ
มืื้อนี้ปิดท้ายด้วยของหวานพิเศษจากทางร้านที่เป็นการผสมรวมปนเปกันระหว่าง ไอศครีมชาเขียว + ถั่วแดง + โมจิย่าง + ดังโงะ + วาราบิโมจิ (Matcha ice cream + Azuki + Moji + Dango + Warabi Moji) จานนี้อร่อยครับ ไอศครีมชาเขียวนั้นเป็นของ Haagen Dazs อร่อยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว , โมจิเหนียวนุ่มหวานกำลังดีอร่อย , ถั่วแดงไม่ได้หวานจ๋าเหมือนบางร้าน ออกเค็มนิด ๆ ด้วย ซึ่งเป็นความตั้งใจของทางร้านที่อยากให้ตัดกับความหวานของไอศครีม แต่ผมชอบนะแบบนี้เพราะส่วนใหญ่จะเจอถั่วแดงแบบหวานแสบไส้ทั้งนั้นเลย โมจิชาเขียวก็อร่อยดี หนึบ ๆ ดี
สรุป ร้าน Teien Sushi นี่เป็นร้าน Sushi น้องใหม่ที่ผมว่าทำได้ค่อนข้างดีมากเลยนะ องค์ประกอบโดยรวมนั้นอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด แต่ที่ผมว่าโดดเด่นเหนือร้านอื่น ๆ ก็คงเป็น เรื่องความคุ้มค่า และไอเดียการสร้างสรรค์อาหารให้แตกต่างและเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองนี่แหละครับ เห็นทางร้านบอกว่าเมนูแบบสมบูรณ์จะแล้วเสร็จประมาณเดือนนี้ (กรกฎาคม) เดือนหน้านี่แหละ ไว้คงต้องไปรอกันอีกสักรอบล่ะครับ ถ้าอาหารเค้าจะบรรเจิดขนาดนี้ ตามนั้น
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
Bangkok is renowned for its gourmet food at reasonably low prices. This blog covers a wide range of restaurants in Bangkok and occasionally in other provinces (Chiang Mai, Pattaya, Phuket). From street vendors to luxurious restaurants - From mouthwatering dishes to eye widening meals, all can be found here. This blog will take you to experience the exotic food you rarely find in your area. Feel free to leave comments or suggestion. Please visit http://www.bumres.com for more information.
No comments:
Post a Comment